ปัญหาพื้นฐานที่ยากเย็นข้างหน้าเหล่านี้ มันมิได้สร้างความยากเย็นแก่มู่เฉียนซีเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นแล้วนางจึงได้ผ่านมาอย่างราบรื่นตลอดทาง

เขาวงกตใต้ดินแห่งนี้ไม่เล็กเลย ตอนนี้นางยังเดินไปไม่ถึงพื้นที่หนึ่งในสิบของมันเลยด้วยซ้ำ

ด้านหน้าไม่มีหนทางให้ไปต่อ! มีเพียงกำแพงเท่านั้น

มู่เฉียนซีตะลึงค้าง หรือว่าตำแหน่งไม่ถูกต้อง!

ในตอนที่นางกำลังจะหันหลังจากไปนี่เอง กำแพงที่อยู่เบื้องหน้าก็ได้เริ่มขยับตัวในทันใด และหม้อยาใบหนึ่งก็ถูกส่งออกมา

ภายในหม้อนั้นยังมีเศษซากที่เหลืออยู่จากการสกัดยาเม็ด

ตามลักษณะของการสอบในครั้งนี้ มู่เฉียนซีก็รู้ได้พอประมาณแล้วว่าจะต้องถูกทดสอบอะไร?

“ดูจากเศษซากที่หลงเหลืออยู่ คงให้วิเคราะห์ว่ายาที่ปรุงนั้นคือยาอะไร จากนั้นก็ให้ปรุงออกมาหม้อหนึ่ง”

มู่เฉียนซีได้หยิบสิ่งที่เหลือตกค้างในหม้อนั้นออกมาวิเคราะห์และก็เกิดความคิดขึ้นมาในใจของนาง สมุนไพรวิญญาณทั่วไปเหล่านี้ เป็นสิ่งที่นักปรุงยาผู้ชำนาญการล้วนแต่มีพกติดตัว

นางได้นำสมุนไพรวิญญาณออกมาและเริ่มปรุงยา

หลังจากที่สกัดยาสำเร็จแล้ว หม้อยาใบนั้นก็ได้นำยาที่มู่เฉียนซีสกัดออกมากลับเข้าไปในกำแพงนั้นด้วย

ไม่นานนักกำแพงที่อยู่ด้านข้างก็ได้หายไปและเผยเส้นทางเส้นหนึ่งให้มู่เฉียนซีได้เห็น

และจากนั้นก็เป็นการทดสอบที่ซ้ำซากเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าระดับความยากของชนิดยานั้นมีความยากมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็เท่านั้นเอง

ยิ่งจวินโม่ซีตะลุยเข้าไปในเขาวงกตมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความรู้สึกที่อยากจะทำลายมันมากขึ้นไปเท่านั้น เขากำหมัดเอาไว้แน่น……

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะต้องอดทนเอาไว้

ถ้าหากว่าเขาลงมือครั้งใหญ่ในที่แห่งนี้ มันจะสร้างปัญหาที่วุ่นวายให้แก่สาวน้อย

เขาจะต้องรอให้สาวน้อยมาถึงเพื่อจะปรึกษากันให้ดี

เดิมทีจวินโม่ซีสามารถผ่านด่านไปได้อย่างราบรื่น แต่ในตอนนี้เขากลับทำมันอย่างเชื่องช้าเพื่อที่จะรอให้มู่เฉียนซีมาถึง

ในเขาวงกตใต้ดินแห่งนี้มีทางออกอยู่ไม่น้อย หากคิดที่จะหานางให้เจอก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

มู่เฉียนซีไม่รู้ว่าจวินโม่ซีกำลังรอนางอยู่ นางจึงได้ตะลุยฝ่าด่านไปด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด

เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ที่อยู่ในเขาวงกตที่โชคดีก็ได้มาพบกันเข้าและผ่านด่านไปด้วยกัน

จวินโม่ซีได้พบเข้ากับซือคงชัวในทางแคบ ๆ ซือคงชัวกล่าว “ศิษย์น้องมู่ ช่างบังเอิญเสียจริง! นึกไม่ถึงเลยว่าจะเจอเจ้าที่นี่”

สีหน้าของจวินโม่ซีมืดครึ้มลง “ตอนนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี ทางที่ดีเจ้าอย่ามาทำให้ข้าโมโห”

ซือคงชัวกล่าว “ไอ้หนู อารมณ์ของเจ้านี่นับวันมันจะมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ อย่าได้คิดว่าเจ้าเป็นมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หนึ่งแล้วข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้”

“เจ้าก็ลองดูสิ!”

ตอนนี้ในใจของจวินโม่ซีเต็มไปด้วยเพลิงที่ลุกโชน ซือคงชัวพุ่งเข้ามาหาเรื่องเจ็บตัวถึงที่ เขาเองก็รู้สึกคันไม้คันมืออยู่บ้าง

“ศิษย์พี่หลิว พวกเราสองคนมาจัดการไอ้หนูนี่ด้วยกัน เราจะต้องไม่ให้เขาผ่านการสอบในรอบแรกนี้ไปได้” ซือคงชัวกล่าว

“ได้! แต่เจ้าจะต้องให้ค่าตอบแทนข้านะ” ศิษย์พี่หลิวกล่าว

ซือคงชัวยิ้มแล้วกล่าว “เรื่องนั้นสบายใจได้!”

ทันใดนั้น หมอกพิษก็ได้ค่อย ๆ ปกคลุมไปทั่วบริเวณอย่างช้า ๆ สิ่งที่ศิษย์พี่หลิวผู้นี้ชำนาญที่สุดแน่นอนว่าคือการใช้พิษ”

จวินโม่ซีกล่าว “ลูกเล่นกิ๊กก๊อกเช่นนี้ยังกล้าที่เอามาเล่นต่อหน้าข้าอีก ช่างรนหาที่ตายเสียจริง”

เมื่อจวินโม่ซีลงมือ พิษที่รุนแรงกว่านั้นก็ได้ม้วนตัวเข้าไปหาพวกเขา “แค่ก แค่ก แค่ก…..”

ใบหน้าของทั้งสองคนนั้นกลายเป็นดำสนิท ในตอนนี้เองก็เกิดเสียงสั่นสะเทือนขึ้นจากใต้ดิน

“การใช้วิชามารในการสอบจะถูกลงโทษด้วยการขังคุกใต้ดิน”

ครืน! จวินโม่ซีได้หายตัวไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา

จวินโม่ซีที่ตกลงไปด้านล่างนั้นโกรธจัด “ไอ้เฒ่าแสร้งทำเป็นมีคุณธรรม ตนเองมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพหม้อสามอสูรไว้ในครอบครอง แต่กลับบอกว่าพิษเป็นวิชามาร”

ปัง!

จวินโม่ซีหายไปแล้ว เขาถูกขังเอาไว้และไม่รู้ว่าจะสามารถออกมาได้หรือไม่

ซือคงชัวกล่าว “นึกไม่ถึงเลยว่าจะจัดการเขาได้ง่ายดายเช่นนี้ คราวนี้เขาไม่มีทางที่จะผ่านการทดสอบได้อย่างแน่นอน!”

ครืน! กำแพงด้านข้างแห่งหนึ่งได้ถูกเปิดออก มู่เฉียนซีปรากฏตัวขึ้นที่ต่อหน้าซือคงชัว

เมื่อซือคงชัวเห็นมู่เฉียนซีปรากฏตัวขึ้นด้านหน้า ดวงตาของเขาก็ฉายแววสว่างวาบออกมา

เขายิ้มอย่างสดใสแล้วกล่าว “ศิษย์น้อง ดูเหมือนว่าพวกเราจะมีลิขิตต้องกันนัก! ข้าจึงได้มาพบกับเจ้าเข้าที่นี่”

นึกไม่ถึงเลยว่าผู้ที่ได้เจอเป็นคนแรกในเขาวงกตใต้ดินแห่งนี้จะเป็นเจ้าโง่ซือคงชัว อากาศในบริเวณนั้นยังคงมีกลิ่นอายของพิษหลงเหลืออยู่

กลิ่นอายพิษที่ตกค้างอยู่ในอากาศนั้นมีอยู่สองชนิด ชนิดแรกเป็นพิษที่เลวร้ายเป็นอย่างมากแต่มันก็มีคุณภาพที่ต่ำเป็นอย่างมาก ส่วนอีกชนิดหนึ่งกลับเป็นพิษที่มีคุณภาพอย่างดี พิษชนิดนี้เป็นของจวินโม่ซี

แต่จวินโม่ซีไม่ได้อยู่ที่นี่?

มู่เฉียนซีมองไปทางซือคงชัวแล้วกล่าว “ศิษย์พี่ของข้าอยู่ที่ไหน?”

ซือคงชัวกล่าว “เขาวงกตใหญ่โตเสียขนาดนี้ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าศิษย์น้องมู่ไปหนใด?”

“ก่อนหน้านี้ไม่นานเขายังอยู่ที่นี่ นายน้อยจะหลอกข้าต่อไปอีกจริง ๆ หรือ?”

ซือคงเชวตะลึงค้าง นึกไม่ถึงเลยว่านางจะคุ้นเคยกับเจ้านั่นเช่นนี้

เจ้าหนูนั่นทิ้งร่องรอยของพิษเอาไว้เพียงเล็กน้อยแต่นางกลับรู้เข้าเสีย

ซือคงชัวกล่าว “เกิดเรื่องขึ้นกับศิษย์น้องมู่เล็กน้อย ข้าไม่อยากที่จะให้ศิษย์น้องกังวลใจจึงตั้งใจที่จะไม่บอกเจ้าไป”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“เรื่องมันเป็นเช่นนี้ ศิษย์น้องมู่เกิดหุนหันพลันแล่นชั่วขณะเลยลงมือกับข้าและศิษย์พี่หลิว ปรากฏว่าเขาได้ถูกขังเอาไว้ที่ได้ใต้ดินเพื่อเป็นการลงโทษ เกรงว่าคงจะออกมาไม่ได้แล้ว ต่อจากนี้ไปศิษย์น้องก็มาร่วมเดินทางไปกับข้าและศิษย์พี่หลิวด้วยกัน เราจะต้องออกไปจากเขาวงกตได้เร็วที่สุดอย่างแน่นอน”

มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นก็หมายความว่า การใช้พิษต่อผู้อื่นจะถูกตัดสินเป็นการใช้วิชามารและถูกขังไว้ในคุกได้ดิน?”

ซือคงชัวตอบ “ใช่!”

“เช่นนั้นก็ง่ายแล้ว! มู่เฉียนซีสะบัดมือเบา ๆ

ศิษย์พี่หลิวตะโกนขึ้น “ซือคงชัว ระวัง! รีบหลบไป!”

ปัง!

สองคนนั้นถูกปกคลุมไปด้วยพิษของมู่เฉียนซี ซือคงชัวกล่าวด้วยความตกตะลึง “เจ้า…ศิษย์น้อง เจ้ากล้าที่จะใช้พิษกับพวกเรา เจ้า…..”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญา “ช่วยไม่ได้ ข้าต้องการที่จะไปช่วยศิษย์พี่ จึงต้องลำบากพวกท่านทั้งสองหน่อยแล้ว”

ในเมื่อการใช้พิษจะถูกลงโทษ พิษที่มู่เฉียนซีปล่อยไปนั้นจึงเป็นชนิดที่รุนแรงอย่างมาก

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เฉียนซี ซือคงชัวก็โกรธเสียจนแทบกระอักเลือด และสีหน้าของศิษย์พี่หลิวผู้นั้นเองก็หม่นคล้ำอย่างที่สุด

พิษนี้พวกเขาไม่อาจที่จะแก้มันได้เลย พวกเขาชาไปทั้งตัวจนขยับไม่ได้ราวกับว่ามีมดเป็นพันเป็นหมื่นตัวมาไต่อยู่บนร่างของพวกเขา มันเจ็บปวดอย่างที่สุด

“ใช้วิชามารทำร้ายศิษย์ร่วมสำนักในการสอบ การลงโทษคือถูกขังอยู่ที่ใต้ดิน”

ครืน! เสียงหนึ่งดังขึ้น มู่เฉียนซีได้ตกไปที่คุกใต้ดิน

“น่าขยะแขยง!” ซือคงชัวมองเงาร่างมู่เฉียนซีที่ตกลงไปพร้อมตะโกนออกมา

ถ้านางผู้หญิงโง่ผู้นี้ลงไปด้านล่างแล้ว เช่นนั้นมิใช่ว่าพลาดโอกาสในการเป็นศิษย์คนสนิทของท่านผู้เฒ่าไปหรือ?

เห็น ๆ อยู่ว่านางมีโอกาสที่จะได้เป็นศิษย์คนสนิทของผู้เฒ่ามากที่สุด แต่กลับทิ้งมันไปเพื่อมู่เฉียนโม่เพียงผู้เดียว

ปึก!

สิ่งที่เรียกว่าคุกใต้ดินนั้นก็คือหลุมพิษแห่งหนึ่ง เพราะว่าพวกเขาได้ใช้พิษ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกโยนลงหลุมพิษไปเพื่อลงโทษ

ในนั้นมีสิ่งที่เป็นพิษร้ายแรงอยู่ หากไม่ระวังแม้เพียงนิดเดียวก็จะไม่มีเหลือแม้เพียงซากกระดูก

ที่แห่งนี้สิถึงจะเรียกว่าเงามืดในใจของผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดา ทันทีที่ไม่ระวังก็จะต้องพิษนานาชนิดเข้าไป

แต่การที่ได้รับมรดกมาจากผู้เฒ่าประหลาด สำหรับพิษที่มาจากหม้อพิษสามอสูรแล้ว มู่เฉียนซีคงสามารถที่จะรับมือกับมันได้

แต่จวินโม่ซี….

แม้ว่าจวินโม่ซีจะเป็นยอดปรมาจารย์นักปรุงยาผู้หนึ่ง แต่ที่นี่ก็สามารถสร้างปัญหาให้แก่เขาได้ไม่น้อยเลย

เงาร่างสีม่วงพุ่งผ่านด้านในกรงขังใต้ดินอันมืดมิด มู่เฉียนซีได้พบร่างที่โงนเงนร่างหนึ่งตรงประตูทางออกของกรงขังใต้ดิน จวินโม่ซีกำลังมีสติที่สับสน

เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าหมอนี่ ถูกลอบทำร้าย

จวินโม่ซีเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยเงาหนึ่งเดินเข้ามา เขาก็กล่าวขึ้น “สาวน้อย….”

“บ้าจริง พิษที่นี่ยังสร้างภาพลวงตาได้อีก! ข้าอยากจะบอกเจ้าว่า…..”

“ข้า…ข้าอยากที่จะทำลายเขาวงกตนี้ทิ้งเสีย ไอ้หมอนั่นมันใจดำเสียกว่าตาเฒ่าประหลาดนั่นเสียอีก จะต้องมีหนทางอย่างแน่นอน”