บทที่389

เวลาเจ็ดโมงเช้า เซียวชูหรันตื่นขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ

เย่เฉินได้ยินการเคลื่อนไหว เลยรีบแสร้งทำเป็นหลับ โดยนอนนิ่งอยู่บนพื้น

หลังจากที่เซียวชูหรันลุกขึ้น นั่งบิดขี้เกียจบนเตียงแล้ว มองไปที่เย่เฉินที่กำลังนอนหลับอยู่บนพื้น ทันใดนั้นก็รู้สึกปวดใจเล็กน้อย

นับตั้งแต่ที่เย่เฉินแต่งงานกับตัวเอง และกลายเป็นเขยแต่งเข้า ก็นอนบนพื้น มานานกว่าสามปีแล้ว

ตอนที่เพิ่งแต่งงาน เซียวชูหรันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเย่เฉิน และไม่ชอบเขาเลย

แต่ว่า หลังจากผ่านไปไม่กี่ปี เธอไม่รู้ว่าทำไม เธอรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่มีเย่เฉินอยู่เคียงข้างเธอ เธอจะรู้สึกปลอดภัยเป็นพิเศษ

บางครั้งถึงกับกลัวว่าเขาจะจากไปอย่างกะทันหัน

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นที่บ้าน และมันทำให้เซียวชูหรันรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆว่า เย่เฉินเป็นคนที่เธอสามารถพึ่งพาได้มากที่สุดในโลกนี้ นอกจากเขาแล้ว ญาติสนิทของตน แต่ละคนพึ่งพาไม่ได้เลยสักคน

ทางฝั่งยาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่เห็นว่าตัวเองเป็นสมาชิกในครอบครัวเลย

สำหรับแม่ของเธอ มันก็ทำให้เธอพูดไม่ออกเช่นกัน ในสายตาของแม่ ตนเป็นเครื่องมือที่ทำให้แม่ไปถึงจุดสุดยอดของชีวิตและนำไปสู่ชีวิตที่ร่ำรวย แม้ว่าเธอจะได้แต่งงานกับเย่เฉินมามากกว่าสามปี แต่หล่อนยังคงหวังว่าตนจะได้หย่ากับเย่เฉิน แล้วแต่งงานกับคนรวย

และพ่อก็ดูสับสนตลอดทั้งวัน เขาไม่ไปก่อเรื่องข้างนอกก็ดีมากแล้ว อย่าว่าแต่เวลาสำคัญจะให้การพึ่งพาได้เลย

ดังนั้น ดูไปดูมา เย่เฉินที่กำลังนอนอยู่บนพื้น จะทำให้ตนสบายใจที่สุด

ขณะที่เธอมองไปที่เย่เฉิน และความอบอุ่นในใจก็พลุ่งพล่าน ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออก

ทันทีที่เธอมองขึ้นไป เธอก็เห็นแม่ของเธอหม่าหลันวิ่งเข้ามาในชุดนอนของเธออย่างกระวนกระวาย

เซียวชูหรันอดไม่ได้ที่จะถาม:”แม่ทำอะไรนะ ทำไมถึงเข้ามาโดยไม่เคาะประตู!”

หม่าหลันรีบวิ่งไปที่อีกด้านหนึ่งของเตียง ก้มลงมองเย่เฉินหลับอยู่ที่พื้น จากนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วพูดว่า:”ฉันฝันร้าย ฝันว่าเธอท้องกับเย่เฉิน เกือบทำให้ฉันกลัวแทบตาย! ดังนั้นเลยมาดูว่า เย่เฉินนอนบนเตียงรึเปล่า!โชคดีที่ไม่มี!”

หลังจากพูดจบ หม่าหลันก็นวดหัวใจ และเตือนเธอว่า: “ฉันบอกเธอนะ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามปล่อยให้เย่เฉินขึ้นไปบนเตียงของเธอ ได้ยินไหม?”

เซียวชูหรันรู้สึกรำคาญเล็กน้อย และพูดว่า:”แม่ เย่เฉินและฉันเป็นสามีภรรยากัน พวกเราจะนอนยังไงไม่เกี่ยวกับแม่!”

“ไอ้บ้า!”หม่าหลันท้าวสะเอว และพูดว่า:”ฉันคลอดเธอมา มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันทุกอย่าง! ฉันไม่ยอมให้ร่างลูกสาวของฉันถูกยาจกนี้นี้ครอบครองหรอก!”

เซียวชูหรัยพูดอย่างโมโห:”แม่! เย่เฉินเคยช่วยชีวิตแม่นะ!”

หม่าหลันท้าวสะเอว แบมืออีกข้างออก แล้วพูดอย่างจริงจังว่า:”อย่าพูดสิ่งที่ไร้ประโยชน์นั้นกับฉัน แม่เธอฉันอยู่ในวงการมาหลายปี โดยอาศัยคำเพียงสี่คำเท่านั้น ไม่คิดไรมาก!”

หลังจากพูดจบ หม่าหลันก็พูดอย่างจริงจัง:”เธอต้องฉลาดหน่อย เป็นผู้หญิง สิ่งที่มีค่าที่สุดคือร่างกายที่บริสุทธิ์ ร่างกายของเธอ หน้าตาของเธอ อนาคตหย่ากับเย่เฉิน จะหามหาเศรษฐีไม่ได้ยังไง? ถึงเวลาครอบครัวของเราจะประสบความสำเร็จแล้วนี่?”

เซียวชูหรันสะบัดผ้าห่มอย่างโมโห ลุกขึ้นแล้วพูดว่า:”ฉันขี้เกียจจะคุยกับแม่แล้ว ฉันจะไปอาบน้ำ”

“เฮ้ เธอนี่นะ……”หม่าหลันรีบตามเธอออกไป อยากจะสั่งสอนเธอต่อ

เย่เฉินลืมตาขึ้น หลังจากที่แม่ลูกออกจากบ้านไป และรู้สึกมีไฟในใจเล็กน้อย แม่ยายปีศาจตัวนี้ เป็นคนอกตัญญูที่เลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ สักวันคงต้องให้บทเรียนแก่เธอ