มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1050
แม้แต่เจสสิก้าก็มีความสุข ขณะที่เธอตะโกนขึ้น “เอาเลย เจอรัลด์! ฆ่าตาแก่สารเลวนั่นซะ! ซ้อมเขาให้ตายไปเลย!”
ในทางกลับกัน ปาร์คเกอร์หันไปมองแดริลก่อนจะถามอย่างเคารพ “เมื่อดูจากออร่าของคุณแล้ว คุณอาจเป็นหนึ่งในบุคคลในตำนานเหมือนลุงสามของผม คริสโตเฟอร์หรือเปล่าครับ?”
เขาถามเพราะเขารู้สึกตกตะลึงกับการที่คอร์ดเสียเปรียบมากแค่ไหน ที่ถูกวางให้อยู่ในการต่อสู้กับเจอรัลด์คนหนุ่ม ปาร์คเกอร์จึงทำได้เพียงแค่จินตนาการเอาเท่านั้นว่าความแข็งแกร่งของแดริลแท้จริงอยู่ในระดับไหนกัน ในฐานะที่ปรึกษาของเจอรัลด์
“ฮ่า! คุณกำลังบอกว่าคริสโตเฟอร์ไม่ได้เสียเวลาในช่วงสองสามทศวรรษมานี้หรอกเหรอ? อะไรกัน เขามาถึงขอบเขตแห่งตำนานเช่นกันงั้นเหรอ?” แดริลถามกลับ
“ครับ!”
“อะไรกัน? ปู่ไม่ได้บอกว่านายท่านผู้เฒ่าโมลเดลเสียชีวิตไปแล้วหรอกเหรอ?” วินนี่ที่ยังคงอยู่ในอาการช็อกถามขึ้นมา ขณะที่เธอยังคงเฝ้ามองเจอรัลด์และคอร์ดสู้กันต่อไป
“ไร้สาระ! นั่นเป็นเพียงแค่ข่าวลือ อย่าลืมว่า พวกเราจะเปิดเผยตัวตนของนายท่านผู้เฒ่าอย่างไม่เป็นทางการได้ยังไง? แต่กระนั้น เธอเป็นเพียงแค่รุ่นเด็กคนหนึ่ง ดังนั้นมันจึงเป็นปกติที่เธอจะไม่รู้เรื่องพวกนี้” ปาร์คเกอร์ตอบกลับ
“…งั้น…ตอนนี้เจอรัลด์ก็เป็นนักต่อสู้เช่นกันเหรอคะ? เขาแข็งแกร่งมาก!” วินนี่ถามอีกครั้ง หัวใจของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย
อย่างไรซะ เจอรัลด์ก็เป็นคนช่วยชีวิตเธอในตอนนั้น เมื่อเขาไปที่ตระกูลโมลเดลเป็นครั้งแรกในการขอความช่วยเหลือ ตอนนั้น วินนี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทนทุกข์จากภาวะโลหิตจาง ขอบคุณการบริจาคเลือดของเจอรัลด์ เธอจึงมีชีวิตรอดมาได้
ถึงอย่างนั้นเธอก็มักจะดูถูกเขาอยู่เสมอ เนื่องจากเธอเห็นว่าเขาเป็นเพียงแค่คนปกติทั่วไปจากโลกธรรมดาภานนอก
ตอนนี้ที่เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ อย่างไรก็ตามวินนี่ก็กำลังมีความคิดที่ยากจะอธิบายได้
“…ช่างน่างุนงงเสียจริง…บอกผมด้วยนะครับถ้าผมพูดผิด แต่หลังจากสังเกตเจอรัลด์มาได้สักพัก ผมเดาว่าเขาไม่ใช่นักต่อสู้นะครับ คุณผู้ชาย การคาดเดาของผมถูกต้องหรือเปล่าครับ?” ปาร์คเกอร์ซึ่งไม่ได้พยายามปกปิดความปั่นป่วนเล็กน้อยใด ๆ ของเขาเลยสักนิด เขาถามขึ้น ขณะที่เขาหันไปมองแดริลด้วยความไม่เชื่อ
“ฮ่าฮ่าฮ่า! คุณดูเหมือนจะค่อนข้างมีสายตาแหลมคมนะ!” แดริลตอบกลับด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ
“…พระเจ้า…” ปาร์คเกอร์พึมพำ ขณะที่เขาโซเซไปข้างหลังหลายก้าว ตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดเซียวมาก
ขอบคุณวินนี่จัดการพยุงเขาไว้ได้ทันเวลา เมื่อพบว่ามันแปลกประหลาด จากนั้นเธอจึงถามขึ้น “ปู่หมายความว่ายังไงคะ? แม้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในด้านของพละกำลังของเขา แต่หนูก็ไม่เห็นว่าจะมีปัญหาอะไรกับการที่เขาจะได้ตำแหน่งนักต่อสู้เลยหนิคะ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนักแน่เพื่อให้ได้มาอยู่ในจุดที่เขาเป็นในเวลานี้!”
“เขาไม่ใช่! ตอนนี้ที่ผู้อาวุโสตอบคำถามของฉัน ฉันสามารถพูดได้อย่างปลอดภัยว่าเจอรัลด์ไม่ใช่นักต่อสู้!” ปาร์คเกอร์ตอบกลับ
“…ปู่จะชี้แนะว่าเขายังมีตำแหน่งสูงกว่าอีกด้วยซ้ำงั้นเหรอคะ…?”
เมื่อกลั้นหายใจ จากนั้นปาร์คเกอร์ก็เบิ่งตากว้างมองไปที่เจอรัลด์ขณะที่เขาตัวสั่น พร้อมกับพึมพำออกมา. “…เขา…เขาเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง…”
ขอบเขตแห่งตำนานคือขอบเขตลึกลับมากที่สุด เมื่อเป็นเรื่องของศิลปะการต่อสู้โบราณ หลาย ๆ คนล้มเหลวที่จะไปถึงยังจุดนั่นแม้หลังจากการใช้เวลาทั้งชีวิตของพวกเขา ในการพยายามที่จะบรรลุผลมัน และนี่ก็รวมถึงผู้คนจากภายในสมาคมลับด้วย
“…อ อะไรนะ…? ไม่ได้พูดเล่นใช่ไหมคะ ปู่?” วินนี่พูดตะกุกตะกัก ขณะที่เธอรู้สึกอึ้ง
“เขาคือปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง!” ปาร์คเกอร์ตอบกลับ ยังคงตัวสั่นไปทั้งตัว ขณะที่เขาพยักหน้า
“แต่กระนั้น…ปรมาจารย์ในช่วงอายุของเขานี้…นอกเหนือจากชายผู้นั้น เจอรัลด์ก็เป็นอีกคนหนึ่งเท่านั้นที่สามารถบรรลุตำแหน่งปรมาจารย์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้!” ปาร์คเกอร์กล่าวเสริม
“ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คืออะไรเหรอครับ พ่อ? ตอนนี้เจอรัลด์ก็เป็นหนึ่งในนั้นเหรอครับ?” ดีแลนที่ไม่รู้ว่าปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คืออะไรถามขึ้นมา แต่จากสิ่งที่เขาได้ยินมา เขารู้ว่ามันต้องเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากแน่
“ฮ่าฮ่า! แน่นอน เจอรัลด์ได้มาถึงขอบเขตแห่งตำนานอย่างแท้จริง! มันเป็นเหตุผลที่ทำไมฉันถึงประหลาดใจมาก เมื่อฉันพบเขาก่อนหน้านี้ จากสิ่งที่ฉันอนุมานได้ เจอรัลด์ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสองทศวรรษเพื่อจะได้บรรลุขอบเขตนั้นได้สำเร็จ และนั่นก็ต่อเมื่อเขามีความสามารถอย่างมาก และมีข้อได้เปรียบทางชีวภาพเป็นพิเศษเท่านั้น!” แดริลที่ดูเหมือนจะปิดบังข้อเท็จจริงอย่างระมัดระวังในการอธิบายของเขาตอบกลับ ทั้ง ๆ ที่มองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนก็ตาม
“ใช่ครับ ท่านลอร์ด นับตั้งแต่นายน้อยดื่มเลือดศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ดูเหมือนจะมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการฝึกฝนของเขา จากสิ่งที่ผมเห็นเป็นการส่วนตัว เขามาถึงขอบเขตแห่งตำนานแล้วครับ แม้ในช่วงที่แย่ที่สุดของเขา เขาก็จะยังคงอยู่ในระดับกึ่งปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ช่างหายากอย่างแท้จริง! ดูเหมือนว่าเลือดศักดิ์สิทธิ์จะมีผลเหมือนเวทย์มนต์อย่างหนึ่งเลยนะครับ!” เวลสันที่ยืนอยู่ด้านข้างตลอดเวลามานี้กล่าว
“…ไม่ มันไม่ได้เป็นเพราะเลือดศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว” แดริลตอบกลับขณะที่เขาส่ายหัวของเขา
“ฉันสังเกตเจอรัลด์มาตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในห้องโถงแล้ว…ฉันจะบอกเดี๋ยวนี้ว่าเลือดศักดิ์สิทธิ์คงช่วยให้เขาควบคุมอารมณ์ของเขาได้ดีขึ้นได้เท่านั้น ไม่มีทางที่มันจะช่วยให้เขาเพิ่งความเร็วของการฝึกฝนของเขาได้หรอก! เมื่อเข้าใจแบบนั้นแล้ว ฉันจึงสรุปได้ว่าเขากลายมาเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร!” แดริลกล่าวเสริมพร้อมกับขมวดคิ้ว
“คุณสรุปว่ายังไงครับ?”
“อืม ดูเหมือนว่าใครบางคนได้ปลูกฝังศักยภาพไว้ในตัวเจอรัลด์มากมาย……ฉันเกรงว่าร่างกายของเขาไม่ได้เป็นปกติจากเมื่อครึ่งปีก่อนอีกต่อไปแล้ว…”