บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 1059

เจเรมี่รู้ว่าการมาที่นี่รังแต่จะทำร้ายตัวเขาเอง

เขาแค่ไม่สามารถปล่อยวาง และไม่สามารถสลัดผู้หญิงที่ฝังอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจเขาออกไปได้เลย

ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก เจเรมี่เห็นไรอันเดินเข้ามาใกล้เมเดลีนผ่านผ้าม่าน เขาเข้าใกล้เธอมากขึ้นและก้มศีรษะลง เห็นได้ชัดว่าเขากำลังจูบเธอ

เจเรมี่จับพวงมาลัยแน่น แล้วรู้สึกได้ถึงเม็ดฝนนอกกระจกรถที่กระหน่ำเข้ามาในหัวใจของเขาจนรู้สึกเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง

เขาไม่สามารถทำแบบนี้ต่อได้อีก สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือไปยังคฤหาสน์วิทแมน ที่ซึ่งเขาจะสามารถไปเยี่ยมลูกสองคนที่หลับใหลได้อย่างเงียบ ๆ

ในห้องนอน

ไรอันกอดเมเดลีนเบา ๆ ก่อนจะปล่อยเธอ

“ผมรู้ว่าคุณยังลืมเจเรมี่ไปไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร ผมรอได้”

คำพูดของไรอันทำให้เมเดลีนรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก

เธอเป็นภรรยาตามกฎหมายของเขาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำหน้าที่ของภรรยาได้อย่างเต็มที่

ไรอันเข้าใจเธอดีมากเหลือเกิน “เพราะเรารีบแต่งงานกัน มันจึงเป็นธรรมดาที่คุณจะยังปล่อยวางเจเรมี่ไปไม่ได้”

“ขอบคุณนะคะ ไรย์”

“ตอนนี้เราเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้” ไรอันจับไหล่เมเดลีนเบา ๆ “รีบเข้านอนพร้อมเจ้าตัวเล็กเถอะ” เขาพูดก่อนจะหันหลังเดินออกไป

“จะนอนห้องรับแขกเหรอคะ?” เมเดลีนถามขณะที่เธอมองแผ่นหลังเขา

ไรอันส่ายหัว “ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำ ผมจะไปที่ห้องทำงานนะ”

“รีบทำให้เสร็จจะได้พักผ่อนบ้างนะคะ”

“ครับผม” ไรอันยิ้มอย่างอ่อนโยนและปิดประตูให้เมเดลีน

เขาเดินไปที่ห้องทำงาน สวมแว่นตากรอบดำ และนั่งลงที่โต๊ะ

ใบหน้าที่สง่างามและหล่อเหลาในตอนแรก แปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายเหี้ยมเกรียมราวกับเป็นคนละคนทันที

เขาเปิดกล้องเว็บแคมและเชื่อมต่อวิดีโอคอล เสียงรายงานจากอีกฝั่งหนึ่งดังขึ้น “พิษในร่างกายของเจเรมี่เข้าสู่ระยะที่สามแล้ว เขาอาจเหลือเวลาไม่มาก เขาขอดำเนินการโดยเร็วที่สุด เรารอคำแนะนำเพิ่มเติมของคุณอยู่”

ไรอันฟังอย่างใจเย็นและมองไปที่สายฝนซึ่งตกลงมานอกหน้าต่าง

‘ฟ้าหลังฝนมีสายรุ้งงดงามเสมอ’

‘แต่ไม่รู้ว่าฝนนี้จะหยุดลงเมื่อไหร่น่ะสิ’

หลังจากลาน่าหลับไปสักพัก เธอก็ตื่นขึ้นมาอย่างสบายใจ

เมื่อคืนนี้กลิ่นหอมพวกนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองได้นอนกับเจเรมี่อีกครั้ง

ลาน่าอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอมีความสุขมากที่เห็นเจเรมี่เข้ามาในห้องพร้อมถาดอาหารเช้า

เธอมองไปที่ชายหนุ่มอย่างหลงใหล ขณะที่ดื่มกาแฟและกัดขนมปังปิ้ง “เจเรมี่คะ จะมีคำสั่งซื้อจำนวนมากเข้ามาในอีกสองวันข้างหน้า ลูกค้าของเรากำลังบินไปที่เกลนเดลโดยเฉพาะเพื่อเจรจาต่อรอง คุณจะต้องแสดงฝีมือให้เต็มที่นะคะ ฉันอยากให้โยริคเห็นว่า หากไม่มีแก๊งสเตเจี่ยนจอห์นสัน ฉันก็ยังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยตัวฉันเอง”

เจเรมี่พยักหน้าและส่งทิชชู่ให้ลาน่าอย่างสนิทสนม

“ฉันมีข้อเสนอ”

“อะไรคะ?” ลาน่ามองเขาด้วยความสนใจ

เธอตระหนักว่าหลงรักผู้ชายคนนี้จนหัวปักหัวปำแค่ไหน เพราะแค่ได้เห็นเขา มันก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในท้องตลอดเวลา

เจเรมี่สบตากับลาน่า “วิทแมน คอร์ปอเรชั่นเป็นที่ที่จะช่วยให้เราฟอกเงินได้ดี”

“ว่าไงนะ?” ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึง “คุณกำลังจะบอกว่าฉันควรฟอกเงินสกปรกทั้งหมดผ่านวิทแมนคอร์ปอเรชั่นงั้นเหรอคะ?”

เจเรมี่ดูจริงจัง “เอาสมุดบัญชีให้ฉัน แล้วฉันจะจัดการให้เธอเอง ประธานของวิทแมน คอร์ปอเรชั่นคือฉัน ไม่มีใครสามารถแทรกแซงการโอนเงินของบริษัทได้นอกจากฉันคนเดียว”

ลาน่าส่งเสียงครางในลำคอพลางครุ่นคิด

เมื่อเจเรมี่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังคิดเรื่องนี้ เขาก็เสริมต่อว่า “นี่เป็นวิธีที่เร็วและปลอดภัยที่สุดในการฟอกเงิน เธอไม่อยากพิสูจน์ความสามารถของเธอกับโยริคแล้วเหรอ? นี่จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเธอนะ

“ตราบใดที่เธอเอาบัญชีของแก๊งสเตเจี่ยนจอห์นสันมาฝากไว้กับฉัน ฉันสัญญาว่าจะฟอกเงินให้เธอโดยเร็วที่สุด”