เสี่ยวเฟิงวางสายและลังเลอยู่ครู่หนึง แต่ในที่สุดเขาก็ตัวสินใจกลับไปจากเทือกเขานี้ แทนที่เขาจะใช้คัมภีร์ย้ายกลับและบินกลับไปในทันที เขากลับขี้ม้าของเขาไปที่บริเวณใกล้เคียงกับเทือกเขา
เทือกเขานี้ เป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับการฝึกทักษะของเสี่ยวเฟิงแและ เสี่ยวเฟิงจะไม่ทิ้งที่นี้ไปง่ายๆ แต่มันก็อยู่ห่างไกลจากเมืองหลัก และ เสี่ยวเฟิงไม่อยากจะเดินทางกลับมาที่นี้ในครั้งต่อไปอย่างแน่นอน
เขาจำได้ว่า เขาเคยผ่านสถานที่ใกล้กับเมืองขนาดย่อมตอนที่เขาเดินทางมาที่นี้ เขาเดินเข้าไปในเมืองอย่างไม่รอช้า โดยปกติแล้ว เมืองที่อยู่ห่างจากเมืองหลัก สามารถจัดหา ยาโพชั่นมาขายได้เช่นเดี่ยวกันกับ คัมภีร์ย้ายกลับ เพราะว่ามีภารกิจมากมายที่นี้ที่เหมาะกับการอัพเกรดของผู้เล่น
คัมภีร์ย้ายกลับชนิดนี้ ไม่ใช้ชนิดที่สามารถส่งผู้เล่นไปยังเมืองหลักที่กำหนดไว้ได้ การทำงานของมันนั้นจะค่อนข้างจำกัด ตัวอย่างเข่น เขาเคยไปเยื่อน หมู่บ้านหิมะ มาครั้งหนึ่งกับ ซื๋ออี้ คีมภีร์ย้ายกลับที่มีขสยอยู่ที่นั้นจะสามารถส่งผู้เล่นไปยัง หมู่บ้านหิมะได้เท่านั้น และมันจะได้รับอนุมัติก็ต่อเมื่อใช้งานมันในเมือง เชียงชุย เท่านั้น
ไม่นานนัก ในเวลาประมาณสิบนาที เสี่ยวเฟิงก็ได้ค้นพบ เมืองขนาดย่อมที่ตามที่เขาได้คาดเอาไว้ และเมืองขนาดย่อมเมืองนี้ก็มีชื่อเรียกว่า เมืองเถื่อน เขาจากไปในทันทีหลังจากที่เขาไดซื้อคััมภีร์ย้ายกลับ เขาขยำคัมภีร์ย้ายกลับใบนั้นและกลับไปสู่เมืองเตียนหลง
แม้ว่าเสี่ยวเฟิงจะเคยไปที่เมือง เชียงชุย แต่เขาก็ไม่ได้ซื้อ คัมภีร์ย้ายกลับของเมือง เชียงชุย แต่เขามีอีกใบที่ย้ายกลับไปที่เมือง เตียนหลง เขาสามารถกลับไปยังเมืองเตียนหลงและใช้วงแหวนเคลื่อนย้ายที่นั้นได้
การเคลื่อนย้ายระหว่างเมืองหลักนั้นจะสามารถทำได้สำเร็จก็ต่อเมื่อผู้เล่นรู้ถึงชื่อของสถานที่ ที่เขาต้องการจะเดินทางไป แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้นั้นจะคำนวณจากระยะทางและค่าธรรมเนียมการเคลื่อนย้ายระหว่างเมืองทั้งสองที่อยู่ใกล้เคียงอาจเท่ากับหนึงเหรียญทอง
ถึงแม่ว่า เสี่ยวเฟิง จะไม่ทรายถึงระยะทางระหว่างเมือง เชียงชุย และเมืองเตียนหลง ราคาสิบเหรียญทองนั้นทำให้เขาปวดใจ หากเขาไม่ได้กำจัดคลื่นทหารโครงกระดูกพวกนั้น เงินของเขาก็จะต้องไม่พอสำหรับการเคลื่อนย้ายอย่างแน่นอน
เสียงจมน้ำ
หลังจากที่เขาเดินออกไปจากวงแหวเคลื่อนย้ายจากเมือง เชียงชุย เสี่ยวเฟิงก็ตะลึงไปกับฉากหลังที่ยุ่งวุ่นวายและคึกคัก เขาคิดอยู่เป็นเวลานานว่าเขาได้กลับมายังหมู่บ้านฝึกหัด ที่มีฉากหลังเหมือนกันกับฝูงชนที่คึกคักเหล่านี้
“พระเทพ! ในที่สุดคุณก็มาถึง พวกเราอยู่ในร้านค้าขายอาวุธ! โปรดรีบมาที่นี้!”
เสี่ยวเฟิง ส่งข้อความไปหา ไนฟ และ ไนฟก็ตอบกลับทันทีอย่างกระตือรือร้น เสี่ยวเฟิงมองไปที่แผนที่ เพื่อยืนยันตำแหน่งของร้านขายอาวุธ จากนั้นเขาก็เดินฝ่าฝูงชนไปยังร้านขายอาวุธ
เสี่ยวเฟิง เพิ่งจะมาที่เมือง เชียงชุย เมื่อคืนนี้ และฉากหลังก็ไม่แย่ขนาดนี้ในเวลานั้น แน่นอนว่าพวกผู้เล่นทุกคนถูกดึงดูดมาด้วยข่าวของโซนใหม่
“ทำไมคนจาก วอร์สปิริตฮอล์ ถึงยังไม่มาละ?” นี้เราต้องรออีกนานเท่าไรกัน? แกจะรับผิดชอบอย่างไรกับเวลาที่เสี่ยไปแทนที่จะใช้เวลานั้นไปกับ กลยุทธ์ของเกม?”
ในเมือง เชียงชุย มีห้องขนาดใหญ่อยู่ในบ้านอาวุธ ที่เป็นห้องขั่วคราวเอาไว้สำหรับเปิดเช่า ในเวลานี้ มีผู้เล่นที่รวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมากประมาณ 20 หรือ 30 คน พวกเขาทุกคนส่วมใส่ปุกรณ์ที่ดีอย่างที่ที่คุณคาดไม่ถึง พวกเขาเป็นผู้เล่นระดับสูงอย่างแน่นอน
มีผู้เล่นชายคนหนึ่งที่มี “ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษา” อยู่บนหัวของเขา กำลังจ้องมอง สกาย อย่างไม่พอใจ
มีผู้เล่น สามคน อยู่บนหน้าจอของ วอร์สปิริตฮอล์ ก็คือ สกาย ไนฟ และ ซื๋ออี้ เขามีกันหลายคนเมื่อไปเทียบกับกิลด์ฺอื่นๆ ที่มีเพียงคนเดียว
“เราทำให้เสียเวลาตรงไหน? ถ้าไม่ใช้เพราะว่า กิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ ค้นพบ โซนนี้ พวกเขต อเมริกาเหนือ ก็จะไม่มีทางรู้ถึงประตูทางเข้าหรอกนะ”
ซื๋ออี้ ด้วยแขนที่โอบหน้าอกของเธออยู่ และหน้าอกที่ส่ายไปมา ดึงดูดความสนใจอย่างมาก ผู้เชายเกือบทุกคนที่อยู่ที่นี้ ทั้งที่มีเจตนา หรือ ไม่มีเจตนา พร้อมกันมองไปที่หน้าอกของเธอ
“โอ้ อย่าทะเลาะกันเลยเพื่อนพ้องของฉัน พวกคุณ เป็น ผู้เล่นระดับเทพ ที่มาอยู่ที่นี้เพื่อการบุกเบิกดินแดนใหม่ มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับคนอื่นที่จะหยอกล้อ การกระทำของคนอีกคน หากการภายในของเราไม่มีความสามัคคี และพวกเราปล่อยให้เขตอเมริกาเหนือชิงการเปิดตัวครั้งแรกไปได้ เมื่อนั้นเราก็จะไม่สามารถรับผิดชอบผลที่ตามมาได้ ”
ภายในกลุ่มของผู้เล่นนี้ กลุ่มนี้ ผู้เล่นที่เป็นผู้ชายวัยกลางคน นั้นดูโดดเด่นมากๆ เขาส่วมเสื้อผ้าที่เรียบง่ายเหมือนกับผู้เล่นมือใหม่และไม่มีอุปกรณ์ส่วมใส่ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความสามารถในการต่อสู้ ถว่า เมื่อเขาเปิดปากพูด ทุกคนก็ไม่แย้งเขา เขาคนนี้คือ เหลาซวี.อย่างแน่นอน
“เขาต้องเป็นผู้เล่นระดับสูงที่สามารที่ถึงแม้จะเป็นพวกเรา ผู้เล่นทั้ง 19 คน รอเป็นเวลานานได้ และเข้ามาแทนที่ประธาน ของกิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ ฉันไม่ทราบว่ามีใครบ้างที่ ท่านประธานของกิลด์ วอร์สปิริตฮอล์ ได้เชิญมา เพราะว่าฉันเองก็ไม่ได้รับข้อความใดๆ เลยด้วยซ้ำ” เหลาซวี ยิ้มอย่างสุภาพ
ที่จริงแล้ว แรกเริ่มนั้น วอร์สปิริตฮอล์ มีที่ตำแหน่งอยู่สามตำแหน่ง นั้นคือ ประธาน สกาย, ไนฟ ผู้ที่เป็นนักรบโล่ที่เก่งที่สุด และ ซื๋ออี้ พระที่เก่งที่สุด
เมื่อ สกาย เสนอเปลี่ยนตำแหน่งในตอนแรก และขอให้คนอื่นมาเป็นตัวแทนของเขา ผู้เล่นบางคนก็แสดงความแปลกใจออกมา เมื่อคนที่มาแทนที่นั้น ไม่ใช้สมาชิกของ วอร์สปิริตฮอล์
ตำแหน่งทั้งสาม นั้นมีสำคัญมาก หากเขตฮวาเซีย สามารถได้รับการเข้าชิ่งดินแดนได้เป็นกลุ่มแรก จะต้องมีผู้เล่นสามคนที่มีชื่อนำหน้า วอร์สปิริตฮอล์ อยู่ในรายชื่อของทีมบุกเบิก นี่เป็นการโฆษณาที่ยอดเยี่ยมสำหรับชื่อเสียงของ วอร์สปิริตฮอล์
ไนฟ ควรจะเสนอมอบตำแหน่งของเขาให้กับคนอื่น ได้แล้ว ผู้เล่นคนอื่นจะไม่รู้สึกประหลาดใจได้อย่างไรในเมื่อการตัดสินใจนั้นเกิดจากตัวเขาเองที่เป็น ประธานของกิลด์ กิลด์นี้
“ฉันทำสิ่งนี้ก็เพื่อจะทำให้เขตฮวาเซีย คว้าเกียรติยศแรกเป็นกลุ่มแรก ฉันจะทำสิ่งนี้ถึงแม้ว่าฉันต้องรออีกครึ่งชั่วโมงก็ตาม อย่าว่าแต่การยอมสละเพียงแค่ตำแหน่งเลย” สกายพูดออกมาทั้งๆ อย่างงั้น
“นี้! ฉันอยากรู้ว่าพระเจ้าองค์ไหนที่ต้องบูชาถึงขนาดนั้น เราหลายคนรอเขาอยู่เพียงคนเดียว มันเป็นไปได้หรือไม่ที่ ท่านมือดาบ จะออกมากเป็นการส่วนตัว?”
พาลาดินแห่งการรักษา เป็นชายหนุ่มหน้าเย่อหยิ่ง ที่ดูเหมือนจะเป็นที่สะดุดตา แต่เขาก็ยังมีพละกำลังแข็งแกร่งมากพอ
ด้วยความที่เป็น หนึ่งในอดีตผู้เล่นสิบอันอันดับแรก ในหอเกียรติยศ และหนึ่งในผู้เล่นสิบอันดับแรกของเขตฮวาเซีย มันน่าแปลกที่ไม่มีความเย่อหยิ่งใดๆ ออกมากจาก ชายผู้นี้ที่มีความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ขนาดนี้
“ดูเหมือนว่าชายคนนี้ จะมีความแข็งแแกรงอยู่พอที่จะยอมให้ประธานของ วอร์สปิริตฮอล์ เริ่มหาคนมาเข้าแทนที่ตำแหน่งเขา ถ้าเขาทำได้ไม่ดีในภายหลังมันจะเป็นสิ่งน่าสนใจแน่นอน “
พาลาดินแห่งการรักษา นั้นไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เขามองไปที่ร่องลึกบนหน้าอกของ ซื๋ออี้ มีการประเมินว่ามีเพียง ท่านมือดาบ ใน เขตฮวาเซีย เท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอที่เขายอมรอ
มีผู้เล่นมากกว่า 20 คนอยู่ในฉากนี้ แต่บางคนก็อยู่ในตำแหน่งที่สำคัญเหมือนกับ สกาย ตัวอย่างเช่น สกายจะออกมา ถ้าเสี่ยวเฟิงไม่ปรากฏตัวขึ้น มีคนอื่นอีกหลายคนที่เป็นผู้เล่นตัวแทนเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
มีผู้เล่นเพียง 19 คนที่นั้นที่จะได้รวมทีมกัน ในขณะที่มีผู้เล่น 15 คนมาจากกิลโืหลัก ผู้เล่นเหล่านี้มีชื่อนำของหน้ากิลด์หลักอยู่ มันเป็นโอากาสที่ดีมากในจะแสดง ศักด์ศรีของพวกเขา และไม่มีกิลด์หลักใดๆ อยากที่จะพลาดโอกาสแบบนี้
ถว่าผู้เล่นที่สามารถเข้าร่วมทีมชิงดินแดนได้นั้นเป็นผู้เล่นระดับสูงและผู้แทนของกิลด์หลักทั้งนั้น พวกเขาหลายคนเป็นถึง ประธานและรองประธานของกิลด์แต่ละที่ แต่ละคนก็มีความแข็งแกร่งระดับหนึง และทีมชิงดินแดนนั้น ไม่สามารถนำผู้เล่นที่มีไว้ผ่านๆ เข้าไปได้ เว้นแต่ว่าพวกนั้นจะเป็น ไนท์คูเออร์ หรือ พาลาดินแห่งการรักษา เมื่อนั้นคุณจะสามารถนำพวกเขาเข้าร่วมทีมได้ เพราะว่าพวกเขามีความแข็งแกรงพอ
ทีมทีมนี้ยังสะถ้อนถึงความสัมพันธู์ระหว่างกิลด์หลักๆ ทั้งหลายอีกด้วย เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าร่วมทีมถ้าผู้เล่นนั้นมีความขัดแย้งกับ วอร์สปิริตฮอล์.
ถว่าทีมชนิดนี้ที่รวมกิลด์หลักเข้าด้วยกันแบบนี้ มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง เพราะว่าทุกคนเป็นแกนหลักของกิลด์ และเคยเข้าการต่อสู้แบบทีมมาหลายครั้ง การร่วมมือกันทุกรูปแบบจึงเป็นไปได้ง่านกว่าเดิม แต่ผู้เล่นระดับเทพที่กระจายตัวกันไป อย่าง ไนท์คูเออร์ และ พาลาดินแห่งการรักษา นั้นมีบุคลิกเป้นของตนเอง ซึ่งทำให้พวกเขายากที่จะการควบคุม
เว้นจากผู้เล่น 15 คนจากกิลดฺ์หลัก ยังมีผู้เล่นอีกเพียง 4 คนที่ไม่มีชื่อนำหน้าของกิลด์ พวกเขาคือ พาลาดินแห่งการรักษา เหลาซวี ไนท์คูเออร์ และ วัยรุ่นคนหนึ่งที่หลบอยู่ในมุมและแอบมองไปที่ ซื๋ออี้ เขาคือ นักธนูหนุ่ม
นักธนูหนุ่มคนนั้นไม่แสดงของเขาให้เห็น แต่ถ้าเสี่ยวเฟิงอยู่บนหน้าจอ เสี่ยวเฟิงก็อาจจะจำเขาได้ ชายหนุ่มคนนี้เป็นนักธนูที่ ‘มีความสุขมาก’ กับเสี่ยวเฟิงในตอนที่เขาทำภารกิจสัตว์เลี้ยง
“เทพองค์ที่สิบเจ็ด ยังไงคุณก็ยังเป็นผู้ชาย ถ้าคุณอยากมองคุณก็มองไปที่มันตรงๆ คุณแค่มองไปด้านบนของกระดานและมองมันชัดๆ ไปเลยสิ คุณจะมาแอบมองอยู่ตรงนี้เทำไม?”
ชายคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความทุเรศ และมีชื่อ ซอด ออฟ ไดนาสตี้ อยู่บนศรีษะของเขา เดินเข้าไปหาผู้เล่นนักธนูและจับไหล่ของเขาแล้วพูดขึ้น
“ฉันไม่ได้แอบมอง บ้าเอ้ย!! ”
ผู้เล่นนักธนูหนุ่มพูดขึ้น เมื่อเขาตกใจและผลักมือของลุงชั่วคนนั้นออกไป
ดูเหมือนว่า ซื๋ออี้ จะได้ยินมาจากด้านหลัง เธอหันหลังมายิ้มให้กับนักธนูหนุ่ม และเสน่ห์ที่เหย่าหยวยใจก็เผยออกมาตามธรรมชาติ แต่เธอก็หันกลับไป
ใบหน้าของ นักธนูหนุ่มแดงก่ำในทันที และเขาก็รีบหันหน้าหลบธอ
“โอ้ ฉันไม่คิดว่า เทพเจ้าอายุ 17 ปี จะใช้ชื่อจาก นักธนูหนุ่มอายุ 17 ปีที่อยากนอนกับพระ เขาควรจะเป็นเด็กหนุ่มที่บริสุทธ์ โอ้”
ลุงที่ชั่วช้า ซอด ออฟ ไดนาสตี้ นั้นประหลาดใจอย่างมาก แล้วก็มีเสียงดูดน้ำลายออกมาจากปากของเขา
นักธนูหนุ่มคนนี้ ก็น่าจะเป็น เทพที่อยู่ใน หอเกียติยศเช่นกัน! ก็คือ นักธนูอายุ 17 ที่อยากนอนกับพระคนนั้น! แต่คนอื่นๆ ทุกคนกลับเรียกเขาว่า เทพเจ้าเองค์ที่สิบเจ็ด
สิบเจ็ด นั้นกลัว ซอด ออฟ ไดนาสตี้ ชายผู้ชั่วช้า อย่างเห็นได้ชัด เขาย้ายไปนั้งอีกที่หนึ่ง และเลิกสนใจ
ไนท์คูเออร์ ก็กำลังหลบอยู่ในมุมเช่นกัน เธอเป็น มือสังหารชาวจีนคนแรกในสายตาของผู้เล่นทั่วไป เธอไม่ได้ขยับ ถ้าเธอขยับมันจะเป็นการโจมตีที่อันตรายที่สุด
ความจริงแล้ว ไนท์คูเออร์ จะเป็นแบบนี้เมื่อเธออยู่ต่อหน้าคนแปลกหน้า เธอซ่อนอยู่เงียบๆ แต่ตอนนี้เธอกำลังมองไปรอบๆ และคอยมองดู จนเธอรู้ว่าทุกคนมาถึงกันหมดแล้ว ยกเว้น เสี่ยวเฟิง เธอรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย
แม้ว่าเธออยากจะส่งข้อความไปหา เสี่ยวเฟิง เธอก็ไม่ได้ส่งมันออกไปเพราะเธอรู้ถึงความแข็งแกร่งของเขาดี ทีมทีมนี้ ไม่ได้เข้าร่วมแบบอิสระเท่าที่เธอรู้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะรู้
แม้ว่าเธอจะมีที่สำหรับผู้เล่นที่มีไว้ผ่านๆ มันก็ได้ถูกมอบให้กับ โรสที่อยู่ใกล้กับเธอ ไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่สามาถนำคนอื่นมาเข้ามาได้อีก
โรส คลุมตัวเธอไว้ด้วยชุดไหมพรมหิมะและยืนอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดอะไรออกมาเลย เหมือนกับว่าเธอได้เจนโลกไปแล้ว และให้บรรยากาศที่เต็มไปด้วนควันฝุ่นและความสละสลวยออกมา
ด้วยความที่เธอเป็นหนึ่งในผู้เล่นหญิง ในทีม โรสก็ดึงดูดความสนใจมาพอควร แต่เธอไม่สนใจมันเท่าไรนัก ท่าทางที่ดูเย็นชาของเธอก็ทำหน้าที่เป็นกำแพงขวางความคิดที่จะเข้ามาทักทายเธอของผู้เล่นคนอื่น อย่างมากที่สุดก็พวกเขาแค่กล่าวคำทักทายกับเธอ ถึงจะเป็นแบบนี้ ไนท์คูเออร์ ผู้ที่ได่งดัง ก็มาที่นี่ พร้อมกันกับเธอ ไนท์คูเออร์ ตอนนี้อยู่ในอันดับสองของเขตฮวาเซีย และแซงหน้า ท่านมือดาบ ไปแล้ว ผู้คนจึงประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของเธอมาก
ความจริงแล้ว เหตุที่ทำไม โรส ถึงไม่ทำตามฝูงชน ที่นอกเหนือจากบุคลิกที่ดูเย็นชาของเธอ นั้นอีกสิ่งหนึ่ง เธอเป็นผู้เล่นที่มีไว้เฉยๆ ที่ถูก ไนท์คูเออร์ พามาด้วย ไม่ใช้เพราะว่าความแข็งแกร่งของเธอที่ทำให้ ไนท์คูเออร์ พาเธอมา แต่เพราะเธอรู้สึกได้ว่า ตัวตนนี้นั้นดูต่ำต้อยกว่า ดังนั้นเธอจึงดูจริงใจและวง่า เมื่อเธอได้เป็นส่วนร่วมของทีมบุกเบิก แม้ว่าผู้คนเหล่านี้จะเป็นผู้เล่นแกนหลักจากกิลด์หลัก พวกเขาก็ยังมีประโยชนต่อ มิดซัมเมอร์กิลด์ ในการพัฒนาต่อไปในอนาคต