“ถ้าเจ้าตัวนี้ยังโหดขนาดนี้! ตัวสุดท้ายนี่ไม่โจมตีเราครั้งเดียวตายเลยรึไงเนี่ย” แม้แต่ไนฟที่มีการป้งอกันที่แข็งแกร่งก็ยังพูดดอกมาด้วยความไม่มั่นใจ
“เรามีกันตั้ง 20 คนก็คงชิลๆแหละมั้ง” ศาสตราสงครามแตะไหล่ของไนฟแล้วพูดให้กำลังใจ
ถึงไนฟจะยังอึ้งอยู่แต่ไม่มีเวลาให้ลังเลแล้ว พวกเขาจึงรีบเข้าโจมตีทันที
“ให้บัฟแลัวรีบโจมตีบอสเร็ว!”
“ระยะการโจมตีของบอสยังไม่ชัดเจนเพราะมันขยับไม่ได้ มันคงจะโจมตีใส่คนที่อยู่ใกล้ที่สุด เพราะฉะนั้นระวังด้วย”
“ระยะไม่แน่นอนงั้นเหรอ? งั้นพวกแนวหน้าให้เข้าโจมตีพร้อมๆกัน แล้วพยายามยืนอยู่ห่างๆกันไว้” เหลาฉีพูดออกมา
ทั้งไนท์คูเออร์ ศาสตราสงคราม ไนฟและลูกน้องอขงเขาพยัหหน้ารับแล้วเข้าโจมตีอย่างระมัดระวัง ผู้ลเ่นทั้ง 6 ต่างล้อมรอบตัวบอสเอาไว้แล้วเข้าโจมตีจากทุกทิศทาง
แล้วเวลาเดียวกันพวกเสี่ยวเฟิลและคนที่เหลือต่างจับตาดูการโจมตีของบอส
ร่างของมันนั้นเหมือนกับรากของต้นไม้ที่แตกแขนงออกมาเหมือนเส้นเลือด แล้วในตอนนั้นร่างของมันก็เริ่มขยับแล้วฟาดใส่เหล่าผู้เล่นที่พุ่งเข้าไปโจมตีราวกับแส้
พวกแนวหน้านั้นล่าถอยออกมาเพื่อหลบการโจมตีทันที การโจมตีนั้นรุนแรงเกินไปพวกเขาคงจะไม่สามารถสู้ตรงๆได้ แม้แต่ไนท์คูเออร์ก็ต้องมีสมาธิกับการหลบหลีกจนแทบไม่ได้โจมตีเลย แต่เธอก็ยังทำความเสียหายได้สูงอยู่ดี
“โหว! ความเสียหายยังน่าทึ่งเหมือนเดิมเลย!”
“สมแล้วที่เป็นผู้เล่นระดับสูง!”
พลังป้องกันของรากไม้นั้นสูงมากจนความเสียปกติอยู่ที่ 10 หรือ 20 เท่านั้นพวกนักรบสายป้องกันไม่สามารถทำความเสียหายได้เลย แม้แต่ศาสตราสงครามที่เป็นนักรบสายโจมตีก็ยังทำความเสียหายได้ลำบาก อิมมอทัลเฟลมก็ทำความเสียหายได้แค่ 30 แม้ว่าจะได้รับบัฟจากเสี่ยวเฟิงแล้ว เป็นเพราะพลังป้องกันธาตุไฟของบอส
พวกเขาเลยฮึกเหิมที่จะทำภารกิจให้สำเร็จมากยิ่งขึ้น
พาลาดินแห่งการรักษามองไนท์คูเออร์ด้วยความประทับใจ เดิมทีเขาเป็นคลาสนักบวชแล้วเปลี่ยนคลาสของตัวเองมาเป็นพาลาดิน ทำให้เขามีพลังโจมตีที่สูงและการป้องกันที่ดีมากพอสมควร
เขาเลยแปลกใจมากที่ไนท์คูเออร์ทำความเสียหายได้เกินกว่า 100 หน่วย หมายความว่าเขาจะต้องมีพลังโจมตีมากกว่า 250 เท่านั้น ถึงจะบอกว่าได้บัฟจากนักบวชมาแล้วก็ตาม แต่พลังโจมตีส่วนตัวของเธอก็คงไม่ธรรมดาเหมือนกัน!
เสี่ยวเฟิงยังคงแอบอยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ เขาเลยมีเวลาที่จะหาข้อมูลจากเว็บไซต์ของเกม
“นี่! ช่วยจริงจังกว่านี้ได้ไหมเนี่ย?”
ซื๋ออี๋ที่ยืนอยู่ข้างๆ กังวลเกี่ยวกับคนที่อยู่ในแนวหน้า เธอนั้นใช้เสริมอาวุธและพรแห่งชีวิตทันทีที่เห็นว่ามันสามารถใช้งานได้ แต่พอเธอหันมาเห็นเสี่ยวเฟิงที่นั่งชิลๆอยู่ด้านหลังเธอก็เตือนเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“พวกเขายังไหวอยู่น่าไม่ต้องห่วงหรอก…หือ อะไรน่ะ?”
เสี่ยวเฟิลพูดอย่างสบายๆแต่ทันทีที่จบประโยคเขาก็สังเกตอะไรบางอย่างใต้เท้าและกระโดดหลบในทันที
“กร็อบ!”
รากไม้พุ่งทะลุพื้นดินที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้ทันที ดีที่ว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
ซื๋ออี๋นิ่งข้างไปทันที ขนาดว่าเป็นการโจมตีแบบทีเผลอแต่เขาก็ยังคงหลบไปได้ เธอนั้นรู้ได้ทันทีว่าเธอกับเขาฝีมือคนละระดับกัน เธอเลยเลือกที่จะไปโฟกัสกับงานของเธอแทน
“นายนี่จะเก่งเกินไปหน่อยไหมเนี่ย” ซื๋ออี๋พูดออกมาอย่างขมขื่นเมื่อเธอเห็นความสามารถของอีกฝ่ายแบบเต็มสองตา
“ปราชคนหนึ่งกล่าวไว้ว่าพ่อค้าเนื้อจะกลับกลายเป็นผู้บรรลุในตอนที่เขาวางมีดลง” เสี่ยวเฟิงพูดปรัชญาออกมาโดยยังมองพื้นอยู่
รากที่พุ่งทะลุขึ้นมานั้นใหญ่อย่างกับท่อนแขน มันแกว่งซ้ายขวาอยู่ซักพักก่อนจะหายกลับลงไปในดิน
“มองอะไรอยู่น่ะ?” ซื๋ออี๋ถามด้วยความสงสัย
“ฉันอยากรู้ว่ารากพวกนี้มันมาจากไหน” เสี่ยวเฟิงพูดอย่างราบเรียบ
“มันอยู่ใต้พื้นนะ จะไปหาเจอได้ยังไง?” ซื๋อยี๋ถามด้วยความสงสัย
“แน่นอน ก็หาด้วยสัญชาตญาณไง” เสี่ยวเฟิงยังคงมองตามพื้นต่อไป
“อย่ามาอวดเก่งหน่อยเลย จะเจอจริงๆเหรอ?” เธอก็ยังคงไม่เชื่อ
“ก็อยู่ใต้เท้านี่ไง” เสี่ยวเฟิงชี้ไปข้างหน้าใต้เท้าของเหลาฉี
“เหลาฉี? ฉันไม่เชื่อ…”ยังไม่ทันขาดคำรากไม้ก็พุ่งขึ้นจากพื้นแล้วหวดใส่เหลาฉีที่ไม่ทันระวังจนกระเด็นไป
“-113!”
เลขความเสียหายอันน่าเหลือเชื่อทำให้ตาของพวกเขาเบิกกว้าง เหลาฉีร่วงลงพื้นแล้วเสียชีวิตทันทีก่อนที่จะรู้ตัวซะอีก
เหลาฉีนั้นไม่ได้สวมชุดดีๆแบบที่เสี่ยวเฟิงมี พลังป้องกันและพลังชีวิตนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับผู้เล่นเริ่มต้นเลย
ซื๋ออี๋จ้องไปทางเหลาฉีอยู่นานกว่าจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เธอตะโกนใส่เสี่ยวเฟิงด้วยความตกใจ “ทำไมถึงไม่เตือนเขาล่ะ?”
“ฉันนึกว่าเขาจะรู้ตัวซะอีก” แม้แต่เสี่ยวเฟิงก็ยังตกใจมาก
“เขาไม่ใช่ผู้เล่นสายต่อสู้ เขาคงไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้หรอก!” ซื๋ออี๋พูดอย่างจงใจ
“เฮ้ย! เหลาฉีตายแล้ว!”
พวกผู้เล่นที่อยู่ใกล้ๆนั้นเริ่มสังเกตเห็ฯสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็ตะโกนออกมา
“ไม่ต้องห่วง ฉันยังให้คำแนะนำได้อยู่ พวกที่อยู่แถวหลังให้ระวังตัวมากกว่าเดิมด้วย เห็นชัดว่าแนวหน้ารอบนี้ไม่สามารถช่วยพวกนายได้เลย”
แต่เหลาฉีนั้นไม่ได้เลือกที่จะไปเกิดใหม่ที่ทางเข้าแต่ยังคงให้คำแนะนำกับคนอื่นๆต่อไปในสภาพที่เป็นศพอยู่อย่างงั้น
ผู้เล่นส่วนใหญ่ในนี้เป็นผู้เล่นแนวหลัง พวกเขาถึงระวังการโจมตีรอบข้างยิ่งกว่าเดิม พวกผู้เล่นที่โจมตีระยะไกลนั้นไม่เท่าไหร่ แต่พวกนักบวชยกเว้นเสี่ยวเฟิงต่างพากันตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด
“แล้วทำไมมองแบบนั้น?”
นักธนูอายุ 17นั้นโจมตีใส่บอสแล้วระวังรอบๆตัวไปด้วย แต่เขาสังเกตได้ว่าเสี่ยวเฟิงนั้นมองเขาอยู่ เขาเลยถามขึ้นมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
แต่เขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างแล้วกระโดดถอยออกมาตามสัญชาตญาณ แล้วรากไม้ก็พุ่งขึ้นจากพื้นมาโจมตีพวกเขา
นักธนูอายุ 17ยังช็อกแต่ด้วยประสบการณ์ในการเล่น ทำให้เขารอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด
นักธนูอายุ 17ยังตงช็อกจากเหตุการที่เกิดขึ้น เขาโกรธมากคิดว่าที่เสี่ยวเฟิงจ้องเป็นการรบกวนสมาธิเขา แต่พวกเขาหันมาเสี่ยวเฟิงก็หันไปทางอื่นแล้ว
ปลายสายตามีนักเวทย์ของทีม 2 ที่ใช้พลังเวทย์น้ำแข็ง เขาก็สงสัยว่าเสี่ยวเฟิงจะจ้องเขาทำไม
“อะไรหะ?”
แล้วเขาก็ไม่แปลกใจเมื่อรากไม้พุ่งขึ้นมาโจมตีเขาในจุดที่เขายืนอยู่
แต่นักเวทย์คนนั้นก็หัวไวไม่ใช่ย่อย เขาพยายามถอยหลบออกมาแต่ก็ยังหลบไม่พ้นพลังชีวิตของเขาแทบจะหมดในทันที แต่เสี่ยวเฟิงนั้นยังช่วยเขาไว้ได้ทัน
แต่ตอนนั้นทุกคนกลับอึ้งไปกับจำนวนเลขที่ฮิล 3 หลักที่เห็นไม่มีใครในที่นั้นทำได้ขนาดนั้นมาก่อน
ผู้เล่นแถวหลังทุกคนนั้นอยู่ติดๆกันเพื่อที่จะระวังการโจมตีของบอส ทุกคนอยู่ในสายตาของเสี่ยวเฟิงตลอดเวลาที่ถูกโจมตี นี่ไม่ใช่เรื่องที่บังเอิญ
โรสนั้นรู้สึกตัวทันทีว่าเสี่ยวเฟิงกำลังจ้องเธออยู่ เธอขมวดคิ้วรู้ทันทีว่าบอสกำลังโจมตีเธอ จึงถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม จากการที่เธอก้าวถอยหลังออกมาแบบทันทีทำให้เธอเสียหลักจนล้มลง แต่เธอก็สามารถหลบการโจมตีทีเผลอมาได้แบบหวุดหวิด
แล้วทุกคนก็มองมาทางเสี่ยวเฟิงด้วยสีหน้าแปลกๆ เหล่าคนที่เขาจ้องนั้นโดนบอสโจมตีทุกคนเขานี่มันตัวซวยชัดๆ
“อย่ามองมาทางนี้นะ!”
พวกนักบวชหญิงมองเสี่ยวเฟิงด้วยความหวาดกลัว
แต่เขาไม่ได้สังเกตแล้วก็ละสายตามาทางซื๋ออี๋ที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
“ทำไม? จ้องมาทางฉันทำไมเนี่ย…” ซื๋ออี๋รู้ตัวทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอเลยถอยออกมาทันทีที่โดนจ้องแบบนั้น
“กร็อบ!”
ไม่แปลกใจซักนิดรากไม้พุ่งขึ้นมาหาซื๋ออี๋ที่กำลังถอยอยู่
แต่รอบนี้เสี่ยวเฟิงอยู่ใกล้ๆกับรากนั้นเขาเลยใช้ไม่คทาในมือฟาดลงไปบนรากนั้น
“-105!”
เลขความเสียหายที่แรงจนไม่น่าเชื่อปรากฎขึ้นรากนั้นยู่ยี่ราวกับลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออก แล้วมันก็กลับเข้าไปในดินโดยไม่ขยับอีก
“อะไรน่ะ?”
เสี่ยวเฟิงเห็นอย่างงั้นจึงหันกลับไปมองบอสเลขความเสียหายเลขเดียวกันนั้นปรากฎที่ตัวของพฤกษาอัคคี
“ทุกคน จัดการราก รากไม่มีพลังป้องกัน”
การโจมตีของเขานั้นไม่ได้ผ่านการบัฟและเขาใช้คทาโจมตีด้วยซ้ำ แต่เจายังทำความเสียหายได้ถึงหลักร้อยด้วยซ้ำ
“หะ? แน่ใจนะ?”
ผู้นเล่นทั้งหมดต่างตกใจแล้วก็พูดกับเสี่ยวเฟิงด้วยความดีใจ พวกเขาไม่ทันได้ฉุกคิดว่าการโจมตีที่รากของมันจะได้ผลมากกว่านี้ ถ้าใช้วิธีนี้แปลว่าพวกเขาสามารถจัดการบอสได้รวดเร็วมากขึ้น
“ยอดฝีมือแห่งการรักษาสุดยอดเลย!”
“รากต่อไปอยู่ที่ไหนอ่ะ?”
พวกแนวหลังทั้งหมดต่างมองเสี่ยวเฟิงด้วยความฮึกเหิม
ส่วนพวกแนวหน้าที่ไม่มีส่วนร่วมนั้นรู้สึกเคืองมาก
“ทำห่าอะไรของพวกเอ็งวะ? ตายกันหมดแล้วรึไง?”
พวกเขาได้ยินเสียงตะโกนอันโกรธเกรี้ยวของพาลาดินแห่งการรักษา เพราะตอนนี้บอสก็ยังคงจู่โจมใส่พวกเขาอย่างบ้างคลั่ง แต่พวกแนวหลังกลับหยุดสนับสนุนพวกเขาไปซะดื้อๆ