ทางเดินในคุกนั้นมืดกว่าที่จีหรานคาดเอาไว้
ทั่วทั้งบริเวณมีเพียงแสงไฟสลัว แต่ก็ยังเพียงพอให้จีหรานมองเห็นได้ชัดเจนด้วย Intuition ระดับ C ของเขา ทุกอย่างมองเห็นได้อย่างชัดเจน
“ตามที่คิดไว้เลย มีห้องขังแค่ฝั่งเดียวของทางเดิน ทั้งหมดสิบห้าห้อง นอกจากฉันแล้ว ก็ไม่มีนักโทษคนอื่นอยู่ที่ชั้นนี้อีก อู๋ฝ่าอู๋เทียนและฮานส์น่าจะอยู่ชั้นล่างถัดลงไปจากฉัน!”
จีหรานกวาดมองทั้งชั้น เงี่ยหูฟังเผื่อมีเงื่อนงำอะไรเพิ่ม จากนั้นก็เร่งฝีเท้ามุ่งหน้าลงไปชั้นล่าง
ตอนที่เขาเดินลงบันไดด้านขวามานั้นเขาก็ได้ยินเสียงโซ่
เสียงแกรกกรากนั้นหยุดลงและดังขึ้นใหม่อย่างไม่เป็นจังหวะ แต่จีหรานสามารถสร้างรูปแบบจากความถี่อันไม่เป็นจังหวะนี้ได้ มันเป็นรหัสลับ!
รหัสลับที่พวกเขาสามคนตกลงกันไว้ก่อนที่จะเข้ามาในดันเจี้ยน
มันไม่จำกัดแค่เสียงของโซ่ พวกเขาสามารถใช้เสียงเคาะประตู เคาะกำแพง หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เกิดเสียงได้ติดต่อกับคนอื่น มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความสะดวก
จีหรานพุ่งไปยังแหล่งที่มาของเสียง
มันคือห้องขังลึกสุดในชั้นล่างสุด
จีหรานมุ่งตรงไปที่ห้องขังนั่น ตอนที่เขาเปิดหน้าต่างเล็กบนประตู เขาก็เห็นอู๋ฝ่าอู๋เทียนที่ดูหมดสภาพ
อู๋ฝ่าอู๋เทียนดูโล่งใจเมื่อเขาเห็นจีหราน
“ในที่สุด 2567! ถ้านายมาช้ากว่านี้ฉันก็จะยอมแพ้แล้ว! ภารกิจโชกเลือดแบบไหนกันที่ให้พวกเราเริ่มต้นในสภาพยับเยินแบบนี้?” เขาเริ่มบ่นเกี่ยวกับดันเจี้ยนนี้
“ทุกอย่างก็ต้องมีครั้งแรก และนายก็ยังนับว่าโชคดีที่นายอยู่ชั้นล่างสุดและฉันอยู่ด้านบน ไม่อย่างนั้น นายจะได้สงสัยแทนว่าภารกิจชนิดไหนกันที่ให้นายเริ่มต้นด้วยสภาพบาดเจ็บยับเยินและยังถูกลอบฆ่าด้วย!” จีหรานพูดขณะเปิดประตูห้องขัง เขารีบใช้ [กุญแจกล] ปล่อยอู๋ฝ่าอู๋เทียนออกจากกุญแจมือ
“นายถูกลอบฆ่า? ภารกิจหลักของนายคืออะไรน่ะ?” อู๋ฝ่าอู๋เทียนถามอย่างตกใจ
“[หนีออกจากอาณาเขตปกครองของมอร์โก้] ฉันยังได้รับบาดเจ็บปานกลางด้วย เจ้าชายอะไรสักอย่างของมอร์โก้มาสอบปากคำฉัน เขาถามฉันว่า ‘มรดก’ นั่นอยู่ที่ไหนด้วย! เรื่องราวเลวร้ายลง และองครักษ์ของเขาก็ยังฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพิษ ฉันไม่มีกระทั่งโอกาสจะรีดข้อมูลจากเขา! ถ้าเจ้าชายงี่เง่านั่นทนกลิ่นเหม็นที่นี่ได้ เขาก็คงจะมาหานายหรือฮานส์ก่อนฉันแล้ว!”
จีหรานรู้ว่าอู๋ฝ่าอู๋เทียนต้องการอะไร ดังนั้นเขาจึงบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่ที่เขาย่างเท้าเข้ามาในดันเจี้ยนออกไป
“ภารกิจหลักของฉันคือ [หนีจากการไล่ล่าของมอร์โก้] ซึ่งยากกว่าของนาย และฉันยังได้รับบาดเจ็บสาหัส ฮานส์น่าจะได้รับบาดเจ็บถึงตาย ไม่อย่างนั้นเขาก็คงทำเสียงอะไรสักอย่างแล้ว…”
เสียงของอู๋ฝ่าอู๋เทียนเบาลงเรื่อย ๆ ขณะพูด ตอนที่เขาหยุด เขาก็มองจีหรานด้วยสายตาว่างเปล่า
จีหรานหน้าซีดไปทันที
พวกเขาทั้งคู่รู้ว่าเมื่อได้รับบาดเจ็บถึงตาย ค่าสถานะทั้งหมดของพวกเขาจะลดลงถึงห้าขั้น เมื่อคิดถึงความสามารถของฮานส์แล้ว เขาก็ควรจะยังสามารถทำเสียงอะไรสักอย่างได้และคงไม่เงียบกริบเช่นนี้
เหมือนกับที่อู๋ฝ่าอู๋เทียนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส มันเพียงแค่ลดค่า HP และค่าสถานะที่ส่งผลต่อความสามารถของเขาเท่านั้น มันไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดที่เขาจะไม่สามารถลุกขึ้นยืนหรือว่าทำเสียงอะไรได้เหมือนเวลาที่พวกคนพื้นถิ่นได้รับบาดเจ็บ
นี่น่าจะเป็นแค่เรื่องง่าย ๆ สำหรับฮานส์ นอกเสียจาก… นอกเสียจากว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในคุกเดียวกับจีหรานและอู๋ฝ่าอู๋เทียน!
เมื่อความเป็นไปได้นี้ผุดขึ้นมาในใจจีหรานเขาก็รีบตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
“ฉันจะไปดูเสียหน่อย!”
จีหรานหันหลังกลับทันทีและออกจากห้องขังของอู๋ฝ่าอู๋เทียน
เขารีบวิ่งดูทั้งชั้น กวาดตามองทุกห้องขัง กระทั่งห้องขังที่ว่างเปล่าด้วย เขาก็ยังไม่พบฮานส์
“แล้วชั้นบนล่ะ?” อู๋ฝ่าอู๋เทียนก็ยังไม่ยอมแพ้เช่นกัน เขาขึ้นบันไดไปค้นรอบหนึ่ง
ผลสุดท้ายก็ยังเป็นเหมือนเดิม ทั้งสองคนยืนอยู่ในห้องขังของจีหรานมองหน้ากันอย่างพูดไม่ออก
“นายคงไม่คิดว่าภารกิจหลักของเขาจะต่างไปจากของพวกเราโดยสิ้นเชิงไหม หรือว่ายังไง?” อู๋ฝ่าอู๋เทียนถาม
“ก็อาจจะ!” จีหรานพยักหน้า
ไม่มีคำอธิบายอื่นที่เป็นไปได้ว่าทำไมฮานส์ถึงไม่ถูกขังเอาไว้กับพวกเขา
ภารกิจหลักของเขาคืออะไรกันแน่?
ในฐานะหัวโจกเบื้องหลังการขโมยครั้งนี้ ภารกิจหลักของฮานส์น่าจะไม่ง่ายไปกว่าจีหรานหรือว่าอู๋ฝ่าอู๋เทียน
อย่างน้อยมันต้องยากกว่าภารกิจหลักของจีหรานสองระดับนั่นแหละ
‘มรดก’ นั่น!
จีหรานนึกถึงคำที่รีดรัลพูดถึงในห้องขังของเขา
การหายตัวไปของฮานส์นั้นเกี่ยวข้องกับ ‘มรดก’ นี่?
ถึงแม้ว่าฮานส์จะไม่สามารถเก็บเกี่ยวของใดจากดันเจี้ยนก่อนหน้าของเขาได้ แต่ว่าคนพื้นถิ่นก็จะสันนิษฐานว่าเขาทำ
นั่นเป็นเหตุผลให้คนพวกนั้นจับกุมเขากับผู้สมรู้ร่วมคิด จีหรานและอู๋ฝ่าอู๋เทียนเอาไว้
นี่เป็นคำอธิบายเดียวที่เป็นเหตุเป็นผล
แต่ถ้าฮานส์โกหกจีหรานกับอู๋ฝ่าอู่เทียนล่ะ?
เขาอาจจะทำอย่างนั้นก็ได้หากมีแค่เขากับจีหราน แต่เมื่อมีอู๋ฝ่าอู๋เทียนอยู่ในสมการนี้ด้วย จีหรานเชื่อว่าเขาไม่มีเหตุผลให้ต้องโกหก
ที่สำคัญที่สุด พวกเขาน่ะเซ็นต์สัญญากัน จีหรานเชื่อว่าฮานส์ไม่ได้โกหกเขากับอู๋ฝ่าอู๋เทียน
“‘มรดก’? มันคืออะไรน่ะ?” จีหรานขมวดคิ้ว
คำเรียกนี้ไม่ได้บ่งบอกราคาหรือว่าคุณค่า และข้อมูลที่พวกเขาได้มาก็ยังจำกัดมาก มันไม่พอให้พวกเขาสันนิษฐานอะไรได้เลย
จีหรานยังรู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คืออะไร
“พวกเราต้องออกไปจากที่นี่ก่อน! ถ้าพวกกองกำลังพลีชีพพวกนั้นลงมือ คนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาย่อมต้องควบคุมที่นี่เอาไว้ในมือแล้ว ยิ่งพวกเราอยู่ที่นี่นาน เรื่องก็จะยิ่งเลวร้ายลงสำหรับพวกเรา! พวกเราอาจจะติดต่อฮานส์ได้ผ่านช่องพูดคุยของกลุ่มหลังจากออกจากที่นี่ได้!” จีหรานพูด
“พวกเราใส่เสื้อผ้าของเขาแล้วปลอมตัวออกไปไหม?” อู๋ฝ่าอู๋เทียนชี้ไปที่ศพในห้องขัง
“นั่นเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่ฉันคิดออกตอนนี้!” จีหรานตอบ
…
อู๋ฝ่าอู๋เทียนใส่ชุดเกราะขององครักษ์และยกคบเพลิงขึ้นขณะเดินอยู่ด้านหลังจีหราน
ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามก้มเอวลง ร่างกายของเขาก็ยังใหญ่กว่าองครักษ์ที่ตายไป เกราะดูประหลาดและบิดเบี้ยวอยู่บนร่างเขา
จีหรานนั้นตรงกันข้าม เขามีรูปร่างเท่า ๆ กับรีดรัล ดังนั้นเขาจึงสวมเสื้อผ้าเหล่านั้นได้อย่างสบาย
รีดรัลถูกฆ่าด้วยการแทงทะลุหน้าอก ดังนั้นรอยขาดบนเสื้อผ้าของเขาจึงเห็นได้ชัดมากตอนที่จีหรานออกเดิน
จีหรานไม่มีทางเลือกนอกจากเก็บผ้าเช็ดหน้าที่เต็มไปด้วยรอยลิปสติกและแป้งขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้เหมือนที่รีดรัลทำ จากนั้นเขาก็ยกศอกและแขนขึ้นบังรอยกรีดขาดเอาไว้
เขายังต้องพึ่งอู๋ฝ่าอู๋เทียนช่วยบังรอยกรีดที่ด้านหลังเอาไว้ด้วย
พวกเขาสองคนในที่สุดก็มาถึงที่ประตูคุก
ผู้คุมที่จีหรานเห็นก่อนหน้านี้สังเกตเห็นคบเพลิงกำลังตรงมา เมื่อเขาเห็นเสื้อผ้าของรีดรัล เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ เขาเปิดประตูออกกว้างทันที
“ฝ่าบาทรีดรัล!” ผู้คุมคำนับเขานอบน้อม
“เจ้าสวะโง่นั่นดื้อด้านมาก…” จีหรานกระแอม “…สั่งสอนเขาสักหน่อยนะ! บ้าชะมัด กลิ่นเหม็นน่าสะอิดสะเอียนนี่ทำให้ฉันหายใจไม่ออกแล้ว! ฉันต้องการออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้! นำทางไป!”
จีหรานเลียบแบบคำพูดของรีดรัลและกระแอมเบา ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเอ่ยชื่อพัศดี จากนั้นเขาก็เดินออกไปอย่างรีบร้อน
มีผ้าเช็ดหน้าบังหน้าเอาไว้ ผู้คุมจึงมองเห็นจีหรานไม่ชัดนัก
ผู้ชายคนนั้นรีบเปิดทางให้จีหราน
จีหรานเดินออกไปอย่างรวดเร็วขณะที่อู๋ฝ่าอู๋เทียนที่ตามหลังเขามานั้นก้มหน้าลง
การเคลื่อนไหวของอู๋ฝ่าอู๋เทียนนั้นกลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้จำเป็น
ผู้คุมคุกไม่แม้กระทั่งจะสังเกตเห็นว่าสองคนที่ตรงหน้าเขานั้นคือหัวขโมยสองคนที่ขโมยเสื้อผ้าของรีดรัลและองครักษ์มาใส่ เขามีรอยยิ้มนอบน้อมอยู่บนใบหน้าขณะมองจีหรานและอู๋ฝ่าอู๋เทียนเดินออกไป
หลังจากเดินขึ้นไปตามบันไดวน จีหรานและอู๋ฝ่าอู๋เทียนก็ไปถึงชั้นบนดิน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงห้องเปล่าที่มีหน้าต่างบานเดียว มันก็ยังดีกว่าคุกที่ใต้ดินมาก
อย่างน้อยที่สุดอากาศที่นี่ก็สดชื่น พวกเขาสองคนสูดลมหายใจลึก พยายามล้างกลิ่นเหม็นรุนแรงออกจากโพรงจมูกของตัวเอง
“มันง่ายกว่าที่ฉันคิดเสียอีก! ฉันคิดว่าพวกเราจะเจอเข้ากับพวกผู้คุมมากกว่านี้ ใครจะรู้ว่าจะมีผู้คุมอยู่แค่คนเดียวกัน?” อู๋ฝ่าอู๋เทียนพูดพร้อมหัวเราะรั้งหนึ่ง
ก่อนที่จีหรานจะทันได้หัวเราะออกมา เสียงฝีเท้าชุดหนึ่งกับเสียงเกราะโลหะกระทบกับฝักดาบก็ดังมาจากที่ด้านนอก
เสียงฝีเท้าทำให้จีหรานและอู๋ฝ่าอู๋เทียนหน้าซีด
พวกเขาบอกได้เลยว่าเหล่าคนที่ติดอาวุธครบมือเหล่านี้มุ่งหน้ามาทางคุกนี่
“บ้าชะมัด ฉันไม่น่าพูดถึงมันเลย!” อู๋ฝ่าอู๋เทียนตบหน้าตัวเองก่อนจะหันไปมองจีหราน
เขากำดาบยาวของตัวเองไว้แน่น
ความตั้งใจของเขานั้นชัดเจน พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้นซึ่งหน้า
อู๋ฝ่าอู๋เทียนนั้นไม่มีอาวุธปืนใด ๆ ความสามารถของเขาจึงได้รับผลกระทบไปด้วย และ HP ของเขายังลดต่ำเหลือน้อยกว่า 30% แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีแรงสู้
ตรงกันข้าม จีหรานเห็นได้ว่าเขาค่อนข้างคุ้นเคยกับดาบยาวทีเดียว
จากการคำนวนของเขา ทักษะดาบของอู๋ฝ่าอู๋เทียนน่าจะเหนือกว่าระดับผู้เชี่ยวชาญ
พวกเขาสองคนอาจจะมีโอกาสรับมือทหารกลุ่มนั้นได้ แต่จีหรานก็ยังไม่เห็นด้วยที่จะสู้
ในหลาย ๆ ด้านพวกเขาอ่อนแอเกินกว่าจะเผชิญหน้าและสู้กับพวกตรง ๆ
ประกายไฟเล็ก ๆ สามารถเปลี่ยนไปเป็นไฟกองใหญ่และลามไปทั่วทั้งประสาทได้ ส่งผลให้เหล่าคนพื้นถิ่นนี้มุ่งหน้ามาลงมือกับพวกเขา
ถึงแม้ว่าฮานส์จะบอกว่ากองกำลังส่วนใหญ่นั้นตามดยุกมอร์โก้ไปรบ แต่คนพื้นถิ่นที่เหลือก็ยังมากเกินกว่าที่พวกเขาสองคนจะรับมือได้ โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงว่าพวกเขาไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย และ HP ก็ยังต่ำ ค่าสถานะก็ลดลง
จีหรานโบกมือให้อู๋ฝ่าอู๋เทียนและชี้ไปทางหน้าต่าง
“ไปซ่อนกันก่อน มันต้องมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง คนที่ส่งนักรบพลีชีพมา เขาน่าจะมาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องที่เหลือ… พวกเราไปรอดูกันก่อน!” จีหรานพูดขณะที่เปิดหน้าต่างไม้ออกแล้วปีนออกไป อู๋ฝ่าอู๋เทียนตามหลังเขาไปติด ๆ
จีหรานทิ้งตัวลงที่ร่องเล็ก ๆ ด้านนอกปราสาท เขามองลงไปข้างล่างแวบหนึ่งและเห็นเป็นหน้าผาที่ไร้ก้นบึ้ง
เขากำกรอบหน้าต่างไม้แน่นขึ้นและเปิดประสาทรับฟังให้มาก รอให้คนกลุ่มนั้นเข้ามา
Wufen’s note: แปลตอนนี้ถึงได้เห็นว่า ในต้นฉบับอิงค์ฮีลงสลับตอนจย้าาาา อ่านตอนนี้ก่อน ค่อยอ่านตอนที่ลงเมื่อวันก่อนนาจา… ทีแรกก็ เอ… แฟลชแบ็กนิด ๆ ป่ะนะ //เปิดอ่านตอนต่อ //ไม่แฟลชอ่ะ มันลงสลับบบบ 555
พอดี Wufen อ่านเรื่องนี้นานแล้ว จำไม่ได้หรอกว่าตอนมันสลับ ซอรี่นะทู๊กโค๊นนน
จริง ๆ จะลงเมื่อคืน แต่ไม่ไหว เหลืออีกแค่สองย่อหน้าแต่ลืมตาไม่ขึ้นแล้ว เนี่ย อู้งานมาแปลต่อเลยนะ ทุ่มเทเนอะะะ
ตอนต่อไป →