“เฮ้ย!”
“สัส! ประมาทไป!”
“จัดการพวกลูกน้องก่อน! ไม่งั้นพวกเราก็จัดการบอสไม่ได้แน่ๆ!”
พาลาดินแห่งการรักษาตะโกนบอกทุกคนให้เลี่ยงไปจัดการพวกมนุษย์ต้นไม้ก่อน
แต่พวกมันมีพลังชีวิตมากกว่า 1000 หน่วยการจัดการอย่างรวดเร็วนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ พลังชีวิตของบอสนั้นก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆโดยไม่รีรอเลยแม้แต่น้อย
“ห่าเอ๊ย!”
“เราทำความเสียหายได้ไม่มากพอ! พลังชีวิตมันกลับมาที่ 20% แล้ว!”
ไนฟตะโกนออกมา เขาเลยทำความเสียหายออกไปได้น้อยมากๆ
“เรามาช่วยแล้ว! อดทนไว้!”
แต่ในตอนนั้นเสี่ยงฝีเท้าจำนวนมากก็มุ่งมาทางนี้ และกลุ่มคนที่ตายไปก่อนหน้าทั้ง 14 คนตอนนี้ตามมาสมทบแล้ว
“มาได้จังหวะพอดี! จัดการพวกมมนุษย์ต้นไม้ก่อนเร็ว!”
ไนฟตะโกนออกมาด้วยความยินดี
พวกเขาลงมือทันทีโดยไม่ได้รีรอ แล้วก็มีแสงและสีของสกิลต่างๆวูบวาบกันเต็มไปหมด
ด้วยจำนวนคนที่มากขึ้น มนุษย์ต้นไม้ไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้และถูกจัดการไปอย่างรวดเร็ว
“พลังชีวิตของบอสหยุดเพิ่มแล้ว! จัดการมันได้เลย!”
แต่อน่างไรก็ตามพลังชีวิตของบอสก็เพิ่มขึ้นไปกว่า 15% โชคยังดีที่ตอนนี้มันไม่มีสกิลอื่นๆอีกแล้ว และยังถูกโจมตีอย่างรุนแรงจากกลุ่มคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาวะที่พร้อมสุดๆ
“เร็วเข้า! ใกล้ความเป็นจริงแล้ว!”
ในที่สุดพลังชีวิตของบอสก็หมดลงม้นสลายไปในที่สุดพร้อมกับดรอปไอเทมจำนวนนับไม่ถ้วนมาให้
เหลาซวีรับหน้าที่เก็บไอเทมทั้งหมด เพราะเขาไม่ได้ต้องการไอเทมพวกนั้น คนอื่นๆจึงไว้ใจให้เขาทำงานนี้
“5 เหรียญทอง ของระดับเทพ 1 ชิ้น ของระดับสูง 2 ชิ้น ของระดับหายากอีก 3 ชิ้น”
ไม่แปลกใจ ที่พฤกษาเวทย์อัคคีจะให้ของระดับสีทองกับพวกเขา ดวงตาทุกคู่จ้องไปทางไม้เท้าสีทองในมือของเหลาซวี
รากพฤกษาอัคคี
ระดับ: เทพ
ประเภทอุปกรณ์: ไม้เท้า 2 มือ
เลเวลอุปกรณ์: 15
ความต้องการอุปกรณ์: ค่าปัญญามากกว่า 75
คุณสมบัติ:
พลังโจมตีเวทมนตร์ + 20
อัตราคริติคอลเวทมนตร์ +5%
ค่าพละกำลัง +17
ค่าความว่องไว +17
ค่าความทนทาน +17
ค่าพลังปราณ +23
ค่าปัญญา +23
ความสามารถเฉพาะ:
เชื้อเพลิงผลาญ: ตีตราสัญลักษณ์เพลิงบนเป้าหมาย 10 วินาที แล้วเป้าหมายจะเสียพลังชีวิต 1% ทุกๆวินาที หลังจากหมดระยะเวลาสัญลักษณ์จะระเบิดสร้างความเสียหายอีกครั้งตามจำนวนความเสียหายที่ทำได้ระหว่างที่ติดสัญลักษณ์
“โห! นี่มันสุดยอดเลยนะเนี่ย!”
ทุกคนมองอาวุธชิ้นนั้นด้วยความปิติ ถึงจะมีสกิลแค่อย่างเดียวแต่ก็เป็นสกิลที่สมกับระดับของอาวุธแล้ว
มันสามารถสร้างความเสียหายได้ 10% ของพลังชีวิตเป้าหมายแถมยังทำความเสียหายเพิ่มเติมด้วย เป็นอาวุธที่ดีมากในการจัดการกับบอส!
อิมมอทัลเฟลมจ้องมองมันด้วยความกระตือรือร้นเพราะเขาเป็นนักเวทย์สายไฟ ไม้เท้าอันนี้จึงเหมาะกับเขามาก
“งั้นแบ่งเหรียญทองกันก่อน ส่วนไม้เท้นอันนี้ก็ใช้วิธีทอยเต๋าหาคนที่แต้มสูงสุดที่จะได้ไป เอาแบบนี้นะ?” เหลาฉีบอกออกมา
“แต่พวกเราเป็นคนที่ออกแรงมากกว่าคนที่ตายไป 14 คนนั่นนะ ไม่คิดว่ามันลำเอียงไปหน่อยรึไง”
พวกคนที่มองไม้เท้าอยู่ย้ายสายตาอันเคร่งเครียดมาทางพาลาดินแห่งการรักษาที่พูดอย่างเย็นชา
เพราะทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างเป็นผู้เล่นระดับแนวหน้าด้วยกันทั้งนั้น ทำให้ไม่มีใครพอใจในสิ่งที่พาลาดินแห่งการรักษาพูด
“ถ้าแกมีสิทธิที่จะพูดแบบนั้น แกคงคิดว่าตัวเองจัดการบอสด้วยตัวคนเดียวได้สินะ” ศาสตราสงครามเป็ฯคนแรกที่ตอบโต้เขา
“ใช่แล้ว! ทุกคนในนี้ก็ช่วยกันทั้งนั้น ถึงนายจะทำผลงานที่มากกว่าคนอื่นๆก็จริง แต่เรื่องไอเทมนายไม่ใช่คนที่สิทธิตัดสินใจคนเดียว เราไม่ใช่ทาสใชั้นเลวนะ”
นักเวทย์อีกคนพูดเสริม เพราะเขาเป็นถึงรองหัวหน้ากิลด์เขาไม่ได้เกรงพาลาดินแห่งการรักษาเลยแม้แต่น้อย
ได้ยินดังนั้นพาลาดินแห่งการรักษาทำหน้าเหี้ยมเกรียมในทันที จนเหลาซวีต้องขึ้นมาห้ามทัพ
“ท่านพาลาดินแห่งการรักษา การแบ่งของแบบนี้เป็นวิธีที่แฟร์ที่สุดและทุกคนก็ทำตาม ทุกคนจะได้ของจากการสุ่มเท่านั้น อย่างเช่นในครั้งนี้ก็เหมือนกัน ไม่อย่างงั้นมันก็จะไม่แฟร์กับ ไนท์คูเออร์กับนักธนูอายุ 17ที่ทำผลงานได้เยอะเหมือนกัน”
เพราะสิ่งที่เหลาฉีพูดถูกต้องและพาลาดินแห่งการรักษาก็ไม่สามารถทำอะไรเหลาซวีในที่สาธารณะได้ เขาเลยต้องยอมรับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอย่างเงียบๆ
“งั้น ทุกคนก็ยอมรับข้อเสนอ ผู้เล่นที่เป็นนักบวชและนักเวทย์ทอยเต๋าตัดสินได้เลย ใครจะเป็นคนเริ่ม?” เหลาซวีพูดแล้วมองไปรอบๆ
“งั้นฉันเริ่มก่อน!”
เสี่ยวเฟิงว่าแล้วก็ทอยเต๋าในทันที
98!
หลังจากลูกเต๋าหยุด เสี่ยวเฟิงมองผลลัพธืที่ออกมาด้วยความพึงพอใจ
คนอื่นๆที่เห็นอย่างงั้นก็มองไปทางเสี่ยวเฟิงด้วยใบหน้าคร่ำเครียด.
“งั้นตาฉันแล้ว!”
อิมมอทัลเฟลมถอยเต๋าออกไปด้วยความกังวล แล้วพอลูกเต๋าหยุดเขาก็ช็อกทันที
23!
“Rubbish!” เสี่ยวเฟิงโผล่งออกมาแล้วยืนกอดอกด้วยความสบายใจ
“ตาฉัน!”
ซื๋ออี๋ทอยออกไปด้วยท่าทางที่ท้าทาย แล้วพอผลลัพธ์ออกมาหน้าสวยๆนั้นก็ค้างไปในทันที
9!
“ฮ่า โครตกาก” เสี่ยวเฟิงพูดออกมาโดยไม่ได้มองผลลัพธ์ด้วยซ้ำ
พาลาดินแห่งการรักษาทอยเต๋าออกไปเงียบๆ ถึงเขาจะเป็นพาลาดินที่ใช้ค้อนแล้วไม้คทา แต่เขาก็สามารถใส่ไม้เท้า 2 มือได้ด้วยถึงจะไม่ค่อยเข้ากันก็ตาม คนอื่นๆต่างมองตามโดยไม่ได้พูดอะไร
แต่ดวงของเขาก็ยังไม่ดีพอ หน้าเต๋านั้นออกมาเป็น 27.
“กากๆน่า”
เสี่ยวเฟิงพูดโดยไม่ได้หันหน้ามามอง พาลาดินแห่งการรักษานั้นนิ่งค้างไป แล้วชายตามองมาทางเสี่ยวเฟิงด้วยความเคืองแล้วก็ถอยไปโดยไม่ได้พูดอะไร
“ตาฉันแล้ว!”
“กาก!”
…
“กากว่ะ!”
…
ตอนนี้ทุกคนต่างทอยเต๋าไปหมดแล้วเหลือเพียงแค่โรส เสี่ยวเฟิงก็ยังคงเยาะเย้ยทุกคนที่แพ้เขา
“ดูท่าไม้เท้าอันนี้จะเป็นของยอดฝีมือแห่งการรักษาสินะ”
เหลาซวีพูดอย่างจนใจ รอบแรกเสี่ยวเฟิงทอยได้ 99 รอบนี้ก็ 98 ดวงคนอื่นๆสู้เขาไม่ได้เลย เขาเลยต้องใช้ไม้เท้ากับเสี่ยวเฟิงไป
“ยังก่อน! ฉันยังไม่ได้ทอย”
ตอนแรกเฟลาซวีคิดว่าโรสจะยอมแพ้อีกรอบ แต่รอบนี้เธอขัดเขาซะก่อน แม้แต่ผ้าคลุมหน้าสีขาวนั้นไม่สามารถปิดบังความสง่างามนั้นได้
ตอนนี้เหลาซวีให้ไม้เท้าไปแล้ว ถึงเขาก็อึดอัดที่โดนเตือนแต่เขาก็ยังอนุญาตให้เธอทอยเต๋าได้
เสี่ยวเฟิงนั้นไม่ได้สนใจการกระทำของโรสเลยแม้แต่น้อย
“ก…”
เสี่ยวเฟิงกะจะเยาะเย้ยเหมือนเดิมแต่ก็เงียบปากในทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างมองไปที่ตัวเลขของโรสที่ทอยออกมาได้
99!
ทุกคนในนั้นต่างเงียบกันหมด โรสนั้นยังคงไม่พูดอะไรเธอเดินออกมาแล้วฉวยไม้เท้าทองคำในมือของเสี่ยวเฟิงไปแล้วภายใใต้ผ้าคลุมหน้านั้นเธอก็พูดใส่หน้าเสี่ยวเฟิงว่า
“กากอ่ะ”
เสียงเย็นเยียบแต่ไพเราะ แต่เสี่ยวเฟิงจับลำเนียงเยาะเย้ยของอีกฝ่ายที่แฝงภายในเสียงอันไพเราะราวกับดนตรีนั้น
“คิก…”
ใครบางคนในนั้นกลั้นไม่ไหวแล้วหลุดเสียงหัวเราะออกมา แต่เจ้าตัวก็ปิดปากในทันทีแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก
แต่ก็ไม่ใช่คนเดียว หลายคนตรงนั้นต่างกลั้นหายใจ และตัวสั่นเล็กน้อยที่ต้องพยายามกลั้นเสียงหัวเราะ
เสี่ยวเฟิงทำหน้าเครียด เขามองอย่างทิ่มแทงไปทางด้านโรสที่เอาไม้เท้าไปจากเขา
หลังจากได้ไม้เท้าไป เธอก็เดินถอยกลับไปอย่างสง่างาม แม้ว่าคนอื่นๆจะมองด้วยสายตาแปลกๆ
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้ลวนแต่สังกัดกิลด์ใหญ่ๆ แล้วรู้เรื่องเกิดขึ้นระหว่างดูมส์เดย์ลีคและมิตซัมเมอร์ดี has issued the Must Kill order แล้วพวกเขาก็เห็นท่าทีที่เกลียดชังของเธอที่มีต่อเสี่ยวเฟิงตอนที่เขามาเขาเข้าร่วมทีม พวกเขาจึงพยายามที่จะไม่แสดงท่าทีใดๆออกไปในตอนนี้
“ฉันต้องขอโทษด้วย ในตอนแรกเราไม่ได้เชิญให้มิตซัมเมอร์มาเข้าร่วม แจ่ไนท์คูเออร์ดื้อดึงที่จะให้เธอเข้าร่วมให้ได้ เราเลย…”
ไนฟแอบส่งข้อความให้กับเสี่ยวเฟิงอย่างลับๆ เขารู้ดีถึงความบาดหมางระหว่างเสี่ยวเฟิงกับกลุ่มของมิตซัมเมอร์
“ไม่เป็นไร หลังจากนี้ค่อยเอาคืนก็ยังได้” คำพูดอันเย็นชาของเสี่ยวเฟิง ทำให้ไนฟสั่นกลัวมาก
ส่วนของชิ้นอื่นๆนั้นก็ยังมีคนแบ่งกันอยู่ แต่ของที่ระดับต่ำกว่าระดับเทพไม่ใช่สิ่งที่เสี่ยวเฟิงต้องการ.
“ไปกันเถอะ ยังมีบอสตัวสุดท้ายอยู่อีก”
พวกเขาเข้าไปยังเขตที่ลึกมากกว่านี้ พวกเขาต่างเร่งรีบเดินทางต่อจนในที่สุดก็มาถึงห้องบอสตัวสุดท้ายแล้ว
ผนังรอบข้างนั้นเริ่มกลายเป็นสีแดงสด และอุณหภูมิในที่นี้นั้นก็พุ่งสูงขึ้น ทุกๆคนต่างเริ่มรู้สึกร้อนกันมาก
“ที่นี่มันร้อนเกินไปไหมเนี่ย จากทางเข้าน่าจะลงมาลึกกว่า 100 เมตรได้แล้วมั้ง”
“ดีที่ในเกมไม่มีการเหงื่อออก ไม่งั้นป่านนี้พวกเราคงเหงื่อท่วมตัวไปแล้ว”
“หุบปากน่า! หยุดคุยกันเรื่องเหงื่อๆไคลๆซะที! ขยะแขยงว้อย!”
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะหมดเวลาทำภารกิจกันก่อน”
“ไม่ต้องห่วงน่าเราเร็ซกว่าพวกเขตอเมริกาเหนืออยู่แล้ว พวกนั้นแค่บอสตัวที่ 2 ก็ไม่ไหวแล้วมั้ง”
…
ในตอนที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้น พวกเขาก็มาถึงห้องของบอสตัวสุดท้ายแล้ว
“นั่นแมกม่า อย่าเข้าไปใกล้ล่ะ มันไม่ใช่ฉากหลังธรรมดา ถ้าตกลงไปก็ตายแน่ๆ”
สิ่งแรกที่เห็นนั้นคือสะพานสีแดงสดที่มีแม่น้ำแมกม่าอยู่ด้านล่าง เห็นอย่างงั้นทุกคนก็รู้ทันทีว่าทำไมที่นี่ถึงได้ร้อนนัก
แม่น้ำแมกมาก่อตัวเป็นวงกลมและล้อมรอบแท่นหินกลมขนาดใหญ่มีสีแดงสดและมีพื้นราบอยู่บนนั้น รวมทั้งบอสตัวสุดท้ายที่พวกเขาต้องสู้ก็อยู่บนนั้นเช่นกัน