ตอนที่ 151-4 พบหน้ารักใคร่สมัครสมานฉันท์ทั้งครอบครัว

จำนนรักชายาตัวร้าย

“ท่านปู ท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว!” ตี้อู่เฮ่ออี้ร้องตะโกนขึ้น เพียงไม่นานก็มีใครบางคนยื่นหน้าออกมาจากหน้าต่างของบ้านที่ทำจากไม้ไผ่นั้น 

 

 

“เฮ่ออี้หรือ?!” 

 

 

“พี่เฮ่ออี้กลับมาแล้ว!” 

 

 

ทันใดนั้น เด็กสาวและเด็กน้อยต่างก็วิ่งกรูกันออกมาห้อมล้อมตี้อู่เฮ่ออี้เอาไว้ 

 

 

“เฮ่ออี้ เจ้าไปไหนมา? ถึงได้ไปนานอย่างนี้!” 

 

 

“ฮิๆ ข้าว่าเจ้าเป็นพวกจำทางอะไรไม่ได้ ไปเก็บยายังหาทางกลับไม่ถูกเลย แล้วออกไปข้างนอกจะไม่หลงทางได้อย่างไรกัน!” 

 

 

“พี่เฮ่ออี้ ข้างนอกสนุกไหมคะ?” 

 

 

ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว ซย่าโหวฉิงเทียนและตี้อู่เฮ่ออี้เป็นฝ่ายถูกละเลยไปโดยสิ้นเชิง 

 

 

“นึกไม่ถึงเลยว่าพี่ชายจะมีสหายมากมายเพียงนี้นะเนี่ย!” อวี้เฟยเยียนกระซิบกระซาบกับซย่าโหวฉิงเทียน 

 

 

ดูไม่ออกเลยจริงๆ! 

 

 

ผู้คนที่กำลังห้อมล้อมตี้อู่เฮ่ออี้อยู่นั้นล้วนแต่เป็นคนหนุ่มสาวที่อายุสิบปีขึ้นไปทั้งสิ้น รวมทั้งเด็กเล็กอีกมากมาย ตี้อุ่เฮ่ออี้รีบหยิบลูกอมผลไม้ออกมาแบ่งปันให้กับเด็กน้อยเหล่านั้น 

 

 

“หวานจังเลย! อร่อยจริงๆ!” นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้กินอะไรที่หวานจนแสบไส้เช่นนี้ ซึ่งพวกเขาชื่นชอบมันเป็นอย่างมาก 

 

 

“ตี้อู่เฮ่ออี้ เจ้ายังกล้ากลับมาอีกหรือ!” ในตอนนั้นเองเสียงตวาดลั่นดังขึ้น ชายผู้หนึ่งที่สวมใส่ชุดสีน้ำเงินทั้งชุดเดินถือไม้บ้องใหญ่ตรงเข้ามา 

 

 

“ไปโดยไม่บอกกล่าวสักคำ ทำให้แม่ของเจ้าต้องร้องไห้เสียใจทุกวัน เจ้ามันลูกอกตัญญู!” 

 

 

ชายที่จู่ๆก็โผล่เข้ามานี้ก็คือ หัวหน้าเผ่าตันซ้ายคนปัจจุบัน ตี้อู่จิ่งเหรินนั่นเอง 

 

 

เมื่อเห็นตี้อู่จิ่งเหรินเดินท่าทางดุดันเกรี้ยวกราดเข้ามา ตี้อู่เฮ่ออี้ก็รีบสับเท้าวิ่งหนีทันที เขาวิ่งหนีไปพลางปากก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือไปด้วย 

 

 

“ท่านพ่อ พวกเราคือผู้ที่เจริญแล้ว อย่าเอะอะอะไรก็ใช้ไม้ใช้กำลังสิครับ! ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย! ท่านแม่ รีบมาช่วยข้าเร็วเข้า!” 

 

 

ส่วนคนที่ตามหลังตี้อู่จิ่งเหรินมาอีกคน ก็คือมารดาแท้ของตี้อู่เฮ่ออี้เฮ่อเหนียง 

 

 

“ตีได้ดี! ที่เจ้าทำเช่นนี้เห็นทีว่าจะเพราะขาดการอบอรมสั่งสอน! มีลูกแต่ไม่อบรมสั่งสอนให้ดี เป็นความผิดของพ่อแม่ จิ่งเหริน เจ้าจะต้องสั่งสอนเข้าให้หลาบจำสักหน่อย!” 

 

 

เมื่อเห็นว่ามารดาไม่เข้าข้าง ตี้อู่เฮ่ออี้จึงรีบวิ่งเข้ามาหลบหลังอวี้เฟยเยียนทันที 

 

 

“น้องพี่ เห็นทีต้องพึ่งเจ้าแล้ว! เจ้าจะต้องช่วยข้านะ!” 

 

 

จวบจนกระทั่งตี้อู่จิ่งเหรินมาตรงหน้าอวี้เฟยเยียน แล้วเห็นใบหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มของนางเข้า มือที่กำลังถือกฎบ้านอยู่ก็ชะงักค้างจนกระทั่งกฎบ้านร่วงหล่นลงไปโดนเท้าของตน เขายังไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย 

 

 

“น้องเล็ก เจ้ากลับมาแล้วหรือ?” ตี้อู่เฮ่ออี้ยืนตกตะลึง 

 

 

เป็นเวลาเดียวกันกับที่ตี้อู่ซานและตี้อู่สุ่ยเดินเข้ามา เมื่อพวกเขาเห็นอวี้เฟยเยียน สองพี่น้องถึงกับร้องเสียงหลงพร้อมกัน  

 

 

“น้องเล็ก เป็นเจ้าหริงๆหรือ? น้องเล็ก——” 

 

 

แม้กระทั่งภรรยาของพวกเขา หรงเหนียง เย่เหนียงต่างก็พากันตกตะลึง 

 

 

“น้องเล็ก หลายปีมานี้เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา?” 

 

 

อวี้เฟยเยียยนไม่เคยพบหน้ามารดาบังเกิดเกล้ามาก่อน แต่ดูจากท่าทางของท่านลุงทั้งสามแล้ว นางก้รู้ได้ในทันทีว่าตนเองและตี้อู่เยียนเอ๋อร์คงจะมีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกันเป็นอย่างมากถึงมากที่สุดเป็นแน่ 

 

 

นี่นับเป็นครั้งแรกที่ตี้อู่เฮ่ออี้เห็นลุงทั้งสองและบิดาบังเกิดเกล้าของตนออกอาการเช่นนี้ เขาจึงรีบก้าวออกมาอธิบายทันที 

 

 

“ท่านพ่อ นางคือลูกสาวของท่านอา น้องสาวของข้า!” 

 

 

“ลูกสาว?” ข่าวนี้นำความตกใจมายังทุกคนยิ่งนักทำให้แต่ละคนตกตะลึงเป็นนานกว่ารู้สึกตัว 

 

 

“เหมือน เหมือนเหลือเกิน…” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของพวกเขา พวกของตี้อู่จิ่งเหรินรีบหลีกทาง หญิงชราผมขาวโพลนคนหนึ่งค่อยๆเดินเข้ามา 

 

 

“เหมือนกันกับเสี่ยวเยียนของข้าไม่มีผิด!” ด้วยรู้ว่าหญิงชราผู้นี้คือยายของตน อวี้เฟยเยียนจึงรีบก้าวออกมาทำความเคารพ 

 

 

“ท่านยาย!” 

 

 

เสียงเรียก ‘ท่านยาย’ เพียงคำเดียวทำให้หญิงชราน้ำไหลนองหน้า เสียงของนางสั่นเทาเล็กน้อย 

 

 

“เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?” 

 

 

“ท่านยาย! ท่านแม่ของข้าคือตี้อู่เยียนเอ๋อร์ ท่านพ่อคืออวี้เชียนหาน” 

 

 

เพียงแค่ได้ยินชื่อ ‘ตี้อู่เยียนเอ๋อร์’ ก็ทำให้หญิงชราร่ำไห้ออกมาในที่สุด 

 

 

“เด็กดี มาให้ยายดูเจ้าใกล้ๆซิ!” หญิงชราจับมืออวี้เฟยเยียนมามองสำรวจโดยละเอียด ไม่มีตกหล่นแม้แต่นิดเดียว 

 

 

“หากมิใช่ว่าเจ้ายังสาวอยู่ละก็ ข้าคงคิดว่าเจ้าคือเสี่ยวเยียนเป็นแน่! เจ้าช่างเหมือนกับแม่ของเจ้ายิ่งนัก! เด็กดี เจ้าชื่ออะไรหรือ?” 

 

 

“อวี้เฟยเยียนค่ะ” 

 

 

“อวี้เฟยเยียน ดี ชื่อดี! ชื่อนี้ตั้งได้ดี!” 

 

 

ในฐานะที่เป็นฮูหยินของผู้นำตันซ้ายคนก่อน จิ่งเหนียงย่อมต้องผ่านดลกมามาก แต่ครั้งนี้ นางมิอาจควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนเองได้จริงๆ ลูกสาวของนางหายสาบสูญไปสิบกว่าปี นี่นับเป็นดั่งหนามต่ำใจของนางมาโดยตลอด หนามที่ไม่อาจแตะต้องได้     

 

 

บัดนี้เมื่อได้พบหลานสาวที่มีหน้ารูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับบุตรสาวของนางจนราวกับเป็นคนๆเดียวกันเช่นนี้ แล้วจิ่งเหนียงจะไม่สะเทือนใจได้อย่างไรกัน 

 

 

เมื่อเห็นบรรดาลูกชายลูกสะใภ้เอาแต่ตกตะลึงงันอึ้งกิมกี่จนบัดนี้ยังไม่ได้สติ หญิงชราจึงผลักอวี้เฟยเยียนเบาๆ 

 

 

“เด็กดี เจ้าไปทักทายท่านลุงและท่านป้าของเจ้าเสียสิ” 

 

 

คำพูดของนางบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ายอมรับในตัวอวี้เฟยเยียน อวี้เฟยเยียนพุ่งตัวเข้าให้หาพวกเขาทำความเคารพพร้อมกับรอยยิ้ม 

 

 

“ท่านลุงใหญ่ ท่านป้าใหญ่!” 

 

 

“ท่านลุงรอง ท่านป้ารอง!” 

 

 

“ท่านลุงสาม ท่านป้าสาม!” 

 

 

“ฮึก——” 

 

 

ชายวัยกลางคนทั้งสามคนดวงตาแดงก่ำ ส่วนหญิงวัยกลางคนอีกสามคนถึงกับร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว 

 

 

เมื่อครั้งที่ตี้อู่เยียนเอ่อร์อาศัยอยู่ด้วยกันนั้น รักใคร่กลมเกลียวกับพี่ชายทั้งสามคนยิ่งนัก และความสัมพันธ์ของนางและพี่สะใภ้ทั้งสามก็สนิทสนมกับเป็นอย่างมาก มากเสียยิ่งกว่าพี่น้องแท้ๆเสียอีก 

 

 

ตอนนี้เมื่อได้มาพบหน้าอวี้เฟยเยียน ซึ่งมีรูปร่างหน้าหน้าตาราวเหมือนกับน้องสาวของพวกนางเมื่อครั้งยังสาวทุกประการเข้า แต่ละคนต่างก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก 

 

 

“เจ้าใหญ่ ขึ้นเขาไปหาพ่อของเจ้าให้เขากลับลงมา บอกกับเขาว่าที่มีแขกคนสำคัญมาหาที่บ้าน!” 

 

 

“เจ้ารอง เจ้าพาหนุ่มๆสักสองสามคนไปจับปลาในแม่น้ำ เจ้าสาม สองสามวันก่อนฝนเพิ่งจะตก เจ้ากับเด็กๆจงพากันไปขุดเห็ดมานะ” 

 

 

“หรงเหนียง เย่เหนียง เฮ่อเหนียง พวกเจ้าทั้งสามคนไปเตรียมครัวเอาไว้ให้พร้อม! ต้มน้ำ ปรุงอาหารใส่เนื้อหมอใหญ่เข้า รับรองแขกที่น่ารักของบ้านเราเสียหน่อย!” 

 

 

เหล่าไท่ไท่สั่งการอย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว  

 

 

หญิงชราสั่งการยังไม่ทันจบ เสียงชายสูงอายุแต่ดูมีพลังก็ดังแว่วเข้ามา 

 

 

“ยายแก่ ข้าได้ยินเสียงเจ้าตะโกนสั่งนั่นนี่มาแต่ไกล! แขกที่น่ารักอะไรกัน” 

 

 

กลุ่มคนที่เพิ่งลงมาจากบนเขา ที่นำมาโดยชายชราเส้นผมขาวโพลนหมดทั้งศีรษะอายุราวเจ็บสิบกว่าเห็นจะได้ ที่ด้านหลังเขาติดตามมาด้วยหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่อีกห้าคน ในมือแต่ละคนต่างก็คือไก่ป่า กระต่ายป่าเข้ามา เพราะพวกเขาเพิ่งจะขึ้นเขาไปล่าสัตว์มานั่นเอง 

 

 

“ท่านปู่ น้องหกกลับมาแล้ว!” ตี้อู่เฮ่อเจี๋ยมองไปก็เห็นตี้อู่เฮ่ออี้ทันที 

 

 

“อ้อ เจ้าหก เจ้ายังรู้จักกลับบ้านกลับช่องอีกหรือ! ข้ายังคิดว่าเจ้าออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกจนติดใจเสียแล้ว!” 

 

 

“พี่ห้า ตอนนี้ข้าเป็นพี่หกแล้วนะ!” ได้ยินตี้อู่เฮ่อเจี๋ยเรียกขานตนเองเช่นนั้น ก็ทำให้ตี้อู่เฮ่ออีไม่พอใจเท่าไหร่นัก 

 

 

“ข้าจะบอกท่านว่า น้องสาวกลับมาแล้ว ต่อไปข้าก็จะเป็นพี่ชายกับเขาแล้ว! เฮอะ!”