กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1172
”เสียงของคริสโตเฟอร์เบาลงเรื่อย ๆ แต่คุณท่านวิลสันก็ยังสามารถเข้าใจเขาได้
เธอร้องเสียงหลงอย่างกระวนกระวายใจ “ไม่นะ! ใครจะไปรู้ว่าผู้ชายสกปรกโสโครกแบบไหนกันที่ฮันนาห์นอนด้วยในเหมืองถ่านหินนั่น?! ฉันคิดว่าเธอไม่ได้แค่ตั้งท้องเท่านั้นนะ แต่ยังเอาโรคประหลาดอีกสารพัดกลับมาด้วย! ไปกันเถอะ! แม่จะไปโรงพยาบาลกับแกด้วย จะได้ตรวจให้รู้อย่างละเอียดกันไปเลย”
ในขณะที่ฟังแม่พูดอยู่นั้น คริสโตเฟอร์ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่า ฮันนาห์อาจเป็นคนนำโรคพวกนั้นมาติดเขา ซึ่งทำให้เขายิ่งรู้สึกรำคาญใจมากขึ้นไปอีก
ไม่ว่าเขาจะรู้สึกรำคาญใจขนาดไหน แต่สิ่งที่เขาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกอยู่ตอนนี้ก็คือการไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าเขาติดโรคหรือเปล่า เขาจึงพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “คุณแม่ครับ นี่มันเรื่องน่าอายจริง ๆ ที่ผมยังต้องให้แม่พาไปโรงพยาบาลอยู่เลย แม่แค่ให้เงินผมก็พอ ผมไปโรงพยาบาลเองก็ได้ครับ”
คุณท่านวิลสันพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าฉันไม่ได้ไปกับแกด้วยก็จะทำให้รู้สึกไม่สบายใจ หยุดพูดได้แล้ว ฉันจะไปกับแกด้วย ไปกันเถอะ!”
จากนั้นคุณท่านวิลสันก็ยืนขึ้นทันที แล้วเตรียมตัวออกไปข้างนอก
คริสโตเฟอร์มีท่าทีลังเล แต่เขาก็ได้แต่พยักหน้า และเดินออกจากบ้านพร้อมกับแม่
***
เมื่อคริสโตเฟอร์และคุณท่านวิลสันอยู่ในระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาล ลูกน้องที่รอดชีวิตเพียงคนเดียวของตระกูลเว็บบ์ ที่ถูกทิ้งไว้เพียงลำพังที่ภูเขากอลมินนั้น ในที่สุดก็ค้นพบช่องทางที่จะแอบเข้าไปในห้องเก็บศพของโรงพยาบาลในท้องที่นั้นแล้ว
เขาติดสินบนภารโรงที่ห้องเก็บศพนั้นด้วยเงินจำนวนมาก เพื่อที่เขาจะสามารถเข้าไปได้
เมื่อเขายืนยันว่าต้องการดูศพชายแปดคนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์หิมะถล่ม ภารโรงก็พูดว่า “ก็ได้ ผมจะให้คุณดู แต่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้ดีล่ะ เพราะศพพวกนั้นดูค่อนข้างน่ากลัว”
ลูกน้องจากตระกูลเว็บบ์คนนั้นพยักหน้า จากนั้นภารโรงก็เปิดตู้แช่แข็งแปดตู้ ที่เขาแยกเก็บร่างผู้เสียชีวิตไว้ตู้ละศพ
ทันทีที่เปิดถุงบรรจุศพออก ลูกน้องจากตระกูลเว็บบ์คนนั้นก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจสุดขีด!
ถึงแม้ศพทั้งแปดศพนั้นจะอยู่ในสภาพที่ดูน่ากลัว แต่เขาก็มั่นใจว่าเป็นพวกแปดผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเก็บไว้สองสามรูปทันที แล้วส่งไปให้โดนัลด์ดู
ในขณะเดียวกัน โดนัลด์ก็กำลังรอฟังข่าวที่ซัดเบอรี่อยู่พอดี
ตระกูลเว็บบ์เกือบจะแน่ใจว่ากลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ทุกคนต่างก็ยังตั้งความหวังว่าพวกเขาจะรอด… แม้จะเป็นความหวังที่ริบหรี่ก็ตาม
และแล้วความหวังของพวกเขาทั้งหมดก็สูญสลายไปหมดสิ้น เมื่อโดนัลด์ได้รับรูปถ่ายเหล่านั้น
กลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ได้ตายไปแล้วจริง ๆ
พวกเขาตายในเหตุการณ์หิมะถล่ม
นี่เป็นเรื่องที่รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง
พวกเขาส่งปรมาจารย์ที่ทรงพลังแปดคนไปที่นั่น แต่พวกเขาเสียชีวิตในเหตุการณ์หิมะถล่ม ก่อนที่จะได้พบกับเหล่าศัตรูเสียอีก ฟังดูแล้วมันน่าเหลวไหลไร้สาระสิ้นดี!
ตอนนี้คุณท่านเว็บบ์รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
เหล่าแปดผู้ยิ่งใหญ่เป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ของเขามานานหลายสิบปี และเขาได้เริ่มต้นสร้างอาณาจักรธุรกิจร่วมกับพวกเขา ความสัมพันธ์ของเขากับเหล่าแปดผู้ยิ่งใหญ่นั้น ถือเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างลึกซึ้งและแน่นแฟ้น
เขาได้ยินข่าวการตายของเหล่าแปดผู้ยิ่งใหญ่แบบไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน จึงถือเป็นเรื่องหนักหนาแสนสาหัสเกินกว่าที่เขาจะยอมรับได้
ฌอนตกใจพอ ๆ กัน เมื่อได้เห็นรูปถ่ายเหล่านั้น แต่เมื่อเขาพิจารณาอย่างถ้วนถี่ก็พบว่ามีบางอย่างที่ดูค่อนข้างแปลก
เขาพูดว่า “คุณพ่อครับ คุณปู่ครับ ผมรู้สึกว่าร่องรอยบาดเจ็บบนร่างกายของเหล่าแปดผู้ยิ่งใหญ่นั้นดูไม่ปกตินะครับ! ถ้าพวกเขากำลังอยู่ในรถตอนที่มีหิมะถล่มเกิดขึ้น พวกเขาก็ต้องติดอยู่ในรถสิ แล้วต้องมีร่องรอยบาดเจ็บที่เกิดจากรถคว่ำด้วย แต่พอดูใกล้ ๆ บาดแผลพวกนี้กลับบ่งบอกว่าเป็นบาดแผลจากการถูกทำร้าย!”
ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น เขาซูมภาพแขนขวาของเอมิเลียโน่ให้เห็นได้ชัดขึ้น แล้วพูดว่า “ดูที่แขนขวาของคุณฟลอเรสสิครับ มันดูเละเทะและเต็มไปด้วยเลือด มันดูไม่เหมือนบาดแผลจากรถคว่ำเลย!”
“แล้วดูรูปของฮาเดสสิครับ บาดแผลที่แขนขวาก็ดูไม่ต่างจากของคุณฟลอเรสเลย แต่ไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ถ้าพวกเขาทั้งหมดเสียชีวิตในรถตอนที่หิมะถล่ม พวกเขาควรต้องมีบาดแผลคล้าย ๆ กัน แต่นี่… นี่กลับดูแปลกเกินไป!”
คุณท่านเว็บบ์พร้อมด้วยสมาชิกส่วนที่เหลือของตระกูลเว็บบ์ ต่างอ้าปากค้างด้วยความสยองขวัญสุดขีด!
คุณท่านเว็บบ์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฌอน นี่หลานกำลังจะบอกว่าเหล่าแปดผู้ยิ่งใหญ่ถูกฆ่าตายใช่ไหม?”