ตอนที่ 700 คนร้าย

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 700

คนร้าย

“อาการแบบนี้…..เป็นการวางยาจริงๆขอรับ”หมอที่ถูกเรียกตัวมาตรวจสภาพร่างกายของท่านแม่ทัพอั้งจินเป่าพูดด้วยท่าทีลำบากใจ การวางยาท่านแม่ทัพต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ แบบนี้มันควรทำอย่างไรดี

“ขอบคุณท่านมาก เชิญท่านกลับได้แล้ว”สือหลงพูดพลางเชิญท่านหมอกลับ แต่ก่อนที่หมอจะเดินออกจากห้องไปสือหลงก็คว้าไหล่ของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนจะออกแรงบีบเบาๆ

“หวังว่าท่านจะรู้ตัวว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปท่านจะต้องรับผิดชอบ”สือหลงพูดด้วยท่าทีคุกคาม ขืนเรื่องท่านแม่ทัพโดนวางยารู้ไปถึงหูคนอื่นมีหวังได้วุ่นวายแน่ๆ ทั้ง 3 คนในห้องนี้ต่างไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โตเพราะหากเรื่องการวางยาแม่ทัพแพร่ออกไป คนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือเหล่ารองแม่ทัพทั้ง 4 ที่จะได้รับตำแหน่งแทนนั่นเอง

“เจ้าหลี่เซียนมันใส่อะไรลงไปน้ำซุปกัน”อวิ๋นฉางพูดพลางหยิบถ้วยน้ำซุปที่เก็บมาจากห้องรับแขกขึ้นมาลองดมดู แต่กลิ่นสมุนไพรก็กลบกันจนไม่ทราบว่าใส่อะไรกันแน่ หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจริงๆคงยากที่จะแยกแยะว่าในซุปใส่สมุนไพรอะไรลงไปบ้าง

“เปล่าประโยชน์ ก่อนเอามาให้ท่านแม่ทัพข้าลองพยายามดมดูแล้ว แต่ข้าก็แยกไม่ออกเหมือนกันว่าข้างในใส่อะไรบ้าง”เจียนหู่ตอบก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ พวกมันล้วนแล้วแต่ด้อยปัญญาเรื่องยาสมุนไพร ลำพังพึ่งมาศึกษาเอาตอนท่านแม่ทัพล้มป่วยไม่อาจเอาตัวเองไปเปรียบกับมืออาชีพได้

“งั้นข้าจะไปเค้นถามจากเจ้าหลี่เซียนเอง”อวิ๋นฉางว่าพลางเดินออกไปจากห้องด้วยท่าทีโมโห ตอนนี้หลี่เซียนอยู่อีกห้องโดยปิดประตูขังเอาไว้ แน่นอนห้องแค่นั้นขังหลี่เซียนไม่ได้หรอกแต่เพราะหลี่เซียนตกใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มากมันเลยไม่คิดจะหนีด้วยซ้ำ

ปึง!!

ทันทีที่ไปถึงห้องที่ขังหลี่เซียนเอาไว้ อวิ๋นฉางก็ถีบประตูจนประตูกระแทกกับผนังดังลั่นไปทั่ว ท่าทางของมันดูน่ากลัวไม่น้อยเลย

“อวิ๋นฉาง…..”หลี่เซียนมองไปทางอวิ๋นฉางด้วยท่าทีเหมือนรู้อยู่แล้วว่าอวิ๋นฉางจะมา ท่าทีดุดันของอวิ๋นฉางไม่ได้ทำให้หลี่เซียนมีท่าทีตกใจเลยแม้แต่น้อย

“เจ้าคิดว่าใคร”อวิ๋นฉางปิดประตูลงก่อนจะเอ่ยปากถามหลี่เซียนออกไป มันยืนกอดอกพิงกำแพงไม่ได้ทำอะไรหลี่เซียนแม้แต่น้อย

“ข้าเองก็ไม่มั่นใจ แต่สือหลงมาที่บ้านข้าไปยุ่งกับหม้อซุปครู่หนึ่ง เจียนหู่เป็นคนนำซุปใส่ถ้วยตอนนั้นพวกเราก็ไม่เห็นว่ามันทำอะไร”หลี่เซียนพูดด้วยท่าทีครุ่นคิดอย่างหนัก

“ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนวางยาเองหรอกนะ”อวิ๋นฉางถามออกมาด้วยท่าทีเซ็งๆ น่าเสียดายอวิ๋นฉางไม่ใช่คนใช้สมองเก่งเท่าไหร่ คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าใครเป็นคนวางยาท่านแม่ทัพกันแน่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่มันมั่นใจได้ นั่นก็คือคนที่วางยาต้องไม่ใช่หลี่เซียนอย่างแน่นอน พวกมันโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก อวิ๋นฉางรู้ดีว่าหลี่เซียนไม่ใช่พวกหน้าไหว้หลังหลอก หากมันจะชิงตำแหน่งแม่ทัพมันก็คงประกาศออกมาอย่างชัดเจนเสียมากกว่า

“ข้าเนี่ยนะ….”หลี่เซียนชี้นิ้วไปที่ใบหน้าของตนเอง มันไม่ได้ทำอะไรกับซุปแน่นอน แถมการวางยายังมีตั้งแต่ก่อนหลี่เซียนจะกลับมาเสียอีก

“ใครจะไปรู้ล่ะ เจ้าอาจวางแผนมานานมากแล้วก็ได้”อวิ๋นฉางตอบก่อนจะยักไหล่อย่างขอไปที มันก็แค่พูดออกมาลอยๆไม่ได้คิดจะกล่าวหาหลี่เซียนจริงๆหรอก

“ข้าไม่ใช่ สือหลงสักหน่อย”หลี่เซียนส่ายหน้าด้วยท่าทีเอือมระอา หากเป็นสือหลงจอมวางแผนหรือเจียนหู่ผู้เยือกเย็นก็ว่าไปอย่าง แม้หลี่เซียนจะไม่ใช่คนโง่แต่ก็ไม่ฉลาดพอจะวางแผนระยะยาวแบบนั้นได้ เพียงแต่ทั้งสือหลงทั้งเจียนหู่เองก็ไม่น่าจะเป็นคนที่ทำแบบนั้นไม่ใช่หรือ ถึงสือหลงจะเป็นคนโหดเหี้ยมแต่มันก็รักษากฎเป็นอย่างมาก แล้วมันก็สนิทกับท่านแม่ทัพไม่น้อยเลยด้วย

“………….”ระหว่างทั้งสองรองแม่ทัพกำลังครุ่นคิดอย่างจริงจัง ชิวซุยที่อยู่ในสภาพล่องหนหายตัวก็กำลังนุ่งมองทั้งสองด้วยท่าทีเพลิดเพลิน ไม่นึกว่าหลังจากตามหลี่เซียนมาจะได้เจอบทละครเช่นนี้ และแน่นอนนางตามหลี่เซียนมาเช่นนี้ก็ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด หลี่เซียนแทบไม่ได้ยุ่งอะไรกับน้ำซุปเลยมันแค่ถือมาเท่านั้น เพราะฉะนั้นตัดหลี่เซียนออกไปได้ทันที แต่ตอนท่านแม่ทัพดื่มซุปเข้าไปก็มีอาการออกมาชัดเจน แสดงว่ามีคนใส่อะไรบางอย่างลงไปแน่นอน

.

.

วูบ….

ชิวซุยเดินออกมาจากห้องที่ขังหลี่เซียนเอาไว้ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปที่ห้องของท่านแม่ทัพ ตอนนี้ทั้งหลี่เซียนทั้งอวิ๋นฉางคิดหาตัวคนร้ายไม่ได้เสียที คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะมองทุกอย่างออกทำให้ชิวซุยไปชมละคนอีกบทหนึ่งแทนเสียก่อน

ปึง!!

เสียงดังเหมือนมีคนกำลังทุบบางอย่างดังขึ้นมาจากภายในห้องครัว เมื่อชิวซุยเดินเข้าไปก็พบว่าภายในห้องครัวนั้นมีร่างของเจียนหู่ยืนอยู่ มันกำลังยืนอยู่เบื้องหน้ากระติกน้ำซุปที่มันเอามาแบ่งใส่ถ้วยด้วยท่าทีโมโหอะไรบางอย่าง มันใช้มือทุบลงไปบนชั้นครัวอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์

“ทำไมข้าถึงแยกไม่ออกกัน….”เจียนหู่กำหมัดแน่นด้วยท่าทีโกรธจัด ความจริงแล้วเจียนหู่เข้ามาดูแลท่านแม่ทัพตั้งแต่ท่านอาการไม่ดี และเรื่องมีคนวางยาเจียนหู่ก็ทราบเป็นคนแรก ทำให้มันเข้าไปยุ่งเรื่องอาหารการกินของท่านแม่ทัพจนโดนท่านแม่ทัพบ่นเสียด้วยซ้ำ แต่เพราะแบบนั้นทำให้คนร้ายลงมือไม่ได้จนอาการของท่านแม่ทัพทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด หากหลี่เซียนกลับมาก่อนหน้านี้ภาพท่านแม่ทัพไอเป็นเลือดแทบจะเห็นได้ไม่ยากเสียด้วยซ้ำ

ปึง….

เจียนหู่โทษตัวเองอย่างหนัก แถมยังมีท่าทีทั้งโกรธทั้งเสียใจต่างจากท่าทีนิ่งสงบก่อนหน้านี้ที่มันแสดงให้คนอื่นเห็นตลอดอย่างกับคนละคน ในหัวมันตอนนี้สงสัยทั้งสือหลง ทั้ง อวิ๋นฉาง แต่กลับไม่สงสัยหลี่เซียนเลย เจ้าหลี่เซียนร้อยวันพันปีไม่เคยทำอาหารอยู่ๆเอาซุปมาให้บำรุงร่างกาย หรือว่าจะมีคนชักจูงเบื้องหลัง บางทีอาจจะมีคนเสนอให้หลี่เซียนทำซุปเพื่อจะโยนความผิดไปให้หลี่เซียนก็เป็นได้

“……….”แน่นอนว่าคนที่ยุให้หลี่เซียนเอาซุปไปให้ท่าแม่ทัพก็คือชิวซุยนั่นเอง นางที่กำลังมองเจียนหู่ด้วยท่าทีอึ้งๆได้แต่ค่อยๆถอยออกมาเท่านั้น ท่าทางเจียนหู่เองก็กำลังมืดแปดด้านไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรดีเนี่ยสิ

.

.

“………….”ชิวซุยแอบเข้ามาในห้องของท่านแม่ทัพช้าๆ ก่อนจะนั่งดูเหตุการณ์อยู่ที่เก้าอี้ภายในห้อง ตอนนี้เหลือเพียงสือหลงเท่านั้นที่อยู่ภายในห้องกับท่านแม่ทัพที่กำลังหลับตานอนอยู่บนเตียงเท่านั้น

สือหลงนั่งมองท่านแม่ทัพนิ่งมาหลายนาทีแล้ว ท่าทีของมันเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แถมมันยังมีท่าทีสับสนวุ่นวายอย่างมากอีกต่างหาก

“ตาแก่เอ้ย อ่อนแอจริงๆโดนวางยาแค่นี้ถึงกับนอนซมเลยงั้นหรือ”สือหลงว่าพลางมองท่านแม่ทัพด้วยท่าทีดูถูก แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นสายตาของมันก็เปลี่ยนไป มันค่อยๆเลื่อนมือของมันไปจับมือของท่านแม่ทัพก่อนจะกุมมันเอาไว้แน่น สือหลงยามไม่มีใครมองกลับแสดงท่าทีอ่อนแอออกมา แถมยังแสดงความรักที่มีต่อท่านแม่ทัพออกมาอย่างเห็นได้ชัดอีกต่างหากทำเอาชิวซุยที่มองอยู่อดประหลาดใจไม่ได้ มิน่าเล่าทุกคนถึงหาตัวคนร้ายไม่ได้ เพราะแท้จริงแล้วทั้ง 4 ต่างรักท่านแม่ทัพกันทั้งนั้น สำหรับพวกมันที่รู้จักกันดีแล้วไม่ว่าจะตีลังกาคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะเป็นคนวางยาท่านแม่ทัพได้นี่เอง

“ไม่ใช่หลี่เซียน ไม่ใช่อวิ๋นฉาง ไม่ใช่เจียนหู่…..”สือหลงพูดออกมาด้วยท่าทีครุ่นคิด ก่อนหน้านี้มันทั้งแอบไปสืบที่บ้านของอวิ๋นฉาง เจียนหู่ รวมทั้งบ้านของหลี่เซียน ในน้ำซุปมันก็ตรวจสอบแล้วไม่น่าจะมีพิษอะไรนี่นา

“หรือว่าจะเป็นคนนอก…..”สือหลงพึมพำออกมาพลางปล่อยมือของท่านแม่ทัพช้าๆ แต่ใครเล่าจะเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ได้……….

“ผู้หญิงคนนั้น…….”อยู่ๆสือหลงก็นึกถึงชิวซุยขึ้นมา มันไม่ได้พบชิวซุยตรงๆหรอกแต่ทราบมาว่าหลี่เซียนช่วยผู้หญิงคนหนึ่งมาจากค่ายโจร จะว่าไปหลี่เซียนก็อยู่ที่กรมตลอดแสดงว่าต้องมีคนอื่นทำซุปให้ระหว่างที่มันไปรายงานตัวที่กรมแน่ๆ บางทีคนที่วางยาอาจจะเป็นผู้หญิงที่หลี่เซียนพามา นางอาจจะเป็นคนของใครสักคนที่เข้าไปหลอกใช้ความซื่อของหลี่เซียนก็เป็นได้ หากนางบอกหลี่เซียนว่าจะทำซุปบำรุงร่างกายให้ท่านแม่ทัพ เจ้าหลี่เซียนต้องยินดีและให้นางทำแน่ๆ แล้วถ้านางแอบใส่ยาหลังจากที่สือหลงออกมาจากบ้านของหลี่เซียนแล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน

ปึง…

เมื่อได้ข้อสงสัยใหม่ สือหลงก็พุ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ท่าทางคงจะไปสอบปากคำหลี่เซียนเรื่องของชิวซุยแน่ๆ

“…………….”ส่วนทางด้านชิวซุยนั้นก็ได้แต่กะพริบตาปริบๆมองตามด้วยท่าทีเอ๋อๆ นางไม่ได้ใส่ยาพิษลงไปเสียหน่อยอย่ามาใส่ร้ายกันสิ แบบนี้ถ้านางกลายเป็นคนร้ายขึ้นมาคงโดนจับแน่ๆ

วูบ….

ร่างของชิวซุยกลับมาเป็นสภาพปกติก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆเตียงของท่านแม่ทัพ ใบหน้าของนางยามนี้แสดงท่าทีไม่พอใจออกมานิดหน่อยเพราะนางกำลังโดนกล่าวหาแน่ๆ

“ท่านกำลังทำให้ข้าโดนกล่าวหานะเจ้าคะ จะไม่พูดอะไรหน่อยหรือ”ชิวซุยถามพลางมองไปที่ร่างของท่านแม่ทัพที่กำลังนอนอยู่บนเตียง

“ความสามารถล่องหนหายตัว…..เป็นท่านจริงๆด้วย”ท่านแม่ทัพพูดพลางมองไปทางชิวซุยที่ยามนี้ไม่ได้ปกปิดใบหน้าแต่อย่างไร ถึงจะเคยเจอแค่พริบตาเดียวหญิงงามอย่างชิวซุยหรือแม่และยายของนางนั้นย่อมตราตรึงใจไม่รู้ลืม ลำพังแค่เห็นใบหน้าผ่านผ้าปิดหน้าก็สามารถจำได้แล้วแต่ไม่กล้าพูดออกไปเท่านั้น แถมเรื่องที่ชิวซุยเป็นบุตรสาวของชิงชิวบุรุษไร้ลักษณ์นั้นเป็นที่รู้กันดี ช่วงที่ชิงชิวช่วยเหลือผู้คนไปทั่วในอาณาจักรจินเป่ยเองก็ได้รับความช่วยเหลือเช่นกัน ความสามารถล่องหนหายตัวของมันสร้างความแตกตื่นใจให้กับเหล่าแม่ทัพไม่น้อย ทำให้ข่าวที่ว่าบุตรสาวคนเล็กของชิงชิวและไป๋หลินมีความสามารถนี้ด้วยเป็นเรื่องที่เหล่าผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณรู้ดี

“ท่านรู้หรือเปล่าว่าข้าตั้งใจทำซุปให้ท่านขนาดไหน แต่กลับใส่ยาซะเองแบบนี้ข้าละเสียดายจริงๆ”ชิวซุยว่าพลางทำแก้มป่องออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจ ไม่ใช่แค่อาหารที่ตนพยายามทำเสียเปล่า แถมยังโดนสือหลงกล่าวหากอีก แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางเคืองได้อย่างไร