บทที่ 750 นี่เป็นไปได้ยังไง?

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 750 นี่เป็นไปได้ยังไง?
เย่เซิ่งเทียนตกใจมาก ไม่เคยเห็นกรงเล็บขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน

แค่กรงเล็บข้างเดียว ก็สูงกว่าตึกสี่ห้าชั้นแล้ว!

นี่มันอะไรกัน?

สิ่งที่น่าแปลก็คือ สายตาของเขาในเวลานี้ ไม่สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตตรงหน้าได้

หมอกนี้แปลกประหลาดเกินไปแล้ว จากความสามารถของเย่เซิ่งเทียน ทัศนวิสัยของเขาไม่เกินสิบเมตร!

“หมอกหนามาจากไหน?”

เย่เซิ่งเทียนหวาดระแวง แต่ไม่ได้บุ่มบ่าม

เขาไม่รู้ว่าเย่ว์อิ่นหลงพบเจอกับเจ้ากรงเล็บยักษ์นี่หรือไม่ เจดีย์นี้ มันลึกลับมากเกินไปแล้ว

พึ่งๆๆ!

ในเวลานี้เอง เสียงฝีเท้าดังมาจากเจดีย์

ตามมาด้วย เสียงเข่นฆ่าดังขึ้น รวมถึงเสียงกู่ร้องของสัตว์ประหลาด

ทุกเสียงมาบรรจบกัน ราวกับหนังสงครามยังไงอย่างงั้น

มีเสียงระเบิดดังกึกก้อง เสียงคำรามดังสนั่น ราวกับเสียงของมังกร เสียงดาบนับหมื่นเล่มแหวกมากลางอากาศ

ลำพังแค่เสียงนี้ที่ได้ยิน ก็เป็นเหมือนกับสนามรบ

“นี่มันการต่อสู้อะไรกัน?เป็นการต่อสู้ระดับไหนกันถึงไปถึงระดับนี้ได้?”

เย่เซิ่งเทียนรู้สึกตกตะลึง ยากที่จะจินตนาการ สงครามระดับนี้มันรุนแรงขนาดไหน

ลำพังแค่เจ้าสิ่งมีชีวิตที่มีกรงเล็บมหึมา ก็ทำให้รู้สึกขนลุกแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย

ดีที่ การต่อสู้ในครั้งนี้เหมือนจะเป็นเพียงการฉายภาพ รวมถึงกรงเล็บขนาดใหญ่นั่น มันเป็นเพียงการฉายภาพเท่านั้น ไม่ใช่ของจริง

ถ้าเป็นแบบนั้น เย่เซิ่งเทียนคงหัวใจเต้นแรง

แค่ภาพที่ฉายออกมาก็น่ากลัวพอแล้ว กรงเล็บนั้นเกือบจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว และเขาคิดว่ามันเป็นความจริงในตอนนี้ แค่ตอนนี้เขาเข้าใจว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น

“หอกหักนี้เป็นอาวุธที่หักในสงครามครั้งนี้งั้นหรอ?”

เย่เซิ่งเทียนเข้าใจ แขนของเย่ว์อิ่นหลง อาจถูกตัดขาดเพราะหอกเล่มนี้ก็เป็นได้

เจดีย์โบราณนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร?

มีตราประทับแห่งสงครามที่น่ากลัวขนาดนี้

เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสียงต่อสู้ค่อยๆหายไปในหมอก แล้วกลับสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง

เย่เซิ่งเทียนถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วแอบพูดว่า“โชคดีที่นี่ไม่ใช่ฉากจริงๆ ไม่อย่างงั้นฉันกลัวว่าคงไม่มีสิทธิ์”

ไม่รู้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อไร จึงออกไปตรวจสอบอย่างช้าๆ

มือผีที่พึ่งปรากฏขึ้นเมื่อสักครู่ อาจจะเป็นเพียงตราประทับ

แต่สิ่งที่แปลก็คือ หมอกยังไม่หายไป ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ และเงียบอย่างน่าพิศวง

เย่เซิ่งเทียนยิ่งไม่กล้าได้ใจ

ในหมอกหนาทึบ เย่เซิ่งเทียนจึงเห็นเพียงแค่สิ่งของที่อยู่ภายในระยะสิบเมตร

หลังจากยืนยันว่าไม่มีอะไรอันตราย เย่เซิ่งเทียนรีบมุ่งไปข้างหน้า

เขาสงสัยมาก มองจากด้านนอก แม้ว่าพื้นที่ในเจดีย์ถือว่าใหญ่มาก ตอนนี้น่าจะเดินจนสุดแล้ว

แต่ความจริงแล้ว เขารู้สึกว่ายังเดินไม่จบ อาจจะเพราะได้รับผลกระทบมาจากหมอหนา

“มาแล้วหรอ?”

ทันใดนั้น ด้านหน้าก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้เย่เซิ่งเทียนตกใจตัวโยน

เขาพึ่งพบว่า ด้านหน้ามีเงาหนึ่งปรากฏขึ้นมา

แต่เงานี้กำลังหันหลังให้เขาอยู่

“คุณเป็นใคร?”

เย่เซิ่งเทียนเริ่มระมัดระวัง หลังจากนั้นแผ่นหลังนั่นก็ไม่พูดอะไรอีก

“ผมมาแล้ว”

จากนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของเย่เซิ่งเทียน ทำให้เย่เซิ่งเทียนตกใจจนขนลุกซู่ เกือบจะลงมือแล้ว

เวลานี้เอง มีคนคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังอีกคน

คนผู้นี้ถึงแม้ใบหน้าจะเลือนราง แต่ก็วิเคราะห์ออกมาได้ว่า เป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง

“ฉายภาพอีกแล้วหรอ?”

เย่เซิ่งเทียนไม่พูดอะไร โชคดีที่ยังไม่ได้ลงมือ

ชายหนุ่มคนนั้นคุกเข่าให้กับคนที่หันหลังอยู่ แล้วคำนับสามครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืน“เราจัดการแล้วครับ ที่เหลือ ก็คือความแค้น”

“เห้อ จะเลือกแบบนี้จริงหรอ?”

คนที่หันหลังอยู่ถอนหายใจ เสียงนี้เหมือนกับเสียงคนแก่

ชายหนุ่มหัวเราะอย่างเยือกเย็น“ตอนนั้นคุณก็ทำเหมือนกันไม่ใช่หรอ?”

ชายชราเงียบอยู่นาน แล้วพูดขึ้นว่า“นายไม่เข้าใจ”

ชายหนุ่มพูดอย่างเย่อหยิ่ง“ผมไม่อยากเข้าใจ และไม่จำเป็นต้องเข้าใจ ของเก่า ต้องทำร้ายทิ้ง ของใหม่ ถึงจะปรากฏขึ้น”

ชายชรายังคงหันหลังให้ชายหนุ่ม“ของเก่าไม่ได้ไม่ดีเสมอไปหรอกนะ ของใหม่ก็ไม่ได้ดีเสมอไปเช่นกัน”

ชายหนุ่มหัวเราะอย่างเย้ยหยัน“คุณเอาแต่หันหลังให้คนอื่นไม่ยอมหันหน้ามา เพราะฉะนั้นคุณไม่รู้ว่าคนอื่นต้องการอะไร!”

ชายชราไม่พูดอะไรอีก

ในตอนนี้เอง จู่ๆชายหนุ่มก็ลงมือ ใช้ดาบยาวในมือ พุ่งไปยังด้านหลังของชายชราอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า

ฉากนี้จบลงอย่างกะทันหัน เหลือไว้เพียงหมอกหนา

คำพูดที่ไม่มีหัวหรือท้าย ทำให้เย่เซิ่งเทียนรู้สึกประหลาดใจ ชายชราผู้นี้เป็นใคร? แล้วชายหนุ่มผู้นี้เป็นใครกัน?

ชายชราอาจจะเป็นผู้อาวุโสของชายหนุ่ม ไม่เช่นนั้นชายหนุ่มคงไม่คุกเข่าหรอก

ระหว่างพวกเขาเกิดอะไรขึ้น?

เย่เซิ่งเทียนไม่เข้าใจว่านี่มันหมายความว่าไง ไม่มีข้อมูลที่มีประโยชน์เลย

“หืม?หมอกสลายหายไปแล้ว?”

เย่เซิ่งเทียนพบว่า หมอกหนาไม่รู้สลายหายไปเมื่อไร จุดสนใจของเขาเมื่อสักครู่ถูกดึงดูดโดยชายหนุ่มกับชายชรา เขาไม่ได้สังเกตอะไรเลย

หมอกสลายหายไปแล้ว และขณะเดียวกันห่างกันไม่ถึงสามเมตร มีโครงกระดูกนั่งไขว่ห้าง มีข้อความเขียนอยู่บนพื้น ทำให้เย่เซิ่งเทียนรู้สึกขนลุกทันที เขาถอยหลังไปหลายก้าว

เห็นเพียงบนพื้นเขียนว่า“ฉันหลินเต้าจื่อตายอยู่ที่นี่”

เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างตกใจกลัวว่า“เป็นไปได้ยังไง?นี่มันเป็นไปได้ยังไง?ตาเฒ่าหลินถูกฉันฝังกลบกับมือเลยนะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”