ตอนที่ 571 แขกงานเลี้ยงฉลอง + ตอนที่ 572 สองครอบครัวที่แสนโชคร้าย โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 571 แขกงานเลี้ยงฉลอง
หลังสองแม่ลูกโอหยางซานซานกลับไป จ้าวอิงหนานก็อดบ่นไม่ได้ “แม่นี่จริงๆ เลย เก็บหมาแมวที่ไหนไม่รู้มาเลี้ยงในบ้าน ไม่กลัวทำให้ตระกูลจ้าวแปดเปื้อนหรือไง!”
ฮูหยินผู้เฒ่าพูดอย่างใจเย็น “หมาแมวอะไร? ยังไงอวี้เหลียนก็เคยรักกับพี่ชายของแก อีกอย่างบ้านเราเป็นตัวถ่วงของเธอ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ต้องแต่งงานกับโอหยางเซี่ยงหมิงหรอก”
“โอหยางเซี่ยงหมิงไม่ดีเท่าไหร่ก็จริง แต่ถ้าให้คู่กับหวงอวี้เหลียนก็เหลือเฟือ ผู้หญิงหลายใจแบบนั้น โอหยางเซี่ยงหมิงจะต้องโชคร้ายไปแปดชาติที่ได้แต่งงานกับเธอ”
จ้าวอิงหนานพูดอย่างเคียดแค้น ทั้งโกรธทั้งน้อยเนื้อต่ำใจ แม่ของเธอถูกนังผู้หญิงแพศยาหวงอวี้เหลียนหลอกจนหลงเชื่อทั้งใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมเชื่อสิ่งที่เธอพูด น่าโมโหจริงๆ!
ฮูหยินผู้เฒ่าเริ่มไม่พอใจ หวงอวี้เหลียนเป็นผู้หญิงที่ลูกชายคนโตเคยรัก จ้าวอิงหนานกล่าวหาหวงอวี้เหลียนแบบนี้เท่ากับกำลังบอกว่าลูกชายคนโตของเธอตาต่ำถึงได้ไปชอบผู้หญิงแบบนี้
เธอย่อมไม่เชื่ออยู่แล้ว!
“คำพวกนี้อย่าพูดอีก ไม่มีหลักฐานอะไร พูดไปมีแต่จะแสดงให้เห็นว่าตระกูลจ้าวเราไร้ศีลธรรม”
ฮูหยินผู้เฒ่าหน้าตึงแบบนี้จ้าวอิงหนานจะกล้าว่าอะไรอีก ทำได้แค่ปิดปากเงียบและนึกโกรธตัวเองที่ตอนนั้นไม่เก็บหลักฐานไว้ ถึงต้องกลายเป็นฝ่ายผู้ตามในยามนี้!
หึ!
แน่จริงหวงอวี้เหลียนอย่าให้เธอจับได้อีกก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นเธอต้องทำให้ผู้หญิงคนนี้จบไม่สวยแน่ๆ
ไม่นานก็มาถึงวันที่แปดของปีใหม่ วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสพระอาทิตย์เจิดจ้า คนตระกูลจ้าวมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาและจัดโต๊ะเรียงรายเต็มพื้นที่ลานหน้าบ้านได้สิบโต๊ะพอดี กับข้าวถูกส่งมาจากร้านอาหารโดยตรง ท่านผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวต่างเดินไปต้อนรับแขกด้วยตัวเอง ทำเอาแขกที่มางานวันนี้ทำตัวไม่ถูก
สองท่านนี้ไม่ออกงานนานหลายปีแล้ว ไม่คิดว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญกับหลานสาวที่ถูกเลี้ยงโดยคนอื่นมาตลอดสิบสองปีมากขนาดนี้!
จากการกระทำเช่นนี้ของท่านผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่าจ้าว ทำให้แขกหลายคนที่ติดจะดูถูกดูแคลนเหมยเหมยในทีแรกรีบเปลี่ยนท่าทีฉับพลัน เริ่มคาดคะเนค่าตัวหลานสาวตระกูลจ้าวคนนี้ใหม่อีกครั้ง
งานฉลองเพิ่งเริ่มได้ไม่นาน ท่านผู้เฒ่าจ้าวก็จูงมือเหมยเหมยมาที่ลานหน้าบ้าน ตะโกนพูดเสียงดัง “ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามางานในวันนี้ วันนี้ที่เชิญทุกท่านมาเพราะต้องการจะบอกทุกท่านเรื่องหนึ่ง หลานสาวของฉันจ้าวหวายซานกลับบ้านแล้ว ก็คือยายหนูที่อยู่ข้างฉันในตอนนี้ ทุกคนดูให้ดี คราวหลังอย่าจำผิดเชียวล่ะ!”
ท่านผู้เฒ่ามีเจตนาพูดเช่นนี้ ทุกคนในงานเป็นคนฉลาด ต่างหันไปมองสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนอย่างพร้อมเพรียงด้วยสายตาดูถูก หวงอวี้เหลียนใจหล่นวูบพลางยิ้มเก้อ แสร้งคุยกับคนข้างๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่าได้กลัวไป ขอแค่หลอกล่อฮูหยินผู้เฒ่าให้อยู่หมัดก็พอ งานเลี้ยงพวกนี้อย่างไรก็ของจอมปลอม สิ่งที่เธอต้องการคือผลประโยชน์อย่างแท้จริง แค่นี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
เพียงแต่หากมือของหวงอวี้เหลียนที่วางอยู่ใต้โต๊ะไม่กำแรงขนาดนี้ ประโยคนี้ก็คงจะฟังดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
ท่านผู้เฒ่าจ้าวลอบมองสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนแวบหนึ่ง แม้เขาไม่เคยยุ่งเรื่องพวกนี้มาตลอดหลายปีแต่ใช่ว่าจะตาบอดหูตึง สองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนอ้างตระกูลจ้าวทำตัวเหิมเกริมไร้ขอบเขต มีคนมาบอกเรื่องนี้กับเขาอยู่ไม่น้อย
เพียงแต่หวงอวี้เหลียนยังไม่เคยทำเรื่องที่เลยเถิดมากเท่าไร เห็นแก่ลูกชายคนโตเขาถึงทำเป็นหลับตาข้างหนึ่ง อีกอย่างภรรยาเขาดูชอบอกชอบใจลูกสาวของหวงอวี้เหลียนเหลือเกิน ปกติสองแม่ลูกนี่มักมาคุยเป็นเพื่อนภรรยาเขาบ่อยครั้ง ภรรยาเขาอารมณ์ดี สุขภาพกายก็จะดีตาม
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว หลานสาวแท้ๆ กลับมาแล้ว เขาย่อมไม่จำเป็นต้องตามใจอีกต่อไป จะให้เหมยเหมยน้อยใจไม่ได้ ต้องจัดงานเลี้ยงอย่างยิ่งใหญ่เพื่อให้ทุกคนได้รู้
ว่าใครคือเจ้าหญิงที่แท้จริงของตระกูลจ้าว!
…………………..
ตอนที่ 572 สองครอบครัวที่แสนโชคร้าย
การกลับมาของหลานสาวตระกูลจ้าวได้ก่อคลื่นกระแสระลอกใหญ่ในเมืองหลวง และสร้างหัวข้อสำหรับพูดคุยเวลาน้ำชาแก่ชาวเมืองหลวงไม่น้อย ลับหลังทุกคนต่างวิพากษ์กันว่าเจ้าหญิงตัวน้อยท่านนั้นของตระกูลจ้าวหน้าตาสวยปานนางฟ้าขนาดไหนเชียวถึงได้ทำให้ผู้อาวุโสสองท่านแห่งตระกูลจ้าวต้องจัดงานยิ่งใหญ่เช่นนี้
ความเคลื่อนไหวในเมืองหลวงถูกส่งข่าวไปยังเมืองจินในเวลาไม่นาน เพราะจ้าวอิงหัวจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมืองจินอีกไม่ช้า แม้เจ้าตัวยังไม่มา แต่ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขารวมไปถึงพ่อแม่ภรรยาลูกหลานของเขา ผู้คนของเมืองจินก็ได้ทำการสืบข่าวไว้ชัดเจนทุกอย่างแล้ว
หนึ่งในนั้น คนที่พวกเขาให้ความสนใจมากที่สุดก็คือ เจ้าหญิงท่านนี้ เป็นเรื่องราวรัชทายาทที่ถูกเปลี่ยนตัวในชีวิตจริง หรือเรียกอีกอย่างว่าจากสาวรับใช้ซินเดอเรลล่าผันตัวเป็นเจ้าหญิง คนบางส่วนที่รู้เรื่องภายในอย่างเช่นเหยียนโฮ่วเต๋อก็กำลังรอดูเรื่องตลกร้ายของตระกูลอู่
มีคนบางส่วนอาจจะช่วยเหยียบย่ำซ้ำเติมอีกที ต้องถือโอกาสสั่งสอนและเอาใจจ้าวอิงหัว ดังนั้น…
เวลานี้กลายเป็นโศกนาฏกรรมของตระกูลอู่แล้ว!
แม้คืนสิ้นปีจะผ่านไปหลายวันแต่กลิ่นอายปีใหม่ตามท้องถนนกลับเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะวันเทศกาลหยวนเซียว ผู้คนคับคั่งตามท้องถนนเสียงจอแจอึกทึก เรียกได้ว่าเป็นอีกวันที่ครึกครื้นมากที่สุดของปี
โดยเฉพาะที่วัดเฉิงหวงก็ยิ่งแออัดจนแทบแทรกตัวไม่เข้า ไม่มีแม้แต่ที่ให้ยืนทรงตัวเพราะที่นี่จะมีงานโคมไฟช่วงกลางคืนรวมไปถึงงานแสดงต่างๆ สำหรับชาวบ้านผู้เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดทั้งปีและต้องการที่พึ่งทางจิตใจ วัดเฉิงหวงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพวกเขา
ต่อให้เป็นครอบครัวยากจนแร้นแค้นก็จะมีรอยยิ้มประดับในวันนี้เช่นกัน จูงมือพากันมาชมการแสดง ณ ที่แห่งนี้ทั้งบ้าน หรืออาจจะใจป้ำซื้อของทานเล่นจำนวนหนึ่งเพื่อให้คนทั้งครอบครัวได้สนุกสนานสักหน
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกครอบครัวจะได้ใช้เวลาในวันเทศกาลได้อย่างมีความสุข อย่างน้อยมีสองครอบครัวที่ไม่เป็นเช่นนั้น
ตระกูลอู่และตระกูลเหอ!
พูดถึงตระกูลเหอก่อนแล้วกัน ช่วงสองวันก่อนคืนส่งท้ายปี ทั้งครอบครัวถูกขับไล่ออกจากบ้าน ด้วยเหตุการณ์เร่งด่วนฉุกเฉิน จึงหาบ้านเช่าไม่ได้ และฮูหยินผู้เฒ่าเหอเองก็ไม่ยอมเสียเงินค่าที่พัก ฉะนั้น…
คนทั้งครอบครัว ผู้ใหญ่ และเด็กเล็กต่างนั่งเฝ้ากองสัมภาระตากลมหนาว ยืนอยู่ข้างถนนเหมือนคนขอทาน
เพื่อนบ้านละแวกนั้นแม้จะสงสารครอบครัวนี้แต่ก็ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่ง ถึงขนาดไม่มีแม้แต่น้ำอุ่นให้พวกเขาได้ดื่มสักนิด ใครให้ปกติฮูหยินผู้เฒ่ากับลูกสะใภ้บ้านนี้ไม่เป็นผู้เป็นคนกันล่ะ!
ลูกสะใภ้ที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปพาสามีและลูกชายกลับบ้านตัวเอง ฮูหยินผู้เฒ่าเหอ เหอปี้อวิ๋น และอู่เยวี่ยอยู่ฝ่าฟันความหนาวข้างนอกตลอดคืนจนแทบสังเวยชีวิต
พอถึงวันที่สองก็ทนไม่ไหวจริงๆ ฮูหยินผู้เฒ่าเหอกัดฟันเช่าห้องห้องหนึ่งที่เป็นห้องหนึ่งในตึกเล็กราคาถูก ขนาดพื้นที่ไม่ถึงสิบตารางเมตร ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีห้องครัว และไม่มีห้องเก็บน้ำ ทั้งหมดล้วนเป็นของใช้ส่วนรวม
บริเวณลานบ้านประตูหินแห่งเดียวก็มีครอบครัวใช้ชีวิตร่วมอยู่นับสิบบ้าน ล้วนเป็นครอบครัวที่ฐานะยากจน หรือวัยรุ่นที่ไม่มีงานการทำว่างไปวันๆ ซึ่งก็คือพวกอันธพาลนั่นเอง
กล่าวโดยรวมแล้วที่แห่งนี้มีคนหลายประเภท สุขอนามัยย่ำแย่ อากาศมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวลอยคละคลุ้ง อู่เยวี่ยไม่อยากแม้แต่จะย่ำกรายลงพื้น เธอไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในที่แบบนี้ หากเพื่อนๆ รู้เข้าต้องดูถูกเธอแน่เลย
เธออยากกลับบ้าน กลับบ้านที่ตึกสำหรับครอบครัวบุคลากรโรงเรียนอี้จง ที่นั่นมีห้องน้ำส่วนตัว เธอมีห้องเป็นของตัวเองและมีของใช้ครบครัน ในห้องเรียนมีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะมีห้องเป็นของตัวเอง เมื่อก่อนเพื่อนๆ อิจฉาเธอไม่รู้เท่าไร
แต่ตอนนี้…
อาศัยในที่แบบนี้มีแต่จะสร้างความอับอายแก่เธอ!
เธอต้องหาวิธีกลับบ้านตระกูลอู่!
แล้วตอนนี้ฝั่งตระกูลอู่เป็นอย่างไรบ้างล่ะ?
อู่เจิ้งซือกับคนทั้งตระกูลอู่ใช้เวลาช่วงปีใหม่อย่างหวาดผวา เมื่อไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้นใจเขาเริ่มปล่อยวาง คิดว่าเรื่องนี้จะผ่านไปเสียที
ต้องเป็นซินหย่ากับเหมยเหมยที่เห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าเลยขอความเห็นใจแก่เขา
อู่เจิ้งซือคิดดังนี้ แต่…
เพิ่งจะเป็นวันที่หกของปีใหม่ ทางตำรวจก็ตามมาถึงบ้าน ไม่พูดพร่ำทำเพลงจับกุมตัวอู่เจิ้งซือไปทันที
…………………..