ICSS บทที่ 122: วิญญาณในวิดีโองั้นเหรอ?

“เป็นไปไม่ได้!”

“นายต้องกำลังดูถ่ายทอดสดฉันอยู่แน่ๆ! หรือไม่ก็เป็นแฟนรายการของฉัน ไม่งั้นนายจะเดาถูกแบบนี้ได้ยังไง!”

เขาเดาว่านั่งอยู่ข้างคอมพิวเตอร์ได้หรือว่ามีแตงกวาวางอยู่ที่ด้านขวาได้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเดาเรื่องชุดชั้นในถูกแบบนี้! แม้แต่สีและลายก็ยังถูกอย่างชัดเจน ใครจะไปเชื่อ!

“ใช่แล้ว ฉันว่าเขากำลังดูถ่ายทอดสดของเธออยู่ก็เพื่อที่จะเลี่ยงที่จะต้องเป็นไอ้โง่ ที่ถูกอาซิยั่วยวนออกอากาศแบบนี้ไง!” คอมเม้นเริ่มขึ้นมาอีกรอบ

“ใช่เลย ต้องเป็นแฟนรายการและกำลังดูถ่ายทอดสดอยู่ตอนนี้ด้วยแน่ๆ!” อาซิพูดยืนยัน

“เป็นไปไม่ได้! ในห้องแชทตอนนี้มีคนดูแค่ไม่กี่พันคนเองนะ! และในจีนก็มีเบอร์โทรศัพท์เปิดอยู่มากกว่า 1.2 พันล้านเบอร์ งั้นก็มีตัวเลขให้เดามากกว่า 5.6 พันล้านตัว เธอต้องเลือกจาก 5.6 พันล้านตัวพวกนี้ เพื่อมาเจอคนที่กำลังดูอยู่พันกว่าคนนี้ มีความเป็นไปได้น้อยมาก! ยากกว่าถูกล็อตเตอร์รี่อีกนะ!” น่าสงสัยจริงๆ

“ความเป็นไปได้น้อยมากๆแต่มันก็เป็นไปได้นะ! ยังไงซะก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่! แต่การที่จะเดาได้อย่างถูกต้องขนาดนี้ มันโคตรจะเป็นไปไม่ได้เลย! ใครที่ไม่เห็นด้วย งั้นก็เดาว่าสิว่าฉันใส่ชุดชั้นในสีอะไรอยู่!” อีกคนพูดออกมาอย่างกล้าหาญ

“เดาของนายแล้วหมดอารมณ์ว่ะ ฉันเดาของแม่นายดีกว่าเยอะเลย ทำไมต้องมาเดาสีกางเกงในผู้ชายด้วยว่ะ!” อีกคนเริ่มที่จะท่าทายอย่างกล้าหายด้วย

“ใครบอกว่าฉันเดาล่ะ?” ในเวลานี้ เสียงของหนิงเทียนหลินดังออกมาจากโทรศัพท์ ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง ไม่ได้เดา แต่เห็นงั้นเหรอ!
“ถ้าฉันบอกว่าฉันเป็นวิญญาณ เธอจะเชื่อไหมล่ะ?” หนิงเทียนหลินรู้สึกว่าอีกฝ่ายท้าทายมากเกินไป เขาจะต้องให้บทเรียนกับเธอเลยพูดออกไปตรงๆ

“วิญญาณเหรอ? ถ้านายเป็นวิญญาณ? ฉันก็เป็นบรรพบุรุษของนายแล้วล่ะ!” ในเวลานี้ อาซิคอมเม้นลงไปที่หน้าจอโดยไม่ได้พูดออกมา

“ใช่เลย! ในโลกนี้จะมีวิญญาณได้ยังไงกัน? ถ้าเขาเป็นวิญญาณจริง ฉันจะถ่ายทอดสดเลย!” พวกไม่เชื่อในพระเจ้าพูดออกมา
“ไม่นะ ฉันเคยเห็นวิญญาณจริงๆตอนยังเด็ก ในโลกนี้มีวิญญาณจริงๆนะ” ในเวลานี้อีกคนพูดออกมา “บางทีอีกฝ่ายอาจจะเป็นวิญญาณจริงๆก็ได้นะและกำลังมองเราอยู่ทุกการเคลื่อนไหว…ไม่งั้นอีกฝ่ายจะเดาถูกต้องขนาดนี้ได้ยังไงล่ะ!”

พร้อมกันนั้นเมื่อคอมเม้นนี้ขึ้นมา ทุกคนต่างก็รู้สึกว่ามีอะไรอยู่ข้างหลังเหมือนกับในเวลามืดๆที่จะมีดวงตากำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ คือตอนนี้มันเป็นเวลาตี 3 แล้ว เป็นช่วงเวลาปล่อยผีแบบในตำนานเลยด้วย!

“เห็นด้วย ตอนเด็กๆฉันก็เคยเห็นวิญญาณ!” อีกเสียงสมทบขึ้นมา

“บอกให้เขาเปิดกล้องสิ ถ้าเปิดมาแล้วฉันจะเชื่อ! ฉันอยากจะเห็นว่านี่แกล้งเป็นผีหรือเปล่า!” พร้อมกันนั้นก็มีคอมเม้นจากฮีโร่ท้องถิ่นแสดงขึ้นมา

พร้อมกันนั้นอาซิก็เริ่มมีปฎิกิริยา ตอนนี้คำพูดของหนิงเทียนหลินเริ่มจะทำให้เธอกลัวขึ้นมาจริงๆ ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่แฟนรายการถ่ายทอดสดของเธอจริงๆ แต่เป็น “ผี” ก็จะสามารถอธิบายสถานการณ์นี้ได้ทั้งหมด

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็ถึงกับหันหัวไปมองทั่วห้องอย่างอดไม่ได้ว่ามีใครอยู่ด้วยหรือเปล่า!

“ฉันไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะมีวิญญาณหรอก” ตราบใดที่เธอยังเปิดกล้องวีดีโออยู่ ทุกอย่างก็จะได้เห็นอย่างชัดเจนและเธอก็ยังมีเพื่อนอยู่ด้วย อาซิจึงพูดออกไปตรงๆ “ถ้านายเป็นวิญญาณจริงๆ งั้นก็เปิดกล้องสิฉันอยากจะเห็นว่าวิญญาณจริงๆหน้าตาเป็นยังไงกันแน่!”

เมื่อเธอพูดจบก็รู้สึกหนาวๆ เธอเป็นเพียงเด็กสาวและเรื่องแบบนี้ก็ทำให้เธอกลัวได้จริงๆ

“เธออยากจะเห็นจริงๆงั้นเหรอ?” หนิงเทียนหลินไม่ได้ปฎิเสธ เขายิ้ม สายตาดูเหยือกเย็นมากๆท่ามกลางความมืดแบบนี้

“ดูเลย!”

“ใครไม่กล้าดูเป็นม้านะ!” เธอถ่ายทอดสดและจะกลัวการเปิดเผยตัวต่อสาธารณะงั้นเหรอ? อีกอย่างเธอเดาว่าอีกฝ่ายกำลังดูเธอถ่ายทอดสดอยู่และแค่แกล้งทำเป็นวิญญาณเท่านั้น

“555! อาซินี่เป็นผู้หญิงที่กล้าหาญจริงๆ แม้แต่กับวิญญาณก็ไม่กลัวเลย!”

“อีกฝ่ายต้องแค่แกล้งเฉยๆแน่ๆ เห็นอยู่ชัดๆว่าก็แค่คนดูธรรมดาๆที่กำลังดูถ่ายทอดสดอยู่ แต่กล้าที่จะทำให้อาซิขอคุยวีดีโอแบบซึ่งๆหน้า! ฉลาดจริงๆ ฉันนับถือเลย!”

“ไอ้หนุ่มนี่ต้องกำลังหื่นแน่ๆเลย อย่าเพิ่งรีบหนีซะก่อนล่ะ ไม่งั้นโดนดีแน่ที่แกล้งทำเป็นมาหลอกผีแบบนี้!”

คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าคนที่กำลังคุยด้วยอีกฝ่ายเป็นวิญญาณ!

ผีจะตอบโทรศัพท์ได้ยังไง? ตลกแหละ!

“ไม่เห็นจำเป็นต้องพูดแรงแบบนั้นเลย เดี๋ยวฉันจะเปิดกล้องแล้วแต่อย่ากลัวจนตายหนีไปก่อนล่ะ!” หนิงเทียนหลินหัวเราะกับคำขู่ของอีกฝ่าย พร้อมกันนั้นจิตของเขาก็รีบติดต่อไปที่ระบบการต่อสู้อย่างเร็วและถามว่าเรื่องแบบนี้จัดการได้ไหม

คำตอบคือต้องใช้พลังงานนิดหน่อยเพราะต้องแต่งให้น่ากลัวกว่าวิญญาณจริงๆ จะต้องน่ากลัวมากกว่า มากกว่า มากกว่าและมากกว่าหน่อย!

“จัดให้!” ด้วยพลังงานเพียงเล็กน้อย เขาไม่สดใจหนิงเทียนหลินเลย!

“กลัวตายล่ะ! นายแค่แกล้งมาทำเป็นผี!” อาซิอารมณ์ขึ้นแล้วและเลิกทำเป็นแอ๊บไปแล้ว คืนนี้เธอเบื่อมาก ทุกเรื่องนอกแผนเธอไปมากและนี่เป็นการก่อกวนของอีกฝ่ายชัดๆ

“ขอแอดเพื่อนในเพนกวินหรือวีแชทดีไหม?” ในเวลานี้หนิงเทียนหลินถูกถาม 2 โปรแกรมนี้เป็น 2 โปรแกรมหลักที่ต้องใช้กล้องวีดีโอ ตอนนี้พวกเขาแค่คุยกันผ่านโทรศัพท์เลยมองอีกฝ่ายไม่เห็น

“ฉันบอกว่าฉันเป็นผี แล้วฉันจะใช้เพนกวินหรือวีแชทได้ยังไงล่ะ?” หนิงเทียนหลินพูดออกไป “จับโทรศัพท์ดีๆนะแล้วคอยดู อย่ากลัวจนสิ้นสติล่ะ!”

“ว้าว!”

ทันทีที่สิ้นคำเตือนของเขา อยู่ดีๆไฟในบ้านของอาซิทั้งหมดก็ดับลงและแม้แต่โทรศัพท์มือถือของเธอก็หน้าจอดับไปเลยซึ่งตอนนี้กลายเป็นเพียงวัสถุธรรมดาๆไปแล้ว

“อ่า! ผี!”

“ผี!”

“ผีจริงๆด้วย! มีผีจริงๆด้วย!”

เมื่ออยู่ดีๆไฟในบ้านก็ดับและมืดไปหมด อยู่ดีๆอาซิก็สั่นไปถึงหัวใจ โทรศัพท์ในมือของเธอสั่นไปหมดด้วยความกลัวสุดขีด เมื่อเธอเลื่อนสายตามาที่หน้าจอโทรศัพท์ เธอก็ตะโกนออกมาว่า “ผี!” แล้วก็กลิ้งตกมาจากเก้าอี้

เธอถึงขนาดทำโทรศัพท์ตกลงไปที่พื้น แต่ด้วยคุณภาพของโทรศัพท์ที่ดีมันจึงไม่แตก

“ผี! ผี!”

“ผีจริงๆด้วย! ผีจริงๆด้วย!”

เพียงไม่กี่นาทีต่อมา อาซิเริ่มที่จะร้องไห้ออกมา เสียงของเธอร้องครวญครางเข้าไปใหญ่และเธอก็คลานไปทั่ว ไปขดตัวอยู่ที่มุมห้องตัวสั่นเทา
“ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันแค่ล้อเล่นเฉยๆ ไปที่ชอบๆเถอะนะ!”

“เร็วสิ! ฉันแค่ล้อเล่นเฉยๆ!”

“ขอร้องล่ะปล่อยฉันไปเถอะนะ! ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว ไม่กล้าทำอีกแล้ว!”

“ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ไม่ทำแล้ว!”

อาซิเอาแต่พูดซ้ำไปซ้ำมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและตกใจสุดขีด ทำให้ทุกคนที่กำลังดูถ่ายทอดสดของเธออยู่ต่างก็กลัวสุดขีดและแม้แต่ขนก็ยังลุกขึ้นมาทั่วทั้งตัวอย่างห้ามไม่ได้

อีกฝ่ายเป็นผีจริงๆงั้นเหรอ? เธอเห็นผีจริงๆงั้นเหรอ? เขาเป็นผีจริงๆงั้นเหรอ?