บทที่ 1700 ข่าวลือกลายเป็นพยัคฆ์

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1700 ข่าวลือกลายเป็นพยัคฆ์

 

ฟางหยวนลอยอยู่กลางอากาศ หิมะสีขาวปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา หากมองในระยะไกล มันดูเหมือนเขาสวมชุดคลุมหนังจิ้งจอกสีขาว

 

นี่คือท่าไม้ตายอมตะเสื้อคลุมฤดูหนาวที่ถูกดัดแปลงใหม่

 

ฟางหยวนมีท่าไม้ตายสายป้องกันมากมาย ท่าที่แข็งแกร่งที่สุดคือเกราะหวนคืน แต่แม่น้ําหวนคืนอยู่ในสภาพแห้งเหือด เขาไม่สามารถใช้งานมันได้ในเวลานี้

 

นอกจากเกราะหวนคืน ฟางหยวนยังมีเกราะราชันภูต เสื้อคลุมฤดูหนาว เกราะขนราช สีห์ เต่าพยากรณ์ และอื่นๆ

 

เกราะราชันภูตเป็นการผสมผสานระหว่างวิญญาณอมตะป้ายคําสั่งอสูรวิญญาณ อาภรณ์ วิญญาณ และผนึกภูผี พลังป้องกันของมันน่าเหลือเชื่อและสามารถใช้ต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปด

 

แต่มันยังด้อยกว่าเสื้อคลุมฤดูหนาว

 

ท่าไม้ตายอมตะราชันภูตผีมีความสามารถครอบคลุมทั้งการโจมตี การป้องกัน และการจํากัดพื้นที่ด้วยเขตแดนอมตะ

 

สําหรับเสื้อคลุมฤดูหนาว มันเป็นท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันโดยเฉพาะ ฟางหยวนกลืนกินมิติช่องว่างของเซี่ยชาและได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจํานวนมาก นั่นทําให้พลังอํานาจของเสื้อคลุมฤดูหนาวเพิ่มสูงขึ้น

 

สิ่งสําคัญที่สุดคือหลังจากดัดแปลง พลังป้องกันของเสื้อคลุมฤดูหนาวยิ่งยอดเยี่ยมมากขึ้นไปอีก

 

แม้เขาจะไม่สามารถใช้เกราะหวนคืน แต่เสื้อคลุมฤดูหนาวยังสามารถทดแทน

 

“บึม บึม บึม”

 

สามผู้อมตะระดับแปดภาคกลางโจมตีฟางหยวนอย่างดุเดือด

 

ฟางหยวนไม่หลบแต่ใช้เสื้อคลุมฤดูหนาวป้องกันการโจมตีทั้งหมด

 

“มันคือสิ่งใด?”

 

“ดูเหมือนจะเป็นเสื้อคลุมฤดูหนาวของเซี่ยซา”

 

“เป็นไปได้อย่างไร? เสื้อคลุมฤดูหนาวของเซี่ยชาไม่ใช่เช่นนี้”

 

สามผู้อมตะระดับแปดภาคกลางลอบพูดคุยและรู้สึกตกใจกับพลังป้องกันของเสื้อคลุมฤดูหนาว

 

พวกเขามองไปยังโจวซ่งซิน

 

สามผู้อมตะระดับแปดมาจากสิบนิกายโบราณขณะที่โจวซ่งซินเป็นสมาชิกวังสวรรค์ที่ตื่นขึ้นจากสุสานอมตะ

 

เขตแดนอมตะกรงข่าวลือของโจวซึ่งซินเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล ในสภาพแวดล้อมนี้เส้นทางสายอื่นจะถูกจํากัด

 

พลังอํานาจของเสื้อคลุมฤดูหนาวถูกจํากัด แต่สามผู้อมตะระดับแปดก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

ฟางหยวนประเมินเขตแดนอมตะกรงข่าวลือ

 

กรงข่าวลือเต็มไปด้วยตัวอักษรสีเงิน พวกมันเรียงร้อยกันเป็นบอลทรงกลมขนาดใหญ่ห่อหุ้มฟางหยวนและสี่ผู้อมตะระดับแปดเอาไว้

 

เขตแดนนี้เชื่อมต่อกับโลกภายนอก มันไม่ได้ปกปิดตัวเอง

 

ภายในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนอาบแสงแห่งปัญญาและพยายามอนุมานเขตแดนอมตะกรงข่าวลืออย่างเต็มที่

 

แต่ฟางหยวนไม่มีความสําเร็จ

 

หากมันเป็นเขตแดนอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหรือเส้นทางแห่งการหลอมรวม ฟางหยวนจะสามารถใช้ความสําเร็จระดับกึ่งปรมาจารย์สูงสุดอนุมานมันได้ทันที แต่เผชิญหน้ากับเขตแดนอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล เขาทําได้เพียงพึ่งพาแสงแห่งปัญญาเท่านั้น

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวังสวรรค์ฉลาดมากที่ส่งผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลโจวซ่งซินออกมาจัดการฟางหยวน

 

หากมันเป็นผู้อมตะคนอื่นที่ฟางหยวนเคยพบ เขามีวิธีรับมือคนเหล่านั้น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนพบโจวซ่งซิน มันจึงค่อนข้างลําบาก

 

โจวซ่งซินอยู่ในชุดคลุมขาว เขามีใบหน้าสี่เหลี่ยมที่ดูจริงจัง ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ

 

สมาชิกวงสวรรค์ล้วนเป็นผู้อมตะระดับแปดชั้นยอด ยังไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งใด เพียงเขตแดนอมตะกรงข่าวลือ มันก็ยอดเยี่ยมมากแล้ว มันเป็นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะที่กระตุ้นใช้งานได้รวดเร็วที่สุดเท่าที่ฟางหยวนเคยเห็น

 

“ฟางหยวน เมื่อเจ้าติดอยู่ที่นี่ก็อย่าคิดว่าจะสามารถออกไป เจ้าเข่นฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยม ชีวิตผู้บริสุทธิ์จํานวนมากถูกพรากไปด้วยมือของเจ้า ตอนนี้จงรับผลกรรมที่เจ้าสร้างขึ้น!” โจวซ่งซินกล่าวด้วยน้ําเสียงแห่งความชอบธรรมก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะต่อไป

 

ท่าไม้ตายอมตะข่าวลืออันตราย!

 

ท่าไม้ตายอมตะข่าวลือกลายเป็นพยัคฆ์!

 

ตัวอักษรสีเงินไหลออกมาจากกรงข่าวลือราวกับสายน้ําก่อนจะควบรวมเป็นพยัคฆ์สีเงิน

 

พยัคฆ์เงินพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนทันที

 

ท่าไม้ตายอมตะกําปั้นยักษ์หมื่นตัวตน!

 

ฟางหยวนพุ่งเข้าเผชิญหน้ากับพยัคฆ์เงินแต่กําปั้นยักษ์หมื่นตัวตนเป็นฝ่ายถูกทําลาย

 

ฟางหยวนขมวดคิ้ว พยัคฆ์เงินมีพลังการต่อสู้สูงมาก

 

ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรฤดูใบไม้ผลิ

 

ดวงตาของโจวซ่งซินส่องประกายขึ้น เขาคิด “มันแตกต่างจากข้อมูล หลังจากการต่อสู้แย่งชิงมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง กรรไกรฤดูใบไม้ผลิของฟางหยวนพัฒนาขึ้นอีกครั้ง มันแข็งแกร่งขึ้นมาก!”

 

โจวซ่งซินเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล เขาสามารถค้นพบการเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว

 

“ท่าไม้ตายอมตะกรรไกรฤดูหนาวไม่เคยพัฒนามานานหลายร้อยปีในมือของเซี่ยชา แต่ฟางหยวนสามารถดัดแปลงมันซ้ําแล้วซ้ําอีก ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขาสูงจริงๆงั้นหรือ? บางทีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของเขาก็อาจสูงเช่นกัน อย่างไรก็ตามนี่เป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด มันไม่ง่ายที่จะดัดแปลง!”

 

โจวซ่งซินลอบตกใจ

 

แม้พลังอํานาจของกรรไกรฤดูใบไม้ผลิจะถูกจํากัด แต่มันยังสามารถกําจัดพยัคฆ์เงินได้อย่างง่ายดาย

 

“อย่างไรก็ตามสถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุมของข้า” โจวซ่งซินหัวเราะกับตนเอง

 

ครู่ต่อมาฟางหยวนต้องขมวดคิ้วลึกอีกครั้ง

 

“พยัคฆ์เงินปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่รู้สิ้นสุด”

 

สิ่งสําคัญที่สุดคือพวกมันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ!!

 

“แปลก….”

 

โดยทั่วไปวิธีการเช่นนี้หมายถึงการลดพลังการต่อสู้ของศัตรูด้วยจํานวน

 

แต่พยัคฆ์เงินกลับแข็งแกร่งขึ้นด้วยความเร็วที่ไม่ปกติ

 

ก่อนหน้านี้กรรไกรฤดูใบไม้ผลิสามารถกําจัดพวกมันได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปพยัคฆ์เงินกลับสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของกรรไกรฤดูใบไม้ผลิ

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนสามารถอนุมานสิ่งที่มีประโยชน์ได้ในที่สุด

 

ฟางหยวนมองโจวซ่งซินและกล่าว “เป็นเช่นนี้ นี่คือการรวมตัวกันระหว่างเส้นทางแห่งข้อมูล และเส้นทางมนุษย์ เจ้าใช้ความไม่พอใจของผู้คนในภาคกลางเพื่อสร้างท่าไม้ตายนี้”

 

คิ้วของโจวซ่งชินกระตุก ฟางหยวนค้นพบความลึกซึ้งของท่าไม้ตายนี้ได้เร็วจนน่าตกใจ

 

“ตั้งแต่เจ้าค้นพบ มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบัง แท้จริงแล้วท่าไม้ตายนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะแรกกําเนิดที่ใช้เจตจํานงของผู้คนเป็นเชื้อเพลิง”

 

“ฟางหยวน เจ้าเข่นฆ่าผู้คนมากมาย พวกเขาต่างโกรธแค้น มนุษย์หนึ่งคนอาจอ่อนแอ แต่หากเป็นมนุษย์จํานวนนับไม่ถ้วนจะเกิดสิ่งใดขึ้น? พลังอํานาจที่รวบรวมมาจากพวกเขาเหนือจินตนาการของเจ้า”

 

“เจ้าไม่สามารถเอาชนะเจตจํานงของผู้คนทั้งหมด นี่เป็นกรรมที่เจ้าก่อขึ้น!”

 

ฟางหยวนเงียบ

 

เขาเริ่มโจมตีกรงข่าวลือด้วยตนเอง

 

เขาเข้าใจความลึกซึ้งของเขตแดนอมตะนี้ กระทั่งท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปก็ไร้ประโยชน์

 

สถานที่แห่งหนึ่งในภาคกลาง

 

“ฟางหยวนติดกับ เขาน่าจะอยู่ในเขตแดนอมตะหรือค่ายกลวิญญาณอมตะ ข้าแทบไม่สามารถสัมผัสถึงการคงอยู่ของเขา การเชื่อมต่อของเรากําลังจะถูกตัดขาด” เฉินกงเจิ้งกล่าว

 

เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งเสียงของทะเลตะวันออก ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิน

 

ฟางหยวนถูกท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบของคนผู้นี้โจมตีโดยไม่รู้ตัวระหว่างการต่อสู้แย่งชิงวังมังกร ตอนนี้ฟางหยวนติดอยู่ในเขตแดนอมตะกรงข่าวลือ เฉินกงเจิ้งสัมผัสถึงการคงอยู่ของฟางหยวนได้เพียงเล็กน้อย

 

“วิธีตรวจสอบของพี่เฉินช่างยอดเยี่ยมนัก” ซ่งฉีหยวนกล่าวมาจากด้านข้าง “ก่อนหน้านี้ข้าถูกตรวจจับโดยท่าน มันเป็นฝันร้ายของข้าจริงๆ”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” เฉินกงเจิ้งหัวเราะเสียงดัง “เวลานั้นพวกเรายังเด็ก ผู้ใดจะคิดว่าเจ้าจะพยายามขโมยมรดกอย่างลับๆและทําให้เราจบลงโดยไร้กําไรหลังจากการทํางานหนักของเราทั้งคู่”

 

“เป็นไปตามความคาดหมาย ฟางหยวนขัดขวางการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมจริงๆ”

 

“หลายปีก่อนเขาต่อสู้กับวังสวรรค์ ความลับของทั้งสองฝ่ายถูกเปิดเผยในสวรรค์สีเหลือง”

 

“วังสวรรค์กําลังฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรม ฟางหยวนไม่ต้องการเห็นพวกเขาประสบความสําเร็จ มิฉะนั้นพวกเขาจะมีความได้เปรียบมากเกินไป”

 

กลุ่มผู้อมตะของทะเลตะวันออกพูดคุย บางคนแสดงออกอย่างเย็นชาและไม่แยแส อย่างไรก็ตามพวกเขาล้วนเป็นผู้อมตะระดับแปดทั้งหมด

 

ซ่งฉีหยวน ชิงอวี๋อัน เฉินกงเจิ้ง จางหยิน ยายหรง ซือเมี่ยว และคนอื่นๆ นี่เป็นการรวมตัวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

“สถานการณ์ดูไม่ดีนัก ฟางหยวนพบปัญหาเช่นกัน เมื่อเขาต่อสู้กับวังสวรรค์ พวกเราจะมีปัญหาน้อยลง วังมังกรอยู่ไม่ไกล ข้อมูลไม่ผิด” เฉินกงเจิ้งนํากลุ่มผู้อมตะออกเดินทาง

 

เนื่องจากราชันมังกรคว้าคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดวังมังกรไปจากทะเลตะวันออก ผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้จึงสูญเสียใบหน้า

 

ดังนั้นระหว่างการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม คนเหล่านี้จึงรวมตัวกันอย่างลับๆโดยมีเป้าหมายที่การฉกชิงวังมังกรและกอบกู้ชื่อเสียงของพวกเขา