Ch.10 – หมาป่าแดงแห่งความสันโดษ -อาเรีย-
Translator : O-Minus / Author
ในเกมWLOนั้น การที่จะปลดล็อคเส้นทางไปยังเมืองต่อไปได้จะต้องผ่านดันเจี้ยนที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองสองเมืองไปได้เสียก่อน
และยังมีบอสประจำดันเจี้ยนที่คอยขัดขวางเส้นทางของผู้ท้าทายอยู่อีกด้วย
ถึงจะมีชื่อเรียกว่าดันเจี้ยนก็ตามแต่มันไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นถ้ำเสมอไป
ยกตัวอย่างเช่น ในป่า,ซากปรักหักพัง,บึงหนองน้ำ และนั่นย่อมรวมไปถึงป่าลึกที่เต็มไปด้วยต้นไม้
แต่อย่างน้อยๆการที่จะไปเมืองถัดจากเมืองแห่งการเริ่มต้นได้ คุณจะต้องผ่าน[ถ้ำแห่งการทดสอบ]ที่ทุ่งราบทางทิศเหนือเสียก่อน
แล้วก็ฉันได้มารู้สิ่งนี้ทีหลังนะแต่ว่า
นอกจากบอสประจำดันเจี้ยนแล้ว ยังมีบอสมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งอีกประเภทตามที่ต่างๆอีกด้วย
พวกมันคือ[บอสมอนสเตอร์นามเฉพาะ]
พวกบอสชื่อพิเศษล่ะ
การที่พวกมันจะมีชื่อเฉพาะก็ได้มาเป็นหลักฐานจากการเป็นสุดยอดของการต่อสู้
ตั้งแต่ช่วงทดสอบเบต้าของเกมจนถึงทุกวันนี้ยังแทบไม่มีบันทึกว่ามีพวกชื่อเฉพาะถูกปราบลงได้
ทั้งมีเงื่อนไขในการเกิดอย่างเฉพาะ, เงื่อนไขในการพบเจอ, และอีกทั้งความแข็งแกร่งที่ห่างชั้นกันจนเทียบไม่ได้
เมื่อรวมปัจจัยเรื่องของความแข็งแกร่งและความหายากของมันแล้ว คงจะเป็นสาเหตุที่แทบไม่มีการบันทึกการถูกปราบของพวกมันไว้
แต่ว่าผลรางวัลที่ได้จากการปราบพวกชื่อเฉพาะนั้นสูงมากและถ้าสามารถปราบชื่อนั้นๆได้เป็นคนแรกก็จะได้โบนัสเพิ่มอีกด้วย
เพียงเพื่อให้ได้รางวัลเหล่านั้น มีผู้เล่นนับไม่ถ้วนที่ไล่ตามล่าหามอนสเตอร์ชื่อเฉพาะ
จะว่าไปแล้ว หลังจากที่ปราบบอสชื่อเฉพาะไปได้แล้ว พวกมันจะเกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งหลังจากที่เวลาผ่านไป มีเพียงครั้งแรกที่ปราบลงได้เท่านั้นที่รางวัลตอบแทนงดงาม และถ้าปราบได้ทุกคนที่เข้าร่วมก็จะได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน
ถ้าหากบังเอิญไปพบเข้าก็แทบจะเป็นการส่งกลับเมืองเกิดอัตโนมัติ แต่ในทางกลับกันถ้าปราบได้ก็จะได้รับผลตอบแทนอย่างมาก
นั่นล่ะคือตัวตนของบอสชื่อเฉพาะที่ผู้เล่นแนวหน้ารู้จักกัน
ยกตัวอย่างก็ หมาป่าแดงแห่งความสันโดษ -อาเรีย- ที่อยู่ต่อหน้าของฉัน เงื่อนการเกิดของมันมีข้อมูลน้อยมากเสียจนไม่มีการบันทึกว่ามันเคยถูกปราบลง
ที่มีข้อมูลน้อยก็เพราะว่าการต่อสู้ของมันมักจบลงด้วยความรวดเร็ว
สิ่งเดียวที่รู้กันคือมันจะปรากฏตัวต่อหน้า[ผู้เล่นโซโล่]
หมายความว่าสิ่งที่หมาป่าแดงแห่งความสันโดษต้องการมีเพียงสิ่งเดียวคือการดวลเดี่ยวหนึ่งต่อหนึ่งเท่านั้น
☆
มีเพียงเจตจำนงเดียวบนตาคู่นั้นที่ดูชัดเจนไม่เหมือนกับภาพที่ถูกถักทอขึ้นจากระบบของเกม
จากดวงตาสีจันทร์งดงามนั้นเต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้และจิตสังหาร
สามารถรับรู้ได้ถึงภาพลวงตาว่าหัวได้หลุดออกจากบ่าไปแล้วถ้าหากเผลอไม่ระวังตัว ความกระหายเลือดนั่นล่ะที่ทำให้ใจฉันสั่นไหว
“ดีเลยสิ ทำเอาตื่นเต้นขึ้นมาเลย”
เพื่อตอบรับต่อการโจมตีในทุกรูปแบบ ฉันผ่อนหลังลงเล็กน้อยเพื่ออยู่ในท่าตั้งรับอย่างสบายๆ
แก้มฉันหุบลงไม่ได้เลย และไม่จำเป็นด้วย
โดยไม่อดกลั้นความรู้สึกของฉัน ฉันร้องตะโกนออกมา
“ไม่ต้องยั้งมือนะ!”
“กรรรร!!”
ในชั่วพริบตาต่อมา ประกายไฟกระจายออกจากตะบองเหล็กและกรงเล็บ
(หนัก!)
ถึงจะนับรวมเรื่องของค่าสถานะที่ห่างกันถึงสองเท่า ฉันก็นึกไม่ถึงว่าจะต้องใช้แรงสุดกำลังเพื่อที่จะปัดป้องการโจมตีจากกรงเล็บในท่วงท่าที่เตรียมพร้อมรับอยู่แล้ว
ฉันหลบการกัดด้วยการกระโดดถอยหลังแต่หมาป่าแดงพุ่งตรงเข้ามาเร็วราวกระสุน
แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นการพุ่งเข้ามาตรงๆ
พอฉันกระโดดไปด้านข้าง มันก็หยุดกะทันหันและใช้หางใหญ่กวาดเล็งมาทางฉัน
ฉันปัดหางมันออกด้วยตะบองเหล็กและพวกเราก็เว้นระยะห่างกันออกมา
“ฮ่ะฮ่ะ นี่ล้อกันเล่นใช่ไหม?”
แพ้ด้านกำลัง แพ้ด้านความเร็ว และยังแพ้ด้านขนาดอีก
แต่ว่าฉันยังได้เปรียบอยู่ในการขยับเคลื่อนไหวเล็กๆ และนี่เป็นการดวลหนึ่งต่อหนึ่ง
ไม่จำเป็นต้องคอยระวังเรื่องการถูกขัดจังหวะ
ขณะที่ฉันรับรู้ถึงจิตสำนึกของฉันค่อยๆจมลง มุมมองสายตาของฉันก็กว้างขึ้น
ตั้งสมาธิ ตั้งสมาธิ ต้องทำแค่ตั้งสมาธิเท่านั้น
เรายังคงดำดิ่งลงไปได้มากกว่านี้ จนกว่าจะถึงก้นบึ้ง
หมาป่าแดงที่มองดูสถานการณ์ได้พุ่งตรงเข้ามาโดยไม่มีการเตรียมการใดๆ
เป้าหมายของมันเล็งมาที่คอ คมเขี้ยวเอียงไปด้านข้างหวังจะกัดกระชากคอของฉัน ฉันเล็งแล้วหวดเข้าไปด้วย[หวด]
ฉันทำให้สมองของมันสะเทือน
แต่ถึงแม้หมาป่าแดงจะชะงักแต่แรงจากการพุ่งเข้ามาไม่ถูกหยุดลงไปด้วย ฉันใช้แรงสะท้อนจากการหวดกระโดดไปอีกด้านและหลบคมเขี้ยวนั้น
การชะงักหลังใช้สกิลค่อนข้างเสี่ยงแต่อีกฝ่ายก็น่าจะยังอยู่ในช่วงชะงักเช่นกัน
ฝ่ายที่หลุดจากอาการชะงักได้ก่อน คือฉัน
ฉันที่แพ้ในด้านความเร็วและยังไม่มีการโจมตีระยะไกลอีก การสร้างระยะห่างยิ่งจะเป็นการสร้างความเสียเปรียบมากกว่าการเข้าประชิด
ย่นระยะห่างแล้วฉันจึงพยายามตีเข้าไปยังด้านข้างของหมาป่าแดงที่เปิดกว้าง ในขณะเดียวกันที่มันหันเข้ามาหาและโจมตีอย่างกะทันหัน ฉันหลบหางที่เล็งมาทางฉันด้วยการก้มหลบ
“โอร่าาาาาาาา!”
เมื่อมันกำลังจะหันมาทางนี้ฉันก็ได้ฟาดเข้าไปที่หน้าของมัน
หงุดหงิดจากการถูกโจมตีเข้าที่หัวติดๆกันหลายครั้ง มันใช้ขาหน้าตะปบมาที่ฉันซึ่งฉันก็ใช้ตะบองเหล็กปัดมันออกและใช้แรงสะท้อนเหวี่ยงตัวเองฟาดไปอีกครั้ง
การเข้าตะปบโดยไม่เตรียมพร้อมก่อนจะถูกปัดออกไป
เหมือนว่าหมาป่าแดงจะเข้าใจในเรื่องนั้นเช่นกัน มันเข้าหาฉันอย่างจริงจังแต่ฉันก็หลบมันได้อย่างง่ายดาย ในตอนนั้นเองที่ดวงตาราวแสงจันทร์จ้องมาที่ฉัน
การโจมตีทั้งหมด4ครั้ง ทุกครั้งล้วนโดนเข้าที่หัวซึ่งเป็นจุดอ่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังลดแถบHPของมันลงไปได้ไม่ถึง10%
สำหรับความทนทานระดับนั้น ฉันยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
หมาป่าแดงแห่งความสันโดษ คู่ต่อสู้ที่ฉันไม่สามารถต่อกรได้ในตอนนี้?
ทำไมไม่ได้ล่ะ?
ไม่ใช่ว่าแบบนี้น่ะเยี่ยมไปเลยหรอกเหรอ?
ร่างกายฉันสั่นไหวจากความตื่นเต้นที่แล่นผ่าน
“มาเล่นเกมแข่งกันว่าใครจะตายก่อนกันเถอะนะ”
เมื่อได้เห็นกล้ามเนื้อของหมาป่าแดงเกร็งขึ้น ฉันก็กระชับตะบองเหล็กในมือขึ้นมา
☆
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนกันแล้วนะ พวกเราได้สู้กันมานานเหลือเกิน ฉันรู้อยู่เพียงแค่นั้น
การต่อสู้กับศัตรูที่ห่างชั้นกันมากๆอย่างหมาป่าแดงทำให้ฉันได้รู้ถึงจุดอ่อนอันยิ่งใหญ่เข้า
และนั่นไม่ใช่ความต่างของค่าสถานะเพียงอย่างเดียว
สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดคือ[SP]
ร่างกายของฉันในตอนนี้ยังคงเป็นของผู้เล่นเลเวลต่ำ ไม่ว่าการโจมตี หลบหลีก หรือกระโดด ทุกๆการกระทำจะต้องคอยคำนึงถึงค่าSPที่ลดลงไปด้วย
แต่ดูเหมือนว่าคอนเซปต์ของค่าSPจะไม่มีอยู่ในหมาป่าแดงข้างหน้าของฉัน เนื่องมาจากการเคลื่อนไหวที่ไร้จุดสิ้นสุดของมัน
ถ้าสู้กันซึ่งๆหน้าฉันก็จะต้องใช้ค่าSPจนหมด และถ้าฉันขยับไม่ได้ก็เป็นที่แน่นอนที่ฉันจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
แต่ถึงอย่างนั้นถ้าฉันไม่โจมตีฉันก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้
ด้วยเหตุนี้วิธีการต่อสู้ที่ฉันเลือกใช้ในศึกนี้จึงกลายเป็นเป็นกลยุทธ์ธรรมดาๆ
ง่ายๆก็คือไม่ทำอะไรนอกจากสวนกลับ
อ่านการเคลื่อนไหวทุกอย่างและในช่องว่างที่เล็กน้อยที่สุดก็โจมตีเข้าไปเล็กน้อย
ด้วยวิธีนี้SPของฉันก็จะไม่หมดลง และฉันก็จะไม่โดนโจมตีด้วย
ด้วยวิธีนี้จึงเป็นการรับมือคู่ต่อสู้ที่แกร่งกว่าได้อย่างเหมาะสม
“อ่ะฮ่า”
กิ๊ง(เสียงเอฟเฟค) เสียงของวัตถุแข็งปะทะกันจนเกิดประกายไฟดังขึ้นเมื่อฉันปัดการโจมตีด้วยกรงเล็บออก ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
ค่าSPของฉันเพียงพอเพราะการเปลี่ยนกลยุทธ์ ค่าที่ฟื้นฟูขึ้นมามีมากกว่าที่ใช้ไป
และด้วยเหตุนี้หมาป่าแดงข้างหน้าฉันจึงต้องพึ่งวิธีโจมตีและถอยหนีอย่างช่วยไม่ได้
ด้วยความที่หมาป่าเป็นสัตว์สี่ขา พวกมันจึงไม่ถนัดการต่อสู้ระยะประชิด
ในความจริงแล้วการที่พวกมันสามารถสร้าง[ความเร็ว]ที่สัตว์สองขาไม่สามารถทำได้ เมื่อรวมกับเขี้ยวเล็บของพวกมันแล้วจึงอันตรายอย่างมาก นั่นคือวิธีที่พวกมันสามารถแสดงพลังออกมาได้มากที่สุด
หมาป่าแดง-อาเรีย-จึงไม่อาจเลือกสู้ระยะประชิด ซึ่งเป็นทางเลือกที่แย่ที่สุดสำหรับฉัน ได้
ทางเลือกที่จะเป็นการโจมตีต่อเนื่องที่ฉันไม่สามารถคอยปัดออกไปได้ตลอดจนกระทั่งค่าSPถูกบั่นทอนออกไปจนหมด
ในตอนนี้การโจมตีประชิดที่อาเรียทำได้มีเพียงตะปบด้วยกรงเล็บจากขาหน้า,กัด,พุ่งชน,และฟาดหาง อย่างมากก็ทำได้เพียงเท่านั้น
นั่นเป็นสาเหตุที่ฉันสามารถรับมือกับการโจมตีระยะกว้างของมันได้
แต่ถ้าจะบอกว่าหมาป่าแดงอาเรียเป็นคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอกว่า นั่นก็ไม่เป็นความจริง
ยกตัวอย่าง ถ้ามันพุ่งเข้ามาก็มีความรุนแรงพอจะฆ่าในครั้งเดียว และการพุ่งตัวเข้ามาและหยุดกะทันหันตาด้วยหางฟาดก็อันตรายอยางมากเช่นกัน
เหมือนว่าภาระทางร่างกายจะหนักหมาป่าแดงจึงไม่ทำอย่างนั้นบ่อยๆแต่นั่นทำให้ค่าSPของฉันลดลงไปอย่างมาก ถ้าฉันประมาทไปเล็กน้อยก็คงไม่อาจหลบหนีความตายได้พ้น
“กรรรรรร!”
แกล้งหลอกว่าพุ่งตัวเข้ามาก่อนจะหยุดและเข้ากัดสองครั้ง
“อัน—ตราย!!”
หลบหลีกด้วยการเอียงตัว และงอเข่าฉันหลบการโจมตีทั้งสองได้
ใช้ตะบองเหล็กในมือเป็นจุดหมุน ฉันตีลังกากลับหลังพร้อมกับเตะเข้าไปยังคางของหมาป่าแดง
กะชิ้ง ฉันลุกขึ้นมาขณะที่ได้ยินเสียงเขี้ยวของหมาป่าถูกันอย่างน่าหวาดเสียว
หมาป่าแดงฟื้นจากอาการชะงักจากที่ฉันเตะเข้าไปที่คางและตะปบมาที่ฉันที่ใช้ตะบองเหล็กปัดป้องมันออก
“สนุกจัง…”
กลยุทธ์ของฉันที่คอยสวนกลับมีจุดอ่อนคือการที่ไม่สามารถใช้ได้ถ้าศัตรูไม่จู่โจมเข้ามา
ไม่ใช่ว่าฉันจะโจมตีก่อนไม่ได้หรอกนะ แต่อย่างที่ว่าไป ความต่างของค่าSPที่ใช้ไปมันมากเกินไป
ในตอนแรกเริ่มการต่อสู้ที่ฉันลองโจมตีไป ค่าSPจำนวนมากถูกใช้ไปแต่สิ่งที่ฉันทำได้ยังไม่ถึง10%ของแถบHPด้วยซ้ำ ถ้าฉันโจมตีจนสุดตัวอย่างมากที่ทำได้ก็เพียงประมาณ30%แล้วก็หมดแรงและตายไป
ถ้าหมาป่าแดงตัดสินใจที่จะรอให้ฉันบุกเข้าไปหาล่ะก็ การต่อสู้คงจบลงที่เสมอแน่
แต่ว่าการต่อสู้นี้ไม่ใช่อะไรอย่างนั้น อาเรียจึงยังคงโจมตีเข้ามา
นี่ไม่ใช่การฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว แต่เป็นศักดิ์ศรีของผู้แข็งแกร่ง
เพื่อที่จะได้สู้กันอย่างยุติธรรม
“งั้นก็มาต่อกันเถอะ!”
รับกรงเล็บที่ฟาดฟันลงมาด้วยแรงทั้งหมดที่มีของฉัน จิตสำนึกของฉันดำดิ่งลงไปอีกขั้น
ไม่มีการชะลอในโลกความคิดอันรวดเร็ว จับจ้องทุกสีสันบนโลกไร้สีแห่งนี้
“อ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า!!”
เป็นการแลกเปลี่ยนที่เหมือนกับศึกเดิมพันที่มีดาบจ่อคออยู่
อารมณ์ความสุขที่ฉันปลดปล่อยออกมาคุมเหนือความคิดฉัน
แต่ว่าใจเย็นลงก่อนตัวฉัน อย่าเผลอประมาทเป็นอันขาด
หยุดยั้งความคิดที่จะออกอาละวาดในใจฉันลงไป ฉันกลับมาตั้งสมาธิอยู่กับการตั้งรับเพียงอย่างเดียว
นี่เป็นการต่อสู้ที่สนุกสนานอย่างมาก แต่ว่าจุดจบของศึกนี้อยู่อีกไม่ไกล
ค่าHPของมันลดลงไปกว่าครึ่งแล้ว หมาป่าแดงที่แถบHPกลายเป็นสีเหลืองถอยสร้างระยะห่าง
ร่างกายของมันสั่นไหว นัยน์ตาจันทรากลายเป็นสีแดงฉาน
ดวงตาของมันจับจ้องมาทางฉัน และหมาป่าแดงก็ใช้เท้าด้าวออกมาข้างหน้า
“ชิ!”
รู้สึกขนลุก ฉันจึงยกตะบองเหล็กขึ้นมาตอบสนองทันทีและปัดกรงเล็บที่มาถึงไวกว่าที่ฉันคาดไว้ออกไป
ไม่ใช่แค่เพียงพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยความความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นการโจมตีจึงได้รุนแรงมากขึ้น
กรงเล็บที่ฉันปัดออกไปได้ไม่หมดข่วนมาที่ใบหน้าของฉัน ฉันได้เช็คดูและเห็นว่ามันลดค่าHPของฉันไปได้ประมาณ10% ทำให้ฉันรู้สึกหวาดเสียวขึ้นมาอีกครั้ง
“สุดยอดไปเลยนะ อาเรีย!!”
“กรรรรรรร!!”
ฉันฟาดตะบองเหล็กที่สั่นไหวตามความตื่นเต้นนี้ออกไปแต่ถูกปัดออกด้วยหางของหมาป่าแดงเมื่อมันหมุนตัว
ในจังหวะเดียวกันกับที่มันพุ่งตัวเข้ามาด้วยความไวดุจกระสุนปืน ฉันฟาดตะบองเหล็กที่กระเด็นออกมาลงไปอีกครั้ง
โก๊ะ ด้วยเสียงเอฟเฟคแย่ๆฉันได้โจมตีเข้าเป้าเต็มๆและลดHPของมันลงไปได้จำนวนหนึ่ง แต่แรงสะท้อนที่ได้ส่งมาที่มือฉันจนชาไป
“อุ…หวา?!?”
ขณะที่ยังคงจดจ่อกับอาการชาที่มือ ฉันก้มหลบหมาป่าแดงที่พุ่งเข้ามาหวังกัดไปยังคอของฉัน
“เหมือนว่าจะไม่มีเวลาจะมาตะกุกตะกักแล้วสินะ!”
ดวงตาสีแดงฉานดั่งโลหิตจับจ้องมาที่ฉัน
การต่อสู้ของพวกเรามาสู่จุดสูงสุดแล้ว
––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
มีตอนต่อนะครับ อัพทีเดียวสองตอนให้ฉากสู้บอสต่อเนื่องกัน
––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––