ตอนที่ 800 เจ้าเดาถูกแล้ว

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวออกมา อีกทั้งยังเป็นคนที่คุ้นเคยเสียด้วย

เหล่าผู้ดูแลระดับจักรพรรดิเหล่านั้นกล่าว “ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้านี่เอง ข้าคิดว่าเป็นศัตรูเสียอีก!”

คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเหล่าองครักษ์ของเก๋อซือ

พวกเขายิ้มแล้วกล่าว “ในที่สุดก็หาพวกเจ้าเจอเสียที”

พวกเขาเข้ามาประชิด จากนั้นสีหน้าพวกเขาก็ได้ฉายแววอันโหดเหี้ยมออกมา

มู่เฉียนซีกล่าว “ระวัง!”

ชิ้ง! พวกเขาได้ทยอยกันชักกระบี่ออกมา แล้วแทงทะลุหน้าอกของผู้ที่อยู่ตรงหน้า

“ในเมื่อหาตัวพวกเจ้าพบแล้ว ก็สามารถที่จะส่งพวกเจ้าไปอีกโลกได้แล้ว”

“พวกเจ้า…พวกเจ้า…” ผู้ดูแลเหล่านั้นที่ถูกฆ่าเบิกตาโพลงจ้องมอง

พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ที่ทำกิจต่างๆร่วมกันมาจะลงมือฆ่าเขา

ฉึก ฉึก ฉึก! องครักษ์ของซือคงชเวที่ถูกโจมตีในครานี้ได้ตายไปในทันทีถึงสองในสามส่วน

“นายน้อย รีบไปเร็วเข้า เกรงว่า…..”

“คิดที่จะหนี พวกเจ้าฝันไปเถอะ!” เสียงที่ชั่วร้ายเสียงหนึ่งดังลอยมา

“เก๋อซือ เป็นเจ้านี่เอง!” ซือคงชเวเบิกตากว้างแล้วกล่าว

“เจ้า…..เจ้ากลับกล้าทำร้ายคนสำนักเดียวกัน เจ้าบ้าไปแล้ว!”

เก๋อซือกล่าว “ข้าเป็นบ้า? แล้วที่เจ้าทำให้น้องชายของข้าต้องตายศพไม่สวย เจ้าไม่ต้องชดใช้หรืออย่างไร?”

ซือคงชเวโกรธจัด “เก๋อซือ เจ้าคิดที่จะกบฏหรือไง?”

“เจ้าตายอยู่ที่นี่ก็จะไม่มีใครรู้ว่าข้าเป็นคนทำ ในเมื่อเจ้ากล้าฆ่าน้องชายของข้า แน่นอนว่าเจ้าจะต้องชดใช้!”

“ฆ่าพวกมัน ไม่ต้องไว้ชีวิตแม้แต่คนเดียว!”

ภายใต้คำสั่งของเก๋อซือ เหล่าผู้ดูแลระดับมหาจักรพรรดิเหล่านั้นก็ได้ลงมือทันที

“นายน้อย รีบไป! พวกเราจะรั้งพวกนั้นเอาไว้!”

ด้วยศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าฝั่งของตน จึงทำได้เพียงแต่ต้องหนีไปก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที!

มู่เฉียนซีกล่าว “นายน้อย พวกเราไปกันเถอะ! รีบหนีออกไป มิเช่นนั้นคงได้ตายสถานเดียว!”

“ไปกัน!”

“ตามมันไป!”

คราวนี้เก๋อซือได้ตัดสินใจแน่แล้วว่าจะทำให้ซือคงชเวกับมู่เฉียนซีถึงแก่ความตาย และได้ไล่ตามพวกมู่เฉียนซีที่อยู่ในป่าฉงอวี่อย่างไม่ลดละ

เดิมทีซือคงชเวก็บาดเจ็บหนักอยู่แล้ว และมิอาจที่จะหนีไปได้ไวนัก เพียงระยะเวลาไม่เท่าไรก็ถูกตามได้ทันเสียแล้ว

ซือคงชเวกล่าว “ดูเหมือนว่าข้าจะทำให้พวกเจ้าต้องมาพลอยลำบากไปด้วยแล้ว พวกเจ้ารีบหนีไป! เป้าหมายของพวกนั้นคือข้า!”

เก๋อซือกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หนี? พวกเจ้ายังคิดจะหนีต่อไปได้อีก ฝันไปเถอะ!”

ซือคงชเวกล่าว “อย่าได้คิดว่าพวกเจ้าจะชนะ ข้าจะไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดายแน่นอน!”

ซือคงชเวกัดยาเม็ดหนึ่งจนแตก บิดาของเขาได้ฟื้นคืนหายดีแล้ว เขากำลังจะได้กลับไปผงาดเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ เขาจะไม่ยอมให้ตนเองต้องมาตายไปเช่นนี้แน่

ถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยทุกสิ่งอย่าง เขาก็มิอาจที่จะให้เก๋อซือทำสำเร็จได้

หลังจากที่ซือคงชเวได้กลืนยาเม็ดนั้นลงไปแล้ว พลังความสามารถก็ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างยิ่งยวดฉับพลันจนถึงขั้นพลังของระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่สาม

อย่างไรเสียเขาก็เป็นนายน้อยของกองกำลังของสำนักนิกายระดับสอง และนั่นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีไพ่ตายติดตัวมาเลยแม้แต่น้อย

“ฆ่าพวกมันซะ!”

ในตอนนี้จวินโม่ซีได้พุ่งตัวออกไป พลังวิญญาณรอบตัวเขาได้ระเบิดตัวขึ้นมา

เก๋อซือปากอ้าตาค้างแล้วกล่าว “มหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หนึ่ง! เจ้าบรรลุระดับแล้ว”

จวินโม่ซีกล่าวตอบ “ช่วยไม่ได้ หมาบ้าตัวหนึ่งมันไล่ตามหลังข้าเสียจนใกล้จะกัดข้าได้แล้ว ข้าถูกบีบเสียจนบรรลุระดับขั้น”

มหาจักรพรรดิแห่งภูตที่มีอายุน้อยเช่นนี้ ช่างทำให้ผู้อื่นตกตะลึงเสียจริง!

ใบหน้าของเก๋อซือบิดเบี้ยวขึ้นมา “ตาย! ไปตายเสียให้หมด!”

ครืน!

ฝ่ายตรงข้ามมีผู้ดูแลระดับมหาจักรพรรดิอยู่ไม่น้อย ถึงต่อให้จวินโม่ซีจะเก็บซ่อนพลังความสามารถที่แท้จริงของตนเองเอาไว้ต่อไป แต่เมื่อซือคงชเวเพิ่มพลังความสามารถขึ้น ผลของมันก็มิได้ต่างอะไรกัน!

พลังความสามารถของมู่เฉียนซีนั้นอ่อนแอที่สุด และกลายเป็นเป้าหมายในการโจมตีจากศัตรูทุกคน

มู่เฉียนซีกล่าว “พลังความสามารถของข้าอ่อนแอที่สุด ข้ามีแต่ความรวดเร็วเท่านั้น พวกเจ้าจงอดทนเอาไว้ ข้าจะไปตามพวกผู้อาวุโสมาช่วย”

ซือคงชเวกล่าว “เช่นนั้นก็ต้องฝากศิษย์น้องด้วยแล้ว ตอนนี้ข้ามีพลังความสามารถของระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่สาม ข้าสามารถที่จะต้านทานพวกนั้นเอาไว้ได้!”

ถึงต่อให้นางตามหากลุ่มของผู้อาวุโสไม่พบ แต่นางก็สามารถดึงดูดศัตรูตามไปด้วยได้ส่วนหนึ่ง นั่นก็ถือว่าเป็นการสร้างคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวงแล้ว!

มู่เฉียนซีพุ่งไปที่ส่วนลึกที่สุดของป่าฉงอวี่ เก๋อซือกล่าว “พวกเจ้ารีบตามตัวผู้หญิงนั่นไปเร็ว ฆ่านางเสีย อย่าให้นางไปเรียกใครมาที่นี่ได้”

“ขอรับ!”

มหาจักรพรรดิแห่งภูตสามคนได้ถูกส่งออกไปตามล่ามู่เฉียนซี เมื่อได้เห็นฉากนี้เข้า มุมปากของจวินโม่ซีก็เริ่มพับเป็นรอยยิ้มมุมปากขึ้นมา

เจ้าสามคนนั้นจบสิ้นแน่แล้ว จากนี้เขาจะค่อยๆเล่นเป็นเพื่อนคนพวกนี้ไป อย่างไรเสียพวกสัตว์แสนน่ารักพวกนั้นของมู่เฉียนซีก็ยังมิได้ถูกเรียกตัวออกมาใช้!

ถึงอย่างไรเสียมู่เฉียนซีก็เป็นเพียงแค่จักรพรรดิแห่งภูตผู้หนึ่งก็เท่านั้น ต่อให้แม่นยำในเคล็ดวิชาไปมากกว่านี้ก็ไม่สามารถที่จะหนีพ้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตกลุ่มหนึ่งได้

เงาร่างทั้งสามได้กระโดดลงมา มู่เฉียนซีได้ถูกพวกลิ่วล้อของเก๋อซือล้อมเอาไว้เสียแล้ว

“สาวน้อย เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!”

“จงยอมรับความตายเสียดีๆ”

มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “ข้าเคยบอกเหรอว่าข้าจะหนี?”

“หึหึหึ! คนที่จะต้องรับความตาย คงจะเป็นพวกเจ้าเสียมากกว่า!”

แมวสีขาวตัวเล็กตัวหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นที่บนไหล่ของผู้ดูแลผู้หนึ่งตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่มีผู้ใดทราบ กรงเล็บแมวได้ตบเข้าไปที่คอหอยของเขา

“อ๊าก!” เสียงร้องปานหัวใจแหลกปอดสลายได้ดังออกมา เลือดสดๆไหลออกมาอย่างบ้าคลั่งแบบที่ไม่สามารถห้ามเลือดเอาไว้ได้เลย!

กรงเล็บแมวนี้คมกริบยิ่งนัก

ตัวของอู๋ตี้นั้นดูแล้วเหมือนจะเป็นแมวตัวเล็กๆ แต่ทว่ามันกลับเป็นถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับที่สี่เลยเชียว!

“เพลิงเผาสวรรค์!” เปลวเพลิงสีแดงฉานได้ล้อมพวกเขาเอาไว้ทั่วบริเวณ

“อู๋ตี้ผู้ไร้เทียมทานหนึ่งเดียวในใต้หล้า!”

บึ้ม!

อู๋ตี้เองก็ได้กลายร่างเป็นตัวใหญ่ยักษ์ขึ้นมา เหล่าผู้ดูแลล้วนแต่เบิกตากว้างโพรงและกล่าวว่า “สัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัวนี้ เจ้าสองตัวนี้ ทำไมมันถึงได้เหมือน….กับ…..เหมือนกับสัตว์พันธสัญญาของมู่เฉียนซี”

มู่เฉียนซีเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งที่ต้องกำจัดทิ้งของหุบเขาหมอเทวดา พวกเขาจึงรู้จักสัตว์พันธสัญญาของมู่เฉียนซี

มู่เฉียนซียิ้มตาหยีแล้วกล่าว “พวกเจ้าเดาถูกแล้ว!”

“เจ้า….เจ้ามิใช่เฟิงเยี่ยซีอะไรนั่น เจ้าคือมู่เฉียนซี เจ้าคือดาวซวยมู่เฉียนซี!”

“ข้า….ข้าจะไปรายงานนายน้อยเก๋อ เจ้า เจ้า….เจ้าตายแน่….”

ช่างน่ากลัวยิ่งนัก นางผู้นั้นที่ทำให้ยอดฝีมือระดับมหาจักรพรรดิของหุบเขาหมอเทวดาต้องสิ้นลมหายใจไปจำนวนไม่น้อย เบื้องหลังของมู่เฉียนซียังมีบุรุษที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากถึงสองคนคอยปกป้องอยู่อีก และนางกลับปลอมตัวเป็นคนอีกคนและแทรกซึมเข้ามาในหุบเขาหมอเทวดา นาง….นางทำได้อย่างไรกัน?

อู๋ตี้กล่าว “ข้าว่า พวกเจ้าคงไม่มีโอกาสนั้นเสียแล้ว!”

ตูม! สำหรับอู๋ตี้ที่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่แล้ว การจะจัดการสองคนนี้ที่ไม่ถึงระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่สามนั้นมันง่ายเหมือนดั่งพลิกฝ่ามือ

มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “หลังจากนี้ ก็ต้องไปหาคนมาช่วย”

ผีเสื้อตัวใสตัวหนึ่งโบยบินออกไป นางได้นำกลิ่นสำหรับเอาไว้ติดตามใส่ไว้ในกล่องที่เก็บไขกระดูกราชาหยกเขียวเอาไว้

สิ่งที่นางต้องการ ถึงต่อให้ส่งมอบให้ผู้อื่นไปชั่วคราว แต่นางก็ต้องนำกลับมาให้ได้

ทางพวกผู้อาวุโสสูญเสียกำลังคนไปแล้วมิน้อยถึงสลัดจากสัตว์อสูรเขียวมาได้ แต่บัดนี้ก็ได้พบเข้ากับผู้ที่วิ่งฝ่าเข้ามาด้วยตัวที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือด

“นั่นมัน…สาวน้อยผู้นั้น!”

ร่างกายของมู่เฉียนซีเต็มไปด้วยเลือดทั้งตัว นางกล่าวอย่างอ่อนแรง “ท่านผู้อาวุโส รีบไปช่วยนายน้อยเร็ว พวกเขาอยู่ทางนั้น….”

มู่เฉียนซียื่นมือชี้บอกไปที่ทิศทางหนึ่ง และราวกับว่านางได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่มีอยู่ทั้งหมดไปแล้ว นางจึงสลบล้มลงไปในทันที

“เกิดเรื่องขึ้นกับนายน้อยแล้ว รีบไปเร็ว! เอาตัวสาวน้อยนี้ไปด้วย!”

เนื่องเพราะได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับนายน้อย พวกเขาจึงร้อนรนใจดั่งไฟสุมอก! เลยขี้เกียจที่จะสละเวลามาดูบาดแผลของมู่เฉียนซี จึงทำให้มู่เฉียนซีรอดผ่านไป

อู๋ตี้และเสี่ยวหงที่อยู่ในมุมมืดก็พึมพำกัน “ทักษะการแสดงของนายท่านนับวันจะดีขึ้นเข้าไปทุกที แม้แต่ข้าเองยังเกือบที่จะถูกนางหลอกเข้าเสียแล้ว”

“เลือดนั่นช่างสมจริงยิ่งนัก!”