ตอนที่ 2812 ลม และเมฆที่พัดผ่าน

ถนนหลักของเมืองสกายสปริง สถานที่พักกิลสตาร์ลิ้ง :

ตอนนี้เนื่องจากการมีอยู่ของหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ ถนนสายหลักที่แต่เดิมรกร้างมากๆจึงเต็มไปด้วยผู้คนแออัด และในเวลานี้เอง มันก็มีผู้เล่นขั้นสามจำนวนมากได้มารวมตัวกันที่อาคารห้าชั้นซึ่งมีขนาดเท่ากับสนามกีฬาสองสนาม ซึ่งนี่มันก็คือสถานที่พักกิลของสตาร์ลิ้งนั่นเอง

ก่อนที่ซือเฟิง และกลุ่มของเขาจะทันได้เดินไปถึงหน้าประตูของสถานที่พักกิลสตาร์ลิ้ง พวกเขาก็สังเกตเห็นทีมผู้เล่นหลายร้อยคนที่กำลังเดินไปในทิศทางเดียวกันกับพวกเขาอย่างช้าๆเช่นกัน

โดยทุกคนในทีมๆนี้นั้นเป็นผู้เล่นขั้นสาม และมีเลเวลกันที่อย่างน้อยหนึ่งร้อยยี่สิบห้า ขณะที่อุปกรณ์ที่อ่อนแอที่สุดที่พวกเขาสวมใส่นั้นก็ยังเป็นอุปกรณ์ระดับดาร์คโกล เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ และในหมู่พวกเขามันก็มีผู้เล่นบางส่วนที่สวมใส่อุปกรณ์และอาวุธระดับอีปิคอยู่สองถึงสามชิ้นด้วย ขณะที่ผู้ที่ดูเด่นชัดและเปล่งประกายที่สุดนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นคนสองคนที่นำทีมๆนี้มา

ใช่แล้ว คนสองคนที่นำทีมๆนี้ !!

ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสวมใส่อาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคอยู่หกชิ้น แต่พวกเขายังเป็นผู้เล่นขั้นสี่ด้วย โดยคนหนึ่งเป็นจักรพรรดิสงครามเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเก้า ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นจักรพรรดิดาบเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบ ซึ่งตั้งแต่อาวุธ อุปกรณ์ ไปจนถึงเลเวล และขั้นของทั้งสองคนนี้นั้นมันทำให้ผู้ที่เฝ้าดูอยู่โดยรอบตื่นเต้นมากๆ

“อึก !! คนเหล่านี้เป็นใครกัน ?! ทำไมฉันไม่เคยเห็นตราสัญลักษณ์ของกิลที่ติดอยู่ที่หน้าอกของพวกเขาเลย ?!”

“คุณไม่รู้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก เพราะท้ายที่สุดแล้วกิลๆนี้พึ่งจะโผล่ขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ พวกเขามีชื่อว่าร้อยผีโดดเดี่ยว พวกเขาเป็นกิลที่ลึกลับมากๆ ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากพลังลึกลับบางกลุ่ม แถมมาตราฐานในการคัดเลือกสมาชิกเข้ากิลของพวกเขาก็ยังสูงมาก โดยแม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดในกิลของพวกเขาก็ยังอยู่ในขอบเขตครึ่งก้าวก่อนปรับแต่ง และทุกคนก็ล้วนเป็นผู้เล่นขั้นสามทั้งหมด ….”
“โอ้ ใช่แล้ว !!! ฉันนึกออกแล้ว เป็นกิลลึกลับกิลนั้นเอง …. ขณะที่ชายและหญิงที่นำทีมๆนี้ของกิลนี้มานั้นน่าทึ่งยิ่งกว่า ก่อนที่พวกเขาจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ พวกเขาได้ทำการท้าทายสัตว์ประหลาดเก่าแก่ของมหาอำนาจต่างๆอย่างลับๆ และในการต่อสู้สิบเก้าครั้ง พวกเขาไม่แพ้เลย ฉันไม่คิดเลยว่า หลังจากพวกเขาหายไปสักพัก พวกเขาจะกลายเป็นขั้นสี่แล้ว !!!”

“ในเมื่อก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นขั้นสี่ พวกเขายังแข็งแกร่งขนาดนั้น ตอนนี้ในเมื่อพวกเขากลายเป็นขั้นสี่แล้ว พวกเขาไม่แทบเป็นอมตะเลยหรอ ?”

ตอนนี้เหล่าผู้คนล้วนพูดคุยกันอย่างเคารพและชื่นชม เมื่อมองไปยังทีมๆนี้ของร้อยผีโดดเดี่ยว และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมสตาร์ลิ้งด้วย

เนื่องจากกิลร้อยผีโดดเดี่ยวนั้นมีแนวทางการดำเนินงานที่แปลกแยกมาโดยตลอด และพวกเขาก็ไม่เคยรับงานใดๆจากมหาอำนาจต่างๆเลย กระนั้นตอนนี้สตาร์ลิ้งกับเชิญพวกเขามาร่วมการเจรจาครั้งนี้ได้ นี่มันจึงจัดว่าน่าทึ่งมากๆ !!!

“ร้อยผีโดดเดี่ยวงั้นหรอ ?” ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินที่เหล่าผู้เล่นพูดคุยกัน

สำหรับกิลร้อยผีโดดเดี่ยวนั้น เขาเคยได้ยินชื่อของกิลๆนี้มาบ้างในชีวิตที่ผ่านมาของเขา กิลนี้ค่อนข้างจะลึกลับ และในตอนนั้นกิลปรากฎขึ้นสามปีหลังจากเกิดการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก โดยกิลก็ได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่ว God domain ทั้งหมด

เนื่องจากกิลมีผู้เล่นขั้นสี่มากกว่าสามสิบคนอยู่ในกิล ซึ่งในช่วงเวลานั้น แม้แต่ซุเปอร์กิลก็ยังมีผู้เล่นขั้นสี่ไม่มากขนาดนี้เลย โดยซุเปอร์กิลจะมีผู้เล่นขั้นสี่แค่ราวสิบห้าถึงยี่สิบห้าคนเท่านั้นในตอนนั้น และจำนวนผู้เล่นขั้นสี่ของกิลๆนี้ก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอยู่เหนือกว่าซุเปอร์กิลหลายแห่งในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

โดยผู้เล่นขั้นสี่ทุกคนนั้นก็ได้ทำการท้าทายผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจต่างๆมากมาย และกวาดผ่านไปทั่ว God domain ราวกับสายลม

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นพักหนึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมกิลถึงได้เงียบลงไป ก่อนที่กิลจะมาปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งในตอนที่กิลมีผู้เล่นขั้นห้าแล้ว และพวกเขาก็ได้เริ่มท้าทายห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดทันที ….

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะพูดว่ามันเป็นการท้าทาย แต่เหล่าผู้เล่นของกิลร้อยผีโดดเดี่ยวนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรอื่นเลยนอกจากต่อสู้และฆ่าผู้เชี่ยวชาญของห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาไม่แม้แต่จะสนใจไอเทมที่ดรอปไว้ หรือปล้นพื้นที่ทรัพยากรด้วยซ้ำ ซึ่งนี่มันทำให้ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดปวดหัวมากๆ

เพราะท้ายที่สุดแล้วกิลนี้มันลึกลับมากๆ และการที่พวกเขาทำแบบนี้ มันก็ทำให้ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดไม่สามารถกำหนดเป้าหมายไปยังพวกเขาอย่างชัดเจนได้ อีกทั้งจากการประเมินของห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนั้น พวกเขาน่าจะมีผู้เล่นขั้นสี่ และขั้นห้าใกล้เคียงกับห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดเลย

แต่ซือเฟิงก็พอจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ ปัจจุบันเนื่องจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกมันเกิดขึ้นเร็วกว่าในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงมาก ดังนั้นร้อยผีโดดเดี่ยวจึงปรากฎตัวขึ้นเร็วกว่าที่เขาคิดไว้เกือบสองปีเลยทีเดียว

“พวกเขาเป็นกิลจากทวีปดวงดาวรึปล่าว ?”

ถ้าเขาไม่เคยเข้าสู่โลกยุคโบราณของ God domain มาก่อน เขาก็คงจะนึกไม่ออกเลยจริงๆว่ากิลลึกลับแบบนี้อยู่ๆก็ปรากฎขึ้นมาราวกับปรากฎขึ้นมาจากอากาศได้อย่างไร แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เนื่องจากเขาเคยเข้าสู่ยุคโบราณของ God domain มาแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ในหลายสิ่ง และเขาก็รู้ดีว่า มันไม่ได้มีแค่ผู้เล่นบนโลกเท่านั้นที่เล่น God domain มันยังมีผู้เล่นในทวีปดวงดาวอีก หรืออาจจะมีมากกว่านี้ที่เขาไม่รู้ก็ได้ ….

และท้ายที่สุดใน God domain นี้มันก็มีความไม่แน่นอนอยู่มากมาย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ผู้เล่นบางคนที่อยู่ในโลกอื่น หรือยุคอื่น จะพบจุดตัด และเดินทางมาบรรจบกันในยุคปัจจุบันได้

ตอนนี้ซือเฟิงนั้นสงสัยว่าสถานที่ที่ไลฟ์เลสธอร์นและสมาชิกคนอื่นๆของทีมอาชูร่าได้เข้าไปนั้น อาจจะเป็นสถานที่ที่ร้อยผีโดดเดี่ยวอยู่ อย่างไรก็ตามมันน่าเสียดายที่พวกเขาถูกบังคับให้กลับออกมาก่อนที่จะทันได้ทำความเข้าใจอะไรมากนัก

นอกจากนี้หากมันเป็นอย่างที่ซือเฟิงคิดจริงๆ มันก็จะอธิบายได้ด้วยว่าทำไมผู้เล่นเหล่านี้ถึงให้กลิ่นอายเหมือนกับผู้เล่นยุคโบราณของ God domain แต่อ่อนแอกว่า

และอีกเรื่องหนึ่งก็คือซือเฟิงนั้นไม่ได้คิดเลยว่าสตาร์ลิ้งจะมีความสัมพันธ์อันดีกับร้อยผีโดดเดี่ยว เรื่องนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นเลยในชีวิตที่ผ่านมาของเขา

“ตอนนี้เมื่อมีกองกำลังแบบนี้อยู่ข้างสตาร์ลิ้ง พันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกก็คงยากจะจัดการกับสตาร์ลิ้งได้แล้ว …”

“ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นขั้นสี่จากร้อยผีโดดเดี่ยวหรือกองกำลังอื่นๆเลย แค่ผู้เล่นขั้นสี่จากมิราเคิลกับสตาร์ลิ้ง มันก็ทำให้พันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกไม่สามารถจะเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายๆแล้ว”

“ฉันเดาไม่ออกเลยแหะว่าพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกจะเข้ามาที่นี่ไหม เห็นได้ชัดว่านี่มันเป็นกับดักที่สตาร์ลิ้งวางไว้เพื่อจะนำไปสู่สงครามชัดๆ”

“ฉันคิดว่าพวกเขาไม่น่าจะมานะ เพราะท้ายที่สุดแล้วตอนนี้สตาร์ลิ้งถือไพ่เหนือกว่ามากๆ เนื่องจากด้วยการกดดันของ NPC จากมือลับ มันก็ทำให้ทหาร NPC ส่วนใหญ่ของเมืองสกายสปริงไม่กล้าจะทำอะไร ซึ่งมันทำให้สภาสิบแปดปีกและพันธมิตร
สามกิลนั้นต้องพึ่งแต่ตัวเองเท่านั้น”

ทุกคนที่เฝ้าดูอยู่นั้นต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเห็นใจพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีก เพราะท้ายที่สุดแล้วจนถึงตอนนี้จากข่าวที่ออกมานั้น มันแสดงให้เห็นได้ชัดเจนแล้วว่ามีมหาอำนาจ กิลขนาดใหญ่ และทีมนักผจญภัยชื่อดังมากกว่ายี่สิบกลุ่มที่เลือกจะยืนข้างสตาร์ลิ้ง และเนื่องจากเหตุการณ์นี้เอง มันก็ทำให้ทุกคนคิดว่าพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกคงจะหวาดกลัวจนไม่กล้าโผล่หน้ามาแน่นอน

แต่อย่างไรก็ตามหากพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกไม่โผล่หน้ามา หนทางที่จะกลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่แท้จริงใน God domain ของพวกเขาทั้งสามกิลก็จะมาถึงทางตันแน่นอน เรียกได้ว่าตอนนี้สตาร์ลิ้งนั้นบีบให้พันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกจริงๆ

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่นั้น มันก็มีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งโหลอีกกลุ่มหนึ่งปรากฎขึ้นบนถนน ซึ่งการปรากฎตัวของผู้เล่นกลุ่มนี้นั้น มันก็ทำให้ทุกคนประหลาดใจมากๆ

เพราะคนเหล่านี้นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแกนหลักของพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีก โดยทั้งกลุ่มถูกนำมาโดยผู้เล่นขั้นสี่สามคน ซึ่งก็คือไฟเออร์แดนซ์ อันยีลดิ้งฮาร์ท และอิลูซะรี่เวิร์ด และนอกเหนือจากสามคนนี้แล้ว มันก็ยังมีผู้เล่นขั้นสี่อีกหนึ่งคนในกลุ่มเช่นกัน ซึ่งออร่าที่ผู้เล่นขั้นสี่คนนี้แผ่ออกมา มันก็ทำให้คนโดยรอบหลายคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก

“ไม่จริงน่า !!! มีอีกคนจากสภาสิบแปดปีกที่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่แล้วงั้นหรอ ?!”

“คนๆนั้นดูเหมือนจะเป็นไวโอเล็ตคลาวด์นะ !! เธอดูเปลี่ยนไปจนแทบจะจำไม่ได้เลยแหะ !!!”

ทุกคนนั้นอดไม่ได้ที่จะมองไปยังผู้เล่นขั้นสี่อีกหนึ่งคน ซึ่งก็คือไวโอเล็ตคลาวด์ ที่มากับกลุ่มพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกด้วยความรู้สึกทึ่ง

เนื่องจากตอนนี้นั้นไวโอเล็ตคลาวด์สวมเสื้อตลุมที่เป็นสีของท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว และเธอก็ได้มัดผมด้วยริบบิ้นบางอย่างที่สวยงาม พร้อมกับสวมใส่หมวกเกราะเบา ซึ่งมันทำให้ตัวเธอในตอนนี้นั้นดูเหมือนกับเทพธิดาที่ฉลาดและบริสุทธิ์มากกว่านักบวชศักสิทธิ์อย่างมาก

แถมเธอก็ยังมีเลเวลถึงหนึ่งร้อยสามสิบเอ็ด ซึ่งจัดเป็นเลเวลของผู้เล่นขั้นสี่ที่สูงที่สุดที่พวกเขาเคยเห็นเลย

ขณะเดียวกันฝั่งของสตาร์ลิ้งนั้นก็ดูเหมือนจะเดาเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นลู่ชิงหลัวจึงได้จัดการเรียกผู้เล่นขั้นสี่ทั้งหมดของตัวเอง และจากมิราเคิลมาต้อนรับ โดยฝั่งของ
สตาร์ลิ้งและมิราเคิลนั้นมีผู้เล่นขั้นสี่รวมทั้งหมดห้าคน ซึ่งหนึ่งในก็คือสัตว์ประหลาดเก่าแก่ของมิราเคิลที่มีเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบ และมีออร่าที่น่ากลัวไม่ได้หยิ่งผย่อนไปกว่าไวโอเล็ตคลาวด์เลย

อิลูซะรี่เวิร์ดมองไปยังลู่ชิงหลัวที่ยืนอยู่หน้าประตูสถานที่พักกิลของสตาร์ลิ้งและกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ลู่ชิงหลัว พวกเรามาที่นี่แล้ว ปล่อยคนของพวกเราได้แล้ว !!!”

“ตามที่คาดไว้ พวกคุณนี่มีความกล้ากันมากจริงๆที่กล้ามาพบฉันในวันนี้ แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ….” ลู่ชิงหลัวกล่าวพลางหัวเราะอย่างเย้ยหยัน จากนั้นเขาก็กล่าวต่อว่า “หากเราปล่อยคนที่เราจับได้ไปง่ายๆ มหาอำนาจอื่นๆจะหัวเราะ และนินทาเราเอาได้ …”
“ทำไมเราไม่มาแข่งขันต่อสู้กันที่นี่สักหน่อยละ ? ถ้าฝั่งพวกคุณชนะ เอาคนของพวกคุณกลับไปได้เลย แต่ถ้าพวกคุณแพ้ พวกคุณจะต้องอยู่ที่นี่ทั้งหมด ฉันสงสัยจังว่าพันธมิตรสามกิลของพวกคุณกล้าไหม ?”