หลังจากที่ได้ต่อสู้กับมู่เฉียนซี ซือคงชัวก็ไม่ได้สนใจช่างกวนเซียงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับมู่เฉียนซีเพื่อเขาเลย แต่กลับไปพัวพันกับจวินโม่ซีต่อ

จวินโม่ซีได้กลายเป็นโล่กำบังเพื่ออาหารอันโอชะของตนเอง พยายามใช้อุบายทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อขวางไม่ให้ซือคงชัวได้พบกับมู่เฉียนซี

ทันทีที่ทั้งสองเจอหน้ากันก็ชักกระบี่ออกจากฝักทันที หากไม่ใช่เพราะซือคงชัวเอาชนะจวินโม่ซีไม่ได้ เกรงว่าทั้งสองคงจะต่อสู้กันอย่างไม่สิ้นสุดเป็นแน่

ซือคงชัวกล่าว “มู่เฉียนโม่ วันนี้เจ้าอย่ามาขวางข้านะ ข้ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับศิษย์น้อง”

จวินโม่ซีกล่าว “ข้าไม่ยอมให้คนเจตนาไม่ดีเช่นเจ้าเข้าใกล้สาวน้อยเป็นอันขาด อยู่ให้ไกลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”

“ข้าว่าเจ้ามากกว่าที่มีเจตนาไม่ดี!” ซือคงชัวกล่าวเย้ยหยัน

“ก็แล้วแต่เจ้าจะคิดก็แล้วกัน ตอนนี้สาวน้อยกำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ ไม่มีเวลาสนใจเจ้าหรอก”

ซือคงชัวกลัดกลุ้มใจขึ้น เมื่อครั้งแรกที่ได้เห็นกับหญิงสาวผู้นี้ ชายหนุ่มผู้เลิศเลออย่างเขานั้นไม่สนใจที่จะจีบนางเลย

คิดเพียงแค่ฝึกบำเพ็ญ หลอมยา ฝึกบำเพ็ญ และหลอมยา……

เมื่อนึกว่าจะต้องแต่งงานกับหญิงสาวเช่นนี้ เขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก

หากไม่ใช่เพราะนางมีโอกาสที่จะได้เป็นศิษย์สายตรงของท่านผู้เฒ่า และช่วยให้เขาได้กลายเป็นหัวหน้าหุบเขาหมอเทวดาแล้วล่ะก็ เขาก็เกียจคร้านจะตามจีบหญิงสาวที่น่าเบื่อเช่นนี้เหมือกัน

“ครั้งนี้ข้าจะมาบอกศิษย์น้องเกี่ยวกับการคัดเลือกศิษย์ของท่านผู้เฒ่า เจ้าแน่ใจใช่หรือไม่ว่าจะไม่ให้ข้าเข้าไป หากถึงตอนนั้นศิษย์น้องโดนตำหนิขึ้นมาแล้วล่ะก็ เจ้าก็ต้องซวยเป็นแน่” ซือคงชัวกล่าว

ดวงตาของจวินโม่ซีเปล่งประกายขึ้น ในที่สุดตาเฒ่านั่นก็เคลื่อนไหวแล้ว

“ครั้งนี้ ข้าให้เจ้าเจอสาวน้อยก็ได้” จวินโม่ซีไม่ขวางเขาแล้ว

ซือคงชัวปรากฏตัวต่อหน้ามู่เฉียนซีด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับบุปผาผลิบานก็มิปาน เขายิ้มพลางกล่าวว่า “ศิษย์น้อง ไม่ได้เจอกันนานแล้ว เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง แผลหายดีหรือยัง?”

วาจากล่าวถามอันอบอุ่นนั้นยังกล่าวไม่ทันจบ มู่เฉียนซีก็กล่าวถามขึ้นว่า “นายน้อย มีเรื่องอันใดจะคุยกับข้าเหรอ?”

มู่เฉียนซีรู้ดีว่าหากไม่ใช่เรื่องสำคัญ จวินโม่ซีก็คงจะไม่ปล่อยให้เขาเข้ามาแน่นอน

หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก็ เขาก็รอหิวตายได้เลย!

สีหน้าของซือคงชัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ช่างไม่รู้จักวางตัวเอาซะเลย

“ท่านผู้เฒ่าจะรับศิษย์สายตรง ในฐานะที่ศิษย์น้องเป็นศิษย์ใหม่ฝีมือเป็นเลิศของหุบเขาหมอเทวดา แน่นอนว่ามีรายชื่อในการทดสอบครั้งนี้เช่นกัน” ซือคงชัวกล่าว

“ครั้งนี้ท่านผู้เฒ่าจะรับศิษย์สายตรงกี่คน?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ผู้ที่เข้าตาท่านผู้เฒ่าก็มีเพียงแค่ศิษย์พี่อวี้คนเดียวเท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้ได้เกิดเรื่องขึ้นกับศิษย์พี่อวี้ ตอนนี้เขาได้กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปแล้ว ท่านผู้เฒ่าก็เลยคิดจะรับศิษย์ในครั้งนี้แค่คนเดียว”

“แค่คนเดียว!”

“ถึงแม้จะรับแค่คนเดียว แต่ด้วยความสามารถของศิษย์น้องแล้ว จะต้องคว้าสิทธิ์นั้นมาได้แน่นอน” ซือคงชัวยิ้มพลางกล่าว

มู่เฉียนซี “พลังความแข็งแกร่งของศิษย์พี่คนอื่นในหุบเขาหมอเทวดาก็ไม่ได้อ่อนแอเลย คิดจะคว้าสิทธิ์นั้นมามันไม่ใช่เรื่องง่าย”

“ก็เพราะการทดสอบคัดเลือกศิษย์สายตรงกำลังจะเริ่มขึ้นอย่างไรล่ะ ท่านพ่อของข้าก็เลยบอกว่า ไม่ว่าเจ้าต้องการยาวิญญาณใด พวกเราก็จะสนับสนุนเจ้าอย่างเต็มที่”

มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณท่านหัวหน้าหุบเขามาก”

มาเสนอผลประโยชน์ให้นางถึงที่เช่นนี้ นางก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ

การแสดงออกของมู่เฉียนซีนั้นไม่แยแสเขาเลยแม้แต่น้อย

หากเป็นคนอื่นเกรงว่าจะดีอกดีใจอย่างที่สุดแล้ว หญิงสาวผู้นี้ยากที่จะรับมือได้จริง ๆ

“ศิษย์น้อง อันที่จริงข้า……”

ซือคงชัวเตรียมจะสารภาพรัก แต่ทันใดนั้นเองจวินโม่ซีก็เอ่ยปากกล่าวขึ้นว่า “มีศิษย์น้องเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นการคัดเลือกเป็นศิษย์สายตรงในครั้งนี้ก็ไม่มีที่สำหรับข้าแล้วน่ะสิ!”

กร่อก! ซือคงชัวกำหมัดแน่นจนนิ้วลั่น

เจ้าหมอนี่บัดซบยิ่งนัก ต้องจงใจก่อกวนข้าเป็นแน่

“ศิษย์น้องรอฟังคำสั่งของท่านผู้เฒ่าเถอะ!”

ต่อให้เขารู้ เขาก็มีขอบเขตในการบอก เขาไม่มีทางบอกนางหมด

“แต่ว่า ศิษย์น้องมู่ ต่อให้เจ้ามีสิทธิ์นั้น เจ้าก็ไม่ควรจะไปแก่งแย่งกับศิษย์น้องเพื่อตำแหน่งศิษย์สายตรงนะ เพราะหากเป็นเช่นนั้น ข้าก็คงจะดูหมิ่นดูแคลนเจ้ามากเลยล่ะ” ซือคงชัวกล่าวดูถูก

จวินโม่ซีตอบกลับไปว่า “ใครว่าข้าจะแก่งแย่งสิทธิ์นั้นกับสาวน้อยล่ะ ไม่แน่นะ บางทีพวกเราทั้งสองคนก็อาจจะได้เป็นศิษย์สายตรงของท่านผู้เฒ่าก็ได้”

จวินโม่ซีมองซือคงชัวด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม “แต่นายน้อยอย่างเจ้าน่ะสิ อายุก็มากโขแล้ว พรสวรรค์ในการฝึกบำเพ็ญก็ไม่ได้สูงอะไรนัก การหลอมยาก็งั้น ๆ ไม่ได้เข้ารอบหนึ่งในอัจฉริยะร้อยอันดับแรก ส่วนโอกาสจะได้เป็นศิษย์สายตรงนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย”

เจ้าจวินโม่ซีผู้นี้ไม่ได้ชักมีดออกมาทำร้ายร่างกายให้ซือคงชัวบาดเจ็บ แต่วาจาที่เขาได้กล่าวออกมานั้นทำให้ซือคงชัวช้ำใจยิ่งนัก

เขาอยากจะฉีกเนื้อเจ้าเด็กนี่ออกมาเป็นหมื่น ๆ ชิ้นจริง ๆ แต่อยู่ต่อหน้ามู่เฉียนซีเช่นนี้ เขาจึงทำได้เพียงแค่อดทน จะต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ก่อน

ซือคงชัวกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ศิษย์น้องมู่ เจ้าอย่าได้คิดเพ้อเจ้อในเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้เลยนะ หลายปีที่ผ่านมานี้ ท่านผู้เฒ่ารับศิษย์เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และครั้งนี้ อย่างมากแล้วก็รับแค่คนเดียว ไม่มีทางที่จะรับสองคนได้ เจ้าตัดใจเสียเถอะ!”

ได้กลายเป็นศิษย์สายตรงทั้งสองคน ได้อยู่ใกล้ชิดสนิทกันตลอดเวลา เช่นนั้นเขาก็คงจะไม่มีโอกาสแล้ว

จวินโม่ซีกล่าว “นั่นเป็นเพราะพรสวรรค์อันอ่อนด้อยของศิษย์ในเมื่อก่อนของหุบเขาหมอเทวดาต่างหากล่ะ แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ข้ากับสาวน้อย ไม่ใช่คนธรรมดาจะมาเปรียบเทียบได้ เมื่อถึงตอนนั้น อาจจะยินดีรับศิษย์สายตรงสองคนก็เป็นได้!”

ซือคงชัว “เป็นไปไม่ได้!”

“ข้าว่า เจ้าอยู่ที่นี่ก็เสียเวลาเปล่า กลับไปฝึกหลอมยาเถอะ หากฤดูกาลการทดสอบมาถึง เจ้าได้อันดับรั้งท้ายเข้า นายน้อยหุบเขาอย่างเจ้า จะอับอายขายหน้าได้นะ”

สีหน้าของซือคงชัวดำยิ่งกว่าก้นหม้อเสียอีก “นายน้อยแห่งหุบเขาหมอเทวดาอย่างข้า ไม่มีทางอยู่ในจุดนั้นแน่ เจ้าคอยดูก็แล้วกัน การทดสอบครั้งนี้ ข้าจะทำให้เจ้าได้เห็นดี!”

ซือคงชัวถูกจวินโม่ซีทำให้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนไม่มีอารมณ์จะสารภาพรักแล้ว

เขากลัวว่าหากตนเองอยู่ต่อ คงทนลงมือทุบตีเจ้านั่นไม่ได้ ภาพลักษณ์ความเป็นสุภาพบุรุษก็จะต้องพังลง

ซือคงชัวเดินกระทืบเท้าออกไปด้วยความโกรธ มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “จวินโม่ซี ข้าว่านับวันความปากร้ายของเจ้าจะเทียบอาถิงได้แล้วนะ”

“ก็ถูกเจ้าสารเลวนี่ทำให้รำคาญก่อนหนิ แต่เขาก็สมควรถูกยั่วโมโหจริง ๆ นะ โกรธถึงเพียงนี้แล้วยังจะมีหน้ารักษาภาพลักษณ์ของตัวเองอีก ทำตัวเองทั้งนั้น!” จวินโม่ซีสุขใจกับความทุกข์ของผู้อื่น

ไม่นานนัก ข่าวท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาจะคัดเลือกศิษย์สายตรงก็ถูกประกาศออกมา

หากได้กลายเป็นศิษย์สายตรงของท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดา ก็สามารถเลือกใช้ทรัพยากรในหุบเขาหมอเทวดาได้อย่างตามใจ

อีกอย่าง หากศิษย์สายตรงของท่านผู้เฒ่าต้องการเป็นหัวหน้าหุบเขา เพียงแค่เอ่ยปากเท่านั้นก็ได้แล้ว

จะเห็นได้ว่าการเป็นศิษย์สายตรงนี้ มีความสำคัญมากเพียงใดในหุบเขาหมอเทวดา

การคัดเลือกครั้งนี้ อัจฉริยะร้อยอันดับแรกมีสิทธิ์เข้าร่วม เว้นเสียจากช่างกวนเซียงผู้เดียวที่ไม่มีสิทธิ์

นอกจากเก้าสิบเก้าคนนี้แล้ว ศิษย์ผู้ที่มีฝีมือโดดเด่นจำนวนร้อยคนก็ถูกคัดเลือกออกมาโดยหุบเขาหมอเทวดา

ในจำนวนศิษย์หนึ่งร้อยคนนี้ แน่นอนว่ามีมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีรวมอยู่ด้วย ส่วนนายน้อยแห่งหุบเขาหมอเทวดาก็ขาดไม่ได้เช่นกัน

เวลาในการทดสอบได้กำหนดเอาไว้แล้ว และท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาก็เป็นผู้ทดสอบด้วยตัวเอง

หนึ่งวันก่อนการทดสอบ มู่เฉียนซีกล่าว “ในที่สุด วันพรุ่งก็จะได้เห็นหน้าท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาในตำนานสักที”

ถึงแม้ว่านางจะมีความแค้นพยาบาทกับหุบเขาหมอเทวดามานาน แต่นางก็ไม่เคยเห็นหน้าเสาหลักของหุบเขาหมอเทวดาผู้นี้มาก่อน

แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของจวินโม่ซี “ครั้งล่าสุดที่ข้าได้เจอตาเฒ่าผู้นี้ก็เมื่อสิบปีที่แล้ว เขาต้องคิดไม่ถึงเป็นแน่ว่าข้าจะมาเหยียบหุบเขาหมอเทวดาอีกครั้ง! และครั้งนี้ ข้า จวินโม่ซีจะไม่ตกหลุมพรางอีกแล้ว แต่จะมาเพื่อฝังพวกมัน หุบเขาหมอเทวดา”