บทที่ 1471 ต้องการให้คุณช่วย
สองวันถัดมา
หลังจากกองกำลังที่ประเทศจีนสืบค้นสถานการณ์ของเยี่ยหวันหวั่นจนกระจ่างชัดหมดก็พาผู้หญิงคนหนึ่งมายังรัฐอิสระ
ในโถงประชุม ผู้หญิงคนนั้นเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด มองสำรวจรอบด้านไม่หยุด
“ฉันได้ยินมาว่าคุณคืออาจารย์ของเยี่ยหวันหวั่น” หลี่ซือมองหญิงวัยกลางคนคนนั้นพลางเอ่ยถาม
“ใช่ค่ะ…ฉันมีนักเรียนคนหนึ่งชื่อเยี่ยหวันหวั่น…พวกคุณ เป็นใครกันแน่ แล้วที่นี่คือที่ไหน…” หญิงสาวมีสีหน้าสับสน
“หึๆ ไม่ต้องเครียดไป ตอบคำถามฉันสักสองสามคำถามก่อน คุณชื่ออะไร” หลี่ซือถามอีก
หญิงสาวกลืนน้ำลาย คงเพราะดูออกว่าคนพวกนี้รับมือยากจึงไม่กล้าปิดบัง ตอบอย่างตะกุกตะกักไป “ฉะ…ฉันชื่อเหลียงลี่หวา”
เหลียงลี่หวาเป็นอาจารย์ประจำชั้นสมัยมัธยมปลายของเยี่ยหวันหวั่น สองวันก่อนเธอถูกคนตามรอยอย่างยากอธิบาย จากนั้นอีกฝ่ายก็ตีเธอจนสลบ พอฟื้นขึ้นมาก็มาอยู่ที่นี่แล้ว
“คุณเหลียงไม่ต้องกังวล…” หลี่ซือเอ่ยด้วยท่าทางดูอ่อนโยน “พวกเราไม่คิดสร้างความลำบากให้คุณเหลียง แค่มีเรื่องอยากให้คุณช่วยเท่านั้น”
“ชะ…ช่วย?”
“ถูกต้อง เด็กสาวชื่อเยี่ยหวันหวั่นที่คุณว่าตอนนี้อยู่ในองค์กรของพวกเรา เป็นหัวหน้าขององค์กรพวกเรา แต่ว่าพวกเราสงสัยว่าเธอสวมรอยมา หวังอยากให้คุณเหลียงบอกตัวตนที่แท้จริงของเยี่ยหวันหวั่นคนนี้กับพวกเราตามตรงก็พอ…” หลี่ซือวางแผนไว้แล้ว ใช้ไม้อ่อนก่อน ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ร่วมมือเขาย่อมต้องใช้ทุกวิถีทางจัดการเธอ
หลังรู้ที่มาที่ไปของเรื่องราว เหลียงลี่หวาก็มีสีหน้าเปี่ยมความตกใจ ยายเด็กเยี่ยหวันหวั่นนี่ก็ใจกล้าไปหน่อยแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าสวมร้อยเป็นหัวหน้าของกองกำลังหนึ่ง นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายเหรอ!
แค่ดูก็รู้ว่ากองกำลังนี้ล้อเล่นด้วยไม่ได้ง่ายๆ ยัยเด็กโง่เยี่ยหวันหวั่นที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยจะเป็นหัวหน้าของกองกำลังอย่างนี้ได้ยังไงกัน
ยัยเด็กสมควรตาย ตัวเองอยากหาเรื่องตายก็แล้วไป แต่นี่ดันลากเธอมาพัวพันด้วย…
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งจบการศึกษาไม่นาน เรื่องที่เธอแอบคบชู้กับผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่รู้ถูกใครเปิดโปง เรื่องนี้พวกเขากระทำเป็นความลับขนาดนี้ ทำไมถึงยังมีคนรู้ได้
เธอสงสัยแปดในสิบส่วนว่าต้องเป็นยัยเด็กสมควรตายนี่ที่เปิดเผยความลับ!
“คุณเหลียง ตราบใดที่คุณให้การเป็นพยานได้ ฉันก็รับประกันความปลอดภัยของคุณได้ หลังจบเรื่องนี้จะส่งคุณกลับประเทศจีนแถมยังจะให้อีกครึ่งชีวิตคุณสุขสบายไร้กังวล” หลี่ซือยิ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงราวเปี่ยมอัธยาศัย
ได้ยินคำพูดของหลี่ซือ ในดวงตาของเหลียงลี่หวาก็วาบประกายสายเจิดจ้าสายหนึ่ง
พันธมิตรอู๋เว่ยอะไรนี่ไร้ความแค้นเคืองกับเธอ ตัวเธอขอแค่ทำตามที่พวกเขาพูด พวกเขาก็ไม่น่าจะลงมือกับเธอ มิหนำซ้ำ บางทีอาจยังได้ผลประโยชน์บางอย่างด้วย…
หลังครุ่นคิดเล็กน้อย เหลียงลี่หวาก็พยักหน้าตอบรับอย่างไม่ลังเลแล้วเอ่ยปาก “ยัยเด็กเยี่ยหวันหวั่นนั่น ตอนอยู่โรงเรียนไม่ใช่ตัวดีอะไร ทั้งวันแต่งตัวไม่เข้าท่า ไม่เรียนไม่เก่งวิชา แถมอายุยังน้อยแต่ยั่วผู้ชายไปทั่ว…ครั้งนี้ยังถึงกับกล้าสวมรอยเป็นหัวหน้ากองกำลังอะไรนั้น ช่างขายหน้าโรงเรียนของพวกเราจริงๆ…พวกคุณวางใจได้ ฉันในฐานะอาจารย์คนหนึ่ง จะต้องช่วยพวกคุณเป็นพยานพิสูจน์เธอ เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงอันชั่วร้ายของเธอให้แน่นอน!”
“ดี คุณเหลียง คุณพูดประโยคนี้พวกฉันก็วางใจแล้ว” หลี่ซือพยักหน้าอย่างพอใจเต็มเปี่ยม พูดจบเขาก็เอ่ยกับลูกน้อง “ไปบอกผู้อาวุโสกับเบื้องบนทั้งหมดว่าฉันหาหลักฐานที่ผู้หญิงคนนั้นสวมรอบเป็นผู้นำพันธมิตรเจอแล้ว!”
“ครับ!” ได้ยินดังนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งก็พยักหน้าแล้วหันตัวจากไป
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
เบื้องบนทุกคนได้รับข่าวแล้วต่างก็ทยอยกันมาที่ห้องโถงประชุม
—————————————————————————————–
บทที่ 1472 มีหลักฐานหรือเปล่า
เห็นบุคคลระดับเจ้าพ่อกลุ่มใหญ่ เหลียงลี่หวาก็เงียบดุจจักจั่นฤดูหนาว ไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง
เหลียงลี่หวาไหนเลยจะเคยเห็นสถานการณ์ยิ่งใหญ่แบบนี้ อย่าว่าแต่ในความเป็นจริงเลย ต่อให้เป็นในหนังก็ไม่สมจริงขนาดนั้น…
“ผู้อาวุโสสาม คุณบอกว่าหาหลักฐานเจอแล้ว…มีหลักฐานอะไรเหรอ” ชายชราผมเงินค้ำไม่เท้าเอ่ยเสียงนิ่งเรียบ
ถึงรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นสวมรอยมา แต่ใครก็ไม่อยากให้ฝ่ายอื่นเจอหลักฐาน ผู้อาวุโสสามหลี่ซือเจอหลักฐานแล้ว งั้นตามกฎที่พวกเขาตกลงกันก่อนหน้านี้ หลี่ซือก็จะได้ไต่ขึ้นบัลลังก์พันธมิตรอู๋เว่ย ไม่ว่าใครก็ไม่อาจคัดค้าน
“หึๆ…ทุกท่านไม่ต้องรีบร้อน…” ผู้อาวุโสสามหลี่ซือหัวเราะเสียงเบา “ท่านี้คือครูประจำชั้นมัธยมปลายตอนที่ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยพวกเราเข้าเรียนที่โรงเรียนประเทศจีน ทุกท่านถามเธอได้ไม่ต้องเกรงใจ”
เมื่อสิ้นเสียงของหลี่ซือ สายตาของทุกคนก็พากันมองที่ตัวของเหลียงลี่หวา
“บอกมา นี่มันเรื่องยังไง!”
พลังน่าเกรงขามของคนเบื้องสูงทำให้เหลียงลี่หวาพลันตัวสั่น แค่เพียงสายตาของชายผมเงิน เหงื่อของเหลียงลี่หวาก็ชุ่มโชกทั่วร่างแล้ว
แต่ในสถานการณ์อย่างนี้จะลนลานไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นเธออาจรักษาแม้แต่ชีวิตน้อยๆ ไว้ไม่อยู่…
คนพวกนี้แค่ดูก็รู้ว่าเป็นไม่ใช่คนมีคุณธรรมอะไร
“ทุกท่าน…ฉันขอบอกกับทุกท่านนะคะ ผู้นำพันธมิตรคนนั้นของพวกคุณตอนนี้เป็นตัวปลอม ไม่ใช่ตัวจริงแต่แรกแล้ว!” เหลียงลี่หวาเก็บอารมณ์ พยายามให้ตัวเองใจเย็นลงสุดความสามารถก่อนตอบผู้อาวุโสที่ถามคำถามเมื่อกี้
ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นเอ่ยปาก เหลียงลี่หวาพูดต่อ “ผู้นำตอนนี้ของพวกคุณ ตัวจริงของเธอชื่อเยี่ยหวันหวั่น เป็นคนจีน!”
ได้ยินดังนั้น เบื้องบนไม่น้อยต่างหน้าเปลี่ยนสี
ในพันธมิตรอู๋เว่ยก็ใช่ว่าทุกคนล้วนสงสัยเยี่ยหวันหวั่น ยังมีเบื้องบนบางส่วนที่สนับสนุนเยี่ยหวันหวั่นอย่างยิ่ง คิดว่าเยี่ยหวันหวั่นก็คือผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยที่แท้จริงไป๋เฟิง เหมือนอย่างชิวสุ่ยกับเป่ยโต่ว
แต่วันนี้หลังได้ยินคำพูดของเหลียงลี่หวา…
“พูดแบบนี้มีหลักฐานเหรอ!” ชายชราเชิ้ตน้ำเงินมีสีหน้ามืดทึม
“แน่นอนว่าต้องมีหลักฐาน!” เหลียงลี่หวาพยักหน้ารัวเอ่ย “ฉันเป็นครูประจำชั้นมัธยมปลายปีสามของโรงเรียนมัธยมชิงเหอที่ประเทศจีน ตอนนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็คือนักเรียนที่ฉันดูแล…ฉันจะบอกพวกคุณ เยี่ยหวันหวั่นสวมรอบเป็นผู้นำพวกคุณเรื่องอย่างนี้เธอทำออกมาได้แน่นอน!
พ่อของเยี่ยหวันหวั่นคือผีพนัน ติดหนี้นอกระบบก้อนโต พี่ชายก็เป็นนักเลงหัวจรดเท้า ไม่นานนี้ยังถูกจับขังข้อหาฆ่าคนด้วย…ยังมีอีกนะ เยี่ยหวันหวั่นในโรงเรียนยิ่งไม่ใช่ตัวดีอะไร เป็นนังร่านชอบขโมยของ…แล้วก็เป็นทอมบอย ไม่แน่ว่ายังเคยทำขายตัวมาก่อน…”
เวลานั้นคิ้วของเบื้องบนหลายคนเริ่มขมวดน้อยๆ พวกเขาอยากได้หลักฐาน ไม่ใช่มาฟังผู้หญิงคนนี้พล่ามไร้สาระ
“ฉันถามว่า…มีหลักฐานหรือเปล่า!” ชายชราเอ่ยเสียงเย็น
“มีค่ะ! ฉันมีหลักฐาน!” เหลียงลี่หวาหยิบมือถืออกมาเปิดอัลบั้มมือถือก่อนจะส่งไปบนโต๊ะประชุมทันที
“ทุกท่านลองดู นี่ก็คือภาพจบการศึกษาหลังจบมัธยมปลายปีสามของเยี่ยหวันหวั่น ไม่ได้ผ่านโฟโตชอปมาแน่นอน พวกคุณจะตรวจสอบตามใจก็ได้! แล้วก็ที่ฉันพูดเมื่อกี้นี้ พวกคุณไปตรวจสอบดูได้เลย ฉันไม่ได้พูดโกหกสักประโยค!” เหลียงลี่หวาชี้เยี่ยหวันหวั่นพร้อมรีบร้อนเอ่ยปาก
ทุกคนมองไปที่อัลบั้มมือถือทันที
เมื่อพิจารณาเบื้องบนฝ่ายที่สนับสนุนเยี่ยหวันหวั่นก็หน้าดำคล้ำโดยสมบูรณ์