ตอนที่ 1144 เรามีวันหยุดด้วยงั้นเหรอ

The Legendary Mechanic

ในโรงงานส่วนตัวสำหรับผู้บัญชาการกองทัพในวังแบล็คสตาร์ หานเซี่ยวเดินมาพร้อมกระเป๋าเดินทาง วางมันบนโต๊ะ เปิดมัน หยิบเอาภาชนะทรงกระบอกสองใบออกมา ถือพวกมันไว้ในมือ
  ความสามารถเอสเปอร์สีเขียวมรกตมีลักษณะเหนียวเหมือนของเหลว ส่วนอีกความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มอีกชนิดมีสีฟ้าเหมือนเมฆหมอก
  ตัวสีเขียวมรกตรู้จักกันในชื่อ’พลังวิญญาณธรรมชาติ’ ซึ่งสามารถควบคุมพืชต่างๆและเร่งการเติบโตได้อย่างมาก มันสามารถเรียกสัตว์และครอบครองพลังธรรมชาติต่างๆได้เช่นเดียวกันดรูอิด ความสามารถต่อสู้มันอ่อนแอ แต่มันสามารถสกัดและสังเคราะห์สารพิษจากพืชหลายชนิดซึ่งเป็นผลดีต่อการวิจัย เทพอำนวยคงใช้ความสามารถนี้ปลูกพืชและสารพิษต่างๆ  ตัวสีฟ้าชื่อ’อำนาจเยือกแข็ง’ ซึ่งไม่เพียงแต่มันจะควบคุมความหนาวเย็นได้แต่มันยังเปลี่ยนน้ำแข็งกับหิมะให้เป็นนักรบโกเลมน้ำแข็งได้ชั่วคราว มันยังสามารถสร้างชุดเกราะกับอาวุธน้ำแข็ง สร้างปีกน้ำแข็ง กระจายความตายผ่านการขาดความร้อน.. กล่าวกันว่าเจ้านายที่ทรงพลังพอจะสามารถแช่แข็งโมเลกุลได้ในช่วงเวลาสั้นๆ สร้างผลกระทบต่อการหยุดมิติเวลา ความสามารถทั้งสองนี้ดีมาก เหนือสิ่งอื่นใด พวกมันถือเป็นความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่ม แต่ผลของพวกมันเป็นรอง สิ่งหลักคือการทำให้ภารกิจฉันลุล่วง
  ฉายา[ผู้สะสมความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่ม]ช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับเอสเปอร์
  สำหรับชิ้นส่วนวิหารสาม แม้มันจะดูไร้ประโยชน์ในตอนนี้ หานเซี่ยวก็รู้สึกว่ามันจะมีประโยชน์หลังเขารู้วิธีเปิดวิหารสามจากเทพอำนวย
  ฉันควรมอบความสามารถเหล่านี้ให้กับใคร?
  เขาค้นหาผู้สมัครในใจ
  ตัวเลือกแรกควรเป็นอีวาน ด้วยพรสวรรค์เขา เขาควรสามารถเมินเฉยต่อปัญหาด้านการปรับตัวได้เหมือนเทพเอสและใช้ความสามารถเอสเปอร์ได้ง่ายๆ
  แต่ทว่า เมื่อคิดดู หานเซี่ยวก็ปฏิเสธ ตอนนี้ ภารกิจแรกของอีวานคือเพิ่มระดับตัวเอง พัฒนารูปแบบการต่อสู้ตัวเองผ่านการดูดซับความสามารถต่างๆ ถ้าเขามอบความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มทั้งสองให้อีวาน เขาจะไม่เหลือพลังงานไปจดจ่อกับการค้นคว้า
  ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยระดับปัจจุบันของอีวาน เขาไม่มีโอกาสได้สู้ และความสามารถเอสเปอร์แรกเริ่มก็คงมีไว้ประดับเฉยๆ ฉันควรหาเจ้านายที่เหมาะสมสุดในหมู่เจ้าหน้าที่กองทัพ ทางเลือกสุดท้ายควรเป็นอีวาน
  เมื่อพับเก็บเรื่องนี้ทิ้ง หานเซี่ยวก็เปิดที่เก็บข้อมูล นำเอาข้อมูลพิมพ์เขียวเกรดทองทั้งสองออกมาดู  พิมพ์เขยวที่เทพอำนวยให้ล้วนเป็นเทคโนโลยีเก่า ซึ่งน่าจะเก็บไว้ตั้งแต่ยุคสำรวจและไม่พัฒนามาก หนึ่งในพิมพ์เขียวเรียกว่า’โอเบลิสก์’ซึ่งมีผลต่อการแปลงพลังงานและการก่อตัวของม่านพลังงาน สิ่งที่แยกมันจากม่านพลังงานไซโอนิคทั่วไปคือมันมีความต้านทานสูงต่อการโจมตีด้วยพลังงาน และยังสามารถดูดซับความเสียหายส่วนหนึ่งมาฟื้นฟูความทนทานของม่านพลังงาน
  แต่นี่แค่คุณสมบัติพื้นฐานเท่านั้น หน้าที่หลักของมันคือการมอบพลังงานจำนวนมากที่สามารถหยิบยืมได้โดยไม่ต้องใช้ท่อส่ง พูดง่ายๆ ของชิ้นนี้สามารถเพิ่มความเข้มข้นของพลังงาน ณ พื้นที่นั้นให้หนาแน่นได้
  ดังนั้น โอเบลิสก์จึงเทียบเท่ากับอาวุธเวทย์ซึ่งสามารถเพิ่มความเข้มข้นของพลังได้
  เพราะโอเบลิสก์ให้พลังงานฟรีที่สามารถหยิบยืมได้โดยไร้ข้อจำกัด มันจึงไม่แตกต่างจากสิ่งที่อารยธรรมพื้นผิวถือว่าเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ปัจจัยด้านพลังงานจะช่วยให้คนมีวิธีใช้พลังงานมากขึ้นและยังมีโอกาสสูงที่จะก่อให้เกิดระบบผู้ใช้พลังอื่น ในเวลาเดียวกัน การได้รับเตาพลังงานขนาดใหญ่จากโอเบลิสก์ยังสามารถส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชั่วคราว ช่วยให้คนธรรมดาครอบครองพลังต่อสู้ ผลของมันสามารถพูดได้ว่าคล้ายกับโทเท็มวิวัฒนาการ แต่จุดสนใจหลักต่างกัน อย่างแรกจะเพิ่มความหนาแน่นพลังงานโดยรวมภายในพื้นที่ ส่วนอย่างหลังเป็นการปรับยีนของคน เทียบกันแล้ว โทเท็มวิวัฒนาการหายากกว่า แต่ของเล่นชิ้นนี้ก็ยังมีประโยชน์ การวางมันไว้ในฐานของกองทัพสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกของสมาชิกได้ แถมยังวางขายให้ผู้เล่นได้ด้วย ต่อให้ปริมาณการขายจะเทียบกับโทเท็มวิวัฒนาการไม่ได้ มันก็ยังทำเงินได้ดี
  เพราะเทพอำนวยให้ความสนใจกับความลับของมัน พวกเขาจึงไม่ขายโอเบลิสก์ของพวกเขา พิมพ์เขียวทั้งหมดนี้แค่เศษของสะสมในคลังพวกเขา พวกเขาไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยีจักรกล และเนื่องจากพวกเขาทำได้เกือบหมดด้วยเทคโนโลยีความสามารถเอสเปอร์ พวกเขาจึงเลือกมอบเส้นทางโชคลาภให้แบล็คสตาร์
  ในความเป็นจริง พิมพ์เขียวที่องค์กรเทพอำนวยอยากนำออกมาไม่ใช่อันนี้ แต่ผู้รักษาสัจจะรู้สึกว่าแบล็คสตาร์เป็นคนที่ยากจะหยั่งถึง เขาจึงเปลี่ยนเป็นพิมพ์เขียวที่ดีขึ้น หวังว่ามันจะถือเป็น’ค่าคุ้มครอง’
  พิมพ์เขียวอีกอันชื่อเก็ตตะ ฮาโดเค็น มันฟังเหมือนเทคนิคนักสู้ แต่จริงๆแล้วเป็นอุปกรณ์โจมตีแบบผสาน
  อุปกรณ์นี้ต้องใช้การรวมกันของสายพลังงานและอาวุธ มันเป็นอุปกรณ์ซับซ้อนครบชุด แต่มันไม่ได้ประกอบกันเหมือนอาวุธปืน แต่กระจัดกระจายเหมือนยานบรรทุกภายนอก ด้วยวิธีการพิเศษของการรวมพลังงาน บีบอัดและการเปลี่ยนแปลง สิ่งนี้จะปล่อยการโจมตีทรงพลัง และการโจมตีที่ออกมาก็เรียกว่า’เก็ตตะ ฮาโดเค็น’   อุปกรณ์นี้ไม่ได้มีแค่นั้น ตามเส้นทางปฏิบัติการที่ต่างกันของอุปกรณ์ มันมีรูปแบบต่างๆมากมาย รวมถึงการต่อสู้ระยะใกล้ กลางและไกล เส้นทางสนับสนุนนับสิบบันทึกไว้ในพิมพ์เขียว แต่ละเส้นทางแสดงวิธีการโจมตี มันมีชื่อเฉพาะของพวกมันโดยมีคำนำหน้าเหมือนกันว่า’เก็ตตะ’
  “แทนที่จะเรียกมันว่าพิมพ์เขียว สิ่งนี้ดูเหมือนคู่มือนักสู้สำหรับช่างกลมากกว่า มันเหมือนสิ่งนี้จะเหมาะกับนักสู้จักรกลมากสุด”
  หานเซี่ยวเกาหัว
  ด้วยโอเบลิสก์กับเก็ตตะ ฮาโดเค็น บวกกับพิมพ์เขียวทองไขกระดูกสันหลังยักษ์และอาณาเขตจักรกลที่ได้รับจากสหพันธ์ ในที่สุดเขาก็รวมทุกอย่างได้
  ด้วยพิมพ์เขียวในมือ สิ่งต่อไปที่จะทำคือเปลี่ยนให้มันเป็นของจริง
  “พิธีชมเชยสำหรับสามอารยธรรมจักรวาลจะจัดในอีกสองเดือน มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการขังตัวเองและผลิตของทั้งสี่ รับเอาแต้มการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพเพิ่ม…ฉันอยู่ในที่ต้องแสงมากเกินไป มันดีกว่าที่จะเก็บตัวสักพัก ย่อยอิทธิพลและรักษาชื่อเสียงให้คงที่”
  หานเซี่ยวตัดสินใจ และรีบเขาสู่สถานะการผลิต
  ในฐานลับแห่งหนึ่งของจักรวรรดิ กลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังยุ่งอยู่กับห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องมือ กำแพงห้องฝั่งหนึ่งเป็นกระจกโปร่งใสขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่อาวุโสยืนด้านหน้ากระจก หนึ่งในนั้นคือผู้ดูแลฐาน อีกคนคือจ่าฝึก
  ทั้งสองมองผ่านกระจก ก้มมองพื้นที่คล้ายปิรามิดคว่ำด้านล่าง ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในจุดลึกสุดลงไปร้อยเมตร ปลดปล่อยความผันผวนพลังงานรุนแรงและอนุภาคพลังงานเปล่งแสง มันกระจายไปรอบๆกำแพงก่อนรวมตัวกันด้านบนและตกลงไปซ้ำๆ
  นี่คือสนามฝึกพิเศษของผู้ใช้พลังที่สามารถพัฒนาประสิทธิภาพการบ่มเพาะของพวกเขา ครั้งนี้ คนในห้องคือกอดด์ คนในห้องทั้งหมดกำลังยุ่งกับการอ่านความผันผวนพลังงานของกอดด์
  “ความคืบหน้าของเขาเร็วมาก นี่เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี”จ่าฝึกจ้องบุคคลด้านล่าง พยักหน้าด้วยความพอใจ
  “ถูกต้อง เขาคือคนที่มีความสามารถมากสุดในชั้น ไม่เพียงเขาจะมีศักยภาพ แต่ความสามารถของเขาก็ยังทรงพลัง บางทีสักวัน เขาคงมารับตำแหน่งแทนจ้าวแห่งความมืด คล็อตติ”ผู้ดูแลฐานกล่าวชม
  “แบล็คสตาร์ยังอยู่ มันคงไม่ถึงคราวของเขาในเร็ววัน”
  “ฉันแค่กำลังเดา และนอกจากนี้ แบล็คสตาร์ก็ไม่ใช่สายตรง”
  ทั้งสองคุยกันเสียงเบา
  กอดด์ฝึกฝนมาหลายปีแล้วและเขาก็คืบหน้าเร็วมาก อุปสรรคทุกอย่างผ่านไปอย่างง่ายดายราวกับเขาไร้คอขวด การระเหิดในระดับชีวิตของเขาด้วยวิธีรุนแรงแบบนี้อันตราย แต่เขาก็ทำให้คนรู้สึกว่าเขาคุ้นเคยกับเส้นทางนี้มาก
  ในสายตาทั้งสอง ต่อให้พรสวรรค์ของกอดด์จะไม่ดีเท่าแบล็คสตาร์ ผู้ทำลายทุกสถิติ แต่ก็อยู่ไม่ไกลเกิน
  จ่าฝึกจ้องค่าพลังงานของเครื่องมือก่อนอุทาน”ในอัตรานี้ เกรงว่าเขาคงจะเข้าสู่อาณาจักรผู้อยู่เหนือในสองถึงแปดปี นี่นับเป็นคนที่รวดเร็วสุดที่ฉันเคยเห็น…ยกเว้นแบล็คสตาร์”
  “มันดูเหมือนเรากำลังจะได้เห็นการถือกำเนิดของผู้อยู่เหนืออีกคน”ผู้ดูแลหัวเราะ”เบื้องบนได้ส่งคนมาดูสองครั้งแล้ว มันดูเหมือนพวกเขาจะกังวลถึงความคืบหน้าของกอดด์มาก”
  มันเป็นความสำเร็จที่สามารถบ่มเพาะผู้อยู่เหนือสายตรงได้ ตราบเท่าที่กอดด์ยกระดับสำเร็จ ผู้ดูแลก็จะได้รับคำชมเช่นกัน
  หลังคุยไร้สาระกัน ทั้งคู่ก็กลับไปเรื่องหลัก
  “รายชื่อผู้เข้ารับการฝึกใหม่นี้รวบรวมไว้แล้วหรือยัง?”จ่าฝึกถาม
  “เรียบร้อยแล้ว ฉันกำลังเตรียมส่งให้นาย”ผู้ดูแลฐานเรียกหน้าจอเสมือนขึ้นมาแสดงรายชื่อ
  ฐานฝึกลับนี้ได้คัดเลือกผู้มีพรสวรรค์จากจักรวรรดิตามเป้าหมายเป็นระยะ ถ้ามีศักยภาพ จักรวรรดิก็ไม่รังเกียจที่จะเลี้ยงดูทารกจนถึงภัยพิบัติ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่เพียงรับสมัครภัยพิบัติ แต่ยังแบ่งพวกเขาตามอันดับและสายที่แตกต่างกันตามเกรด
  ยิ่งเกรดต่ำ การแข่งขันยิ่งรุนแรง ในเกรดที่ต่ำกว่าภัยพิบัติ มีระบบคัดเลือก ถ้าไม่ผ่านการประเมิน พวกเขาก็จะต้องเก็บข้าวของกลับกองทัพ
  ถ้าทำไม่ได้ งั้นก็ออกไป
  รายชื่อค่อนข้างยาว ทุกคนมีประวัติย่อ มีคนนับไม่ถ้วนที่มีเกียรติต่างกัน พวกเขาเป็นชนชั้นสูงของแต่ละกองยาน
  จ่าฝึกมองดูและเมื่อมาถึงรายชื่อสุดท้าย เขาก็ผงะ เขาเห็นว่าในหมู่พวกหัวกะทิประวัติยาวเหยียด มีคนที่แทบไร้ผลงาน และใบหน้าโง่เขลาในรูปถ่ายก็ทำให้เขายิ่งดูแย่ไปอีก
  “คาร์ล็อตต์?ชายคนนี้มาจากไหน?ทำไมพวกระดับบนถึงเลือกคนธรรมดาให้เข้ามา?”
  จ่าฝึกแสดงสีหน้าสับสน
  แม้ฐานลับจะไม่ได้รับแค่นักเรียนหัวกะทิ พวกเขาก็ต้องมีคุณสมบัติบ้าง แต่ชายคนนี้กลับเข้ามาได้ยังไง?
  หรือจะมีเส้นสาย?
  อย่าบอกนะว่าแม้แต่เบื้องบนของจักรวรรดิก็ยังแปดเปื้อน!
  จ่าฝึกใจสลาย
  “ฉันไม่เข้าใจเหมือนกัน”ผู้ดูแลลังเล”มันดูเหมือนว่าแบล็คสตาร์จะแสดงความรู้สึกดีต่อคนคนนี้หลายปีก่อน แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีผลงานโดดเด่นจากเขาเลย เบื้องบนวางแผนให้โอกาสเขาดูว่านายสามารถฝึกเขาได้ไหม”
  “แบบนี้นี่เอง..”จ่าฝึกขมวดคิ้ว”ฉันรู้สึกว่านี่เป็นการเสียพื้นที่ มันผ่านมาหลายปีแล้ว ถ้าเขามีศักยภาพ งั้นเขาก็คงแสดงมาแล้ว มีประเด็นอะไรให้ต้องบ่มเพาะเขาด้วยแนวคิดของนักพนัน?”
  “ถ้านายคัดค้านอย่างรุนแรง ฉันจะช่วยส่งต่อให้”
  จ่าฝึกขมวดคิ้วขณะไตร่ตรอง ในที่สุดก็ส่ายหัว”ช่างมัน ในเมื่อพวกเบื้องบนตัดสินใจแล้ว ฉันก็จะทำตามคำสั่งและให้โอกาสเขา..แต่ฉันจะไม่ยอมเบามือ ถ้าเขาไม่ผ่านการประเมิน เขาก็จะถูกคัดออก”
  ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความยุติธรรมในที่นี่ จ่าฝึกจะชอบแค่นักเรียนหัวกะทิและขี้เกียจใช้พลังงานไปกับพวกกาก เขายังคิดว่าการเหลือบแลก็ยังเสียเวลา
  “ไม่เลว”ผู้ดูแลเหลือบมองรายชื่อก่อนพูด”งั้นฉันจะวางเขาไว้ในกลุ่มที่โดดเด่นสุดและให้คู่ต่อสุ้ที่ทรงพลังสุดกับเขา เขาคงอยู่ได้ไม่นาน ฉันประเมินว่าเขาคงออกไปในไตรมาสแรก”
  ผู้ดูแลเองก็มีความคิดเหมือนกัน การฝึกนักเรียนยากจนให้เป็นหัวกะทิไม่ได้สร้างผลงานทางการเมืองให้เขาเลย มีแค่การฝึกพวกหัวกะทิให้เป็นนักสู้ระดับสูง พวกเขาจึงได้รับความดีความชอบ
  ดังนั้น เขาจึงไม่รังเกียจที่จะใช้อำนาจตนเพื่อกำจัดนักเรียนยากจนไร้คุณสมบัติออกไปก่อน
  ในสายตาเขา นี่คือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เหมาะสม และการอยู่รอดของคนที่เหมาะสมสุดก็คือกฏแห่งธรรมชาติ
  ภายในสถาบันวิทยาศาสตร์ของจักรวรรดิคือสำนักงานโครงการตำแหน่งรูหนอน
  สถาบันวิทยาศาสตร์แบ่งออกเป็นหลายทีมหลายโครงการ ตำแหน่งรูหนอนเป็นโครงการใหญ่และข้อมูลรูหนอนที่น่าสงสัยก็ถูกรวบรวมไว้ที่นี่  ข้อมูลรูหนอนที่เทพเอสทิ้งไว้แค่หนึ่งในเป้าหมายของโครงการวิจัย และมันก็แค่กลุ่มตัวอย่างที่ไม่สำคัญนัก
  ขณะที่หัวหน้าทีมวิจัยกำลังคำนวณแบบจำลองรูหนอนในห้องทดลอง เลขาของเขาก็วิ่งมา
  “หัวหน้า คำอนุมัติจากเบื้องบนส่งมาแล้ว พวกเขาปฏิเสธการยื่นคำขอทดสอบรูหนอนของเรา”
  “ปฏิเสธ?”หัวหน้าทีมแปลกใจ”นี่แค่ขั้นตอนทั่วไปไม่ใช่เหรอ?ทำไมพวกเขาถึงหยุดเรา?”
  หลังอนุมานส่วนหนึ่งของพิกัดรูหนอน การทดสอบคือขั้นตอนต่อไป อุปกรณ์ตรวจจับหลายคุณสมบัติก็จะถูกโยนผ่านรูหนอนเพื่อตรวจสอบสถานที่ ตำแหน่งเพื่อสร้างระบบพิกัดที่แม่นยำขึ้น นี่จะช่วยให้พวกเขาทดสอบได้ว่ามีการเบี่ยงเบนไปจากการอนุมานของพวกเขาหรือเปล่า ซึ่งเป็นวิธีทดลองทั่วไป  หัวหน้าทีมค่อนข้างสนใจตัวอย่างทดลองชุดนี้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลรูหนอนที่เทพเอสทิ้งไว้
  เขาไม่สนใจมากนักเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่อีกด้านของรูหนอนและสาเหตุส่วนใหญ่ก็เพราะตัวอย่างนั้นคำนวณได้ยากมาก หลังกำหนดขอบเขต เขาจึงอยากรู้ว่าการคำนวณของเขาถูกต้องหรือเปล่า
  เลขาดันแว่นขึ้น ตอบอย่างลังเล”ผมไม่รู้รายละเอียด แต่มันดูเหมือนนี่จะเป็นคำแนะนำจากท่านแบล็คสตาร์ เบื้องบนคิดว่าคำพูดของเขาสมเหตุสมผล ดังนั้นการตรวจสอบมาตรฐานสำหรับโครงการส่วนใหญ่จึงเข้มงวดขึ้น”
  “แบล็คสตาร์อีกแล้ว?”
  “เขาดูเหมือนจะพูดถึงบางอย่างเกี่ยวกับพันธมิตรกลุ่มดาวชั้นยอด เมื่อความขัดแย้งเกิดขึ้น สามอารยธรรมจักรวาลจะไม่มีเวลาไปสนใจอะไร ดังนั้น มันจึงดีสุดที่จะลดความเสี่ยง ฝ่ายบริหารยอมรับข้อเสนอของเขาเกี่ยวกับโครงการรูหนอนเรา”   หัวหน้าทีมอดบ่นไม่ได้”แบล็คสตาร์เป็นแค่กึ่งนักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ว่าเขากำลังทำให้เราลำบากมากขึ้น?”
  ตอนนี้ หนึ่งในวิจัยถาม”หัวหน้าครับ งั้น..เราจะยังทดการทดสอบไหมครับ?”
  เมื่อได้ยิน หัวหน้าก็รำคาญ”อยากทำอะไรละ?โดยปราศจากคำอนุมัติจากเบื้องบน นายยังกล้าศึกษาแบบส่วนตัวอีกงั้นเหรอ?ดีมาก ไม่คิดเคารพผู้บังคับบัญชา ฉันคงต้องสั่งสอนนายหน่อยแล้ว มานี่ รับข้อมูลรูหนอนไร้การคำนวณไปและทำการคำนวณมา!ถ้าแก้สมการไม่ได้ งั้นวันหยุดปีนี้ของนายก็โดนยกเลิก!”
  “…เอ่อ เรามีวันหยุดด้วยงั้นเหรอครับ?”นักวิจัยที่มีปัญหาเกาหัวด้วยความสับสน