กลุ่มของผู้เ่ลนที่เข้าห้องบอสมาทางสะพานหิน ต่างช็อคในสิ่งที่ตาพวกเขาเห็น

 

บอสที่พวกเขาคิดว่าจะนอนอยู่อย่างสบายอารมณ์ด้วยพลังชีวิตที่เต็ม กลับมีพลังชีวิิตอยู่เกินครึ่งมาแค่เล็กน้อยเท่านั้น!

 

พวกเขาที่คิดว่าเสี่ยวเฟิงเป็นนักบวชธรรมดา กับยืนถือค้อนลูกตุ้มทองคำเผชิญหน้ากับบอสแบบตาต่อตา เขาสามารถปัดป้องการโจมตีของบอสได้แล้วสวนกลับด้วยลูกตุ้มในมือ ความเสียหายที่ทำได้แต่ละครั้งมากกว่า 200 หน่วยอีก!

 

“ทำไมบอสพลังชีวิตเหลือแค่นั้น?”

 

“ไม่อยากจะเชื่อเลย! ยอดฝีมือแห่งการรักษาคอยรับมือบอสแล้วให้ท่านไนท์คูเออร์ทำความเสียหาย! แค่นั้นพลังชีวิตของบอสก็หายไปเกือบครึ่งแล้ว!”

 

“โห! ได้เห็นความสามารถของพวกยอดฝีมือซะที! ทีแรกคิดว่าน่าจะเก่งกว่าพวกเราแค่นิดๆหน่อยๆ! แต่ดูท่าจะคิดผิดแหะ นี่มันเจ๋งสุดๆเลย!”

 

 

พวกเขาทุกคนยังยืนนิ่งและมองไปทางทั้ง 2 คนที่รับมือบอสได้อย่างสบายๆโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา

 

“ดูท่าว่าพวกเราจะกลายเป็นภาระแหะ… ฉันเชื่อว่าต่อให้มีพวกเขาแค่ 2 คนก็จัดการบอสได้อย่างง่ายดายแน่ๆ!”

 

ในขณะที่ทุกคนยังนิ่งพาลลาดินแห่งการรักษากลับมีสีหน้าที่เครียดเกร็ง เพราะเขาเป็นถึง 20 คนหัวตารางของหอเกียรติยศ ถึงไนท์คูเออร์จะมีตำแหน่งสูงกว่าแต่ความเก่งกาจคงงจะไม่ต่างกับเขามากนัก

 

แต่ตอนนี้ขณะที่เขาถูกฆ่าในชั่วพริบตา แต่อีกฝ่ายกับเสี่ยวเฟิงนั้นรับมือกับบอสได้อย่างง่ายดาย เขารู้สึกถึงความห่างชั้นของฝีมือระหว่างเขากับทั้ง 2 คนนั้น

 

“นี่มีนอะไรกันเนี่ย…”

 

เหลาซวีก็ยังจ้องมาทางนี้ เขาได้เตรียมแผนการเอาไว้มากมาย อย่างให้นักเวทย์ตัวสำรองมาแทนที่อิมมอทัลเฟลมที่ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ทำให้แผนการของเขาเป็นหมันไปหมด

 

“อย่ามันแต่ยืนใจลอยสิ! รีบๆมาช่วยได้แล้ว! ตอนนี้ฉันกำลังรีบนะ”

 

เสี่ยวเฟิงพูดโดยไม่หันกลับมามอง เขาเอี้ยวตัวหลบขาหน้าของสลามันเดอร์แล้วสวนกลับด้วยโทเทมทองคำในมือใส่ขาอีกข้างของสลามันเดอร์

 

“-441!”

 

พวกเขาต่างตกใจในตัวเลขความเสียหายที่มากกว่า 400 ทั้งๆที่บอสมีพลังป้องกันที่สูงมากหมายความว่าถ้าสู้กับคนธรรมดาความเสียหายที่ทำได้นั้นต้องมากกว่า 500 แน่ๆ! หมายความว่าคนที่โดนไปจะตายทันทีในชั่วพริบตา!

 

แล้วพวกเขาก็นึกออกจนได้ว่าบอสจะให้สมุดสกิลกับผู้เล่นที่เปลี่ยนคลาสมาแล้ว พวหเขานั้นต่างเริ่มตื่นเต้นกันแล้ว

 

“นักบวชลให้บัฟกับคนอื่นๆ! พวกที่ทำความเสียหายเตรียมตัวกันได้เลย! นักรบโล่รับมือกับการโจมตีของบอส!” เหลาซวีนั้นพิจารณาสถานการณ์ตรงหน้าแล้วออกคำสั่งในทันที

 

“ไม่ต้องเรื่องล่อบอสเดี๋ยวฉันรับหน้าที่เอง Tตอนนี้บอสกำลังคลั่งคงไม่มีใครสามารถต้านทานได้แน่ๆ” เสี่ยวเฟิงพูดโดยไม่หันกลับมามอง ทำเอาไนฟและนักรบอีก 2 คนนั้นมองหน้ากันเองด้วยความมึนงง

 

แล้วพวกเขาก็รู้สึกตัวว่าตอนนี้ตัวของเจ้าแห่งสลามันเดอร์นั้นดูจะมีสีแดงที่สดขึ้น พวกเขาไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกและพลังโจมตีกับความรวดเร็วที่ดูจะมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

ถึงมันจะรวดเร็วมาก แต่เสี่ยวเฟิงก็หลบการโจมตีของมันได้รวบกับอ่านความเคลื่อนไหวออก คนอื่นๆต่างสนใจกับการหลบหลีกและการปัดป้องอขงเขา

 

“นั่นมัน… ออเลเรียสเต็ป! นี่เขาสามารถใช้มันได้ด้วยเหรอ!”

 

เหลาซวีมองไปทางด้านเสี่ยวเฟิงแล้วพยายามที่จะใจเย็นก่อนที่จะถามออกไปว่า

 

“ท่านยอดฝีมือแห่งการรักษา มีอะไรที่พวกเราพอจะทำได้บ้าง?”

 

แต่อันที่จริงเสี่ยวเฟิงได้บอกเขาไปแล้วว่าให้ทำการโจมตีใส่บอสเพียงอย่างเดียว

 

“โจมตีใส่บอสให้หนักที่สุด แล้วระวังอย่าให้ตาย ตอนนี้ฉันกำลังรีบอีกครึ่งชั่วโมงฉันจะต้องไปแล้วไม่ว่าภารกิจจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม”

 

เสี่ยวเฟิงพูดโดยไม่ได้หันมามองเหมือนเดิมตอนนี้เขาต้องรีบทำเวลาให้เร็วที่สุด

 

“ได้! ทำตามคำแนะนำของเขา ทุกคนยกเว้นนักบวช โจมตีใส่บอสอย่างเต็มกำลัง!”

 

เหลาซวีทำถามคำแนะนำของเสี่ยวเฟิงโดยไม่รอช้าอีกต่อไป นักรบโล่ต่างวางโล่แล้วถือดาบ 2 มือเข้าร่วมโจมตีบอสพร้อมกับคนอื่นๆ

 

“ฮู่มมมมมมม!”

 

ถึงเจ้าแห่งสลามันเดอร์จะยังไม่มีท่าทีเพลี่ยงพล้ำ ยังคงจู่โจมใส่อย่างบ้าคลั่ง แต่พวกเขากลับพบว่าสามารถโจมตีมันได้ง่ายมากกว่าที่คิด

 

พวกเขาแค่ทำความเสียหายลงไปโดยไม่ลังเล แล้วก็มองไปทางเสี่ยวเฟิงแล้วก็ตกใจมากที่เขาสามารถรับมืิกับการโจมตีของบอสได้โดยแทบไม่มีรอยขีดข่วนเลย

 

พวกเขาคงไม่เชื่อว่าเสี่ยวเฟิงจะแข็งแกร่งขนาดนี้ถ้าพวกเขาไม่ได้มาเห็นกับตา

 

“ฮู่มมมมมมม!”

 

ตอนนั้นเจ้าแห่งสลามันเดอร์ชูหัวแล้วคำรามออกมาถึงจะมีเพียงลมมากระแทกโดยไม่มีความเสียหาย แต่บอสกลับยืนนิ่งอยู่ราวกับว่ากำลังรวบรวมพลังในการทำอะไรบางอย่าง.

 

“ระวังด้วย สกิลกำลังจะมาแล้ว!”

 

ทุกคนต่างตื่นตระหนก พวกเขาต่างหวั่นใจถึงท่าโจมตีทั่วทั้งฉากก่อนหน้านี้ในตอนที่บอสเสียพลังชีวิตไป 10%

 

“บัดซบ! เหมือนกับก่อนหน้านี้เลย มันจะใช้สกิลเดิมสินะ?”

 

ตอนนี้บอสกำลังจะทิ้งตัวลงกับพื้นแล้ว ทุกๆคนต่างกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแม้แต่เสี่ยวเฟิงเองก็ตาม

 

แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นรุนแรงกว่าที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้มากนัก

 

เจ้าแห่งสลามันเดอร์นั้นกลับไม่ได้ทิ้งตัวลงมาที่พื้นเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่กับชูคอแล้วคำรามออกมา แล้วผิวหนังของสลามันเดอร์ก็เริ่มมีเปลวไฟสีแดงเข้มผุดขึ้นมาจากทั่วทั้งร่างแล้วร่างของสลามันเดอร์นั้นก็ระเบิดคลื่นไฟออกมารอบทิศทาง!

 

“ตูมมมมมม!”

 

หลังจากที่เปลวไฟระเบิดออกมาพื้นที่นั้นก็ลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิง แล้วตอนที่มันทิ้งตัวลงมานั้นก็เกิดความเสียหายอีกรอบนึง ทุกคนพยายามหาที่หลบแต่บนพื้นที่นั้นไม่มีที่ว่างให้หลบอีกแล้ว!

 

“-138!”

 

“-119!”

 

“-108!”

 

“-87!”

 

“-73!”

 

 

ตัวเลขความเสียหายจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฎบนหัวของทุกๆคนรวมทั้งเสี่ยวเฟิงด้วย พลังชีวิตของเขาลดลงมาเหลือครึ่งนึงในพริบตา!

 

“ท่าที่ลดพลังชีวิตเป็นเปอร์เซ็นต์! พลังชีวิตของพวกเราหายไปครึ่งนึง 50%! ทุกคนรีบรักษาตัวเองก่อนเร็ว! มันจะมีท่าอื่นๆตามมาแน่ๆ! นักบวช! รีบเพิ่มพลังชีวิตให้กับคนอื่นๆด้วย!”

 

เหลาซวีมีประสบการณ์ในการเล่นเกมมากเขารู้ว่ามันไม่จบแค่นี้แน่ๆ

 

เสี่ยวเฟิงก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ตอนนี้พลังชีวิตของเขาลดลงมาเหลือ 138 จาก 277 พลังชีวิตของเขานั้นมากว่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้

 

โชคดีที่ตอนนี้บอสยังคงเล็งเป้ามาที่เสี่ยวเฟิงโดยไม่ได้สนใจคนอื่นเลย คนอื่นๆต่างรีบใช้ยาเพิ่มพลังชีวิตทันทีที่ใช้ได้

 

“+20!”

 

“+20!”

 

“+20!”

 

 

ยาระดับกลางจะเพิ่มพลังชีวิตได้ 20 ถึงจะยังไม่เพียงพอกับความเสียหายที่ได้รับแต่ก็ทำให้พวกเขาสามารถต้านการโจมตีรอบที่ 2 ได้

 

“ตูมมมมมม!”

 

เปลวไฟจากสลามันเดอร์ระเบิดออกมาอีกครั้งโดยไม่มีที่ให้หลบเลยแม้แต่น้อย ตอนที่เปลวไฟหายไปทุกคนเหลือพลังชีวิตอยู่น้อยมากๆแต่ก็รอดผ่านมาได้ทุกคน

 

แต่เหลาซวีนั้นยังคงมีสีหน้าเคร่งเครียดแล้วก็ตะโกนออกมา

 

“พวกเราแย่แล้ว! รอบที่ 3 กำลังจะมาแล้ว!”

 

เปลวไฟบนตัวของสลามันเดอร์ยังไม่หายไป แล้วเปลวไฟก็ระเบิดออกมาอีกรอบ

 

“ตูมมมมมม!”

 

ตอนนี้พวกเขาเหลือพลังชีวิตกันแค่ 20 หน่วยถ้าไฟเข้ามาปะทะก็ตายแน่ๆ พวกนักบวชวางไม้เท้าของพวกเขาลงอย่างจำยอม

 

เสี่ยวเฟิงยังคงลังเล เพราะว่าเขาไม่ได้ยาไปในการระเบิดรอบที่ 2 ทำให้เขายังคงมียาเหลืออยู่ ต้องขอบคุณต่างหูอมตะและสกิลวัฎจักรชีวิตทำให้เขายังรอดมาได้

 

แต่ตอนนี้คนอื่นๆกำลังจะตายกับการโจมตีของบอส เขาอ่านจังหวะแล้วหยิบคทาแห่งการรักษาออกมาแล้วใช้สกิล ตัวเลขการรักษษสีเขียวปรากฎขึ้นบนหัวของทุกๆคน

 

“+177!”

 

“+161!”

 

“+154!”

 

“+170!”

 

 

ทุกคนที่ต่างยอดแพ้แล้วเห็นพลังชีวิตของตัวเองกลับมาเต็มอีกครั้ง พวกเขาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

 

แล้วพวกเขาก็ปะทะกับคลื่นเปลวไฟในที่สุด

 

“-138!”

 

“-119!”

 

“-108!”

 

“-87!”

 

“-73!”

 

 

พวกเขาทุกคนรอดออกมาจากสกิลของบอสจนได้ แล้วบอสที่ใช้สกิลเสร็จแล้วก็พุ่งเข้าโจมตีเสี่ยวเฟิงที่เป็นเป้าหมายต่อทันที

 

ทุกคนตอนนี้ปลอดภัยหมดแล้วยกเว้นเสี่ยวเฟิงที่เหลือพลังชีวิตแค่ 1 หน่วยเท่านั้น นี่เป็นผลค้างเคียงของสกิลฟากฟ้าแห่งพระเจ้า เพราะระยะสายตานั้นมีจำกัด ถ้าเสี่ยวเฟิงต้องการช่วยทุกคนในระยะสายตาเขาจะไม่สามารถช่วยตัวเองได้

 

แต่ถ้าเขาเลือกที่จะเอาตัวเองให้รอด ก็จะช่วยคนอื่นๆไม่ทันเหมือนกัน

 

อย่างไรก็ตามด้วยผลของสกิลวัฎจักรชีวิตเขาสามารถใช้ค่ามานาให้การรับความเสียหายได้ เขาถึงได้รอดมาได้ แต่พลังชีวิตก็เหลืออยู่แค่ 1 หน่วยเท่านั้น แล้วถึงตายไปสกิลซาเครดบอดี้ก็จะทำงานเขาก็มีโอกาสที่จะรอดอยู่เหมือนกัน

 

ดังนั้นเขาเลยรอดออกมาได้ ถึงจะดูสาหัสสุดๆแต่เขาก็ยังปลอดภัย

 

“นี่มัน… สกิลฮิลแบบกลุ่ม!”

 

พวกเขามองไปทางเสี่ยวเฟิงที่ยังถือคทาแห่งการรักษาเอาไว้ในมือ

 

ถึงเสี่ยวเฟิงจะทำให้ใครต่อใครตกใจมามากแต่ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่มากที่สุดแล้วล่ะ!