บทที่ 1695 ต่อสู้เพื่อวังมังกร

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1695 ต่อสู้เพื่อวังมังกร

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะประตูสิ้นปีปรากฏขึ้น ฝ่ายที่ตกใจคือผู้อมตะของวังสวรรค์

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังที่ห้ามาจากภาคเหนือ มันเป็นของตระกูลฮวงจิน

 

“คฤหาสน์วิญญาณอมตะเข้ามาตั้งแต่เมื่อใด?”

 

“โอ้ ไม่ มันต้องการทําบางสิ่งกับค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหิน?”

 

“เร็ว หยุดมัน!”

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์ตะโกน กระทั่งผู้อมตะระดับแปดยังแสดงออกด้วยความตกใจ

 

ปิงช่ายฉวนหัวเราะเสียงดัง เขาพุ่งเข้าชกรังกระเรียนใบไม้ร่างราวกับฝนดาวตกและบังคับให้ฝ่ายหลังล่าถอยอย่างต่อเนื่อง

 

ศาลาอดีตปัจจุบันถูกผนึกและจมลงไปในสายธารแห่งกาลเวลา

 

ชิงเย่หวังต้องการหยุดประตูสิ้นปีแต่มันสายเกินไป

 

เสียงสายหนึ่งดังขึ้นจากประตูสิ้นปี “ดูให้ดี นี่คือแสงห้าธาตุของข้า!”

 

ประตูสิ้นปียิงแสงห้าสีออกมา มันพุ่งปะทะค่ายกลวิญญาณอมตะและสร้างรูช่องโหว่ขนาดใหญขึ้นทันที

 

“เร็วเข้า ซ่อมมัน!”

 

“นี่เป็นไปได้อย่างไร? ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินไม่สามารถต่อต้านมันได้แม้แต่น้อย!”

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดที่ควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะทั้งโกรธและตกใจ

 

รูม่านตาของฟงจิวเก้อหดเล็กลง เขาจํามันได้ “มันคือปราจารย์ห้าธาตุ ผู้บ่มเพาะสันโดษของภาคเหนือ คนผู้นี้บ่มเพาะบนเส้ทางแห่งค่ายกลและสามารถเลียนแบบธาตุทั้งห้าได้แก่ปฐพี วารี ไฟ ไม้ และโลหะ เขาเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกล ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะเข้าร่วมกับถ้ำสวรรค์นิรันดร!”

 

หลังจากใช้กระบวนท่านี้ ปรมาจารย์ห้าธาตุหอบหายใจอย่างหนักหน่วง กลิ่นอายของเขาลดลงอย่างมาก

 

แสงห้าธาตุของเขาสามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะ เขาเตรียมท่าไม้ตายนี้มานานแล้ว นี่ทําให้ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินถูกทําลายลงครึ่งหนึ่งในครั้งเดียว

 

แน่นอนว่านี่เป็นเพราะฟางหยวนให้ข้อมูลสําคัญกับถ้ำสวรรค์นิรันดร

 

ฟางหยวนเข้าใจค่ายกลวิญญาณผนึกบัวหินของวังสวรรค์อย่างลึกซึ้ง แต่เขายังไม่มีโอกาสโจมตีมันด้วยตนเอง

 

ด้วยข้อมูลดังกล่าว ปรมาจารย์ห้าธาตุจึงสามารถใช้แสงห้าธาตุทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินของวังสวรรค์

 

เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะแตกออก เกาะบัวหินจึงเผยตัวต่อสายตาของทุกคน

 

ฟางหยวนหัวเราะและกระโจนร่างออกไป

 

“ปัง!”

 

เขาเตะรังกระเรียนใบไม้ร่วงตกลงสู่สายธารแห่งกาลเวลาและทําให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่

 

ต่อมาเขาพุ่งไปยังเกาะบัวหินราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่

 

ผู้อมตะที่ควบคุมค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หากค่ายกลวิญญาณอมตะพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจะพบกับฟันเฟือนที่รุนแรง

 

แต่พวกเขาทําได้เพียงเฝ้ามองฟางหยวนเคลื่อนที่ใกล้เข้ามาเท่านั้น

 

“มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง!” ฟางหยวนมองเกาะบัวหินด้วยดวงตาส่องประกาย วิญญาณกาลเวลาที่อยู่ในมิติช่องว่างของร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

 

มันเป็นเกาะบัวหินจริงๆ

 

ฟางหยวนได้รับกําไรมหาศาลจากเกาะบัวหินก่อนหน้า มันทําให้เขาหลุดพ้นจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ หากเขาได้รับมรดกที่แท้จริงนี้ เขาจะเติบโตขึ้นอีกมากเพียงใด?

 

“ฟางหยวน อย่าแม้แต่จะคิด!” ชิงเย่หวังตะโกนและบังคับฉลามล่องคลื่นพุ่งเข้าโจมตีแผ่นหลังของฟางหยวน

 

แต่ในช่วงเวลาสําคัญยิ่งช่ายฉวนกลับปรากฏตัวขึ้นและปิดกั้นฉลามล่องคลื่น

 

“ฟางหยวน รีบรับมรดกเร็ว!” ปิงชายฉวนกระตุ้นฟางหยวน

 

ฟางหยวนมองปิงช่ายฉวนอย่างลึกซึ้ง ดูเหมือนถ้ำสวรรค์นิรันดรจะต้องการร่วมมือกับเขาจริงๆ

 

“อย่าฝัน!” ผู้อมตะระดับแปดชิงเยู่บังคับนาวานิรันดร์เข้าไปหาฟางหยวน

 

“ต้องการจับเขางั้นหรือ? ฮ่าฮ่า เจ้าต้องผ่านข้าไปก่อน” ประตูสิ้นปีปรากฏขึ้นและกีดขวางเส้นทางของนาวานิรันดร์

 

ชิงเยู่ขมวดคิ้วแต่ยังหัวเราะเสียงเย็น “นาวานิรันดร์ของข้ารวดเร็วที่สุด เจ้าจะหยุดข้าอย่างไร?”

 

แต่การแสดงออกของชิงเย่กลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันเมื่อเห็นค่ายกลวิญญาณอมตะปรากฏขึ้นรอบๆนาวานิรันดร์

 

“สามารถสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะได้ในระยะเวลาสั้นๆ?” ชิงเย่ตระหนักถึงความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของปรมาจารย์ห้าธาตุในที่สุด

 

“มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงเป็นของข้า!” ฟางหยวนตะโกน

 

แต่ในจังหวะที่เขากําลังจะก้าวเท้าเข้าไปในเกาะบัวหิน เกาะบัวหินกลับระเบิดแสงสว่างออกมาและผลักฟางหยวนออกไป

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฟางหยวนประหลาดใจ

 

“บึม บึม บึม”

 

การโจมตีจากทุกทิศทางพุ่งเข้าหาฟางหยวน

 

ในที่สุดค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินก็กลับสู่เสถียรภาพ แม้มันจะได้รับความเสียหายแต่ผู้อมตะระดับเจ็ดของวังสวรรค์ยังสามารถใช้มันโจมตีฟางหยวน

 

ฟางหยวนถูกขัดขวาง เขาไม่สามารถเข้าใกล้เกาะบัวหินได้โดยง่ายในเวลานี้

 

“เกาะบัวหินปฏิเสธข้าเพราะค่ายกลวิญญาณนี้นั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนกําลังคิดเรื่องนี้ขณะที่ฟงจิวเก้อนํารังกระเรียนใบไม้ร่วงกลับมา

 

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอีกครั้ง สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน

 

ในเวลาเดียวกันที่ทะเลตะวันออก

 

“หลี่ฮวงคาวระทานราชันมังกร” บนท้องฟ้า เปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นเมื่อชายขราปรากฏตัว เขาเป็นกําลังเสริมจากวังสวรรค์ ผู้อมตะระดับแปดหลี่ฮวง

 

ราชันมังกรพยักหน้าและส่งฟงจินฮวงลอยเข้าไปหาหลี่ฮวงอย่างช้าๆ

 

“ปกป้องฮวงเอ๋อ หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับนาง มันจะเป็นความรับชอบของเจ้า” ราชันมังกรกล่าวอย่างชัดเจน

 

หลี่ฮวงแสดงออกอย่างเคร่งขรึมและตอบกลับด้วยความมั่นใจ “ท่านราชันมังกรอย่ากังวล ด้วยเสื้อคลุมเพลิงสุริยันของข้า ผู้ใดจะสามารถทําร้ายฟงจินฮวง”

 

ราชันมังกรไม่สนใจหลี่ฮวง เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนหน้านี้การปกป้องฟงจินฮวงทําให้เขาเสียเวลา วังมังกรบินห่างออกไปแล้ว

 

ราชันมังกรเผยรอยยิ้ม เขาไม่รู้สึกกังวล

 

เขากําหมัดแน่น ในเวลาต่อมาเขาหายตัวไปทันที

 

วังมังกรถูกชิงอวี๋อันกีดขวางขณะที่ผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆกําลังต่อสู้กันเอง

 

โอกาสมาถึงแล้ว ข้าต้องคว้ามันมาให้ได้!” ดวงตาของชิงอวี๋อันส่องประกายขึ้น ในที่สุดโอกาสที่เขารอคอยก็มาถึง

 

แต่เพียงเมื่อชิงอวี๋อันกําลังจะไปถึงวังมังกร กลิ่นอายที่ทรงพลังกลับพุ่งเข้ามา กลิ่นอายแห่งความตายทําให้เขารู้สึกหายใจไม่ออก

 

เขาหันหลังกลับและป้องกันการโจมตีที่รุนแรง เขาสามารถป้องกันตัว แต่เขายังลอยกลับหลังและกระอักเลือดคําโตออกมา

 

“ราชันมังกร!” ชิงอวี๋อันคํารามด้วยความโกรธ

 

ราชันมังกรลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยสายตาเย็นชา

 

ชิงอวี๋อันต้องการตอบโต้ แต่การแสดงออกของเขากลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

 

พลังปราณรูปมังกรพุ่งเข้าโจมตีเขาด้วยความเร็วสูง

 

“บึม”

 

การป้องกันของชิงอวีอันถูกทําลายลงในพริบตา

 

ชิงอวี่อันเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อและเร่งล่าถอย

 

“หยุดราชันมังกร!”

 

“คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้เป็นของข้า!”

 

ข่งฉีหยวนและจางหยินบินเข้าเผชิญหน้ากับราชันมังกรอย่างพร้อมเพรียง

 

ราชันมังกรเผยรอยยิ้มไม่แยแส

 

“โฮก…”

 

เสียงคํารามของมังกรดังขึ้น ซึ่งหยวนและจางหยินถูกส่งลอยกลับหลังด้วยความสับสน

 

พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยไม่รู้ตัว

 

“ระวัง ตอนนี้ราชันมังกรไม่มีภาระ เขาสามารถใช้พลังทั้งหมด!”

 

“นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขางั้นหรือ?”

 

“ทุกคน ร่วมมือกัน เราไม่สามารถปล่อยให้เขาประสบความสําเร็จ!”

 

พลังอํานาจของราชันมังกรทําให้ผู้อมตะระดับแปดทั้งหมดรู้สึกถึงภัยคคุกคาม พวกเขาเริ่มสร้างความร่วมมือ

 

ราชันมังกรสูดหายใจและปิดเปลือกตาลง

 

เขาไม่เคลื่อนไหว เพียงเมื่อการโจมตีของศัตรูใกล้เข้ามา เขาจึงเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง

 

ท่าไม้ตายอมตะปราณกลืนภูเขาและแม่น้ำ!

 

กลุ่มผู้อมตะระดับแปดรู้สึกถึงแรงกดดันที่รุนแรง

 

ท่าไม้ตายอมตะของกลุ่มผู้อมตะระดับแปดล้มเหลวทั้งหมด วังมังกรตกลงจากท้องฟ้า โลกราวกับหยุดนิ่ง ไม่มีสิ่งใดสามารถต่อต้านแรงกดดันชนิดนี้

 

ในที่สุดราชันมังกรก็แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาออกมา

 

“ฆ่า!”

 

“ราชันมังกร ตายไปซะ!”

 

“ข้าไม่เชื่อว่าพวกเราจะไม่สามารถเอาชนะเจ้า!”

 

กลุ่มผู้อมตะระดับแปดที่รู้สึกอับอายพุ่งเข้าโจมตีราชันมังกรพร้อมกัน

 

ราชันมังกรกันเสียงเย็นก่อนจะเปิดปากคํารามอีกครั้ง

 

ต่อมาร่างกายของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าศัตรูขณะที่เขาชกใบหน้าของคนเหล่านั้นด้วยหมัดและทําลายการป้องกันของพวกเขาด้วยกรงเล็บ

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งหมดของทะเลตะวันออกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ทุกคนทั้งโกรธและตกใจ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทําสิ่งใด

 

ก่อนหน้านี้นอกจากปกป้องฟงจินฮวง ราชันมังกรยังรวบรวมข้อมูล นั่นทําให้เขาเข้าใจจุดอ่อนของผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้

 

“เจ้าแก่ มากเกินไปแล้ว!”

 

“รับท่าไม้ตายอมตะของข้า!”

 

“หยุดเขา ข้าจะใช้ไพ่ตายของข้า!”

 

กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกโกรธจัด พวกเขาเริ่มใช้วิธีที่รุนแรงขึ้น ท่าไม้ตายอมตะปราณกลืนภูเขาและแม่น้ำ

 

“บึม บึม บึม”

 

กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกร่วงลงสู่ทะเล

 

ราชันมังกรสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด