ตอนที่ 707 คนนำทาง

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 707

คนนำทาง

“ท่าน….มีธุระอะไรหรือเจ้าคะ”หลายวันหลังจากงานเลี้ยงมอบรางวัลให้หลี่เซียนจบหลง สือหลงก็มีท่าทีระแวดระวังชิวซุยเป็นพิเศษถึงขั้นมาตามถึงบ้านหลี่เซียนอยู่บ่อยๆเลยทีเดียว แม้สือหลงจะได้รับคำยืนยันจากท่านแม่ทัพแล้วว่าชิวซุยไว้ใจได้ไม่เป็นอันตรายแน่นอน แต่มันก็ยังสงสัยไม่หายอยู่ดี

“ข้าก็มาหาหลี่เซียนไง”สือหลงตอบพลางเดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทีสบายๆ หลายวันแล้วที่สือหลงเข้ามาที่บ้านก่อนหลี่เซียนจะกลับทั้งๆที่ไม่มีธุระอะไร ความจริงชิวซุยก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกอย่างไรที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านของนางแต่เพราะสือหลงมองอยู่นางเลยแกล้งหลี่เซียนได้ไม่ถนัดเท่านั้นเอง

“ท่านก็น่าจะทราบนี่เจ้าคะว่าท่านหลี่เซียนจะกลับมาเมื่อไหร่”ชิวซุยตอบพลางทำแก้มป่องออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจ เห็นชัดๆเลยว่าอีกฝ่ายมาจับตามองตนเองต่างหาก

“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ข้ารอได้อยู่แล้ว”สือหลงตอบพลางยักไหล่ด้วยท่าทีไม่สนใจ มันมาแอบดูชิวซุยได้หลายวันแล้ว แต่นางก็ทำตัวตามปกติไม่ได้ดูแปลกตาอะไร นางเตรียมอาหารเย็นทำความสะอาดบ้านอย่างกับภรรยาที่แสนดีรอสามีกลับบ้าน ดูแล้วเหมือนคนปกติไม่มีผิด

“เจ้า….มีพลังวิญญาณไม่ใช่หรือไง ทำไมต้องกินข้าวทุกวันด้วย”สือหลงถามด้วยท่าทีสงสัย ชิวซุยกินอาหารเหมือนคนปกติทั้งๆที่ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณไม่จำเป็นต้องกินตลอดเวลาเสียด้วยซ้ำ

“ครอบครัวข้าทำแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่เจ้าคะ ข้าเลยติดการกินอาหารแบบคนปกติไปแล้ว”ชิวซุยตอบพลางตักน้ำซุปใส่ถ้วยด้วยท่าทีคุ้นเคย นางเป็นเด็กผู้หญิงเลยโดนท่านแม่กับท่านยายสอนให้ทำงานบ้านงานเรือนเอาไว้ด้วย แน่นอนว่าฝีมือนางไม่แพ้พวกท่านแน่ๆ

“เจ้าไม่ปฏิเสธเลยงั้นหรือว่ามีพลังวิญญาณ”สือหลงถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสนใจ

“ท่านก็รู้ไปแล้วนี่นา ข้าไม่จำเป็นต้องปิดบังท่านแล้ว”ชิวซุยตอบด้วยท่าทีเฉยเมยกับท่าทีของสือหลงอย่างมาก ความลับนางแตกไปแล้วตั้งแต่วันจัดเลี้ยงแล้วนางจะแกล้งปิดบังต่อหน้าสือหลงไปอีกทำไมกัน

“ทำไมเจ้าต้องปิดบังเรื่องพลังวิญญาณกับหลี่เซียนด้วยล่ะ มันน่าสงสัยนะ”สือหลงถามด้วยท่าทีไม่ยอมแพ้

“ก็….ตอนที่ท่านหลี่เซียนพบข้าครั้งแรก ท่านหลี่เซียนเข้ามาช่วยข้าเอาไว้นี่นา”ชิวซุยตอบด้วยใบหน้าเขินๆ ตอนนั้นโจรอีกคนจะเข้ามาจับตัวชิวซุย แต่หลี่เซียนก็เสี่ยงขัดใจพวกโจรเพื่อเข้ามาช่วยตนเอง พอมามองย้อนกลับไปหลี่เซียนเสี่ยงเพราะเรื่องของชิวซุยมากทีเดียว

“เจ้าเลยแกล้งทำเป็นหญิงสาวอ่อนแอให้สหายข้าปกป้องสินะ”สือหลงตอบพลางยิ้มเยาะออกมาด้วยท่าทีกวนบาทาไม่น้อย

“ก็ใช่ สหายของท่านตอนช่วยเหลือผู้อื่นดูเท่มากเลยนะ ท่านน่าจะได้เห็นท่าทีของท่านหลี่เซียนตอนที่พาข้าออกมาจากหมู่บ้านของพวกโจร”ชิวซุยไม่ได้มีท่าทีรู้สึกผิดแต่อย่างไร ตรงกันข้ามนางกลับยั่วสือหลงกลับเสียอย่างนั้น

“ข้าเห็นบ่อยออกจะตายไป”สือหลงได้ยินก็รีบแย้งทันที แน่นอนมันทำภารกิจร่วมกับหลี่เซียนมาไม่น้อยย่อมต้องเคยเห็นภาพหลี่เซียนยามช่วยเหลือผู้อื่นเช่นกัน ตอนที่ผู้อ่อนแอหลบอยู่เบื้องหลังมัน หลี่เซียนสลัดท่าทีซื่อบื้อทิ้งไปจนหมดและต่อสู้อย่างกล้าหาญจนตัวมันเองยังต้องนับถือเลย

“ท่านเองก็น่าจะลองทำตัวอ่อนแอให้ท่านหลี่เซียนเห็นดูบ้างนะ ถ้าเป็นท่านหลี่เซียนละก็ต้องช่วยเหลือท่านอย่างจริงจังแน่ๆ”ชิวซุยว่าพลางนำอาหารมาตั้งบนโต๊ะเพราะหลี่เซียนน่าจะใกล้กลับมาแล้ว

“ชิ….ข้าไม่ทำหรอก”สือหลงว่าพลางกอดอกแน่น มันไม่มีทางยอมให้หลี่เซียนเห็นด้านอ่อนแอเด็ดขาด

“ว่าแต่….เจ้าคุ้นเคยกับเส้นทางในอาณาจักรหลิวหรือเปล่า”สือหลงเปลี่ยนเรื่องพลางมองอาหารที่เอามาวางบนโต๊ะด้วยท่าทีสนใจ ต่อให้มันไม่ใช่พวกกินอาหารทุกวันแต่เห็นแบบนี้ก็น้ำลายสอไม่น้อยเลย

“ข้าก็พอทราบเจ้าค่ะ”ชิวซุยตอบด้วยท่าทีประหลาดใจ ทำไมอยู่ๆสือหลงถึงถามเรื่องอาณาจักรหลิวได้ล่ะ

“งั้นอีกสามวันเจ้าก็เดินทางไปกับพวกเราสิ เจ้าต้องเป็นคนนำทางที่ดีเลยล่ะ”สือหลงว่าพลางยิ้มบางๆออกมา ดูแล้วมีท่าทีไม่ชอบมาพากลอย่างประหลาด

“อีกสามวัน? พวกท่านจะไปไหนกันหรือเจ้าคะ”ชิวซุยมีท่าทีชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพูดถึงอาณาจักรหลิว ที่นี่อาจจะไม่มีคนรู้จักนาง แต่ถ้าเป็นที่อาณาจักรหลิวละก็ต่อให้นางใช้ผ้าปิดหน้าเอาไว้ก็ยังกลัวว่าจะมีคนจำได้อยู่เลย แถมที่อาณาจักรหลิวนางยังใช้วิชาล่องหนหายตัวเป็นว่าเล่นไม่ได้เพราะมีทั้งผู้ใช้เนตรจิตและอสูรที่มีสัมผัสอื่นๆช่วยจับตัวนางได้ไม่น้อย

“เมืองหลวงไง พวกเราต้องเดินทางไปกับองค์จักรพรรดิเพื่อไปแสดงความยินดีกับจักรพรรดิหลิว”สือหลงตอบด้วยท่าทีจริงจังไม่น้อย เพราะการตอบคำถามเมื่อวันก่อนทำให้สือหลงและตัวหลี่เซียนที่ได้รับคำชมจากหลิวซุนไห่เข้าตาองค์จักรพรรดิไม่น้อย ส่งผลให้พระองค์เลือกแม่ทัพ 3 และแม่ทัพใหญ่เป็นผู้คุ้มกันไปอาณาจักรหลิวในครั้งนี้ หรือก็คือพวกสือหลงและหลี่เซียนต้องเดินทางไปด้วยนั่นเอง

“ถ้าเป็นเมืองหลวงละก็…..ข้าไม่รู้ทางหรอกเจ้าคะ”ชิวซุยตอบพลางเบนสายตาไปทางอื่น เมืองหลวงงั้นเหรอ นางจะไม่รู้ทางได้อย่างไร ที่นั่นแทบจะเป็นบ้านหลังที่ 2 ของนางเลยนะ

“ไม่เป็นไร ข้าลองถามท่านแม่ทัพแล้วถ้าเจ้าอยากไปด้วยข้าก็จะเสนอชื่อให้ แบบนั้นเจ้าจะได้ไปเที่ยวกับหลี่เซียนด้วยไง”สือหลงยิ้มออกมาด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ ชิวซุยบอกว่าตนเองมีเส้นสายไม่น้อย และท่านแม่ทัพก็ดูจะเกรงใจชิวซุยอยู่บ้าง บางทีนางอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคนของอาณาจักรหลิวก็ได้ การลากนางไปเมืองหลวงอาณาจักรหลิวด้วยอาจจะทำให้ฐานะของนางปรากฏออกมาก็เป็นได้

“ขะ ข้าไม่ไปหรอก”ชิวซุยปฏิเสธออกไปทันทีอย่างไม่ต้องคิด ขืนนางไปก็โดนจับได้พอดีแถมไม่ใช่แค่ไปเมืองหลวงแต่นี้ยังต้องเข้าวังอีก ในนั้นมีแต่คนรู้จักนางเต็มไปหมดเลยไม่ใช่หรือไง

“แล้วข้าจะรอดู”สือหลงหัวเราะเบาๆก่อนจะหยิบแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม ท่าทีเหมือนชิวซุยต้องติดกับดักแน่ๆแบบนี้มันอะไรกัน

เพี๊ย!!

“โอ้ย นี่เจ้าตีข้าทำไมกัน”สือหลงถามพลางลูบไหล่ตนเองที่โดนชิวซุยตีเข้าให้ นี่นางมีพลังระดับไหนกันเนี่ย เมื่อครู่ที่ตีมาเจ็บจริงๆนะ

“นั่นแก้วของท่านหลี่เซียนนะเจ้าคะ ดื่มตามใจชอบได้ยังไง”ชิวซุยว่าพลางหันหน้าไปทางอื่นด้วยท่าทีเคืองๆ จริงๆแล้วแก้วนั้นนางก็ยกมาให้สือหลงนั่นล่ะ แต่นางหมั่นไส้ท่าทีของมันเลยอยากตีนิดหน่อยเท่านั้นเอง

“อะไรกัน เจ้ามารอข้าอีกแล้วงั้นหรือ”สือหลงยังไม่ทันได้ต่อว่าชิวซุย หลี่เซียนเจ้าของบ้านก็เข้ามาเสียก่อน แน่นอนว่าสือหลงไม่สามารถเถียงกับชิวซุยต่อหน้าหลี่เซียนได้หรอก

“ข้ามีธุระกับชิวซุยพอดีนะสิก็เลยมารอเจ้าด้วยเลย”สือหลงตอบพลางดื่มชาต่อโดยไม่สนใจว่าจะเป็นแก้วของใคร

“ธุระกับชิวซุยงั้นหรือ”หลี่เซียนเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัยก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสือหลง

“ใช่ เจ้าจำที่ข้าพูดเรื่องคนนำทางกับท่านแม่ทัพได้หรือเปล่า”สือหลงถามพลางมองไปทางชิวซุยเล็กน้อย ท่าทางเรื่องนี้หลี่เซียนเองก็ทราบแล้วเช่นกัน

“เจ้าจะให้ชิวซุยเป็นคนนำทางงั้นหรือ”หลี่เซียนมีท่าทีตื่นเต้นทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น มันกำลังกังวลเลยว่าชิวซุยจะอยู่ที่นี่ได้หรือไม่ถ้ามันไปอาณาจักรหลิวตามภารกิจแล้วทิ้งนางไว้ตามลำพัง

“ใช่ นางเป็นแม่ค้าไม่ใช่หรือไง นางต้องรู้ถนนหนทางดีแน่ๆ”สือหลงยิ้มกว้างด้วยท่าทีจริงใจ แต่ด้านหลังหลี่เซียนมันกลับโดนชิวซุยค้อนเข้าให้ด้วยท่าทีไม่พอใจนัก

“ยอดเลย แบบนี้เจ้าก็ไปกับข้าได้นะสิ”หลี่เซียนว่าพลางหันไปทางชิวซุย ทำเอานางเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติแทบไม่ทัน

“แต่ว่าข้า…ไม่คุ้นทางกับเมืองหลวงนัก”ชิวซุยตอบด้วยท่าทีอ้อมแอ้มอย่างประหลาด นางไม่คิดว่าหลี่เซียนจะอยากให้นางไปด้วยขนาดนี้นี่นา

“ไม่เป็นไรหรอก ข้าต้องไปอาณาจักรหลิวหลายวัน ข้าไม่อยากทิ้งเจ้าให้อยู่ที่นี่ตามลำพังเลย”หลี่เซียนตอบพลางมองชิวซุยด้วยท่าทีเป็นห่วง ในเขตบ้านของหลี่เซียนได้รับการคุ้มครองจากกองทัพที่ 3 แต่เพราะการเดินทางครั้งนี้การดูแลรอบๆคงหย่อนยานลงไม่น้อย แบบนั้นอาจจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นก็ได้

“…………” เห็นท่าทีเป็นห่วงของหลี่เซียน ชิวซุยก็ปฏิเสธไม่ออก ช่วยไม่ได้นี่ใบหน้านี้เป็นใบหน้าที่ทำให้นางชอบหลี่เซียนนี่นา

“นั่นสิ แค่เจ้าไปด้วยกันหลี่เซียนก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว”สือหลงช่วยสนับสนุนด้วยท่าทียิ้มแย้มเกินหน้าเกินตาไม่น้อย อย่าบอกนะว่ามันวางแผนเอาไว้แต่แรกแล้ว

“ก็ได้เจ้าค่ะ”ชิวซุยเห็นหลี่เซียนเป็นห่วงนางขนาดนี้ก็ได้แต่ตอบรับอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแต่หลังจากนี้นางคงต้องหาอะไรมาแก้แค้นสือหลงสักหน่อยแล้ว ท่าทีดีใจนั่นน่าหมั่นไส้เสียเหลือเกิน

“เอาล่ะ งั้นมาเริ่มมื้อค่ำกันเลย”สือหลงเห็นชิวซุยยอมไปแต่โดยดีก็ยิ้มกว้างด้วยท่าทีสบายใจก่อนจะประกาศเริ่มมื้ออาหารเองเสียอย่างนั้น

“ข้าไม่ได้เตรียมเอาไว้ให้ท่านสักหน่อยนะ”ชิวซุยได้ยินเช่นนั้นก็พูดขัดสือหลงทันที นางเตรียมอาหารเอาไว้สำหรับ 2 คนต่างหาก

“จริงสิ ข้ามาโดยไม่ได้บอกเองนี่นะ”สือหลงว่าพลางทำสีหน้าเศร้าออกมาเล็กน้อย

“ไม่เป็นไรหรอก เจ้ากินส่วนของข้าก็แล้วกัน”เห็นสือหลงทำหน้าเศร้าเช่นนี้หลี่เซียนก็รีบช่วยเหลือสหายทันที ก็จริงละนะมันเป็นพวกตนเองอดไม่เป็นไรแต่สหายต้องอิ่มเสียด้วย

“โอ้ย……”อยู่ๆสือหลงก็ร้องออกมาด้วยท่าทีเจ็บปวดเสียอย่างนั้น ส่วนสาเหตุก็คือนิ้วที่ชิวซุยใช้หยิกที่แขนของมันนั่นเอง

“ไหนท่านบอกว่าไม่ทำไง”ชิวซุยกระซิบพลางจ้องสือหลงด้วยท่าทีเคืองๆ แบบนี้มันแกล้งทำตัวอ่อนแอให้หลี่เซียนช่วยไม่ใช่หรือ ไหนบอกว่าจะไม่ยอมทำเด็ดขาดไง

“จริงอย่างที่เจ้าว่า ลองทำก็ไม่เลวนะ”สือหลงหัวเราะพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีกวนประสาททำให้ชิวซุยหยิกแขนมันแรงขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

“ข้าจะไปตักมาเพิ่มแล้วกัน”ชิวซุยทำแก้มป่องก่อนจะลุกขึ้นไปตักอาหารมาเพิ่มให้ ปล่อยให้รองแม่ทัพทั้งสองมองตามตาปริบๆ

“เห็นเจ้าสนิทกับชิวซุยแบบนี้ข้าก็เบาใจ”หลี่เซียนยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ

“หะ…..ข้าเนี่ยนะ”สือหลงเอานิ้วชี้ใบหน้าของตนเอง มันเนี่ยนะสนิทกับชิวซุย นี่มันกำลังพยายามฉีกหน้ากากนางอยู่ต่างหาก