คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1091

เจ้าศักดินาเคนนี่ เบรดเดินไปที่ด้านหน้าของขบวนรถคุมขัง เขายกมือขึ้นและชักกระบี่ออกมาจากนั้นเขาก็เหวี่ยงมันออกไปอย่างรุนแรง!

ปัง!

รถคุมขังพังทลายลง! โมนิก้าเดินเข้ามาหาเขาด้วยความอ่อนล้า เจ้าศักดินาเคนนี่ เบรดรีบคว้าตัวเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาทันที

“เจ้าศักดินาเคนนี่…”

โมนิก้าทั้งรู้สึกประหลาดใจและดีใจเป็นอย่างยิ่ง ริมฝีปากของเธอแยกออกจากกันเล็กน้อยและเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา

โมนิก้าแทบจะหมดสติไปเมื่อถูกฝูงชนขว้างปาข้าวของใส่เธอ

“ยอดรัก ผมอยู่ที่นี่แล้ว จะไม่มีใครทำร้ายคุณได้อีก…” เจ้าศักดินาเคนนี่ปลอบโยนโมนิก้าอย่างอ่อนโยน

เมื่อได้เห็นใบหน้าที่งดงามของโมนิก้าเต็มไปด้วยบาดแผล หัวใจของเขาก็เจ็บปวดราวกับถูกลูกศรนับพันยิงเข้าที่หัวใจ!

“นี่มันเรื่องอะไร? ใครเป็นผู้สั่งประหารเธอ?!” เจ้าศักดินาเคนนี่ เบรดกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก หลายวันมานี้ เขายุ่งมากจนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในพระราชวังกวนเป๋งบ้าง และเมื่อเขาได้มาเห็นโมนิก้าอยู่ในสภาพเช่นนี้ ความโกรธภายในใจของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ!

วินาทีต่อมา เจ้าศักดินาเคนนี่ก็จ้องมองหัวหน้าผู้คุมด้วยดวงตาที่มืดลง “แกกล้าดียังไงมาปฏิบัติกับผู้หญิงของฉันแบบนี้? แกกำลังรนหาที่ตายอยู่ใช่ไหม?”

ตุบ!

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกของเจ้าศักดินาเคนนี่ หัวหน้าผู้คุมก็สั่นสะท้านไปทั้งทรวง เขารีบคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าศักดินาเคนนี่ เบรด ผมไม่ได้ต้องการปฏิบัติต่อเธอเช่นนี้ แต่ว่านายหญิงโมนิก้าทำผิดต่อคุณ”

จากนั้นผู้คุมก็เหลือบมองป้ายไม้ที่อยู่ด้านหลังของโมนิก้า

ที่บนป้ายไม้ถูกเขียนเอาไว้ว่า ‘โมนิก้า วอนห์ล่อลวงคนเลี้ยงม้าให้หลับนอนด้วยอย่างไร้ยางอาย’

เจ้าศักดินาเหลือบมองไปที่ป้ายไม้ก่อนจะก็กำหมัดแน่น!

‘อะไรนะ? ยอดรักของฉันล่อลวงคนเลี้ยงม้าให้หลับนอนกับเธออย่างนั้นเหรอ? มันเป็นไปไม่ได้! เธอบริสุทธิ์และไร้เดียงสาเช่นนั้นแล้วเธอจะล่อลวงคนเลี้ยงม้าได้ยังไง?’

ในเวลาเดียวกันนั้น โมนิก้าที่อยู่ในอ้อมแขนของเจ้าศักดินาเคนนี่ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าจนแทบจะไม่ได้ยิน “เจ้าศักดินาเคนนี่ ฉันไม่ได้ทำ ฉันถูกใส่ร้าย…”

เมื่อเจ้าศักดินาเคนนี่ได้ยินเช่นนั้น เขาก็พยักหน้าและพูดกับเธอเบา ๆ ว่า “ยอดรัก คุณอ่อนแอมาก คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้วเพราะว่าผมเชื่อใจคุณ!”

จากนั้นผู้คุมก็กล่าวต่อ “เจ้าศักดินาเคนนี่ เบรด คนเลี้ยงม้าก็ได้ฆ่าตัวตายเพราะความอับอาย…”

‘ฆ่าตัวตายเหรอ?’ ใบหน้าของเจ้าศักดินาเคนนี่ เบรดซีดเซียวเมื่อได้ยินเช่นนั้น!

“พวกนายทุกคนจงฟัง!” เจ้าศักดินาเคนนี่กวาดสายตามองฝูงชนก่อนจะพูดต่อว่า “นายหญิงโมนิก้าถูกใส่ร้าย! หากฉันได้ยินใครพูดถึงเรื่องนี้อีก ฉันจะไม่ไว้ชีวิต!”

แม้ว่าเสียงของเขาจะไม่ดังมาก แต่ผู้คนครึ่งเมืองก็สามารถได้ยินเสียงของเขาอย่างชัดเจน!

แม้ว่าสายฝนจะทำให้เสื้อผ้าของเจ้าศักดินาเคนนี่เปียกโชก แต่เขากลับยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนอย่างสง่าผ่าเผย!

เขากอดเอวโมนิก้าและพูดเบาๆ ว่า “ยอดรัก ผมจะพาคุณกลับวัง!”

โมนิก้าพยักหน้าเบา ๆ เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจที่ผู้ชายคนนี้ได้มอบความปลอดภัยสูงสุดให้แก่เธอ แต่ก่อนที่พวกเขาจะจากไป ทันใดนั้นเธอก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ โมนิก้ารีบพูดอย่างกระวนกระวายว่า “ลูกของฉัน! แอมโบรสลูกชายของฉันยังอยู่ที่รถคุมขัง!”

‘อะไรนะ?’ เมื่อเธอพูดเช่นนั้นเขาก็รีบไปยังรถคุมขังทันที ทันใดนั้น ดวงตาของเจ้าศักดินาเคนนี่ก็แดงก่ำราวกับสีของเลือด!

เจ้าศักดินาเคนนี่เห็นร่างเล็ก ๆ ของแอมโบรสนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นท่ามกลางสายฝนด้วยใบหน้าซีดเซียว!

ฟู่!

ดวงตาที่แดงก่ำของเจ้าศักดินาเคนนี่กวาดไปรอบ ๆ

วินาทีต่อมา เขาก็คำรามขึ้นบนท้องฟ้าทันที!

“อ๊าก!”

เสียงคำรามของเขาให้ความรู้สึกราวกับว่ามันสามารถทำให้ท้องฟ้าและพื้นดินแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ มันเป็นความโกรธเกรี้ยวที่สามารถเคลื่อนย้ายแม่น้ำและภูเขาทั้งลูกได้!