กับคำถามของจีหราน สีหน้าบิดเบี้ยวบนใบหน้าของฮานส์ก็ยิ่งดูแย่กว่าเดิม
“ฉันคำนวณเวลาดูแล้วก่อนที่จะเข้าคลังสมบัติไป ก่อนที่ภารกิจหลักจะสำเร็จและนับถอยหลังห้านาที! ทหารยามกลับสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ และพวกมันก็ไล่ตามฉันมา ตอนที่พวกมันเข้ามาในคลังสมบัติ เวลาของฉันก็หมดลงพอดี!”
“ฉันคิดว่าตัวเองจะบังเอิญได้รับรางวัลใหญ่ แต่มันกลับเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นจริง ๆ ไม่มีรางวัลอะไรเลย การกระทำของฉันทำให้ระดับรางวัลสุดท้ายกระโดดขึ้นไปถึงสามขั้น และยังปลดล็อกดันเจี้ยนพิเศษ แต่ว่ารางวัลทั้งหมดที่ฉันเอากลับมาด้วยหายไปหมดเลย! ฉันกลับมาพร้อมกลับกระเป๋าเปล่า ๆ แทน!” ฮานส์พูด
หัวใจของจีหรานหล่นไปตามคำพูดของเขา
“การกลับมาที่ห้องพักนั้นไม่ปลอดภัย จากสถานการณ์แล้ว การที่เหล่าคนพื้นถิ่นขวางทางคุณเอาไว้ได้ การกลับมาอย่างฉับพลันของคุณนั้นเป็นแค่ลดโทษตายเอาไว้ คุณย่อมต้องรับการลงโทษในสักรูปแบบ”
จีหรานลังเลเรื่องการใช้คำว่า ลงโทษ เพราะว่าการกระทำของฮานส์และคำอธิบายดันเจี้ยน แต่เขารู้สึกเช่นนั้น
เขานึกย้อนถึงตอนที่เขากลับมาจากดันเจี้ยนของตัวเองและการที่ [หัวใจปิศาจ] ที่ราวกับเสือร้ายเปลี่ยนไปเป็นกระต่ายเชื่อง
แม้ว่าทั้งสองกรณีจะไม่เกี่ยวข้องกันในสักทาง แต่ความคิดนั้นก็ผุดขึ้นในใจเขาไม่หยุด
เขาถอนหายใจก่อนจะรวบรวมความคิด
“ภารกิจต่อไปของคุณคือการกลับเข้าไปในดันเจี้ยนนั้น?” จีหรานถาม
“ถูกต้อง!” ฮานส์พยักหน้า
“ค่าตอบแทนล่ะ?” จีหรานถามตรง ๆ
อู๋ฝ่าอู๋เทียนนั้นชี้แจงเรื่องเหล่านี้หมดแล้ว มันเป็นภารกิจรับจ้าง ดังนั้นย่อมต้องมีรางวัลตอบแทน ยิ่งความเสี่ยงสูง รางวัลยิ่งต้องมีราคา
“นี่!”
ภาพจับหน้าจอภาพหนึ่งถูกส่งมาในกล่องข้อความของจีหราน มันเป็นหนังสือสกิลสีส้ม
ชื่อของมันคือ [Blade Kick]
หนังสือสกิลระดับหายาก?
จีหรานมองฮานส์อย่างตกตะลึง เขาไม่เคยคิดเอาไว้เลยว่าฮานส์จะเสนอหนังสือสกิลระดับหายากเป็นรางวัล
จากเท่าที่จีหรานเข้าใจ ค่าตอบแทนของทหารรับจ้างมักจะอยู่ที่ราว ๆ 30,000 Points กับอีก 7 หรือ 8 Skill Points
หนังสือสกิลระดับหายากนั้นเกินกว่ารางวัลเท่านั้นไปเยอะมาก
“อย่ามองฉันอย่างนั้นสิ ฉันเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ชื่นชอบการผจญภัยที่สุด ฉันผ่านมาแล้วหกดันเจี้ยน ดังนั้นก็เลยมีของดี ๆ อยู่ในมือบ้างเหมือนกัน! นอกจากนี้ ภารกิจนี้ยังมีความเสี่ยงในตัวเอง หากฉันไม่เพิ่มค่าตอบแทนขึ้นสักนิด ฉันก็คิดว่าคุณอาจจะไม่ยอมรับภารกิจนี้!” ฮานส์สารภาพ
จีหรานยังคิดอยู่ ไตร่ตรองผลดีและผลเสียหากเขายอมรับภารกิจนี้
หลังจากผ่านดันเจี้ยนปกติอีกหนึ่งครั้ง เขาก็ต้องกลับไปที่จักรวาล [ผู้ช่วยของหมอผี II] และหากเขาต้องการได้ของดี ๆ จากในนั้น เขาอย่างน้อยก็ต้องแข็งแกร่งกว่าตอนนี้สามเท่า ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่มีกระทั่งคุณสมบัติที่จะเข้าไปในดันเจี้ยนด้วยซ้ำ
จีหรานนั้นไม่มั่นใจว่าจะถึงระดับนั้นได้หลังจากผ่านดันเจี้ยนทั่วไปหนึ่งดันเจี้ยน แต่หากเป็นดันเจี้ยนพิเศษล่ะก็… อย่างนั้นความมั่นใจของเขาก็เพิ่มมากขึ้น
การเข้าดันเจี้ยนพิเศษครั้งนี้นั้นจะนับเป็นหนึ่งคูลดาวน์ดันเจี้ยนทั่วไป ซึ่งไม่ได้นับเป็นดันเจี้ยนพิเศษที่เขาได้รับมาเอง
ส่วนความเสี่ยง จีหรานนั้นย่อมพยายามอย่างเต็มที่สำรวจทุกภารกิจย่อยและภารกิจสร้างชื่อเสียงซึ่งก็มีความเสี่ยงอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
นอกจากนี้ เขายังได้รับหนังสือสกิลหายากก่อนที่จะเข้าไปในดันเจี้ยน และยังเป็นสกิลโจมตีที่เขาขาดแคลนด้วย
นี่มากพอที่จะโน้มน้าวเขาแล้ว แต่ว่าก่อนที่เขาจะตอบตกลง ก็ยังมีอีกสองสามคำถามที่ต้องรู้ก่อน
“ของที่ผมเก็บได้จากในดันเจี้ยนทั้งหมดเป็นของผม ถูกต้องไหม?” เขาถาม
“นั่นเป็นกฎที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ในหมู่เหล่าผู้เล่นอยู่แล้ว ทุกอย่างที่เก็บมาเองล้วนเป็นของตัวเอง ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือทำภารกิจให้สำเร็จและดูแลความปลอดภัยของฉันตลอดดันเจี้ยน” ฮานส์ยืนยัน
“ตกลง!” จีหรานยื่นมือขวาออกไปจับมือกับเขา
“ราเชล! ขอเหล้าหน่อย! พวกเราเพิ่งทำข้อตกลงครั้งใหญ่กันสำเร็จ ต้องฉลองหน่อยแล้ว!”
อู๋ฝ่าอู๋เทียนที่เงียบอยู่เป็นนานจู่ ๆ ก็ส่งเสียงดังอย่างยินดี
“เครื่องดื่มกับอาหารของนายกับ 2567 จะคิดราคาสองเท่า!” ราเชลพูดอย่างเย็นชา
“สองเท่า? ไม่เอาน่า ราเชล! ทำไมเธอใจร้ายแบบนี้เล่า? นี่ไม่ยุติธรรมเลยนะที่รัก! มาน่า ถือว่าเห็นแก่อดีตของเรา! นะ…” อู๋ฝ่าอู๋เทียนขอร้องด้วยสีหน้าลูกหมา
“ก็เพราะเห็นแก่อดีตน่ะสิ! พวกนายสองคนถึงยังเข้ามาในนี้ได้ และที่นายติดหนี้ฉันเอาไว้นายก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยสองเท่าด้วย!” ราเชลบอกอู๋ฝ่าอู๋เทียนด้วยน้ำเสียงเย็นกว่าเดิม
“โอ้ ไม่นะ!” อู๋ฝ่าอู๋เทียนคร่ำครวญเสียงดังก่อนจะนอนแผ่ไปบนโต๊ะอย่างจนปัญญา
จีหรานยิ้มให้กับละครฉากเล็กนี่
เขาไม่ได้รู้สึกอะไรนอกไปจากขอบคุณอู๋ฝ่าอู๋เทียน เพื่อนเพียงคนเดียวในเกมนี้ของเขา
ถึงไม่มีรางวัลของฮานส์ หากอู๋ฝ่าอู๋เทียนพยายามโน้มน้าวจีหราน ก็มีโอกาสสูงมากที่จีหรานจะยอมเข้าดันเจี้ยนด้วย อู๋ฝ่าอู๋เทียนกลับไม่ได้พยายามโน้มน้าวเขา
กลับกัน เขาให้จีหรานตกลงกับฮานส์ด้วยตัวเอง
จีหรานรู้สึกพอใจในตัวอู๋ฝ่าอู๋เทียนขึ้นอีกครั้ง กับวิธีการที่เขาจัดการกับธุรกิจและกฎที่เขายึดถือ
ส่วนพฤติกรรมอ่อนให้แก่ราเชลของอู๋ฝ่าอู๋เทียนนั้น มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่มองไม่เห็นว่าระหว่างทั้งสองคนนั้นมีเรื่องราวกระอักกระอ่วนระหว่างกันอยู่
จีหรานนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่โต๊ะ ราคาเบียร์แก้วนี้เป็นสองเท่าแม้ว่าอู๋ฝ่าอู๋เทียนจะดราม่าและขอร้องอย่างน่าสงสารเพียงใด ทั้งสามคนปรึกษาและตกลงเวลาเข้าดันเจี้ยนกันต่อ
ในเมื่อคราวนี้มันเป็นดันเจี้ยนแบบกลุ่ม พวกเขาก็ต้องเข้าดันเจี้ยนด้วยการตั้งค่าแบบกลุ่ม
จีหรานนั้นเพิ่งเข้าดันเจี้ยนแบบกลุ่ม [คุกบนเกาะ] ไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และมันก็ยังติดคูลดาวน์ ดังนั้นเขาจึงต้องรออย่างน้อยอีกสองสัปดาห์เพื่อให้หมดระยะคูลดาวน์ หากเขาต้องการเข้าดันเจี้ยนแบบกลุ่มอีกครั้ง และอู๋ฝ่าอู๋เทียนเองก็เช่นกัน
แผนการใหม่ไม่ได้กระทบกับแผนการเดิมของจีหราน
ในใจของเขาเต็มไปด้วยทุกสิ่งที่ต้องทำในสองสัปดาห์ถัดไป เขารีบดื่มเบียร์จนหมดและออกจากฮาร์เวสต์อินน์หลังจากบอกลาฮานส์ อู๋ฝ่าอู๋เทียน และราเชล
เขาขึ้นรถไฟโดยไม่ชักช้าและรีบกลับไปที่บ้านในเกมของตัวเอง 13 ถนนหัวเวย
ตอนที่จีหรานไปถึงประตู เขาก็จับจิตสังหารได้
“ใครน่ะ? ออกมานะ!” เขาตะโกนไปทางทิศที่จิตสังหารแผ่ออกมาซึ่งเป็นหนึ่งในมุมมืดของอู่รถของเขา
มือหนึ่งของเขาจับ [Python-W2] เอาไว้ขณะความคิดหนึ่งก่อตัวขึ้นในใจ
“องค์กรนักฆ่างั้นรึ?”
มันสรุปออกมาได้โดยง่ายและรวดเร็ว ในเมื่อเขาไม่ได้มีคนรู้จักหรือว่าโกรธแค้นกับใครนักในเกม คนเดียวที่เขามีปัญหาด้วยและต้องการฉีกเขาออกเป็นชิ้น ๆ ก็คือสมาชิกขององค์กรนักฆ่า
แต่ว่า ความอดทนของพวกมันล้วนเกินที่จีหรานคิดเอาไว้ อู๋ฝ่าอู๋เทียนและผู้เล่นอื่น ๆ ตามหาพวกมัน แต่พวกมันกลับมาโผล่อยู่ตรงหน้าจีหราน
พวกมันน่าจะต้องการเชือดเขาเป็นตัวอย่าง
ความคิดที่จู่ ๆ โผล่เข้ามาทำให้จีหรานจ้องไปที่มุมมืดนั่นเขม็ง หูของเขาเปิดออกรับฟังทุกการเคลื่อนไหวรอบตัว
เขากลัวว่าเขาจะไม่ได้เผชิญหน้ากับแค่คนคนเดียว
หากเขาเป็นพวกมันแล้ว เขาจะส่งคนมามากกว่าหนึ่งเพื่อความปลอดภัย
Wufen’s note: Blade kick เบลด คิก ลูกเตะคมมีด? ซัมทิงประมาณนั้น หรือเอาเป็น ดาบปลายติง? 5555 คนอ่านเลือกเอาคำแปลที่ชอบได้เลยเน้อ