ถึงแม้ขจัดความเหนื่อยล้าบนร่างกายออกไปได้ แต่ความเหนื่อยล้าทางจิตใจ เฉินโม่ไม่สามารถช่วยหลี่ซู่เฟินฟื้นฟูกลับมาได้

“แม่ ถ้าเหนื่อยจริงๆ ก็ไปนอนสักพักเถอะ มีผมกับพี่เวินฉิงอยู่ ไม่มีอะไรหรอก” เสียงเฉินโม่เหมือนเพลงกล่อมเด็ก มีมนตร์ที่ทำให้คนง่วงเหงาหาวนอน

จู่ๆ หลี่ซู่เฟินรู้สึกหนักเปลือกตามาก สติก็เลือนรางตามไปด้วย ตอนนี้เธอไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น อยากนอนให้เต็มที่

“อืม” หลี่ซู่เฟินตอบเสียงอู้อี้ จากนั้นนอนเอนลงบนเก้าอี้

เวินฉิงขมวดคิ้ว มองเฉินโม่อย่างไม่ค่อยเข้าใจ แล้วถามเบาๆ ว่า “เสี่ยวโม่ นายทำอะไรประธาน ตอนนี้เหม่ยหวา กรุ๊ป ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่รอดำเนินการ จะห่างจากประธานได้ยังไง”

เฉินโม่มองเวินฉิง แล้วพูดเสียงเบาว่า “แม่เหนื่อยมากแล้ว ถ้าทำงานแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วร่างกายแม่จะรับไม่ไหว ผมใช้วิชาสะกดจิตนิดหน่อย ให้แม่พักผ่อนให้เต็มที่ มีเรื่องอะไรพี่จัดการได้เลย!”

“แต่……” เวินฉิงขมวดคิ้ว เวลานี้ต้องการประธานจริงๆ แต่เมื่อเวินฉิงเห็นกระจุกผมขาวที่จอนผมหลี่ซู่เฟิน ไม่ว่ายังไงเธอก็พูดคำพูดที่เหลือออกมาไม่ได้

เธอเพิ่งพบว่าแท้จริงแล้วประธานไม่ได้เป็นสาวอีกแล้ว เทียบกับวัยรุ่นอย่างพวกเธอ ประธานแก่แล้วจริงๆ

เมื่อก่อนเธอทำงานหามรุ่งหามค่ำไปกับเวินฉิงได้ แต่ตอนนี้เธอฝืนทำงานหนักแบบนั้นไม่ไหวแล้ว

เวินฉิงมองเฉินโม่ จู่ๆ มีความปลาบปลื้มขึ้นในใจ มองเฉินโม่ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “เสี่ยวโม่ นายโตแล้วจริงๆ”

เฉินโม่ยิ้มบางๆ อันที่จริงเขารู้สึกละอายใจ นึกย้อนไปถึงตัวเองที่ไม่ได้เรื่องเมื่อชาติที่แล้ว ไม่เคยสนใจว่าแม่จะเหนื่อยหรือเปล่า ตอนนี้คิดได้ขึ้นมา เฉินโม่รู้สึกผิดในใจเป็นอย่างมาก

“เสี่ยวโม่ พาประธานไปพักผ่อนเถอะ เรื่องที่บริษัทนายไม่ต้องกังวล ฉันจะค่อยๆ จัดการ ให้ประธานได้พักผ่อนอย่างเต็มที่” เวินฉิงเอ่ยขึ้น

เฉินโม่พยักหน้า “อืม พี่เวินฉิงก็ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว เรื่องที่ไม่สำคัญก็ให้พวกลูกน้องทำ มีผมอยู่ เหม่ยหวา กรุ๊ปต้องไม่เป็นอะไร”

ความมั่นใจยิ่งใหญ่แผ่ออกมาจากตัวเฉินโม่ นี่เป็นความมั่นใจที่มาจากผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพ และเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่เขาจะปกป้องคนสนิทและเพื่อน

เวินฉิงมองเฉินโม่ ความรู้สึกมากมายผุดขึ้นมาในดวงตาคู่สวยอีกครั้ง มีทั้งปลาบปลื้ม ปลง นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกหวังพึ่งพา ที่แม้แต่เธอเองก็ไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน

เวินฉิงแอบทอดถอนใจ “เสี่ยวโม่โตแล้วจริงๆ เหม่ยหวามีผู้สืบทอดแล้ว!”

“ฉันรู้แล้ว นายพาประธานไปพักผ่อนเถอะ!” เวินฉิงพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ

“อืม” เฉินโม่พยักหน้า ประคองแม่เดินออกไป

ได้รับเงินช่วยเหลือจากเฉินโม่ วิกฤตของเหม่ยหวา กรุ๊ปได้รับการแก้ไขทันที พวกคนที่ไร้ความหวังกับเหม่ยหวา กรุ๊ป และพากันลาจากตอนเหม่ยหวา กรุ๊ปวิกฤต พากันเสียใจไม่หยุด

มีคนจำนวนมากรีบกลับมา ร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าเวินฉิง แต่เวินฉิงไม่ใจอ่อนสักนิด เรื่องบางเรื่องเมื่อตัดสินใจไปแล้ว ราคาที่ต้องจ่ายก็ต้องสอดคล้องกัน

ชีวิตไม่ใช่เกม ไม่มีโอกาสให้คุณได้เริ่มต้นใหม่

แน่นอนว่าคนที่ตัดสินใจร่วมเป็นร่วมตายกับเหม่ยหวา กรุ๊ป แต่ละคนตื่นเต้นจนน้ำตาเอ่อล้นที่ดวงตา พวกเขาก็ได้รับการตอบแทนจากเหม่ยหวา กรุ๊ป ได้รับค่าตอบแทนที่พวกเขาสมควรได้รับ

หลังจากแน่ใจแล้วว่าเหม่ยหวา กรุ๊ปไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เฉินโม่จึงกลับมายังมหาวิทยาลัยหัวหนาน

เป็นไม่กี่วันสุดท้ายของภาคเรียนนี้แล้ว พวกนักเรียนต่างเตรียมตัวสำหรับปิดเทอม ในมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยบรรยากาศของการจากลา

โดยเฉพาะพวกคู่รัก แต่ละคนสวีทหวานด้วยกัน ภาพนั้นเหมือนการลาจากชั่วนิรันดร์ มีฉากประทับใจที่ทำให้คนน้ำตาไหล

ห้อง 306 ที่เฉินโม่พักอยู่ ก็หลีกเลี่ยงบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้ ในบรรดานั้น ปฏิกิริยาของจี๋ต๋าจิ่วตูรุนแรงที่สุด

“ไอ้เบื๊อกเฉิน อีกไม่กี่วันเราก็จะต้องต่างคนต่างเดินในทางของตัวเองแล้ว ฉันจะคิดถึงทุกคน”

ตัวซ้ำเติมอย่างห่าวเจี้ยน พูดออกมาทันทีว่า “นายคงอยากให้เราเป็นบัตรอาหารฟรีของนายต่อไปสินะ”