บทที่ 1697 ไม่มีผู้ชนะและไม่มีผู้แพ้

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1697 ไม่มีผู้ชนะและไม่มีผู้แพ้

 

ลมมรณะทําลายล้างเกาะบัวหิน

 

เกาะบัวหินค่อยๆหายไปอย่างสมบูรณ์

 

อย่างไรก็ตามลมมรณะไม่ส่งผลกระทบต่อสายธารแห่งกาลเวลา

 

เปรียบเทียบกับสายธารแห่งกาลเวลา ลมมรณะไม่ต่างจากแมลงวันตัวเล็กที่บินอยู่บนหลังวัว

 

กลุ่มผู้อมตะและคฤหาสน์วิญญาณอมตะต้องหลีกเลี่ยงลมมรณะไม่เว้นแม้แต่ฟงจิวเก้อ

 

“เกาะบัวหินถูกทําลายจริงๆ!” ฟางหยวนตกใจมาก ก่อนหน้านี้เขาถูกเกาะบัวหินปฏิเสธ แต่ผู้ใดจะคิดว่ามันจะถูกทําลายโดยลมมรณะ

 

ฟางหยวนเฝ้ามองค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินแตกสลายไป

 

ฟงจิวเก้อรู้สึกหนักอึ้งเช่นกัน

 

แม้เขาจะสามารถทําลายเกาะบัวหิน แต่ในความคิดของเขา เขาล้มเหลว

 

เพื่อค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง วังสวรรค์จ่ายด้วยกําลังคนและทรัพยากรจํานวนมหาศาล พวกเขาทุ่มเทความพยายามและทํางานอย่างหนัก แต่ผู้ใดจะคิดว่าฟางหยวนจะร่วมมือกับถ้ําสวรรค์นิรันดรเพื่อขัดขวางพวกเขา

 

ฟงจิวเก้อไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทําลายเกาะบัวหินและทําให้การทํางานหนักทั้งห มดของวังสวรรค์กลายเป็นสูญเปล่า

 

แต่ไม่มีผู้ใดสามารถตําหนิเขา

 

เพราะมันจําเป็น!

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป มันต้องพังทลายลงอย่างแน่นอน เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะถูกทําลาย ฟงจิวเก้อและซิงเย่หวังจะถูกบังคับ ให้กลับเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

ด้วยวิธีนี้ฝ่ายของวังสวรรค์จะสูญเสียกําลังรบ

 

ในทางตรงข้ามฟางหยวนและบิงช่ายฉวนเหมือนปลาในน้ํา โดยปราศจากค่ายกลวิญญาณอมตะที่หยุดยั้งพวกเขา พลังการต่อสู้ของพวกเขาจะพุ่งสูงขึ้น

 

วังสวรรค์ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ฟางหยวนจะได้รับเกาะบัวหินในที่สุด ดังนั้นฟงจิว เก้อจึงต้องทําลายเกาะบัวหิน

 

“ตัดสินใจได้ดี” ฟางหยวนต้องชื่นชมการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของฟงจิวเก้ออย่างช่วยไม่ได้

 

ปิงช่ายฉวนถอนหายใจ

 

เขาต้องการหาวิธีทําลายวิญญาณชะตากรรมจากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัว แดง แต่ตอนนี้เกาะบัวหินกลับถูกทําลาย นี่ทําให้เขารู้สึกผิดหวัง

 

เขาไม่รู้ว่าฟางหยวนได้รับมรดกที่แท้จริงส่วนหนึ่งของเทพปีศาจบัวแดงมาแล้วและฟางหยวนก็ไม่มีความคิดที่จะบอกเรื่องนี้กับถ้ําสวรรค์นิรันดร

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินพังทลายลง วิญญาณอมตะและผู้อมตะเสียชีวิตทั้งหมด

 

คลื่นน้ํากลืนกินทุกสิ่งก่อนที่สายธารแห่งกาลเวลาจะกลับสู่สภาพปกติ

 

“ถอยกันเถอะ” ฟงจิวเก้อกัดฟันกล่าว

 

สถานการณ์ไม่เอื้ออํานวยต่อวังสวรรค์ แม้พวกเขาจะมีผู้อมตะระดับแปดถึงสามคนหรือกระทั่งราชันมังกรจะมาที่นี้ด้วยตนเอง แต่พวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้รับชัยชนะ

 

ฟงจิวเก้อและคนอื่นๆไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา พวกเขาต้องซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

ในเวลาเดียวกันคฤหาสน์วิญญาณอมตะเหล่านี้ก็เป็นเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ด หากพวกเขามีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา พวกเขาอาจมีโอกาสได้รับชัยชนะ

 

แม้วังสวรรค์จะมีรากฐานที่ยิ่งใหญ่ แต่มันไม่ได้ไร้ขอบเขต

 

หงซื่อ ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาตายไปแล้ว วังสวรรค์ไม่มีผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาคนอื่น แม้พวกเขาจะสามารถสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะสีหลัง พวกมันก็เป็นเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดเท่านั้น วังสวรรค์ไม่มีความสามารถในการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลาได้ในระยะเวลาสั้นๆ

 

ในความเป็นจริงการจัดเตรียมของเทพธิดาจื่อเว่ยไม่ผิด หากมีเพียงฟางหยวน เขาจะไม่สามารถรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

 

แต่วังสวรรค์ไม่คาดหวังว่าถ้ําสวรรค์นิรันดรจะร่วมมือกับฟางหยวน

 

หลังจากทั้งหมดฟางหยวนเป็นอาชญากรที่ทําลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง พวกเขาเป็นศัตรูที่ไม่สามารถประนีประนอม

 

“ถ้ําสวรรค์นิรันดรหยุดแก้แค้นและร่วมมือกับฟางหยวนเพราะปิงช่ายฉวนงั้นหรือ?” ฟงจิวเก้อกลับเข้าไปในรังกระเรียนใบไม้ร่วงและมองปิงช่ายฉวนด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังของวังสวรรค์เร่งล่าถอย

 

ฟางหยวนคํารามและไล่ล่าพวกเขา

 

ปิงช่ายฉวยต่อสู้เคียงข้างฟางหยวน

 

ทั้งสองโจมตีคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังของวังสวรรค์อย่างดุเดือด

 

ผู้อมตะของวังสวรรค์ทําได้เพียงหลบหนี

 

สุดท้ายศาลาอดีตปัจจุบันก็สามารถหลบหนีออกจากท่าไม้ตายอมตะแช่แข็งเวลาของปิงช่ายฉวนและบินขึ้นมาจากสายธารแห่งกาลเวลา

 

สามซุนจือโกรธมาก พวกเขาต้องการโจมตีฟางหยวน แต่พวกเขากลับตกตะลึงเมื่อเห็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสามหลังกําลังหลบหนี ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินพังทลาย ผู้อมตะระดับเจ็ดตายทั้งหมด

 

“ถอยเร็ว!” ฟงจิวเก้อออกคําสั่ง

 

สามซุนจือกลืนน้ําลายอย่างยากลําบากก่อนจะรีบบินเข้าไปรวมกลุ่มและหลบหนี

 

ฟางหยวนและชิงช่ายฉวนรวมถึงปรมาจารย์ห้าธาตุที่ควบคุมประตูสิ้นปีไล่ล่าศัตรูอย่างไม่ลดละ

 

“สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาอยู่ใกล้ๆ พวกเรากําลังจะออกไป!” ชิงเย่ตะโกนปลุกขวัญกําลังใจ

 

“ต้องการจากไปงั้นหรือ? มันไม่ง่าย!” ฟางหยวนหัวเราะ

 

“ทุกคนรีบไป พวกเราจะถ่วงเวลาพวกเขา!” สามซุนจือตัดสินใจสู้ตาย พวกเขารั้งอยู่ด้านหลัง พร้อมกับศาลาอดีตปัจจุบันที่แทบพังทลาย

 

ด้วยวิธีนี้ คฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลังจึงสามารถหลบหนีออกจากสายธารแห่งกาลเวลา

 

ศาลาอดีตปัจจุบันถูกทําลาย สามซุนจือเสียชีวิต

 

ฟางหยวนรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ไม่สามารถจับผู้อมตะระดับแปด

 

ฟางหยวนไม่ต้องการไล่ล่าพวกเขาต่อไป โลกภายนอกฟงจิวเก้อและคนอื่นๆสามารถต่อสู้ได้ตามปกติ

 

เขาเคลื่อนที่ผ่านสนามรบและกลืนกินมิติช่องว่างของผู้อมตะทั้งหมด

 

ปิงช่ายฉวนและปรมาจารย์ห้าธาตุไม่เคลื่อนไหว พวกเขาเพียงเฝ้ามองจากด้านข้าง

ผู้อมตะระดับเจ็ดจํานวนมากเสียชีวิต นั่นทําให้ฟางหยวนได้รับกําไรมหาศาล

 

“ไปทะเลตะวันออกกันเถอะ” หลังจากไม่นานฟางหยนก็เบิดปากกล่าว

 

ถ้ําสวรรค์นิรันดรแสดงความจริงใจออกมาอย่างเต็มที่ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง พวกเขาเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในเวลานี้

 

ทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือป้องกันไม่ให้วังสวรรค์ฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม

 

หากวังสวรรค์ประสบความสําเร็จในการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม อีกสี่ภูมิภาคจะถูกคุกคาม

 

ฟางหยวนและบึงช่ายฉวนยืนยันว่ามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงถูกทําลายไปแล้ว ไม่มีฝ่ายใดได้รับมัน การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีผู้ชนะและไม่มีผู้แพ้

 

ในไม่ช้ากลุ่มของฟางหยวนก็ออกจากสายธารแห่งกาลเวลาและมุ่งหน้าไปยังทะเลตะวันออก เพื่อหยุดราชันมังกร

 

แต่ระหว่างทางพวกเขาได้ยินว่าความโกลาหลของทะเลตะวันออกสิ้นสุดลงแล้ว

 

ผู้ชนะที่ได้รับวังมังกรคือราชันมังกร!

 

ราชันมังกรมีพลังการต่อสู้ที่น่าเหลือเชื่อ เขาสามารถกําหราบผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกทั้งหมด ผู้อมตะระดับแปดเฉินอี้ของวังสวรรค์นําคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกมาสนับสนุน นอกจากนั้นผู้บ่มเพาะสันโดษของทะเลตะวันออกหยางจุนก็หักหลังและให้ความช่วยเหลือราชันมังกรในจังหวะสําคัญ นั่นทําให้ฝายของวังสวรรค์ประสบความสําเร็จในการยึดครองวังมังกร

 

แต่ราชันมังกรก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

 

ในช่วงเวลาสุดท้ายของการต่อสู้กลุ่มผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกใช้ไพ่ตายของพวกเขา

 

แต่มันสายเกินไป หลังจากราชันมังกรได้รับวังมังกร เขาเร่งจากไปทันที

 

“ผู้ใดจะคิดว่าผู้บ่มเพาะสันโดษระดับแปดหยางจุนจะเป็นสมาชิกของวังสวรรค์!” ปรมาจารย์ห้าธาตุสายศีรษะอย่างต่อเนื่อง ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นสมาชิกของถ้ําสวรรค์นิรันดรไปแล้ว นี่เป็นสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน

 

“อาจไม่ใช่กรณีนั้น หยางจุนอาจเป็นสายลับของวังสวรรค์ที่อยู่ในทะเลตะวันออกมาตั้งแต่แรก” ฟางหยวนคิดถึงองค์ชายฟงเชี่ยนของภาคเหนือ เขาเป็นสายลับของวังสวรรค์ที่แทรกซึมเข้าสู่ภาคเหนือตั้งแต่แรก ตัวตนของเขายังไม่ถูกเปิดเผยจนถึงตอนนี้

 

ฟางหยวนมองปิงช่ายฉวนก่อนจะตัดสินใจเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับต่อไป