Ch.28 – platinum1

Translator : Asiran / Author

ตอนที่****28 – platinum1

 

ภาคการศึกษาใหม่เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

หนึ่งสัปดาห์ต่อมาในที่สุดเหออวี้ก็ได้รู้จักเพื่อนร่วมห้องเรียนจนครบแล้ว แต่ก็ยังคุ้นเคยกับเกาเกอและโจวม่อซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมคลื่น7 มากกว่าอยู่ดี แม้แต่เพื่อนร่วมห้องเรียนของเขาทั้งหมดก็รู้จักสองคนนี้ เพราะพอจบคาบเรียนในแต่ละวันไม่เกาเกอก็โจวม่อหรือไม่งั้นก็ทั้งคู่จะมาปรากฏตัวขึ้นที่ประตูห้องเรียนของพวกเขาอย่างตรงเวลา จากนั้นก็ลากเหออวี้ไป

“ไปซ้อมนะ” ตอนแรก ๆ เหออวี้ก็อธิบายให้เพื่อนร่วมห้องเรียนฟัง พอผ่านไปหลายวันทุกคนก็ชินกันหมดแล้ว ทุกคนกลับเกรงกลัวมากกว่าที่กิจกรรมชมรมจะต้องซ้อมกันอย่างหนักหน่วงและขยันขันแข็งถึงปานนี้ ส่วนพวกเพื่อนนักศึกษาในห้องที่เล่น The Kings of Glory ในหนึ่งสัปดาห์นี้ต่างก็ได้ยินได้ฟังจากชมรม The Kings หรือภาควิชาถึงเรื่องของคลื่น7 แล้ว พอมองดูเกาเกอจึงไม่คิดว่าเธอเป็นสาวสวยอีกต่อไปแต่กลับมองด้วยสายตาเคารพนับถือ พวกเขาก็เคยได้ไปไต่แรงค์กับเหออวี้อยู่บ้าง  แต่แค่แปบเดียวเหออวี้ก็พัฒนาจนแซงหน้าเพื่อน ๆ คนอื่นไปหมดแล้ว

วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม พอเสียงกริ่งดังขึ้นที่ปากประตูก็ปรากฏร่างของเกาเกอที่ยืนพิงประตูด้วยท่าทางเหมือนจะเฝ้าพิทักษ์จนตัวตาย

“รุ่นพี่ครับ จะเชื่อใจกันให้มากหน่อยได้ไหมครับ” เหออวี้ที่เดินมาหาพูดอย่างจนใจอยู่บ้าง เขาไม่เคยคิดที่จะโดดซ้อมเลย แต่ผลก็คือเกาเกอมาเฝ้าประตูเหมือนเขาอยากจะหนีซะงั้น

“ทางผ่านน่ะ แล้วก็กระตุ้นให้นายรู้จักเห็นค่าของเวลาให้มากขึ้นด้วย” เกาเกอพูด

“คราวหน้าก็เชิญผ่านไปเลยนะครับ” เหออวี้พูด

“พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย เร็ว ๆ เข้า วันนี้ซ้อมรวม” เกาเกอกล่าว

“รวมห้าคนเหรอครับ” เหออวี้สายตาแจ่มใสขึ้นมา หลังจากที่แนะนำตัวกันไปในวันเปิดภาคเรียนแล้วเหออวี้ก็ไม่เคยได้เห็นหน้าสองคนนั้นที่ได้ชื่อว่าเป็นสมาชิกชั่วคราวอีกเลย เกาเกอก็ไม่ได้ลากสองคนนั้นเข้ามาในกลุ่มวีแชทคลื่น7 ของพวกเขา สองคนนั้นชื่ออะไรกันบ้างตอนนี้เหออวี้ก็นึกไม่ออกแล้ว แต่ก็รู้ว่าในเกมนี้ทีมเวิร์คมันสำคัญมาก เขากังวลมาตลอดที่สองคนนั้นไม่ได้มาฝึกซ้อมร่วมกันกับพวกเขา วันนี้ท่านเทพทั้งสองยินยอมจุติลงมาซ้อมกับพวกเขาแล้ว บอกได้ว่าเป็นเรื่องที่ทั้งไม่คาดฝันและน่ายินดี

“ใช่ รู้แล้วยังไม่รีบเดินให้เร็วขึ้นอีกเหรอ เกิดท่านลุงทั้งสองรอนานแล้วก็อาจจะไม่ยอมรอต่อก็ได้” เกาเกอกล่าว

“ไป ๆๆ” เหออวี้รีบเร่งความเร็วขึ้นทันที

ทีมคลื่น7 ไม่ได้มีห้องทำกิจกรรมเป็นการเฉพาะ ทุก ๆ วันก็ต้องมองหาที่ที่จะไม่ถูกรบกวนไปเรื่อย วันนี้เป็นการขอยืมห้องจากสหภาพนักศึกษา เมื่อเหออวี้และเกาเกอมาถึง สองคนนั้นก็ได้รอจนหมดความอดทนแล้วจริง ๆ เมื่อมาถึงประตูห้องก็ได้ยินเสียงโจวม่อกำลังเกลี้ยกล่อมอีกสองคนอยู่

เกาเกอขมวดคิ้วนิ่วหน้า บนใบหน้ามีร่องรอยความเบื่อหน่ายซ่อนอยู่ ยกมือขึ้นผลักประตูเปิดออกมา

“มาแล้ว เริ่มกันเถอะ” เกาเกอประกาศเสียงดังเหมือนกับว่าไม่ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ในห้องกำลังคุยอะไรกันอยู่

“สวัสดีครับรุ่นพี่ทั้งสอง” ตามมาด้วยเหออวี้ที่พูดทักทายทั้งสองคน ส่วนโจวม่อก็สนิทกันดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปสุภาพด้วยขนาดนั้น โจวม่อที่กำลังเกลี้ยกล่อมคนทั้งสองอยู่เห็นอีกสองคนเข้ามาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก หันศีรษะกลับไปหาทั้งสองคนแล้วพูดว่า “เห็นปะ ก็มาแล้วนี่ไง”

“งั้นเริ่มเลยเหอะ” หนึ่งในสองคนพูดขึ้นมา เหออวี้คิดแล้วคิดอีกแต่สุดท้ายก็ยังนึกชื่อสองคนนี้ไม่ออก

“ก่อนอื่นก็เล่นกันสักเกมหนึ่งก่อนนะ” เกาเกอกล่าว

“เปิดมา” อีกคนพูดขึ้นมา

โจวม่อรีบสร้างห้องขึ้นมาในเกมแล้วเชิญทั้งสี่คนไปทีละคน เหออวี้ยังไม่รู้ชื่อของสองคนนี้ แต่ว่าในที่สุดก็ได้เห็นไอดีแล้ว คนหนึ่งเรียกว่าหมอเสิน อีกคนเรียกว่าฉีโจว แรงค์ของทั้งสองคนก็ไม่ได้เป็นแบบที่โจวม่อพูดคือหนึ่ง platinum หนึ่ง diamond ทั้งสองคนต่างก็เป็น diamond หมอเสินแรงค์ diamond3 ฉีโจวแรงค์ diamond5

นี่ย่อมไม่ใช่แรงค์ที่สูงส่งอะไร แต่ว่าก็ยังเพียงพอให้เหออวี้รู้สึกนับถือมาก แต่พอทั้งสองคนเห็นว่าเหอเหลียงอวี้ที่เข้าห้องมาเป็นเพียง platinum1 ก็มีสีหน้าเหยียดหยามขึ้นมาทันที

หลังจากเหออวี้สังหารโหดมาตลอดหนึ่งสัปดาห์แรงค์ก็มาชะงักค้างอยู่ที่ตรงนี้ ไต่ขึ้นแรงค์ diamond มาสามวันแล้วแต่ก็ยังไม่สำเร็จ เกาเกอบอกเขาว่าให้แครี่นำเกมต้องมีการควบคุมระดับหนึ่ง เขาที่ไต่แรงค์ได้ช้าสุด ๆ ก็ได้เจอเข้ากับตัวแล้ว

ในช่วงต้นถึงกลางเกม เขาที่พึ่งพาความตระหนักรู้ด้านการเงินที่นำหน้าทำให้ปกติฟาร์มการเงินได้อย่างราบรื่นมาก แต่พอไปถึงช่วงกลางถึงท้ายเกม พอมาถึงช่วงต่อสู้เป็นกลุ่ม ก็ไม่รู้ว่าพวกผู้เล่นระดับต่ำนี่สุดท้ายแล้วดุดันอย่างเก่งหรือไม่เก่งกันแน่ แต่ก็ทำให้เหออวี้เละไปเยอะอยู่

เมื่อเผชิญกับเจงกิสข่านของเหออวี้ที่การเงินนำหน้าจนมีดาเมจสูงมาก พวกเขาก็ยังคงดิ้นรนก้าวมาข้างหน้าอย่างไม่สนสี่สนแปด ถ้าเกิดว่าตอนนั้นเหออวี้มีปฏิกิริยาโต้ตอบช้าไปหน่อยหรือตำแหน่งยืนผิดไปนิดก็จะถูกฆ่าทิ้ง ถึงจะบอกว่ามีการเงินนำ แต่พวกตัวบางก็กลัวถูกรุมกินโต๊ะที่สุดเหมือนกัน

ถ้าเกิดอยากจะรอดชีวิตและจัดการกับศัตรูให้ได้ในการต่อสู้ชุลมุนแบบนี้ก็ต้องมีการควบคุมและยืนตำแหน่งที่ดีเยี่ยม ตอนนี้เหออวี้มีความตระหนักรู้เช่นนี้อยู่ แต่ว่าการควบคุมไม่สามารถจะแม่นยำถึงขนาดนั้นได้ ดังนั้นก็เลยเกิดปัญหาที่เกาเกอเคยคาดการณ์เอาไว้ เหออวี้ก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าเป็นแบบนี้เขาเลือกไฟต์เตอร์ที่มีความสามารถในการรอดชีวิตได้ดีกว่ารวมกับข้อได้เปรียบด้านการเงินของเขาก็คงจะไม่ต้องทุลักทุเลถึงขั้นนี้

แต่ว่าแครี่ที่ตัวบางแถมไม่มีการควบคุมที่ดีพอในสถานการณ์ต่อสู้ที่สับสนก็ตายง่ายแบบนี้แหละ ผู้เล่นในแรงค์พวกนี้ต่างก็คุ้นเคยกับกฎของเกมกันแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีความตระหนักรู้และการควบคุมสักเท่าไหร่ แต่คนที่คุ้นเคยกับฮีโร่อยู่หลายตัวก็ยังมีอยู่หลายคน แต่ละคนก็มีแนวความคิดและวิธีการในการต่อสู้อยู่บ้างแล้ว ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่การร่วมมือกันเป็นทีมแต่เป็นเพียงการเข้ามาต่อสู้แบบตัวใครตัวมัน ยามที่คนห้าคนกรูกันเข้ามาฆ่าเจงกิสข่าน เหออวี้ก็มักจะต้านไม่อยู่

ถ้าเกิดอยากจะต่อต้านโดยไม่ต้องพึ่งพาเพื่อนร่วมทีมก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฝึกซ้อม

ซ้อมกันเป็นร้อยเป็นพันครั้งหรือมากกว่านั้น ฝึกซ้อมจนการควบคุมในสถานการณ์ใด ๆ กลายเป็นสัญชาตญาณ ทำให้เกิดปฏิกิริยาโต้ตอบอัตโนมัติ

นี่เป็นกระบวนการที่ต้องค่อย ๆ สั่งสม ไม่มีทางลัด ไม่มีจุดจบ

หลังจากที่เหออวี้ได้ไปปรึกษาเหอเหลียงแล้วก็ได้รับคำตอบมาอย่างนี้

ดังนั้นเขาจึงได้แต่ฝึกซ้อมต่อไป ในช่วงนี้เขาได้เริ่มลงเล่นเกมในแมปห้วงนรกแห่งความสับสนด้วยเพียงเพื่อที่จะฝึกปฏิกิริยาโต้ตอบกับการควบคุมในการต่อสู้ที่วุ่นวาย ในเกมโหมดห้าต่อห้าที่มีเลนเดียวนี้ กล่าวได้ว่าเป็นการต่อสู้เป็นกลุ่มตั้งแต่ต้นจนจบ เหออวี้รู้สึกพอใจกับการฝึกซ้อมของตัวเองมาก

การฝึกหนักของเหออวี้ เกาเกอและโจวม่อล้วนเห็นอยู่กับตา พวกเขาสองคนแอบเห็นพ้องต้องกันเป็นการส่วนตัวว่าถ้าไม่ใช่เพราะเหออวี้ดื้อรั้นที่จะใช้เจงกิสข่านที่เล่นยากในโหมดจัดอันดับเพื่อฝึกปรือตัวเองก็คงไปถึง diamond ตั้งนานแล้ว อีกอย่างความตระหนักรู้ที่เหออวี้มีที่จริงกลับมีประโยชน์มากกว่าในเกมระดับสูง นิสัยและการควบคุมที่ผิดพลาดของผู้เล่นระดับต่ำมักจะทำให้ความตระหนักรู้ที่ถูกต้องมันผิดพลาดไปได้ ตัวอย่างคือเหออวี้ใช้สกิลที่สองกับดักร้อยสังหารของเจงกิสข่านเพื่อที่จะจำกัดตำแหน่งของศัตรู แต่ผลก็คือศัตรูไม่ได้ขยับเขยื้อนแต่ว่ายืนนิ่ง ๆ ปาสกิลมา สกิลที่สองของเหออวี้ที่คาดการณ์ล่วงหน้าก็เลยกลายเป็นเสียเปล่า น่าขายหน้าที่สุด

สถานการณ์ที่ไม่กลัวศัตรูแข็งแกร่งแต่กลัวศัตรูอ่อนแอแบบนี้ย่อมไม่คงอยู่ตลอดไป ดังนั้นเกาเกอและโจวม่อจึงเอาแต่ดูขำ ๆ โดยไม่กังวลจนเกินเหตุ ตอนนี้พอเห็นว่าหลี่ซือเจี๋ยและจ้าวจิ้นหรานดูถูกเหออวี้เพราะเห็นแรงค์ platinum1 ของเขาแล้วทั้งสองคนก็หันไปมองหน้ากัน ต่างก็แอบหัวเราะกันอยู่ในใจ

พวกเขามั่นใจว่าไอดีที่จะตามพวกเขาสองคนขึ้นมาเล่นแรงค์ conqueror ที่ยากเย็นด้วยกันเหมือนเป็นปลาที่กลับคืนสู่แม่น้ำไม่ใช่diamond ของหลี่ซือเจี๋ยและจ้าวจิ้นหรานทั้งสองคน แต่เป็น platinum1 ของเหออวี้อันนี้แหละ

………………………………………………………………………..