Ch.44 – ความกล้าและความมั่นใจ

Translator : Asiran / Author

 

ตอนที่****44 – ความกล้าและความมั่นใจ

 

“อืม” เหออวี้ปฏิเสธไม่ออกได้แต่ยอมรับ ยิ่งไปกว่านั้นที่จริงแล้วก็ไม่อาจบอกได้ว่านี่เป็นโชคแบบไหนด้วย ในสนามแข่งระดับอาชีพอย่าง KPL นั้นไม่มีทางที่จะเกิดโชคอย่างนี้ขึ้นได้เลย ถ้ามีจริง ๆ ก็จะต้องมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง : อีกฝ่ายมีกลยุทธ์อีกแบบที่รอให้คุณล้วงลึกเข้าไป

“ที่ผมเล่นมีปัญหาไหม” เหออวี้ถามต่อ ถึงแม้ว่าตัวเองจะเข้าใจเกมเกมนี้เป็นอย่างดี แต่จะอย่างไรมันก็เป็นแค่ภาคทฤษฎี เหอเหลียงที่เป็นอดีตนักเล่นเกมอาชีพถึงจะเป็นยอดฝีมือทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติตัวจริง

“นายตั้งรับเกินไป” เหอเหลียงตอบ

“เอ๊ะ” เหออวี้อึ้ง คำพูดพวกนี้เขาไม่เคยคิดถึงมันมาก่อนเลย

“รวมถึงเจตนาแรกเริ่มที่นายเลือกใช้ฮีโร่เจงกิสข่านตัวนี้ด้วย ที่จริงมันค่อนข้างตั้งรับเหมือนกัน” เหอเหลียงส่งข้อความต่อมา

เจตนาแรกเริ่มที่เลือกเจงกิสข่านงั้นเหรอ

ที่ตัวเองเลือกฮีโร่ตัวนี้ หนึ่งก็คือเพราะอยากจะให้ฮีโร่ที่เล่นยาก ๆ จะได้ฝึกฝนการควบคุมของตัวเองได้เร็วขึ้น อีกข้อคือสกิลที่หนึ่งตาเหยี่ยวของเจงกิสข่านทำให้ความตระหนักรู้ของตัวเองมีช่องให้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่า ดูเหมือนว่าหลัก ๆ แล้วจะเป็นสองเหตุผลนี้ งั้นพี่ชายกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันล่ะ

ไม่รอให้เหออวี้ถาม ข้อความของเหอเหลียงก็ส่งมาอีกครั้ง

“ตลอดทั้งเกมนี้เห็นได้เลย นายใช้ตาเหยี่ยวบ่อย ๆ เพื่อสำรวจการกระทำของศัตรูเพื่อที่จะตัดสินใจว่าขั้นต่อไปจะทำอะไร นี่แหละที่พี่เรียกว่าตั้งรับ”

“ไม่จริงมั้งครับ” เหออวี้สับสนอยู่บ้าง แต่ก็เหมือนว่าจะรับรู้อะไรบางอย่างได้บ้างเหมือนกัน แล้วก็ไม่อยากมานั่งคาดเดาจึงถามออกไปตรง ๆ

“ตอนที่สรุปไลน์อัพได้แล้ว เกมนี้ควรจะสู้กันยังไงตัวเองก็ต้องมีแผนการคร่าว ๆ อยู่บ้างแล้ว จะฟาร์มกันยังไง จะต้องเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมไหม จะต้องเรียกเพื่อนร่วมทีมมาขอร่วมมือกันไหม หลังจากนั้นในเกมจริงก็ต้องปรับตัวกันในสนามอย่างมาก แต่ว่าตัวเองจะต้องมีจังหวะการเล่นและไอเดียของตัวเองด้วย สภาพของนายในตอนนี้มันมั่วไปหมด ดูเหมือนว่าจะแค่เดินไปทีละก้าวขัดขวางการกระทำของฝ่ายตรงข้าม แต่ที่จริงแล้วก็คือโดนอีกฝ่ายจูงจมูกไปเรื่อย ๆ ตัวนายเองไม่ได้มีไอเดียกับจังหวะการเล่นที่มั่นคงเลย!”

“เรื่องนี้ผมไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลย” เหออวี้ตอบ

“พี่รู้ นายไม่ใช้ว่าทำไม่ได้ นายแค่ไม่กล้าใช่เปล่า โดยเฉพาะในเกมระดับสูงที่ทำให้นายยิ่งระมัดระวังกว่าเดิม ไม่ยอมบุกไปข้างหน้า ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น เดินหน้าไปอย่างกล้าหาญ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็จะเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ของนาย การฝึกควบคุมและทำความเข้าใจกับฮีโร่จะต้องก้าวผ่านการต่อสู้ที่แท้จริงมากมายหลากหลายถึงจะทำสำเร็จ” เหอเหลียงกล่าวขึ้นอีก

“โอเค ผมเข้าใจแล้ว”

“จำหลักการไว้อย่างหนึ่ง ตอนที่ตาเหยี่ยวของนายสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวและเจตนาของอีกฝ่ายแล้ว ไอเดียแรกที่ควรจะคิดไม่ใช่ว่าทำยังไงตัวนายถึงจะปลอดภัยที่สุด แต่เป็นมีทางที่ทำให้อีกฝ่ายไม่ปลอดภัยบ้างไหม มีทางที่จะทำลายความตั้งใจของเขาได้ไหม”

“พี่ นี่เป็นไอเดียของพี่ตอนที่เล่นตัวป่าเหรอ” เหออวี้พูดอย่างไม่ค่อยเชื่อถือ

“ต่างวิธีแต่ผลลัพธ์เหมือนกัน เพื่อให้เล่นชนะจำเป็นที่จะต้องทำให้ศัตรูเล่นยากไปทุก ๆ ทาง ยิ่งศัตรูเล่นไม่ออกมากเท่าไหร่นายก็ยิ่งเข้าใกล้ชัยชนะมากขึ้นเท่านั้น เมื่อทั้งห้าคนต่างก็คิดว่าเกมนี้เล่นไม่รอดแล้วก็เหมือนกับว่านายชนะแล้วนั่นแหละ” เหอเหลียงพูด

“โอเค…ผมจะลองดู”

“ไม่ต้องกลัว อย่าให้ความตระหนักรู้กับประสบการณ์ที่นายได้รับจากการดูเกมกลายมาเป็นภาระของนาย มีเรื่องเยอะมากที่ยังต้องใช้การต่อสู้จริง ๆ ขัดเกลา พี่ขอให้ตัวอย่างง่าย ๆ อย่างหนึ่ง ในเกมแรงค์ bronze เจงกิสข่านของนายส่วนมากแล้วหนึ่งต่อห้าก็ไม่หวั่น ในเกมแข่งอาชีพนายเคยเห็นสถานการณ์แบบนั้นไหมล่ะ ฮีโร่ก็เหมือนกัน ทำไมแรงค์ bronze ทำได้ แต่ใน KPL ทำไม่ได้ นี่ก็เพราะสถานการณ์จริงมันไม่เหมือนกัน ทุก ๆ เกมก็เหมือนการเริ่มต้นใหม่ ทุกอย่างต้องเริ่มอ่านใหม่หมด ประสบการณ์ก็สำคัญ แต่ว่าอย่าได้ถูกประสบการณ์มัดแขนมัดขาไว้เชียว”

“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะเล่นอีกเกม” เหออวี้ฟังเหอเหลียงพูดจนเลือดลมพลุ่งพล่าน เขาพบว่าตัวเองถูกความรู้และความตระหนักรู้ที่ได้รับจากการดูการแข่งขันอาชีพตีกรอบเอาไว้ สิ่งที่จะต้องพบเจอในเกมที่จริงแล้วไม่ใช่ฮีโร่ทั้งเจ็ดสิบเจ็ดตัว แต่เป็นผู้ควบคุมเบื้องหลังพวกมันเป็นแสนเป็นล้านคนต่างหากล่ะ

KPL เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงระดับสูงสุดของเกมนี้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นตัวตนทั้งหมดของเกมนี้แต่อย่างใด ความรู้และความตระหนักรู้ที่ได้รับมาจากที่นั่นย่อมต้องมีระดับสูงมาก แล้วก็สามารถนำมาปรับใช้กับสถานการณ์จริงของตัวเองได้ อย่างพวกระดับ bronze เนี่ย ถึงจะมีความสามารถในการประเมินสถานการณ์สูงส่งเทียบเท่านักเล่นเกมอาชีพก็ยังใช้การอะไรไม่ได้ เพราะว่าศัตรูของคุณเขาไม่เคลื่อนไหวเสียอย่าง

แต่หลังจากเข้าใจจุดนี้แล้วทุกอย่างก็ง่ายขึ้นมาก นี่ก็คือเหตุผลที่เวลาตัวเขาอยู่แรงค์ bronze สามารถจะชนะได้รัว ๆ เรื่องการเอาความตระหนักรู้มาผสมผสานกับการเล่นที่จริงเขาเองก็ทำอยู่แล้วตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อมาถึงเกมแรงค์สูง หลังจากพบว่าความตระหนักรู้และการประเมินเกมของตัวเองมีพื้นที่ให้เล่นได้ก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจไปหน่อย ใช้หนักมือมาก เอาแต่พึ่งพาของพวกนี้

แม้แต่นักเล่นเกมอาชีพเวลาแข่งขันกันก็ยังต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์และคู่แข่งอยู่ตลอดเวลาเลย ตอนนี้ตัวเองก็ไม่ค่อยได้ใช้สมองจริง ๆ ด้วย

เหออวี้เปิดเกมใหม่อย่างมุ่งมั่น

คราวนี้เขาเล่นอย่างกระตือรือร้นมาก บุกหนักมาก หลังจากที่เหอเหลียงเตือนเขาว่าเขาจะต้องมีความคิดจิตใจที่ “กระทำการ” เขาก็พบว่าที่จริงแล้วตัวเองมีไอเดียเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากมายเลย

โชคร้ายที่ความคิดมันช่างสดใส แต่ความเป็นจริงช่างโหดร้าย ครั้งแรกสุดเหออวี้คิดจะไปส่อง ๆ ที่ป่าบัฟฟ้าของฝ่ายตรงข้าม อยากจะมอบเซอร์ไพรส์ให้ตัวป่าของอีกฝ่ายสักหน่อย สุดท้ายกลับเหลือไว้เพียงซากศพให้อีกฝ่าย

เอิ่ม ความคิดดี แต่สกิลเพลย์ของตัวเองมันขาดไปหน่อย

เหออวี้วิเคราะห์อย่างใจเย็น ไม่รู้สึกหมดกำลังใจ เอาใหม่

ต้องทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเล่นไม่สบาย

เขายังคงยึดมั่นในทัศนคติเช่นนี้ ไม่นาน 0-1-0 ก็กลายเป็น 0-2-0 ฝ่ายตรงข้ามเล่นสบายมาก เพื่อนร่วมทีมเริ่มรู้สึกเล่นไม่สบาย

“แครี่โคตรแจก”

ออฟเลนที่อยู่ห่างไกลสุดกู่ส่งข้อความออกมา

ไม่อาจไม่กล่าวว่าผู้เล่นในเกมแรงค์ระดับสูงพวกนี้ตาแหลมมาก เสียไปแค่สองคิลก็รู้สึกได้แล้วว่าเจงกิสข่านไม่ปกติ ดูเหมือนจะเป็นไส้ศึกของฝ่ายตรงข้ามเลย

เหออวี้เหลือบมองสถานการณ์ของเจงกิสข่าน ไม่อาจไม่ยอมถอย จะกระทำการก็ต้องมีต้นทุนอยู่บ้าง แต่ว่าตอนนี้เขากลายเป็นคนที่มีการเงินต่ำที่สุดในเกม นี่ทำให้ตัวชัพพอร์ตของฝ่ายตนที่มีอัญมณีแห่งการเรียนรู้นั่นดูจะอึดอัดใจมาก ผลจากไอเทมนี้ก็คือตอนที่ตัวเองมีค่าประสบการณ์หรือการเงินน้อยที่สุดในทีม ทุก ๆ 3 วินาทีจะได้รับค่าประสบการณ์หรือการเงิน 5 หน่วย ตัวซัพพอร์ตปกติแล้วจะพยายามไม่ดูดค่าประสบการณ์กับการเงินให้มากที่สุด ปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมของตัวเองเวลจนเกิดให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ดังนั้นไอเทมชิ้นนี้จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ดีมากของตัวซัพพอร์ต เหมือนกับที่ตัวป่าจะต้องมีมีดตีป่า ตัวซัพพอร์ตก็ต้องมีไอเทมชิ้นนี้เหมือนกัน

แต่ตอนนี้เจงกิสข่านตายไปสองรอบ การเงินต่ำสุดทำให้อัญมณีแห่งการเรียนรู้ที่คนเขาถอยออกมากลายเป็นเครื่องประดับไปซะเฉย ๆ

จะต้องฟาร์มสักพัก เหออวี้ปรับเปลี่ยนความคิด แต่ว่าคราวนี้ศัตรูไม่เปิดโอกาสให้เขาแล้ว เมื่อจับได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ ตัวป่ากับซัพพอร์ตก็เริ่มมาเยี่ยมเยือนเลนล่างของเขาบ่อย ๆ บวกกับตัวออฟเลนของอีกฝ่ายเป็นสามต่อหนึ่ง พูดไม่ได้แล้วว่าเป็นการแจก อีกฝ่ายอาศัยความแข็งแกร่งเข้ามาล้อม สุดท้ายก็หาโอกาสที่ตีทั้งเจงกิสข่านและป้อมแรกแตกไปด้วยกันเลย

“เลนล่างพังแล้ว” ออฟเลนที่อยู่ไกลโพ้นพูดขึ้นมาอีกครั้ง

เหออวี้ยังจะพูดอะไรได้ล่ะ คงไม่สามารถพูดไปว่า “นายพูดถูกแล้ว ฉันขอกดไลค์” ใช่ไหมล่ะ…

เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้วก็ดูเหมือนว่าตัวเองแก้ไขหนักข้อไปจริง ๆ

รอบแรกสุดที่พยายามกระทำการ คิดแบบนั้นก็ไม่มีอะไรผิด ปัญหาอยู่ที่การดำเนินการล้วน ๆ

แต่ว่ารอบที่สองนั่นก็ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการดำเนินการเท่านั้นแล้ว

เรื่องของการกระทำการด้วยตัวของมันเองนั้นก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสในตอนนั้นจริง ๆ แต่ปัญหาก็คือหลังจากที่เสียคิลไปจากรอบแรก เจงกิสข่านของเขาตอนนั้นก็เลี้ยงไม่โตและล้าหลังอยู่บ้างแล้ว การล่าถอยของเขาควรจะเริ่มจากจุดนั้นมา ไม่ใช่ไปเพิ่มเป็น 0-2-0

แต่ก่อนไม่มีความกล้า ไม่มีความมั่นใจ แต่ในเกมนี้ดันมั่นใจจนเกินควร เหออวี้เดาว่าถ้าเหอเหลียงอยู่ที่นี่ล่ะก็คงจะส่งข้อความนี้มาให้เขาอย่างแน่นอน

…………………………………………………………………

สิ่งที่เรื่องนี้ต่างจากเรื่องก่อนก็คือพระเอกไม่ได้เทพมาแต่เกิด น้องเก่งก็จริงแต่ก็มีจุดอ่อนจุดพลาดเหมือนกัน แต่กว่าที่คนจะอ่านมาถึงตอนนี้ก็คงมีหลายคนที่เทไปก่อนจากตอนเกมแรกสุดที่น้องเหมือนจะเก่งเวอร์เกินไป บวกกับพวกที่อ่านแล้วงงไม่เข้าใจเกมก็เทไปอีก เดาได้เลยว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ดังแน่ ๆ (เมื่อเทียบยอดวิวกับคอมเม้นท์ของนี่กับเรื่องที่แล้วเราก็ต้องถอนหายใจรัว ๆ เหมือนกัน แต่ก็เป็นสิ่งที่เดาได้ตั้งแต่เริ่มแรกแล้วอะนะ)