**ขอแก้นิดนึงขออภัย อิ้งเฟเธอร์ หนึ่งในรองผู้บัญชาการของวอร์บลัดยังไม่ได้กลายเป็นผู้เล่นขั้นสี่นะ ยังอยู่ขั้นสามอยู่ เพียงแต่ว่าเข้าสู่ขอบเขตโดเมนแล้ว

ตอนที่ 2798 ขั้นสี่ และขั้นสี่

“ไม่จริง !!”

“เป็นไปไม่ได้ !!”

อิ้งเฟเธอร์และสมาชิกคนอื่นๆของวอร์บลัดมองไปยังวงเวทย์คุกเทพแห่งท้องทะเลที่ถูกทำลายด้วยดาบเดียว พร้อมกับออทั่มแพล้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

แม้แต่พลังของมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย ขั้นสี่ที่แข็งแกร่งก็ยังไม่อาจจะทำลายวงเวทย์คุกเทพแห่งท้องทะเลที่เป็นวงเวทย์โบราณลงได้อย่างรวดเร็ว แต่ในตอนนี้มันกับถูกทำลายลงด้วยดาบเดียวไปพร้อมกับจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่อย่างออทั่มแพล้น

จะให้พวกเขาเชื่อเรื่องนี้ได้อย่างไร ?

มันมีช่องว่างระหว่างอาชีพขั้นสี่ด้วยกันที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง ?

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าซือเฟิงถูกกักขังไว้ภายในวงเวทย์คุกเทพแห่งท้องทะเล และแม้ว่าออทั่มแพล้นอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซือเฟิง แต่เขาก็น่าจะทนรับการโจมตีจากซือเฟิงได้สักนิดหน่อย อย่างไรก็ตามตอนนี้เขากับตายภายในการโจมตีเดียวของซือเฟิงเลย ไม่ต้องพูดถึงการทนรับการโจมตีเลย แม้แต่การวิ่งหนีออทั่มแพล้นก็ยังไม่มีสิทจะได้ทำด้วยซ้ำ

ในเวลานี้ดีไวน์ชาโด้วและสมาชิกคนอื่นๆของฮีฟเว่นเบลดต่างก็ตกตะลึงมากเช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นดาบของซือเฟิงตัดผ่านให้ทะเลแยกออกจากกัน นี่มันทำให้พวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าอาชีพขั้นสี่คืออะไร และทำไมทุกคนใน God domain จึงถือว่าขั้นสี่หรือสูงกว่านั้นเป็นตัวตนที่น่าหวาดกลัว

ภูมิประเทศทั้งหมดนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงด้วยการโจมตีด้วยดาบเพียงครั้งเดียวของซือเฟิง ซึ่งหากพวกเขาไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง พวกเขาก็จะไม่เชื่อเลยว่าอาชีพขั้นสี่จะทำแบบนี้ได้จริงๆ

หลังจากนั้นแอสซาซินขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบสองก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังอิ้งเฟเธอร์และถามว่า “รองผู้บัญชาการอิ้งเฟเธอร์ ตอนนี้พวกเราควรจะทำยังไงกันดี ? รองผู้บัญชาการออทั่มแพล้น และวงเวทย์คุกเทพแห่งท้องทะเลได้ถูกทำลายไปแล้ว พวกเรากลัว ….”

“แจ้งให้ทุกคนถอยทันที !!!” อิ้งเฟเธอร์กัดฟันพลางพูดออกคำสั่งอย่างไม่เต็มใจ “ในเวลาเดียวกันให้รีบรายงานสถานการณ์นี้ไปยังผู้บัญชาการ แบล๊คเฟรมนั้นไม่ใช่คนที่พวกเราจะสามารถจัดการได้อีกแล้ว ตอนนี้พวกเราทำได้แค่ต้องเชิญมือลับให้มาช่วยพวกเราเท่านั้น !!!”

“เข้าใจแล้ว !!” แอสซาซินขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบสองพยักหน้ารับคำสั่ง พร้อมกับอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา เพราะท้ายที่สุดถ้าอิ้งเฟเธอร์ออกคำสั่งให้พวกเขาสู้ต่อ พวกเขาจะได้ตายกันอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน

หลังจากนั้นสมาชิกทุกคนของทีมนักผจญภัยวอร์บลัดก็ทำการถอยกันอย่างบ้าคลั่งกลับไปยังเกาะดราก้อนฮาร์ท พวกเขาไม่ได้สนใจแม้แต่จะจับดีไวน์ชาโด้วกับคนอื่นๆกลับไปด้วยเลยด้วยซ้ำ แถมตอนนี้พวกเขายังนำม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์เคลื่อนย้าย และเทเลพอร์ตทุกชนิด รวมไปถึงสกิลและเวทย์ช่วยชีวิตทุกอย่างที่พวกเขามีออกมาใช้อย่างไม่เสียดายเลยสำหรับเรื่องนี้

เนื่องจากพวกเขาทุกคนล้วนตระหนักดีว่าความเร็วของผู้เล่นขั้นสี่นั้นน่ากลัวมากขนาดไหน หากพวกเขาไม่สามารถออกห่างจากผู้เล่นขั้นสี่ราวสามพันหลาได้ ผู้เล่นขั้นสี่ก็ยังคงมีสิทสูงมากที่จะฆ่าพวกเขาได้

“แบล๊คเฟรม ! คุณจะต้องชดใช้สำหรับเรื่องราวในครั้งนี้ !! เราได้เตรียมการรอคุณไว้ที่เกาะดราก้อนฮาร์ทแล้ว เก่งจริงคุณก็ตามมาเลย เราจะรออยู่ที่นั่น !!!” อิ้งเฟเธอร์กล่าวพลางมองไปยังซือเฟิงและคนอื่นๆ ก่อนที่เธอจะใช้ม้วนคัมภีร์เคลื่อนย้ายทันทีขั้นสามถอยตามคนอื่นๆออกไป ซึ่งมันทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแต่พวกซือเฟิง ยู่หลัว ดีไวน์ชาโด้ว และเหล่าสมาชิกของฮีฟเว่นเบลดคนอื่นๆเท่านั้นที่อยู่บริเวณนี้

ภายในเวลาไม่ถึงสองวินาทีหลังจากที่เหล่าสมาชิกของวอร์บลัดถอยไป ซือเฟิง และคนอื่นๆก็ได้บินเข้ามาหาดีไวน์ชาโด้วและเหล่าสมาชิกคนอื่นๆของฮีฟเว่นเบลด

“ตอนแรกก็ทำตัวกันอย่างหยิ่งผยอง พอตอนนี้ก็หนีกันจางจุกตูด ….” โซริทารี่ไนน์กล่าวพลางหัวเราะ ขณะที่เขามองไปยังเหล่าสมาชิกของวอร์บลัดที่ถอยออกไป
เมื่อได้ยินคำพูดของโซริทารี่ไนน์ ไลฟ์เลสธอร์นก็ชำเลืองมองไปยังเหล่าสมาชิกของวอร์บลัดที่ถอยออกไปอยู่ไกลราวห้าพันหลาแล้ว ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “มันก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะทำแบบนี้นั่นแหละ เพราะท้ายที่สุดผู้เล่นขั้นสี่เพียงคนเดียวของพวกเขาก็ได้ตายไปแล้ว และผู้เล่นขั้นสามที่เหลือของพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะทำอะไรกับพวกเราได้แน่นอน”

แถมพูดกันตามตรง ความแข็งแกร่งที่ซือเฟิงแสดงออกมานั้นมันก็จัดว่าน่ากลัวมากๆ ซึ่งแม้แต่ตัวไลฟ์เลสธอร์นเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ในตอนที่ต่อสู้กับมังกรทองหนุ่มขั้นสี่นั้นซือเฟิงติดสถานะอ่อนแอจากการใช้ไบเบิ้ลแห่งความมืด และแม้ว่าเขาจะเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ทั้งหมดของเขาในตอนหลังเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ และช่วยพวกเขาฆ่ามังกรทอง แต่นั่นมันก็ยังไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของซือเฟิง

แต่ตอนนี้เมื่อซือเฟิงได้กลับเข้ามาสู่สถานะปกติของตัวเองแล้ว เขาก็ได้ฆ่าออทั่มแพล้น จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ หนึ่งในรองผู้บัญชาการของวอร์บลัดได้ในการเคลื่อนไหวเดียว ….

ซึ่งนี่มันทำให้เขาตกตะลึงมากจริงๆ เพราะเขาไม่คิดเลยว่าหลังจากซือเฟิงเลื่อนขั้นมาเป็นขั้นสี่แล้ว ซือเฟิงจะแข็งแกร่งได้มากขนาดนี้

ในตอนนี้หากมีใครบางคนเดินมาบอกเขาว่าซือเฟิงสามารถจะโซโล่กับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย ขั้นสี่ที่แข็งแกร่งได้ เขาก็จะไม่มีข้อสงสัยใดๆเลย เพราะท้ายที่สุดการโจมตีเมื่อครู่ที่ซือเฟิงใช้นั้นมันน่ากลัวมาก และมันก็มีพลังที่ขั้นห้าเลย

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ! ฉัน ดีไวน์ชาโด้ว ในนามของรองผู้บัญชาการแห่งฮีฟเว่นเบลด ต้องขอกล่าวขอบคุณ คุณมากๆ …. หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณ พวกเราคงได้ไปจบที่การถูกขังในคุกเป็นเวลาอย่างน้อยสิบห้าวันแน่นอน และนั่นมันก็จะทำให้พวกเราจบสิ้นทั้งหมดเลย ….” ดีไวน์ชาโด้วนั้นรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อกล่าวขอบคุณซือเฟิง

ในตอนนี้สิ่งที่อยู่ในใจของเขา เมื่อได้มาเผชิญหน้ากับจักรพรรดิดาบขั้นสี่ผู้นี้คือความกลัวอย่างสุดจะพรรณนา

ในอดีต ความประทับใจที่เขามีต่อซือเฟิงนั้นมันมีเพียงแค่เรื่องค่าสถานะที่สูงลิ่วของซือเฟิงเท่านั้น และสำหรับการที่ซือเฟิงเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้เล่นที่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่คนแรกใน God domain จนกระทั่งไปถึงเรื่องที่ซือเฟิงเปล่งประกายขึ้นมาแทบจะถึงขีดสุดในการแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสำรองของสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้น เขาคิดว่ามันเป็นเพราะซือเฟิงโชคดี ….

ในความคิดของเขา ตราบใดที่เขาสามารถเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ได้ เขาก็จะมีความแข็งแกร่งต่างจากซือเฟิงไม่มากนักแน่นอน อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้รู้อย่างชัดเจนแล้วว่าความคิดนี้ของเขามันเป็นเรื่องตลก เพราะช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นมันยิ่งใหญ่กว่าที่เขาคิดมากๆ และมันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลยแม้แต่นิดเดียว

แม้ว่าเขาจะได้เลื่อนขั้นเป็นชั้นสี่แล้วจริงๆ แต่ต่อหน้าของซือเฟิงตอนนี้ เขาก็คิดว่าเขาน่าจะโดนโจมตีตายในการเคลื่อนไหวเดียวแบบออทั่มแพล้นอยู่ดี

สำหรับคลีนซิ่งเฟรมที่ยืนอยู่ด้านข้างของดีไวน์ชาโด้วนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน

ในครั้งที่แล้ว ด้วยความช่วยเหลือของซือเฟิง มันก็ทำให้ฮีฟเว่นเบลดของพวกเขารอดพ้นอันตรายมาได้ แถมยังเติบโตขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว และหลังจากเรื่องนั้นมันก็ผ่านมาพักหนึ่งแล้ว ซึ่งเธอเองก็พัฒนาตัวเองขึ้นมามาก และเธอก็คิดว่าเธอน่าจะลดช่องว่างระหว่างเธอกับซือเฟิงลงไปได้บ้าง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเธอจะคิดผิดไปทั้งหมด เพราะไม่เพียงแต่ช่องว่างระหว่างเธอกับซือเฟิงจะไม่ลดลง แต่มันยังเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ

ในครั้งสุดท้ายที่เจอกันเธอยังพอจะทำความเข้าใจกับความแข็งแกร่งของซือเฟิงได้บ้าง อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอไม่สามารถจะทำความเข้าใจได้อีกต่อไปว่าซือเฟิงแข็งแกร่งแค่ไหนกัน ….

“เรื่องเล็กน้อยน่า ฉันก็แค่บังเอิญผ่านมาแหละ …” ซือเฟิงยิ้มพลางมองไปยังดีไวน์ชาโด้ว ก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า “พวกเราได้บังเอิญเข้าไปถูกกักขังอยู่ในสถานที่เดียวกับยู่หลัวเป็นเวลานาน และพอเราออกมา เราก็มาปรากฎตัวใกล้เกาะดราก้อนฮาร์ทนี่แหละ …. ว่าแต่เล่ามาให้ฉันฟังหน่อยว่าสถานการณ์บนเกาะดราก้อนฮาร์ทตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?”

แม้ว่าเขาจะมีหินโลกที่มันทำให้เขาสามารถออนไลน์และออฟไลน์ในโลกยุคโบราณของ God domain ได้อย่างอิสระ ซึ่งทำให้เขาสามารถมาติดตามข่าวสารจากเหลียงจิงและคนอื่นๆได้เรื่อยๆ แต่ข่าวสารที่เขาอัพเดทมาครั้งสุดท้ายนั้นมันก็หลายวันแล้ว ซึ่งหลายวันที่ว่านี้มันก็มากพอจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์โดยรวมทั้งหมดของโลก God domain ยุคปัจจุบันได้เลย ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเกาะดราก้อนฮาร์ทเพียงแห่งเดียว

ดังนั้นตอนนี้เขาจึงต้องการจะรู้สถานการณ์ล่าสุดจริงๆบนเกาะดราก้อนฮาร์ท เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังคงมีแผนการจะนำสภาสิบแปดปีกมาพัฒนาบนเกาะดราก้อนฮาร์ทอยู่

เนื่องจากหอคอยโลกบนเกาะดราก้อนฮาร์ทนั้นมันค่อนข้างจะพิเศษมากๆ และแม้ว่าผู้เล่นจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นห้าแล้ว แต่หอคอยโลกนี้ก็ยังคงเป็นสถานที่ที่ดี

เนื่องจากมันมีไอเทมโบราณล้ำค่ามากมายอยู่ภายในหอคอยโลก และหลังจากที่ทวีปหลักทั้งสองด้านของ God domain เริ่มเดินทางไปมาหาสู่กันได้ง่ายขึ้น เกาะดราก้อนฮาร์ทก็จะกลายเป็นเกาะการค้าขนาดใหญ่ด้วย โดยมันจะมีไอเทมหายากบางชิ้นที่ถูกนำมาซื้อขาย และแลกเปลี่ยนที่นี่

ดังนั้นเขาจึงได้ปักหลักส่วนหนึ่งของสภาสิบแปดปีกลงบนเกาะดราก้อนฮาร์ทไว้ตั้งแต่แรกๆ

อย่างไรก็ตามมันมีหลายสิ่งที่เขาต้องจัดการมากเกินไปในทวีปด้านตะวันออก โดยเฉพาะเรื่องปัญหากับมหาอำนาจต่างๆ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ส่งมอบงานการพัฒนาบนเกาะดราก้อนฮาร์ทไปให้คนอื่นทำเท่านั้น และจนถึงตอนนี้ มันก็นับว่าสภาสิบแปดปีกนั้นพัฒนาไปได้ช้ามากๆบนเกาะดราก้อนฮาร์ท เนื่องจากเขาไม่มีพลังมากพอที่จะทำอะไรได้มากนักที่นี่

แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว ความแข็งแกร่งและความมั่งคั่งของเขาได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพแล้ว เขาสามารถจะหันกลับมาโฟกัสที่เกาะดราก้อนฮาร์ทได้อีกครั้ง แถมอีกอย่างหนึ่งคือวัสดุหายากบางอย่างสำหรับการใช้สร้างป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กก็สามารถจะหาได้บนเกาะดราก้อนฮาร์ทเท่านั้นด้วย
นี่มันเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกจะกลับมาที่เกาะดราก้อนฮาร์ท

“เป็นอย่างนี้นี่เอง …” ดีไวน์ชาโด้วมองไปที่ยู่หลัวที่อยู่ด้านข้างของซือเฟิง และเข้าใจแล้วว่าทำไมยู่หลัวถึงได้กลับมาพร้อมกับซือเฟิงได้ จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว และถอนหายใจออกมาก่อนจะกล่าวว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ตอนนี้เกาะดราก้อนฮาร์ทกลายเป็นถิ่นของทีมนักผจญภัยวอร์บลัดไปแล้ว และกองกำลังภายนอกนั้นก็ไม่สามารถจะเข้าแทรกแซงได้เลย แม้แต่ฮีฟเว่นเบลดของเราก็ยังตกเป็นเป้าหมายของวอร์บลัดจนกระทั่งต้องประกาศยุบตัว”

“เป็นเพราะกองกำลัง NPC ใช่ไหม ?” ซือเฟิงกล่าวถาม

“ใช่แล้ว แต่ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าวอร์บลัดไปร่วมมือและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองกำลัง NPC ที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะดราก้อนฮาร์ทได้ยังไง และมันก็เป็นเพราะเรื่องนี้เองที่ทำให้เหล่ามหาอำนาจต่างๆบนเกาะดราก้อนฮาร์ทล้วนต้องเกรงใจวอร์บลัด ซึ่งแม้แต่การจะเดินทาง หรือย้ายออกจากเกาะก็ยังเป็นไปได้ยากเลย หากไม่ได้รับอนุมัติจากวอร์บลัด” ดีไวน์ชาโด้วกล่าวอธิบายด้วยความไม่พอใจ

ถ้าไม่ใช่เพราะพลัง NPC ของมือลับ ทีมนักผจญภัยวอร์บลัดจะไม่มีทางทำอะไรกับทีมนักผจญภัยฮีฟเว่นเบลดของพวกเขาได้แน่นอน แม้ว่าออทั่มแพล้นจะกลายเป็นผู้เล่นขั้นสี่แล้วก็ตาม เพราะท้ายที่สุดพื้นที่สำคัญจริงๆที่พวกเขาต่อสู้กันคือหอคอยโลก ซึ่งมันมีขนาดกว้างใหญ่มาก ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับวอร์บลัดที่จะไล่ล่าพวกเขาทั้งหมดได้ ….

อย่างไรก็ตามเมื่อมีพลังของ NPC บวกเข้ามาในสมการนี้ด้วย ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป ….

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นพลังของ NPC ที่มาจากกองกำลัง NPC ที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะดราก้อนฮาร์ทอย่างมือลับ เท่าที่พวกเขารู้มานั้นมือลับมี NPC ขั้นสี่อยู่ราวสิบสี่คน และบางคนในหมู่พวกเขาก็มีตำแหน่งสูงมากในเมือง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับพวกเขาที่จะจัดการกับผู้เล่นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

แม้ว่า เหล่า NPC จะไม่สามารถทำอะไรกับผู้เล่นได้เมื่อพวกเขาอยู่ในเมืองบนเกาะดราก้อนฮาร์ท แต่ทุกอย่างมันก็จะแตกต่างออกไปเมื่อผู้เล่นออกจากเมืองดราก้อนฮาร์ทไปล่าหรือทำสิ่งต่างๆ เนื่องจาก NPC เหล่านี้ไม่ถูกจำกัดใดๆโดยระบบแล้วหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะโจมตีผู้เล่นที่มีปัญหากับพวกเขาเสมอ

ด้วยเหตุนี้ตราบใดที่กองกำลังใดกองกำลังหนึ่งที่เป็นศัตรูกับวอร์บลัดก้าวออกจากเมือง พวกเขาก็จะถูก NPC เหล่านี้ไล่ล่าและฆ่าในทันที

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเรื่องที่ตามมาหลังจากถูกไล่ล่าและฆ่า ผู้เล่นนั้นจะถูก NPC เหล่านี้จับขังเป็นเวลาอย่างน้อยสิบห้าวันเลย….

สิบห้าวัน !!

ไม่ต้องพูดถึงพวกผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดขั้นสามเลย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปขั้นสามก็ยังไม่สามารถจะแบกรับราคาที่ต้องจ่ายสำหรับเรื่องนี้ได้

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมวอร์บลัดถึงได้ทำตัวหยิ่งผยองแบบนี้ ….” เมื่อซือเฟิงได้ยินคำอธิบายของดีไวน์ชาโด้ว เขาก็เริ่มตระหนักได้ถึงสถานการณ์ทั้งหมด

ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เขาค่อนข้างจะเคยชินกับเรื่องแบบนี้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกอย่างมันมาเร็วกว่าตอนนั้น และผู้เล่นก็ยังไม่ได้พัฒนาตัวเองไปมากพอ ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่สามารถจะรับมือกับกองกำลังของ NPC ได้

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ในตอนนี้เมื่อคุณฆ่าออทั่มแพล้นไปแล้ว อิ้งเฟเธอร์จะแจ้งเรื่องนี้ไปให้บลัดโอ๊ท และพวกระดับสูงคนอื่นๆของวอร์บลัดรู้แล้วแน่นอน และเมื่อพวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถจะต่อกรกับคุณได้ พวกเขาก็จะต้องติดต่อไปยังมือลับเพื่อขอความช่วยเหลือแน่นอน แต่ว่ามือลับก็น่าจะต้องใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะเคลื่อนไหวได้ ….” ดีไวน์ชาโด้วมองไปยังซือเฟิงก่อนจะกล่าวแนะนำว่า “เราสามารถจะใช้โอกาสนี้ถอยหนีออกจากเกาะดราก้อนฮาร์ทได้ ซึ่งเมื่อเราออกมาพ้นเขตเกาะแล้ว NPC เหล่านี้ก็จะไม่สามารถทำอะไรกับเราได้”

แม้ว่า NPC เหล่านี้จะแข็งแกร่ง แต่ตราบใดที่พวกเขาออกจากขอบเขตอำนาจของ NPC เหล่านี้มาได้ พวกเขาก็จะมีสิทที่จะรอดชีวิต และสามารถหนีไปพัฒนาที่อื่นได้สูงมาก เพราะท้ายที่สุด God domain นั้นกว้างใหญ่มาก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่กองกำลัง NPC กองกำลังเดียวจะสามารถไปกร่างหรือล่าพวกเขาได้ทุกที่ใน God domain
“ไม่ล่ะ ยังไงฉันก็จะเข้าไปที่เกาะดราก้อนฮาร์ท ฉันมีบางอย่างที่ต้องไปทำ ….” ซือเฟิงกล่าวกับดีไวน์ชาโด้วรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แถมฉันยังต้องไปคิดบัญชีบางส่วนกับวอร์บลัดด้วย เลือดมันต้องล้างด้วยเลือดเท่านั้น !!!”

หลังจากซือเฟิงพูดจบ ยู่หลัวก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเขา และเธอก็กล่าวออกมาว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมพูดถูก และฉันก็จะขอติดตามหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมไปด้วย !!”

“ยู่หลัว นั่นมันเสี่ยงเกินไปนะ หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมเป็นผู้เล่นขั้นสี่ แต่คุณ ….” ดีไวน์ชาโด้วกล่าวอย่างกัวล เมื่อได้ยินว่ายู่หลัวต้องการจะติดตามซือเฟิงไปด้วย

แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่ดีไวน์ชาโด้วจะทันได้พูดจบ ยู่หลัวก็ได้จัดการแผ่ออร่าที่น่ากลัวออกมา ซึ่งออร่าของเธอนั้นมันทำให้ดีไวน์ชาโด้วและคนอื่นๆรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อยไปกว่าออร่าของออทั่มแพล้นเลย

“คุณ ….” ดีไวน์ชาโด้วมองไปยังยู่หลัวด้วยความตกตะลึง เขาใช้เวลาประมวลผลเรื่องทั้งหมดเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดว่า “ขั้นสี่ ?”