ตอนที่ 565 หลานสาวตัวจริงตัวปลอม + ตอนที่ 566 สองแม่ลูกที่น่ารังเกียจ โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 565 หลานสาวตัวจริงตัวปลอม
เด็กสาวอายุน่าจะพอๆ กับอู่เยวี่ย แต่งตัวทันสมัยและชุดเครื่องอาภรณ์ที่ใส่ไม่ใช่ราคาน้อยๆ เลย เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ลูกสาวครอบครัวธรรมดา
เหมยเหมยรู้สึกไม่ชอบใจเด็กสาวคนนี้ยามพบกันครั้งแรกเท่าไร แม้เด็กสาวจะหน้าตาน่ารักและสวยมากก็ตาม แต่สายตากลับเชิดสูงราวกับไม่เห็นใครในสายตา
ทั้งที่เธอยืนอยู่ข้างจ้าวเสวียหลินแต่ผู้หญิงคนนี้กลับแสร้งมองไม่เห็นเธอ เหมยเหมยจะชอบผู้หญิงคนนี้ก็แปลกแล้ว!
“พี่เสวียหลิน เราเล่นสเก็ตด้วยกันเถอะ!”
เสียงเด็กสาวหวานหยด แต่ความหวานของเธอกลับแตกต่างจากความหวานของเหมยเหมย
ผู้หญิงคนนี้คือหวานเลี่ยน ขณะที่เหมยเหมยกลับเป็นหอมหวาน เปรียบเสมือนช็อกโกแลตเกรดต่ำกับเกรดดี
อันหนึ่งทานคำเดียวไม่อยากลองชิมอีกเป็นคำที่สอง ส่วนอีกอันทานแล้วกลับอยากทานอีกเรื่อยๆ
จ้าวเสวียหลินมองเด็กสาวแวบหนึ่ง พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันไม่มีเวลาหรอก ฉันต้องเล่นสเก็ตเป็นเพื่อนน้องสาวฉัน”
เด็กสาวถึงเพิ่งสังเกตเห็นเหมยเหมย เหมยเหมยแอบขมวดคิ้วน้อยๆ อีกฝ่ายมีความรู้สึกเช่นเดียวกับเหมยเหมย เธอไม่ชอบอีกฝ่ายมากเช่นกัน
ยายเด็กนี่ผุดมาจากไหน?
มีสิทธิ์อะไรใส่เสื้อสีชมพูต่อหน้าเธอ?
แล้วมีสิทธิ์อะไรใช้ยางรัดผมสีชมพู ในแวดวงพวกเขาใครบ้างไม่รู้ว่าสีชมพูเป็นสีเฉพาะสำหรับเธอ โอหยางซานซาน!
ไม่มีใครกล้าใช้สีเดียวกับเธอ!
ยายเด็กนี่ชักรนหาที่ตาย!
“พี่เสวียหลินพูดตลกหรือเปล่า พี่มีน้องสาวตั้งแต่เมื่อไหร่? เธอเป็นญาติฝ่ายไหนของพี่เหรอ?” โอหยางซานซานยิ้มอย่างน่ารักและพูดเสียงหวานหยด แต่สายตาที่มองเหมยเหมยกลับดูเยือกเย็น
เหมยเหมยอดลูบแขนไม่ได้ เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับเด็กสาวที่จู่ๆ ก็มีท่าทีอคติต่อเธอคนนี้อีกจึงกล่าวขึ้น “พี่คะ เราไปเล่นทางนั้นกันเถอะ!”
“ได้ พี่พาเธอไปเอง เหมยเหมยระวังหน่อยนะ”
จ้าวเสวียหลินจะเหลือห้วงความคิดไหนมาสนใจโอหยางซานซานอีก เขาฉุดแขนน้องสาวไปเล่นสเก็ตอีกทางโดยไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ จ้าวเสวียกงรีบสไลด์ตามมาอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเป่าปากใส่โอหยางซานซานเป็นเชิงหยอกเย้าอีกที
“หมีน้ำตาลโอหยาง เธอใส่ชุดนี้ไม่สวยเท่าชุดที่น้องสาวฉันใส่หรอก คนเราก็ต้องเจียมตัวหน่อยใช่มั้ย ตัวเองผิวคล้ำแล้วยังจะใส่เสื้อสีชมพู ไม่เหมือนน้องสาวของฉันที่ขาวอย่างกับหิมะ ไหนจะหน้าตาสวยงามแต่เกิด ไม่ว่าจะใส่สีอะไรก็สวย เธออายุปูนนี้แล้ว ก็อย่าเสแสร้งเป็นคนอายุน้อยเลย!”
ฝีปากจ้าวเสวียกงพอได้พูดก็ไม่มีหยุดกลางคัน ทำเอาโอหยางซานซานโกรธจนน้ำตาเอ่อคลอ
“จ้าวเสวียกง นายอย่าเอาเด็กบ้าที่ผุดจากไหนไม่รู้มาเทียบกับฉัน เธอเหมาะสมเหรอ?” โอหยางซานซานตวาดด่า
จ้าวเสวียไห่ก็สไลด์ตามมาอีกคน ได้ยินดังนั้นก็แค่นเสียงเย็น “โอหยางซานซานอย่าเห็นตัวเองสำคัญมากเลย ผู้หญิงบ้านฉันเทียบกับเธอไม่ได้ตรงไหน? แต่เธอก็พูดมีเหตุผลนะ เทียบกับเธอแล้วมันลดตัวน้องสาวฉันเกินไป เจ้าห้า วันหลังก็ระวังคำพูดหน่อย อย่าเอาหมาแมวที่ไหนมาเทียบกับเหมยเหมยของเรา ไม่กลัวแปดเปื้อนหรือไง”
จ้าวเสวียกงยิ้มรับตอบ “ความผิดผมเอง เหมยเหมยของเราไม่ใช่คนที่ใครก็จะมาเทียบได้”
สองพี่น้องพูดตอบโต้กันไปมา คนหนึ่งประชดอีกคนดูถูก เหยียบย้ำเสียโอหยางซานซานไม่มีข้อดีสักอย่าง น้ำตาไหลพรากลงมา คนอื่นก็สไลด์ตามมา พอเห็นท่าทางเช่นนี้ก็รีบมาเกลี้ยกล่อม
แต่ก็มีคนฉลาดพอรู้เรื่องตระกูลจ้าวมาก่อนแล้ว จึงย่อมไม่เอาตัวลงไปเปื้อนน้ำขุ่นนี้ ถึงขั้นตั้งตารอดูเรื่องดีๆ หลายปีมานี้โอหยางซานซานเหิมเกริมมากไป ทุกอย่างก็เพราะอ้างความสัมพันธ์อันน้อยนิดของแม่เธอกับตระกูลจ้าวไม่ใช่หรือไง!
ตอนนี้หลานสาวแท้ๆ ของตระกูลจ้าวกลับมาแล้ว หลานสาวตัวปลอมอย่างโอหยางซานซานต้องเผยธาตุแท้ออกมาได้แล้ว!
………………………
ตอนที่ 566 สองแม่ลูกที่น่ารังเกียจ
สยงมู่มู่ก็สไลด์ตามมาพอเห็นโอหยางซานซานก็มุ่นคิ้ว ผู้หญิงคนนี้น่ารำคาญชะมัดยาด หน้าตาเหมือนหมีสีน้ำตาลแล้วดันคิดว่าตัวเองเป็นหมีโคอาล่า เสแสร้งจอมปลอมเหลือเกิน
“พี่สี่ พี่ห้า พวกพี่มัวเสียเวลากับเธอทำไม? ไม่รู้สึกขยะแขยงบ้างเหรอ เราไปเล่นกับเหมยเหมยดีกว่า ผมเห็นตรงนู้นมีพุทราเชื่อมเคลือบน้ำตาลขายด้วย ให้เหมยเหมยออกเงินซื้อให้เราทานกันดีกว่า!”
สยงมู่มู่เห็นพุทราเชื่อมเคลือบน้ำตาลเป็นไม้ๆ วางเรียงอย่างสวยงามก็น้ำลายไหลไม่หยุด จ้าวเสวียกงกับจ้าวเสวียไห่เองก็รู้สึกหิวขึ้นมา พร้อมใจกันมุ่งไปหาเหมยเหมยอย่างไม่สนใจโอหยางซานซานอีกต่อไป
“วันนี้สะใจชะมัด ฉันพูดแซะเจ้าหมีน้ำตาลโอหยางอย่างดีไปทีหนึ่ง หึ น่ารังเกียจเหมือนแม่เธอเลย ตอนนี้เหมยเหมยของเรากลับมาแล้ว ดูสิว่าพวกเธอจะมีหน้าอะไรมาบอกว่าเป็นหลานสาวตระกูลจ้าวอีก!”
จ้าวเสวียไห่ทำหน้ารังเกียจ จ้าวเสวียกงและสยงมู่มู่เองก็ทำหน้าเช่นเดียวกัน
เหล่าพี่น้องพวกเขามีความรู้สึกเดียวกันต่อสองแม่ลูกโอหยางซานซาน แค่ฮูหยินผู้เฒ่าและท่านผู้เฒ่าเห็นแก่ความสัมพันธ์อันน้อยนิดที่ยังหลงเหลืออยู่ บวกกับชื่นชอบเด็กผู้หญิงมากเหลือเกินถึงให้โอกาสสองแม่ลูกอาศัยตระกูลจ้าวในการสร้างหน้าค่าตา
จะทำอะไรก็ทำเถอะ ขอแค่อย่าเกินไปก็พอ!
ทว่า สองแม่ลูกนี้กลับยิ่งอยู่ยิ่งทำเกินไป ยิ่งอยู่ยิ่งหน้าไม่อาย แทบจะถือตัวเองเป็นลูกสะใภ้และหลานสาวตระกูลจ้าวจริงๆ เสียแล้ว มันน่ารังเกียจจริงๆ
เหมยเหมยไม่ได้เก็บเรื่องโอหยางซานซานมาคิดมากด้วยซ้ำ เธอใจจดจ่อกับการเรียนรู้เล่นสเก็ตน้ำแข็ง หลังสไลด์เล่นช้าๆ หลายรอบก็พอจะเร่งความเร็วได้บ้างแล้ว
“พี่ พี่ไปเล่นเองเถอะ หนูเล่นช้าๆ เองตรงนี้ก็ได้!” เหมยเหมยกล่าว
จ้าวเสวียหลินไม่มีทางเล่นเองอยู่แล้ว เขาต้องปกป้องน้องสาวให้ดี ลานสเก็ตน้ำแข็งนี่มีผู้คนขวักไขว่ไปมา หากชนน้องสาวเข้าจะทำอย่างไร
พวกจ้าวเสวียกงเพิ่งเล่นเสร็จกลับมาและพอพูดถึงพุทราเชื่อมเคลือบน้ำตาล เหมยเหมยก็เกิดหิวตาม ล้วงเงินจากกระเป๋าให้จ้าวเสวียกงไปซื้อกลับมาหลายๆ ไม้
“เดี๋ยวพี่จัดให้เลย!”
จ้าวเสวียกงรับเงินมาครู่เดียวก็สไลด์จนไม่เห็นหัว อีกครู่หนึ่งก็สไลด์กลับมาพร้อมพุทราเชื่อมเคลือบน้ำตาลหลายไม้ในมือ
“เหมยเหมย เธอจะเอาไม้ไหน?”
จ้าวเสวียกงกางไม้พุทราเชื่อมเคลือบน้ำตาลต่อหน้าเหมยเหมยทั้งหมด ลูกแดงอิ่มเอิบเหมือนโคมไฟดวงเล็ก งามเหลือเกิน
“ไม้ไหนก็ได้ เราหาที่นั่งทานกันเถอะ”
เหมยเหมยหยิบมาลวกๆ หนึ่งไม้ก่อนจะสไลด์ไปในที่ที่คนน้อย สเก็ตน้ำแข็งเล่นยากกว่าสเก็ตธรรมดามาก จนถึงตอนนี้เธอยังไม่กล้าเคลื่อนตัวเร็วนัก
โอหยางซานซานที่อยู่ไกลออกไปมองมาทางนี้อย่างริษยา เมื่อครู่เธอเพิ่งฟังเพื่อนเล่าเบื้องหลังชีวิตของเหมยเหมย ไฟแห่งริษยาก็ลุกโชนในใจ
หลานสาวของตระกูลจ้าวย่อมมีสิทธิ์ใส่เสื้อสีชมพูอยู่แล้ว และมีสิทธิ์ใช้ยางรัดผมสีชมพูด้วย เธอมีสิทธิ์อะไรไปว่าคนอื่น!
แต่เธอยอมไม่ได้นี่นา!
ทั้งที่เมื่อก่อนเธอต่างหากที่เป็นเจ้าหญิงตัวน้อย คอยดื่มด่ำกับการปฏิบัติเยี่ยงพระเจ้า ตอนนี้เธอจะยอมถอยออกมาจากที่ตรงนั้นได้อย่างไร!
ไฟริษยาแผดเผาเสียจนโอหยางซานซานอยากจะชนเหมยเหมยให้ล้มกับพื้น แต่เธอยังมีสติ รู้ว่าทำแบบนี้ต้องไม่เกิดผลดีต่อตัวเอง
เธอต้องกลับไปปรึกษาคุณแม่ เธอไม่อยากให้คนอื่นแย่งสิทธิพิเศษที่แต่เดิมเป็นของเธอไป คุณแม่ฉลาดขนาดนี้ จะต้องมีวิธีแน่ๆ
โอหยางซานซานไม่มีอารมณ์เล่นสเก็ตน้ำแข็งอีกต่อไป รีบเปลี่ยนรองเท้ากลับบ้านทันที เหมยเหมยลอบสังเกตเด็กผู้หญิงคนนี้ตลอดเวลา เห็นเธอกลับไปถึงถามเรื่องโอหยางซานซาน
“เหมยเหมยไม่ต้องสนใจเธอ ก็แค่คนไม่รู้จักเจียมตัวคนหนึ่ง”
จ้าวเสวียกงทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนจะเล่าเรื่องของโอหยางซานซานให้ฟังคร่าวๆ ช่างน้ำเน่าสิ้นดี
……………………..