บทที่ 838 ปล่อยวางลงแล้ว

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 838 ปล่อยวางลงแล้ว

อวิ๋นหลัวฉวนชะเง้อมองคนที่อยู่ตรงหน้าที่มีความคล้ายกับจวินฉูฉู่ราวกับคนเดียวกัน

อวิ๋นหลัวฉวนเหลือบมองท่านอ๋องตวนที่อยู่ข้างๆ ขณะนี้ท่านอ๋องตวนกำลังยืนอึ้งไม่ขยับราวกับไก่ตกใจ

อวิ๋นหลัวฉวนคิดมาก แต่นางกลับทำใจให้เย็นลงได้

เมื่อพิจารณามองจวินฉูฉู่อย่างละเอียด อวิ๋นหลัวฉวนถาม “เจ้าคือใครหรือ?”

“ข้าคือชิงชิง เป็นพี่สาวของฉูฉู่” จวินชิงชิงค่อยๆ โน้มตัวก้มลงเพื่อคำนับอวิ๋นหลัวฉวนและท่านอ๋องตวน

อวิ๋นหลัวฉวนถามขึ้นขณะที่ยังจ้องมอง “ไม่เคยได้ยินว่าจวินฉูฉู่ยังมีพี่สาวอีกคน”

“ข้าก็เพิ่งรู้เรื่องนี้ไม่นานมานี้เอง ข้าถูกส่งไปข้างนอกตั้งแต่ยังเล็ก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ท่านลุงเพิ่งจะรับข้ากลับมา ข้าเพียงแค่ต้องการเห็นหน้าท่านอ๋องตวนก็เท่านั้น”

“มาพบข้าเพื่ออะไรหรือ?” ท่านอ๋องตวนกอดอวิ๋นหลัวฉวนไว้แน่นและต้องการก้าวเท้ากลับเข้าไปในจวนท่านอ๋องตวน

จวินชิงชิงขยับเท้า “ท่านอ๋องตวน ข้าขอพูดคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่?”

ท่านอ๋องตวนหยุดลงและเงยหน้าขึ้นมองจวินฉูฉู่ “ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเจ้าและไม่ต้องการพูดกับเจ้า ตระกูลจวินมีลูกกี่คนกันแน่นั้น เป็นเรื่องของตระกูลจวิน ฉูฉู่ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว ข้าจะไม่ตัดสินใจอะไรอีก แม่นางกลับไปเสียเถอะ”

ท่านอ๋องตวนพูดจบก็พาอวิ๋นหลัวฉวนเข้าประตูไป

เมื่ออวิ๋นหลัวฉวนเข้าไปก็หันกลับมามองจวินชิงชิง และพึมพำขึ้นมา “ช่างเหมือนกันมาก แต่กลับไม่ใช่นาง

จวินฉูฉู่มีความเชื่อมั่นในตัวเองและเย่อหยิ่ง

แต่นางกลับต่างไปมาก!”

ท่านอ๋องตวนตกใจเล็กน้อยและไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

จวินชิงชิงยิ้มเบาๆ “ฉูฉู่เกิดในตระกูลจวิน การถูกอบรมสั่งสอนนั้นต่างกับข้าจึงแน่นอนว่าไม่เหมือนกัน แต่ที่แม่นางพูดขึ้นมานั้น ก็เป็นคำพูดที่เจ็บปวดเล็กน้อย

ข้าถามตัวเองแน่นอนว่าไม่ดีเท่าฉูฉู่ แต่กลับถูกแม่นางดูถูกได้เช่นนี้”

“ข้าคือพระชายาตวน คำว่าแม่นางไม่ใช่คำที่เจ้าจะเรียกได้ อีกทั้งเจ้าไม่เห็นรูปร่างของข้าบ้างหรือ เจ้าตาบอดหรืออย่างไร มองไม่เห็นหรือ?”

อวิ๋นหลัวฉวนพูดออกมาเบาๆ จากนั้นจึงก้าวเท้าเข้าไปข้างใน

จวินชิงชิงกลับเงียบ “พระชายาตวนพูดจาไม่น่าฟังเช่นนี้ จะไม่ให้โต้ตอบกลับได้อย่างไร ไม่แปลกที่เป็นลูกสาวของแม่ทัพ การพูดการจาก็ช่างแยกต่างไปจากคนธรรมดา”

“งั้นเจ้าก็พูดว่าข้าหยาบคาย แต่ต่อให้ข้าหยาบคายอย่างไรก็เป็นพระชายา ส่วนเจ้า ต่อให้สง่างามเพียงใด ก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น

เป็นผู้หญิงต้องรู้จักคุณธรรม เจ้ามาที่จวนท่านอ๋องตวนเพื่อใช้ใบหน้าของอดีตพระชายาตวนมาโกหกหลอกลวงท่านอ๋องตวน นี่คือเรื่องจริง วันนี้ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรคือกฎระเบียบของท่านอ๋อง”

“เจ้าต้องการทำอะไร?” จวินชิงชิงถอยหลัง

“ก่อนหน้านี้ไม่นาน เฉินอวิ๋นเอ๋อร์หายไป ข้ากำลังคิดว่าจะหานางเจอได้อย่างไร ไม่คิดเลยว่าจะมาหาถึงที่”

ท่านอ๋อนตวนตกตะลึง “เฉินอวิ๋นเอ๋อร์?”

ใบหน้าของจวินชิงชิงซีดเซียวลงและถอยหลังเพื่อต้องการจะหนี

อวิ๋นหลัวฉวนโยนลูกดอกออกไปทำให้จวินชิงชิงล้มลงกับพื้น อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวว่า “มังกรก็คือมังกร หงส์ก็คือหงส์ แมลงก็คือแมลง ไก่ป่าก็คือไก่ป่า

ต่อให้เจ้าจะทำตัวให้เหมือนจวินฉูฉู่ แต่เจ้าก็ไม่มีกระดูกเช่นเดียวกับนาง

กระดูกของจวินฉูฉู่ เจ้ามไ่มีทางทำให้เหมือนได้หรอก!”

อวิ๋นหลัวฉวนกัดฟันกรอด “เช่นนั้นแล้วจะทำไม เจ้าก็ยังแพ้ให้นาง ในใจของท่านอ๋องตวนไม่มีเจ้า มีเพียงจวินฉูฉู่ ผู้คนในเมืองต้าเหลียงต่างก็รู้ว่าในใจของท่านอ๋องตวนมีเพียงจวินฉูฉู่เท่านั้น”

เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ตะโกนออกมา อวิ๋นหลัวฉวนหัวเราะ “แต่นางก็ตายไปแล้ว เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ หากวันนี้เจ้าไม่มา ในในใจของก็ยังมีช่องว่าง แต่วันนี้เจ้ามาแล้ว ข้ากลับรู้สึกว่า ได้ปลดปล่อยความเศร้าโศกในใจลงแล้ว

ถูกของเจ้า ในใจของท่านอ๋องตวนให้ความสำคัญกับจวินฉูฉู่มาก แต่นางก็ตายไปแล้ว

แต่คนที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างพวกเราก็ยังมีความนึกถึงอยู่และในใจก็ยังมีที่ว่างที่ใครก็ไม่อาจทดแทนได้

แต่นั่นต่างหากถึงจะพูดได้ว่าเป็นมนุษย์

แต่เจ้าล่ะ?

เจ้าเป็นคนหรือไม่?

ในใจของเจ้า นอกจากมีความไร้สาระแล้ว ยังมีอะไรอีก?

เพื่อเห็นแก่ที่เจ้าเป็นน้องสาวของพี่สะใภ้ และเพื่อเห็นแก่ที่เจ้าเป็นลูกสาวของท่านเสนาบดีเฉิน เสนาบดีเฉินทำงานอย่างตรากตรำ ถึงแม้จะทำผิดพลาดบ้างต่อเมืองต้าเหลียง แต่ก็ถือว่ามีคุณความดี

วันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไป

แต่โทษของเจ้านั้นยากที่จะหลีกหนี ในเมื่อเจ้ากล้าทำลงไปเช่นนี้และทำกับข้าเช่นนี้

ข้าก็ไม่อาจปล่อยเจ้าไปได้”

อวิ๋นหลัวฉวนหันไปมองท่านอ๋องตวน “ท่านอ๋องตวนเพคะ ท่านคิดว่าจะจัดการอย่างไรดีเพคะ?”

“ทุบตีขาทั้งสองให้หักเถอะ ข้าไม่อยากเห็นใบหน้าของนางอีก ทำลายลงซะ” เมื่อท่านอ๋องตวนพูดจบ คนในจวนท่านอ๋องก็ออกมา พ่อบ้านก็ได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่นานก็จะลงมือทุบตีขาของเฉินอวิ๋นเอ๋อร์แต่ถูกอวิ๋นหลัวฉวนห้ามไว้

“ห้ามทุบตีขาของนาง นางยังต้องเดิน หากขาของนางหัก ท่านเสนาบดีจะต้องเสียใจอย่างมาก ไปจวนท่านเสนาบดี ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าเฉินอวิ๋นเจี๋ยอยู่ที่บ้าน ไปดูว่าอยู่หรือไม่ หากไม่อยู่ก็เชิญท่านเสนาบดีมาที่นี่”

“ขอรับ”

พ่อบ้านจากไป จากนั้นอวิ๋นหลัวฉวนจึงสั่งให้คนมาควบคุมตัวเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ไว้และใช้แผ่นเหล็กร้อนแตะไปบนใบหน้าของนาง

เฉินอวิ๋นเเอ๋อร์ดิ้นรนทุรนทุราย อวิ๋นหลัวฉวนก็รู้สึกว่ามันโหดร้ายเกินไป จากนั้นจึงมองไปที่ท่านอ๋องตวนที่กำลังตะลึงและถามว่า “ท่านอ๋องคิดว่าอย่างไรเพคะ?”

“ทำลายเสียเถอะ ข้าจะได้ไม่เห็นอีก!”

ท่านอ๋องตวนหันหลังเดินออกไป อวิ๋นหลัวฉวนกลับรอจนเฉินอวิ๋นเจี๋ยมาถึง

“คารวะพระชายาตวนพ่ะย่ะค่ะ”

เฉินอวิ๋นเจี๋ยมองเห็นเฉินอวิ๋นเอ๋อร์และรีบเข้าไปพบอวิ๋นหลัวฉวน อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวว่า “ประเดี๋ยวถามเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับท่านพ่อบ้าน ตอนนี้ข้าเหนื่อยมากแล้ว และเรื่องนี้ข้าจะไม่เอาความอะไรอีก เพียงแต่หากนางยังออกมาหาเรื่องอีก เกรงว่าคงจะยากที่จะรักษาชีวิตไว้ได้ เจ้าเจียมตัวไว้เถอะ”

อวิ๋นหลัวฉวนพูดจบก็หันหลังกลับเข้าไปในจวน เฉินอวิ๋นเจี๋ยมองเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดและประคองนางกลับไปจวนเสนาบดี

อวิ๋นหลัวฉวนเดินเข้าไปข้างในจวนท่านอ๋องตวน คนรับใช้บอกอวิ๋นหลัวฉวนว่าท่านอ๋องไม่ได้ไปไหน และมองดูนางอยู่ไม่ไกลตลอดเวลา

อวิ๋นหลัวฉวนหยุดชะงักและมองไปบริเวณรอบๆ และได้เห็นท่านอ๋องตวนยืนอยู่ไม่ไกลนักกำลังมองนางอยู่ทางนั้น

อวิ๋นหลัวฉวนจัดชุดให้เป็นระเบียบและก้าวเท้าเดินเข้าไปหา

หนานกงเยี่ยนถอนหายใจ “เจ้าอยู่ข้างนอกคนเดียว ข้าเลยไม่วางใจ”

อวิ๋นหลัวฉวนหัวเราะมุมปาก “แล้วอย่างไรหรือเพคะ?”

“อะไรคือแล้วอย่างไร?” หนานกงเยี่ยนไม่เข้าใจ

“เช่นนั้นแล้วตอนนี้ท่านอ๋องไม่คิดถึงจวินฉูฉู่หรือเพคะ?”

“คิดถึงนางไปทำไม นางก็ไม่สามารถฟื้นกลับมามีชีวิตได้”

“เช่นนั้น หากนางฟื้นกลับมาได้ล่ะเพคะ?”

“ฟื้นกลับมาก็ฟื้นกลับมา อย่างไรเสีย นางก็เป็นเพียงอดีต ตอนนั้นข้ายังเป็นคนที่ขาดสติปัญญา นางคอยปั่นป่วนข้า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นภาพลวงตา นางทำขึ้นมาเพื่อโกหกข้า หรือข้าต้องขอบคุณนางอย่างนั้นหรือ?”

หนานกงเยี่ยกุมมือของอวิ๋นหลัวฉวนไว้ “อดีตนั้นข้าเคยชอบนาง แต่มันก็คือการโกหก นางตั้งใจโกหกหลอกลวงข้า และเห็นข้าเป็นเพียงคนโง่ ข้าจึงคิดว่า ข้าจะไม่ชอบเจ้าอย่างที่ข้าเคยชอบนาง

ฉะนั้นข้าจึงรู้สึกผิด แต่วันนี้ตอนที่เห็นเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ ในใจของข้ากลับมีความรู้สึกเกลียดแค้นขึ้นมา

ข้าคิดว่านางฟื้นชีพกลับมา ข้าเกลียดนาง

ข้าไม่ต้องการให้นางมาทำลายความรักของข้าและฉวนเอ๋อร์

และยิ่งกังวลว่านางจะทำร้ายฉวนเอ๋อร์ ข้าอยากจะหลบหนีนาง และคิดว่าหากนางกล้าที่จะทำอะไรฉวนเอ๋อร์ ข้าจะฆ่านางและสับนางให้เละเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น!”

อวิ๋นหลัวฉวนจับใบหน้าของท่านอ๋องตวนด้วยสองมือ “ท่านอ๋อง ทำไมท่านต้องทำเช่นนี้เพคะ? การโกรธแค้นเป็นสิ่งที่เหนื่อยมากเพคะ!”

ท่านอ๋องตวนยกมือทั้งสองขึ้นมากุมมือของอวิ๋นหลัวฉวน “ข้าไม่ได้เกลียดนาง แต่ข้ากลัวนาง! เมื่อเห็นใบหน้าของนาง ข้าก็เป็นกังวลว่านางจะทำร้ายฉวนเอ๋อร์

เมื่อรู้ว่าเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ไม่ใช่คนของตระกูลจวิน ข้าจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมา

อันที่จริง ข้าไม่ได้คิดถึงนางแล้ว นางได้จากไปจากโลกของข้าไปแล้ว เป็นเพราะข้าได้ใหม่ลืมเก่าก็ดี เป็นเพราะข้ากลับเนื้อกลับตัวได้ก็ดี

ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ชอบนางแล้ว

มีอยู่วันหนึ่งข้าได้เห็นรอยยิ้มของฉวนเอ๋อร์ในตอนกลางวัน ข้าจึงอยากซื้อของขวัญกลับมาให้อวิ๋นเอ๋อร์ แต่เมื่อเดินบนถนนและเดินผ่านสถานที่ที่ข้ากับนางเดินเล่นด้วยกัน ข้ากลับนึกถึงนางขึ้นมา

คืนนั้นข้าจึงฝันถึงนาง นางผลักอวิ๋นเอ๋อร์หนึ่งครั้งในความฝัน อวิ๋นเอ๋อร์ล้มลง จากนั้นข้าก็ตกใจตื่นขึ้นมา

ข้าจึงมีความคิดจะฆ่านาง และต้องการฆ่านางจากในความฝัน!”