ตอนที่ 1212 ‘เรนโบว์สโตน’

Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ

ตอนที่ 1212 ‘เรนโบว์สโตน’ โดย Ink Stone_Fantasy

“อ๊าาาาาา! ช่วยด้วย ข้าเลี้ยวไม่ได้ ใครก็ได้ช่วยข้าลงไปที!”

ในขณะที่โรแลนด์กำลังครุ่นคิดว่าจะใช้ประโยชน์จากพลังของลูกบาศก์เวทมนตร์อย่างไรดี ภายในสวนพลันมีเสียงกรีดร้องขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นมาทันที ก่อนจะเห็นรถลูกบาศก์เวทมนตร์ไม่ได้วิ่งอ้อมสวนเหมือนอย่างทุกที หากแต่พุ่งตรงเข้าไปในสวนดอกไม้ คนที่นั่งอยู่บนรถก็คือลูน่าที่ขึ้นรถต่อจากซิลเวีย

“เจ้า เจ้าโง่!” ลิลลีกัดฟัน “รีบเหยียบเบรกสิ!”

“ข้าเหยียบแล้ว…แต่มันเหยียบไม่ลงอาาาาา!” ลูน่าส่งเสียงร้องอย่างลนลาน

รถจักรไอน้ำที่สูญเสียการควบคุมวิ่งส่ายไปส่ายมาอยู่ในสวนดอกไม้ ก่อนจะพุ่งทะลุสวนดอกไม้ตรงมายังประตูทางเข้าปราสาท

“ฝ่าบาท ระวังเพคะ!” เวนดี้หน้าเปลี่ยนสี

แม่มดแตกตื่นขึ้นมาทันที

เวรแล้ว โรแลนด์มองดูลูน่าที่หลับตานั่งกอดพวงมาลัยอย่างตกใจ รถที่ไม่มีคันเร่งขับแบบนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย?

แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจก็คือแม่มดที่อยู่รอบๆ ไม่มีใครวิ่งหนีไปแม้แต่คนเดียว หากแต่มายืนรวมตัวกันอยู่หน้าเขา พริบตาความสามารถต่างๆ ก็ถูกใช้ออกมา ทั้งกำแพงไฟสีดำของอันนา ทั้งร่องดินของโลตัสก็กลายเป็นกำแพงที่กั้นระหว่างเขากับสวนดอกไม้ กรงเวทมนตร์ของอีฟลีนกับธนูแห่งแสงของแอนเดรียต่างก็เล็งไปที่ล้อ ส่วนไนติงเกลก็คว้าจับข้อมือเขาไว้เพื่อเตรียมจะหนีเข้าไปในหมอกมายาได้ทุกเมื่อ

แต่คนที่หยุดอุบัติเหตุครั้งนี้ก็คือฟิลลิสกับโลก้าที่อาศัยพละกำลังล้วนๆ

พวกเธอไปยืนขวางอยู่ข้างหน้าทุกคนทันที ก่อนจะคว้าจับแท่งกันชนของรถเอาไว้แล้วยกรถให้ลอยจากพื้น

อันนาใช้ไฟสีดำปิดการทำงานของลูกบาศก์เวทมนตร์

เครื่องจักรไอน้ำที่สูญเสียแรงดันหยุดทำงานทันที

“อ๊าาาาาา ทุกคนวิ่งเร็ว!” ลูน่ายังคงเกาะพวกมาลัยเอาไว้แน่นและส่งเสียงตะโกนออกมาดังลั่น

“เจ้านี่มัน…ซื้อบื้อ…จริงๆ เลย!” ลิลลี่กระโดดข้ามร่องดินแล้วปีนขึ้นไปตีหัวลูน่าอย่างแรง ลูน่ากลืนเสียงร้องลงไปทันที

ลูน่าลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเอามือกุมหัวและทำหน้าไร้เดียงสา

“ลูน่า!”

เมื่อเห็นเวนดี้กับบุ๊กเดินเข้ามาด้วยท่าทางโมโห ลูน่าถึงจะรู้ตัว “ขอโทษ ข้าผิดไปแล้ว…” แต่มาขอโทษตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว หัวหน้าทีมนักสืบยังไม่ทันจะได้แก้ตัว เธอก็ถูกทั้งสองคนลากตัวเข้าไปในปราสาท

“เจ้านี่ก่อเรื่องทุกครั้งเลย!”

“วันหยุดของสัปดาห์นี้ ยกเลิก!”

“คัดกฏของสโมสรแม่มดร้อยรอบ!”

“แล้วก็ทำแบบฝึกหัด 5 ชุด ทำเสร็จถึงจะกินข้าวได้!”

กระทั่งเสียงร้องของลูน่าหายไปในปราสาทแล้ว เหล่าแม่มดจึงรู้สึกหวาดกลัวแทนลูน่า — ยกเว้นก็แต่ราชินี

“หม่อมฉันลองตรวจดูรถแล้ว พวงมาลัยกับระบบเบรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร” อันนาทำการตรวจสอบเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะกลับมาหาโรแลนด์ “ที่ลูน่าหลุดออกนอกเส้นทาง น่าจะเป็นเพราะว่า…”

“เพราะอะไร?”

“นางไม่มีแรงเพคะ” อันนาพูดอย่างเหนื่อยใจ

โรแลนด์หัวเราะออกมา เพราะไม่มีแรงหมุนพวงมาลัยจนทำให้วิ่งออกนอกทางงั้นเหรอ…ดูเหมือนก่อนที่จะติดตั้งระบบช่วยเลี้ยวกับระบบช่วยเบรกแล้ว คงต้องห้ามแม่มดแรงน้อยๆ อย่างลูน่าลองขับรถซะแล้ว

สวนที่เละเทะกลับคืนสู่สภาพเดิมด้วยความช่วยเหลือของอันนากับโลตัส เมื่อเห็นเหล่าแม่มดที่มองมาทางเขาอย่างกังวล โรแลนด์จึงส่ายหัวยิ้มๆ ออกมา “ถ้าพวกเจ้ายังอยากลองล่ะก็ ก็ไปขออันนาแล้วกัน ถ้านางอนุญาต ข้าก็ไม่ว่าอะไร แค่ระวังอย่าทำปราสาทเสียหายแล้วกัน อ้อ อีกเรื่องหนึ่ง อย่าลืมกลับมากินข้าวกลางวันล่ะ”

“เพคะ ฝ่าบาท!”

“ให้ข้าลองก่อน!”

“เอ๋ ข้ามาก่อนนะ!”

ภายในสวนมีเสียงหัวเราะของทุกคนดังขึ้นมาอีกครั้ง

….

“นายท่าน ถึงแล้วขอรับ”

รถม้าค่อยๆ จอดที่หน้าโรงแรม วิคเตอร์ โลธาเดินลงมาจากรถ  ก่อนจะโยนเงินให้คนขับรถสองเหรียญเงินแล้วเดินเข้าโรงแรมไป

“ท่านมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านวิคเตอร์!” สาวน้อยสวมชุดสีขาวแนบเนื้อคนหนึ่งวิ่งเข้ามาช่วยเขาถือกระเป๋าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เถ้าแก่เตรียมห้องรอท่านเอาไว้ตลอดเลยเจ้าค่ะ เชิญตามข้ามาเลยเจ้าค่ะ”

ยังคงเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่บนชั้นบน ทุกอย่างในห้องยังคงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนตอนที่เขาจากไป ทั้งเครื่องหอม เหล้าองุ่นและสาวใช้ส่วนตัวของเขา ทิงเกิล

วิคเตอร์พยักหน้าอย่างพึงพอใจ นี่แหละคือพลังของเงิน ถึงแม้จะไม่สามารถห้ามการเกิดหรือการตายได้ แต่มันกลับทำให้เวลาหยุดเดินได้

“ครั้งนี้ท่านไปนานจังเลย” ทิงเกิลเลิกผ้าม่านพร้อมกับเปิดหน้าต่างขึ้น ก่อนจะมารินชาร้อนให้เขา “เถ้าแก่คิดว่าท่านอาจจะโดนปล้นหรือไม่ก็ประสบอุบัติเหตุในทะเล แล้วก็ไม่กลับมาแล้ว ทุกวันเขาจะไปนั่งนับเงินดูว่าเงินที่ท่านทิ้งเอาไว้ให้เหลือพอจ่ายค่าห้องอีกนานเท่าไร ด้านหนึ่งเขาก็คิดอยากจะปล่อยห้องให้คนอื่นเช่าต่อ อีกด้านหนึ่งก็ไม่กล้าทำผิดกฏหมายของเนเวอร์วินเทอร์ ท่าทางที่ไม่รู้จะทำยังไงของเขาตลกมากเลยเจ้าค่ะ”

เมื่อได้เห็นสาวใช้ที่พูดจาเจื้อยแจ้วมีชีวิตชีวา อาการเหนื่อยล้าของวิคเตอร์ก็หายไปไม่น้อย “เจ้าไม่กลัวเขาได้ยินที่เจ้าพูดหรือไง?”

ทิงเกิลแลบลิ้นออกมา “ไม่เจ้าค่ะ นอกเสียจากท่านจะแอบไปบอกเขา เออใช่แล้ว ครั้งนี่ท่านไปไหนมาหรือเจ้าคะ ไปค้าขายมาเหรอ?”

“ประมาณนั้นแหละ” วิคเตอร์จิบชา “ช่วงครึ่งปีมานี้ ส่วนใหญ่ข้าอยู่ที่ดินแดนทางใต้”

“เอ๋ ดินแดนทางใต้เหรอ?” ทิงเกลเอียงหัวถาม “ที่นั่นไม่ได้ผลิตอัญมณีไม่ใช่เหรอเจ้าคะ?”

“ที่ไหนๆ มันก็มีอัญมณีทั้งนั้นแหละ ขอเพียงเจ้ารู้ว่าจะไปเอามันมาอย่างไรก็พอ” เขายักไหล่ “อย่างเช่นที่ทางใต้ อัญมณีมันงอกออกมาจากบนกิ่งไม้”

“ท่านวิคเตอร์ ท่านล้อข้าเล่นอีกแล้วนะเจ้าคะ” สาวใช้มุ่ยปาก

วิคเตอร์หัวเราะออกมา เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเชื่อตนแน่ ความจริงแม้แต่เขาถ้าไม่ได้ไปเห็นด้วยตาตัวเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่านาฝ้ายมันจะสวยกว่าอัญมณีเสียอีก เมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการเลี้ยงดูจากคุณหนูลีฟนั้นเรียกได้ว่าน่าเหลือเชื่ออย่างมาก เมื่อมันเติบโต ดอกฝ้ายที่บานออกมาทั้งใหญ่แล้วก็อ่อนนุ่ม สีของมันขาวเหมือนหิมะ เมื่อเทียบกับฝ้ายแห้งๆ ในความทรงจำของเขาแล้ว เรียกได้ว่าช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

และในช่วงเวลาที่กำลังเพาะปลูกเขาก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ หากแต่กลับไปรวบรวมช่างตัดเสื้อมาจากบ้านเก่า จ้างคนมาสร้างโรงงานที่ท่าเรือเคลียร์วอเทอร์ และติดต่อคนที่รู้จักเพื่อเตรียมช่องทางการค้า กระทั่งนาฝ้ายเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เขาก็ยุ่งทันที เรื่องราวหลังจากนั้นราบรื่นกว่าที่เขาคิดเอาไว้ ด้วยคุณภาพที่สูงและราคาที่ต่ำของฝ้ายชนิดใหม่นี้ทำให้มันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ตั้งแต่ผ้าห่มไปจนถึงเสื้อผ้า ยอดขายในแต่ละเมืองเรียกได้ว่าสูงลิ่ว

แน่นอนว่าวิคเตอร์ยังไม่ลืมเรื่องการแข่งขันที่ฝ่าบาทเคยตรัสเอาไว้ หลังจากที่พ่อค้าคนอื่นๆ พากันซื้อเมล็ดพันธุ์ฝ้ายของลีฟจากทางเมืองเนเวอร์วินเทอร์เหมือนกัน ตลาดส่วนนี้จะต้องมีการแข่งขันสูงอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้นอกจากจะผลิตสินค้าคุณภาพธรรมดาแล้ว เขายังเตรียมที่จะผลิตสินค้าคุณภาพสูงเอาไว้ด้วย โดยจะเน้นไปที่เสื้อคลุมเป็นหลัก ตั้งแต่การออกแบบ เลือกใช้วัสดุไปจนถึงตัดเย็บล้วนแต่มีความพิถีพิถันประณีต อีกทั้งยังมีการปักลายสัญลักษณ์อัญมณี 5 สีเอาไว้ตรงปลายแขนเสื้อและปกเสื้อทุกตัวด้วย เพื่อที่จะทำให้สินค้าตัวเองไม่ซ้ำกับคนอื่น

เสื้อผ้าที่มีสไตล์ผู้ดีแบบนี้ได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่อย่างรวดเร็ว แล้วก็ค่อยๆ ได้รับฉายาว่า ‘เรนโบว์สโตน’

นอกจากนี้เขาก็ไม่ได้ทิ้งสินค้าราคาต่ำพวกนั้น ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่มหรือว่ากระโปรงยาวก็ล้วนแต่มีสัญลักษณ์เหมือนกัน สิ่งเดียวที่ต่างกันก็คือด้ายที่ใช้เย็บนั้นเป็นสีเดียว

วิคเตอร์แอบรู้สึกว่าถึงแม้ราคาของพ่อค้าคนอื่นจะต่ำกว่าเขา แต่ก็ยังคงมีคนบางกลุ่มที่เลือกซื้อเสื้อผ้าธรรมดาที่มีสัญลักษณ์เรนโบว์สโตน ก็เหมือนกับตอนที่เขาขายอัญมณีเมื่อก่อนนี้ ที่เหล่าขุนนางเลือกสินค้าที่มีการแกะสลักโดยช่างที่มีชื่อเสียง

“ครั้งนี้ท่านจะกลับมาอยู่กี่วันเจ้าคะ?” ทิลเกิลเห็นเขาไม่พูดอะไรต่อ เธอยังเปลี่ยนประเด็น

“น่าจะ 3 – 4 วันมั้ง ดินแดนทางใต้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ข้าต้องกลับไปจัดการ” วิคเตอร์ตอบ

“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอเจ้าคะ?” เสียงสาวใช้เบาลง

เขาเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายทันที ถ้าครั้งนี้เขาไม่เช่าห้องต่อ เธอก็ต้องไปคอยดูแลแขกคนอื่น เมื่อเทียบกับการที่คอยทำความสะอาดห้องแล้วก็ได้รับเงินเดือนแล้ว การไปให้บริการแขกคนอื่นนั้นย่อมต้องยุ่งยากกว่ามาก ความจริงแล้ววิคเตอร์ไม่ค่อยแคร์เรื่องที่เธอต้องไปดูแลแขกคนอื่นซักเท่าไร แต่ถ้าเทียบกับการต้องเปลี่ยนคนใช้แล้ว เขากลับคิดว่าการให้ทิงเกิลเป็นคนดูแลเขาต่อก็ไม่เลวเหมือนกัน

เพราะเขายังไม่เบื่อเธอ

“วางใจได้ ข้าจะทิ้งเงินเอาไว้ให้ล่วงหน้าก่อนจะที่ข้าจะกลับมายังเนเวอร์วินเทอร์อีกครั้งหนึ่ง”

“จริงหรือเจ้าคะ?” ทิงเกิลตาเป็นประกายขึ้นมา

“มันก็ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น” วิคเตอร์ยืนขึ้นมา ก่อนจะดีดเงิน 1 เหรียญทองให้เธอ “นี่คือค่าใช้จ่ายสำหรับการอยู่เป็นเพื่อนข้าในช่วงนี้ ตอนนี้ข้าว่าจะไปสำนักบริหารซักหน่อย เจ้านำทางข้าไปหน่อยสิ”

…………………………………………………………..