มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1048

เมื่อได้ยินชื่อนั้น ทั้งคอร์ดและปาร์คเกอร์ก็ถึงกับตะลึงงันไปชั่วขณะ

“…จากสิ่งที่คุณพูดมา ผมขอเดาว่าคุณรู้จักกับลุงสามของผม คริสโตเฟอร์ ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของตระกูลโมลเดลเช่นกัน ถูกต้องไหมครับ? ถึงอย่างนั้นผมพบว่ามันแปลกที่เขาไม่เคยเอ่ยถึงชื่อ ‘แดริล’ มาก่อนเลย” คอร์ดตอบกลับ โดยรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ

แม้แต่ในหมู่สมาคมลับอื่น ๆ ก็มีไม่กี่คนที่รู้มากเกี่ยวกับคริสโตเฟอร์ผู้ลึกลับว่าเป็นใคร ในทางหนึ่ง เขาเป็นสัญลักษณ์อนุสรณ์ของตระกูลโมลเดล

เท่าที่คอร์ดรู้ คลอฟอร์ดเป็นเพียงตระกูลมั่งคั่งธรรมดา แล้วแดริลจะไปรู้จักมักคุ้นกับชายชราคนนั้นได้ยังไง?

“ถ้าฉันจำไม่ผิด ‘สมาคมลับ’ อย่างพวกนายแต่ละกลุ่มต่างก็มีกฎที่เข้มงวดของตัวเองที่ต้องปฏิบัติตาม ก”สากลสำหรับพวกนายทั้งหมดก็คือความจริงที่ว่านายไม่สามารถเข้ามาเกี่ยวข้องกับโลกธรรมดาทั้งหมดได้ตามอำเภอใจ ไม่ใช่หรือไง? แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่คนเลวอย่างพวกนายทำกัน! ยิ่งไปกว่านั้น นายยังสร้างตระกูลของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นอีกด้วยซ้ำ เพียงเพื่อจะได้เข้ามายุ่งในโลกธรรมดามากขึ้น! นายยังอาจหาญพอที่จะประกาศว่าต้องการจะทำลายตระกูลคลอฟอร์ดอีกด้วยซ้ำ! พวกนายคนเลวทั้งหลายไม่คิดว่านายกำลังดูถูกก”ของตระกูลโมลเดลมากเกินไปหน่อยเหรอ?” แดริลกล่าว โดยเพิกเฉยต่อคำถามของคอร์ด ขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังที่นั่งของผู้มีเกียรติและนั่งลง ในขณะที่หัวเราะอย่างเบิกบานใจ

“…ท่านผู้เฒ่าคลอฟอร์ด คุณเป็นสมาชิกของกองกำลังกลุ่มไหนกันแน่? คุณเป็นแค่นักธุรกิจที่ทรงอำนาจและร่ำรวย ไม่ใช่เหรอ? คุณจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในสมาคมลับอย่างละเอียดทุกอย่างได้ยังไงกัน?” คอร์ดถาม

“ฮึ่ม! ฉันเป็นสมาชิกของพระราชวังจิตวิญญาณ แต่ก็อีกนั่นแหละ ฉันสงสัยว่าถ้าคริสโตเฟอร์จะเคยเอ่ยถึงสมาคมนี้กับนายหรือไม่”

“…พ พระราชวังจิตวิญญาณ…?” คอร์ดตอบกลับ เมื่อรู้สึกว่าเปลือกตาของเขากระตุกอย่างเร็วมาก

“ป เป็นคนจากพระราชวังจิตวิญญาณ!” คนที่ยังคงเหลือของคอร์ดพูดตะกุกตะกัก ขณะที่พวกเขามองกันและกันด้วยความสิ้นหวังอย่างที่สุด ก่อนที่แต่ละคนจะก้าวถอยหลังกัน

สำหรับใครก็ตามที่อยู่ในสมาคมลับ มันค่อนข้างเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของ ‘พระราชวังจิตวิญญาณ’ สำหรับบริบท ครั้งหนึ่งมีสมาคมลับใหญ่ไม่กี่กลุ่มในเวสตัน อย่างไรก็ตาม หนึ่งในสมาคมลับที่บุกเบิกและรุ่งเรืองมากในตอนนั้น ก็ถูกล้างบางโดยพระราชวังจิตวิญญาณในเพียงค่ำคืนเดียวไปอย่างหมดสิ้น

คนเหล่านั้นจากพระราชวังจิตวิญญาณมักจะทิ้งร่องรอยเกี่ยวข้องของพวกเขาไว้เบื้องหลัง เพื่อที่คนอื่น ๆ จะได้กลับไปหาพวกเขาได้ ถ้าพวกเขาต้องการล้างแค้นให้ผู้ตาย แต่ก็ไม่มีใครกล้าหรือโง่พอที่จะทำแบบนั้นกัน

เนื่องจากเหตุการณ์ที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ในบรรดาสมาคมลับทั้งหลาย มันจึงเป็นปกติที่คอร์ดและคนของเขาจะรู้สึกถูกขู่ขวัญกันเล็กน้อย

“เช่นนั้นคุณก็เป็นเจ้านายของพระราชวังจิตวิญญาณเช่นเดียวกับเป็นคนของตระกูลคลอฟอร์ด แดริล…งั้นนั่นก็คือสิ่งที่คุณทำมาตลอดในหลายสิบปีที่ผ่านมานี้…ผมยอมรับว่าผมไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องทั้งหมดนี้เลย แต่ผมคิดว่าในที่สุดผมก็ได้เห็นภาพที่ใหญ่ขึ้นในตอนนี้แล้ว…”

“อะไรกันแน่ที่ตระหนักได้ว่าฉันเป็นใคร แท้จริงแล้วสิ่งที่นายรู้ในเรื่องของฉันคืออะไร?”

“เอาล่ะ เมื่อครึ่งปีก่อน ลูกชายสุดที่รักคนที่สามของผม เจ็ตต์ ถูกลักพาตัวไปโดยบุคคลลึกลับและทรงกำลังในเมย์เบอร์รี่ จนกระทั่งถึงตอนนี้ ผมก็ยังคงไม่มีเบาะแสเลยว่าเขาอาจอยู่ที่ไหนหรือเขายังคงมีขีวิตอยู่หรือไม่! บวกกับการทำลายล้างโมลเดลในจังหวัดโลแกน ผมสงสัยว่ามันจะปลอดภัยที่จะคาดเดาได้ว่าคุณเป็นคนรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนั้นใช่ไหม?” คอร์ดคำราม ขณะที่สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ซึ่งเต็มไปด้วยความแค้นใจ

เมื่อได้ยินแบบนั้น แดริลที่โมโหก็แผดเสียงใส่ “คนสารเลว!”

แม้แดริลไม่ได้ขยับแม่แต่นิ้วเดียว แต่คอร์ดก็รู้สึกได้ว่าแก้มของเขาถูกตบอย่างแรงถึงสองครั้ง! เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะสู้กลับด้วยซ้ำ!

“แต่ก็นะ ฉันก็มีชีวิตอยู่มานานแล้ว! ลูกชายคนที่สามและสมาชิกครอบครัวของนายไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าพวกคนเลวที่ไม่สำคัญในสายตาของฉัน! ด้วยการเป็นคนที่ไม่สำคัญอย่างที่พวกเขาเป็น ทำไมฉันถึงจะอยากเสียเซลล์สมองโดยคิดว่าจะจัดการกับพวกเขาอย่างเหมาะสมอย่างไรด้วยล่ะ? ช่างน่าหงุดหงิดชะมัด!”

คอร์ดเองเพียงกุมแก้มที่เจ็บปวดของเขาไว้ โดยไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกสำหรับตอนนี้

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา ดีแลนและคลอฟอร์ดคนอื่น ๆ ก็เริ่มตื่นเต้นกันเป็นเป็นพิเศษ

“…ผมไม่เคยคิดเลยว่าพ่อจะมีกำลังมากขนาดนี้ เมื่อพูดถึงเรื่องนั้นแล้ว งั้นก็ไม่ใช่คนของพวกเราจริง ๆ หรือครับที่สังหารหมู่โมลเดลในจังหวัดโลแกน?” ดีแลนที่ได้รับความมั่นใจอย่างแทบจะไม่มีที่สิ้นสุดในตอนนี้ เมื่อเขาเห็นว่าพ่อของเขาแท้จริงแล้วทรงกำลังเพียงใดถามขึ้นมา

ขณะที่แดริลเฝ้ามองลูกชายของเขานั่งลงข้างเขา เขาก็ถอนหายใจก่อนจะตอบกลับ “ฉันจะพูดเรื่องนี้ยังไงดี…อืม ฉันไม่ได้ทำมัน…แต่ มันก็เป็นคลอฟอร์ดที่ทำจริง ๆ เอาตามตรงนะ ฉันก็คงจะทำมันด้วยตัวเอง ถ้าฉันไม่สนเรื่องระดับอาวุโสใด ๆ อย่าลืมว่า สารเลวเหล่านั้นไม่ได้เป็นอะไรนอกจากโจรที่คิดจะเข้ายึดตระกูลคลอฟอร์ดมาเป็นเวลากว่ายี่สิบปีแล้วตอนนี้ ด้วยเล่ห์เหลี่ยมชั่วร้ายทั้งหมดที่พวกเขาใช้มาตลอดหลายปีมานี้ ฉันจึงประหลาดใจอย่างแท้จริงที่พวกเขายังคงไม่พอใจมากขนาดนี้ แม้หลังจากการสังหารหมู่ตระกูลมอร์นิ่งสตาร์ไปแล้ว” แดริลอธิบาย ความโกรธของเขาปรากฏชัดในน้ำเสียงของเขา

คอร์ดรู้สึกว่ามุมปากของเขากระตุกเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น

“…โอ้ว? งั้นก็เป็นคนจากตระกูลของเราที่ทำมันจริงงั้นเหรอครับ? แต่นอกเหนือจากพ่อแล้ว ใครกันที่ทรงกำลังอย่างมากเช่นนี้ได้?” ดีแลนกล่าว โดยรู้สึกสับสนงุนงง

“หนูก็สงสัยเช่นกัน คุณปู่ เมื่อพูดถึงเรื่องนั้นแล้ว ทำไมปู่ถึงไม่มาปรากฏตัวให้เร็วกว่านี้ล่ะคะ? ครอบครัวของเราคงไม่ต้องเผชิญกับอันตรายมากมายในวันนี้ ถ้าปู่แค่ทำแบบนั้น! ยังไงซะ ก็ฆ่าพวกเขาทั้งหมดในวันนี้ และก็ทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีพวกเขาคนไหนหนีไปได้!” เจสสิก้าอุทานขึ้นมา

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันไม่เคยคิดว่าหลานสาวของฉันจะได้บุคลิกของฉันไป! ฉันชอบเธอมาก เมื่อเทียบกับเจ้าหลานชายขี้คลาดคนนั้นของฉัน!” แดริลตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะเบิกบาน

“เอาล่ะ เอาเป็นว่าฉันไม่ได้มาก่อนหน้านี้เนื่องจากปัญหาส่วนตัวบางอย่างที่ฉันไม่อยากแบ่งบันในขณะนั้น อย่างไรซะ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องจัดการกับพวกคนเลวเหล่านี้ด้วยซ้ำ หลานสาวของฉัน…มานี่สิ…” แดริลกล่าวเสริม ขณะที่เขาหันไปมองชายชุดคลุมสีดำ

“ไปตรวจดูว่านายน้อยกลับมาหรือยัง” ชายชราสั่ง