ตอนที่ 700: กลุ่มโจรมังกรวารี
“ในตอนนี้ ท่านผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเทียนฉินได้ไปที่ภูเขามังกรขนดแล้ว เพื่อที่จะเจรจากับหัวหน้าของกลุ่มโจรมังกรวารี ในการที่จะช่วยฉินฉิน แต่เราก็ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าการเจรจาล้มเหลว ฉินฉินก็คงจะ……” เมื่อพูดมาถึงประโยคสุดท้าย หัวหน้าตระกูลเทียนฉินก็ถอนหายใจในใจ กลุ่มโจรมังกรวารีนั้นแข็งแกร่งจนแม้กระทั่งอาณาจักรซูหยายังไม่กล้าที่จะไปยุ่งด้วย ดังนั้นถ้าการเจรจาครั้งนี้ล้มเหลว ฉินฉินต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกชายของหัวหน้ากลุ่มโจรมังกรวารีแน่นอน
ฉินเซียวลุกขึ้นมาทันทีและพูดว่า “ไม่ได้ เราต้องช่วยนางออกมา ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม นางจะต้องไม่แต่งงานกับลูกของหัวหน้ากลุ่มโจรนั้น ไม่อย่างนั้น ชีวิตนางต้องไม่มีความสุขเป็นแน่”
“เซียวเอ๋อ นั่งลงก่อน เจ้าต้องเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้นะ เจ้าจะมาวู่วามและทำอะไรที่มันเกินกว่ากำลังของเจ้าได้อย่างไร ? ถ้าเจ้าลงมืออะไรโดยไม่คิดให้ดีก่อนละก็ เจ้าจะทำให้ตระกูลเทียนฉินถูกสาบแช่งตลอดกาล” ท่านบรรพบุรุษกวาดสายตามองไปที่ฉินเซียวและตำหนิด้วยเสียงเบา ๆ สถานะของฉินเซียวที่ต้องเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเทียนฉินนั้นได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงยอมให้บุตรชายของเขาทำอะไรแบบไม่ยั้งคิดแบบนี้ไม่ได้
“ท่านพ่อ เราจะต้องทนดูน้องสาวของข้าแต่งงานกับกลุ่มโจรนั่นโดยที่เราทำอะไรไม่ได้เลยอย่างนั้นหรือ ? ” ฉินเซียวยังปฏิเสธไม่หยุด
หัวหน้าตระกูลถอนหายใจ “เซียวเอ๋อ ตอนนี้เจ้ายังไม่ต้องเป็นกังวลไป ท่านผู้อาวุโสสูงสุดได้มุ่งหน้าไปยังภูเขามังกรขนดแล้วเพื่อที่จะไปเจรจาและอีกไม่นานคงกลับมา ใครจะไปรู้ บางทีมันอาจจะยังมีหนทางที่จะช่วยฉินฉินก็เป็นได้”
ทันทีที่เขาพูดจบ เจี้ยนเฉินก็รู้สึกถึงการมาปรากฏตัวของพลัง 2 สายที่แข็งแกร่งที่กำลังเข้ามาใกล้ตระกูลเทียนฉินจากที่ห่างไกล ในที่สุด พวกเขาก็เข้ามาในตระกูลเทียนฉินและมุ่งตรงมาที่หอประชุม
เจี้ยนเฉินเห็นผู้เฒ่าที่กระฉับกระเฉง 2 คนในเสื้อคลุมสีขาวเดินเข้ามา บนใบหน้าของพวกเขานั้นแสดงให้เห็นถึงความหมดหวังและเสียใจเล็กน้อยปะปนไปด้วยความโกรธ
สมาชิกระดับสูงของตระกูลเทียนฉินที่นั่งอยู่ที่หอประชุมลุกขึ้นแล้วป้องมือคารวะให้กับผู้เฒ่าทั้งสอง “ขอยินดีต้อนรับการกลับมาท่านผู้อาวุโสสูงสุด ! “
เจี้ยนเฉินนั่งลงโดยไม่ได้ขยับเขยื้อนแล้วจ้องมองไปที่ท่านผู้อาวุโสทั้ง 2 อย่างไม่สนใจ เขาไม่คุ้นเคยกับ 2 ผู้เฒ่านี้
“ท่านผู้อาวุโสทั้งสอง ข้าสงสัยเหลือเกินว่าการเจรจาเป็นอย่างไรบ้าง พวกกลุ่มโจรมังกรวารีจะยอมปล่อยน้องสาวของข้าหรือไม่ ? ” ฉินเซียวจ้องไปที่ผู้เฒ่าทั้งสองอย่างเป็นกังวล ผู้เฒ่าทั้งสองที่จะนำพาความหวังทั้งหมดที่มีมา
ท่านผู้อาวุโสสูงสุดส่ายหน้า “หัวหน้าของพวกกลุ่มโจรมังกรวารีตั้งใจจะให้ฉินฉินแต่งงานกับลูกชายของเขาโดยไม่สนใจข้อเสนอของเราแม้แต่น้อย”
ฉินเซียวเริ่มรู้สึกมืดมน เขากำหมัดแน่นและพูดเสียงลอดไรฟันออกมาว่า “ในเมื่อกลุ่มโจรมังกรวารีไม่ปรารถนาที่จะปล่อยน้องสาวของข้าไป เราจำเป็นที่จะต้องให้มันชดใช้อย่างสาสม”
“ท่านผู้อาวุโสที่ 3 ได้ออกไปติดต่อจอมยุทธคนอื่น ๆ แล้ว บางที่เขาอาจจะโน้มน้าวให้พวกนั้นร่วมต่อสู้กับกลุ่มโจรมังกรวารีได้ ถ้าเรารวมกำลังได้มากพอ เราสามารถที่จะลองสู้กับพวกกลุ่มโจรได้” หัวหน้าตระกูลเทียนฉินกล่าว
ตอนที่กลุ่มโจรมังกรวารีได้ลักพาตัวสมาชิกปัจจุบันของตระกูลเทียนฉินไปเพื่อไปแต่งงานกับลูกชายของเขานั้น มันก็เหมือนกับการตบหน้าตระกูลเทียนฉิน ถ้าการแต่งงานนี้เกิดขึ้นจริง ๆ ตระกูลเทียนฉินจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนในการอยู่ที่เมืองหว่าลู่เหรินต่อไป ?
“ข้าคิดว่าท่านผู้อาวุโสสามจะต้องกลับมาด้วยความผิดหวัง จอมยุทธรอบ ๆ อาณาจักรเรารู้ซึ้งดีถึงความแข็งแกร่งของหัวหน้าของกลุ่มโจรมังกรวารี ทำไมพวกเขาจะต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อไปต่อกรกับหัวหน้าของกลุ่มโจรนั้นด้วยล่ะ ? ” ท่านผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว
ในขณะนี้ มีพลังงานมหาศาลอื่นกำลังมุ่งหน้ามาที่ตระกูลเทียนฉินจากที่ที่ไกลมาก และกำลังมาถึงที่หอประชุมไม่นานหลังจากนั้น คนที่นั้นชราแต่ดูกระฉับกระเฉงอยู่ในชุดคลุมสีขาว เขาคือเซียนสวรรค์ที่เคยร่วมเดินทางกับเจี้ยนเฉินไปที่เมืองทหารรับจ้าง
ทันทีที่เขาเข้ามาในหอประชุมนั้น เขาถอนหายใจด้วยท่าทีที่ช่วยไม่ได้ เขากล่าวว่า “ข้าได้ติดต่อกับเซียนสวรรค์ของหลาย ๆ ตระกูลใหญ่แล้ว พวกเขาล้วนกลัวหัวหน้าของกลุ่มโจรมังกรวารีกันทั้งนั้น ดังนั้นพวกเขาจะไม่ร่วมมือกับเราในการจัดการกับพวกกลุ่มโจร ดูเหมือนตอนนี้ ตระกูลเทียนฉินของเราคงต้องยอมรับความอัปยศครั้งนี้เสียแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว ทุกคนในห้องก็เริ่มรู้สึกเศร้าหมอง
ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินยืนขึ้นจากที่นั่งของเขา เขาป้องมือของเขาให้ท่านผู้อาวุโสทั้งสามและพูด “ท่านผู้อาวุโสทั้งสาม ข้าอยากรู้เหลือเกินว่ากลุ่มโจรมังกรวารีอยู่ที่ไหน ข้าตั้งใจที่จะไปที่ภูเขามังกรขนดเพื่อที่จะไปช่วยคุณหนูฉินฉิน ข้าจะไม่ยอมให้คุณหนูฉินฉินพบกับความเสื่อมเสียอย่างแน่นอน”
ทุกคนจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินทันที ไม่เว้นแม้แต่ท่านผู้อาวุโสทั้งสามด้วย อย่างไรก็ตาม 2 ใน 3 ของท่านผู้อาวุโสนั้นไม่เคยพบเจี้ยนเฉินมาก่อน ดังนั้นจึงช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะแสดงท่าทีสงสัย หลังจากนั้นไม่นาน ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายสดใส เพื่อตรวจสอบความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะตรวจสอบอย่างไร พวกเขาก็ไม่เห็นถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินเลย เพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้ว เจี้ยนเฉินก็เหมือนกับคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป ไม่เหมือนผู้มีวิชาอะไรเลย อย่างไรก็ตาม พวกเขารู้สึกถึงความนุ่มนวลอย่างบรรยายไม่ได้จากเจี้ยนเฉิน เหมือนเขาหลอมรวมเข้ากับโลกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ผู้อาวุโสทั้งสองคนมองหน้ากันและกันด้วยสายตาที่ค่อนข้างตึงเครียด แม้ว่า เจี้ยนเฉินจะดูเหมือนคนธรรมดา ๆ ในสายตาของพวกเขา แต่เขาก็เชื่อว่าเจี้ยนเฉินนั้นต้องมีอะไรมากกว่าที่พวกเขาเห็น
“น้องเจี้ยนเฉิน นั่นเจ้าจริง ๆ ด้วย ! ” ผู้อาวุโสสามเคยพบเจี้ยนเฉินมาก่อน เขาจึงจำเจี้ยนเฉินได้ทันทีที่เห็น และเขาก็แสดงท่าทีประหลาดใจออกมา