ตอนที่ 717: สี่ผู้พิทักษ์ของนิกายดาบโลหิต
ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่ชายชราซิตูก็เป็นถึงเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 ดังนั้นปฏิกิริยาตอบโต้ของเขาจึงไวมาก เขาปล่อยคอของหยูเฟิงหยานทันทีก่อนที่จะบินถอยหลังไปร้อยเมตรด้วยความเร็วสูง
ความเร็วของแสงสีแดงนั้นไวมาก มันดูเหมือนจะไวเกินกว่าความเร็วของสายฟ้าเสียอีก มันติดตามเขาไปใกล้ในขณะที่เขาถอยไปร้อยเมตร มันพุ่งตรงไปที่หว่างคิ้วของชายชราซิตู
สายตาของชายชราซิตูเปล่งประกาย มิติที่อยู่หน้าของเขาได้หยุดนิ่งเพื่อที่จะปิดกั้นแสงสีแดงนั้นไว้กลางอากาศ
แสงสีแดงนั้นเล็กมาก แต่กลับมีพลังมหาศาล ไม่เพียงแต่มิติที่ถูกหยุดจากชายชราซิตูจะหยุดมันไว้ไม่ได้เท่านั้น มิตินั้นยังแตกกระจายจากพลังงานของแสงสีแดงนั้น ก่อนที่มันจะพุ่งต่อไปที่หว่างคิ้วของชายชราซิตูอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ไม้เท้าสีดำก็ได้ปรากฏขึ้นมาที่มือของชายชราซิตูในตอนนั้น เขาถือมันด้วยมือสองข้าง ไม้เท้านั้นส่องสว่างไปด้วยรัศมีสีดำทันทีหลังจากที่มันระเบิดพลังออกมา มันพุ่งไปที่แสงสีแดงด้วยความเร็วสูง
ปิ้ง ! ด้วยเสียงที่สดใส ไม้เท้าดำและแสงสีแดงพุ่งชนกันและแสงสีแดงก็ถูกกระแทกออกไป
ชายชราซิตูสั่นเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไป 2-3 ก้าว ท่าทีของเขาตึงเครียด
ม่านพลังที่มองไม่เห็นที่ปกคลุมคฤหาสน์เจียงหยางอยู่นั้นได้หายไปทันที หลังจากนั้นไม่นาน ชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวสีแดงปรากฏขึ้นมาจากที่ใดไม่รู้อยู่ห่างร้อยเมตรออกไป เขายื่นมือทั้งสองออกไปเพื่อจับแสงสีแดงนั้น ในตอนนี้เอง แสงสีแดงที่โจมตีชายชราซิตูไปนั้นสามารถมองเห็นได้ชัดแล้วตอนนี้ มันคือหอกแหลมทรงกรวยยาวประมาณ 75 เซนติเมตรและหนาประมาณ 1 นิ้ว
ชายวัยกลางคนลอยอยู่กลางอากาศเหมือนเทพเจ้าปีศาจ ผมสีแดงยาวของเขาสยายอยู่กลางอากาศที่ไม่มีแม้กระทั่งลมพัด เขาไม่ได้แสดงทีท่าใด ๆ และจ้องไปที่ชายชราทั้งห้าอย่างเย็นชา ประกายแห่งความเกรี้ยวกราดวาบขึ้นที่ตาของเขา และจิตสังหารของเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไม่คิดจะปิดบัง หอกยาวในมือของเขาเหมือนจะเป็นสีแดงเพราะถูกย้อมไปด้วยเลือดและมันเปล่งแสงสีแดงที่ชั่วร้ายออกมา
ชายชราทั้งห้าไม่ได้สนใจคนของตระกูลเจียงหยางอีกต่อไปแล้ว พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่ชายในชุดคลุมสีแดง คนที่โผล่ออกมาก้าวก่ายกับสิ่งที่พวกเขากำลังจะทำในช่วงเวลาอันสำคัญเช่นนี้ มันทำให้ชายชราทั้งห้าโกรธมาก
“ท่านเป็นใครกัน ? ทำไมท่านถึงสอดมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเรากำลังทำ ? ” ชายชราหม่าเทิงตะโกนถาม ตาของเขาเริ่มเปล่งประกายไปด้วยจิตสังหาร แม้ว่าชายในชุดคลุมแดงจะมีความแข็งแกร่งเท่ากับเขา แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ชายชราหม่าเทิงกลัวแม้แต่น้อย เพราะว่าพวกเขามีกัน 5 คน ในขณะที่อีกฝ่ายนั้นมีเพียงคนเดียว พวกเขาได้เปรียบในด้านจำนวน
“พวกเจ้าทั้งห้าทำงานให้กับตระกูลกิลลิกันและทำสิ่งที่ผิดกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเราเป็นตัวแทนของหัวหน้านิกายในการจับกุมและฆ่า ! ” ชายคนนั้นพูดอย่างเฉยเมย น้ำเสียงของเขาเย็นชาและไม่มีความรู้สึกใด ๆ ตอนที่เขาพูดสามคำสุดท้ายนั้น เขาพูดเน้นเป็นคำ ๆ
สามคำนั้น ‘จับกุมและฆ่า’ ออกมาจากปากของชายนั้น จิตสังหารก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของเขาและเขาก็พุ่งไปที่ชายชราทั้งห้าเหมือนเหมือนคลื่นเสียงคำราม ต่อหน้าจิตสังหารนั้นมันเหมือนทำให้มิติรอบ ๆ ดูเชื่องช้าไป
มันชัดเจนเลยว่าชายคนนั้นมีความช่ำชองในการควบคุมจิตสังหาร แม้ว่าเขาจะปล่อยจิตสังหารที่ชั่วร้ายออกมาแค่ไหน แต่จิตสังหารนั้นก็แค่ปกคลุมชายชราทั้งห้าเท่านั้น มันไม่ได้กระจายไปที่ใดและไม่ได้ส่งผลอะไรกับผู้คนด้านล่าง
ชายชราทั้งห้าเคร่งเครียด จิตสังหารจากชายผู้นั้นทำให้พวกเขาสั่นไปด้วยความกลัว
นี้เป็นเพราะมันเป็นจิตสังหารที่เกิดจากการที่ฆ่ามาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งแตกต่างจากจิตสังหารที่เกิดขึ้นมาจากจิตใจ ในตอนนี้พวกเขางุนงงไปด้วยความเหลือเชื่อจากความรู้สึกที่ว่าจิตสังหารที่ทรงพลังนั้นมาจากเซียนผู้คุมกฎ นี่เป็นเพราะเซียนผู้คุมกฎนั้นกังวลเกี่ยวกับการสังหารหมู่ เมื่อพวกเขาได้ก่อบาปหนัก พวกเขาจะต้องถูกลงทัณฑ์จากสวรรค์และตาย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ให้ประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือสิ่งที่ชายคนนั้นพูด เขารู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งห้าและตระกูลกิลลิกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะเมื่อเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ทั้งห้าจะกลายเป็นศัตรูกับทุกคนในทวีปเทียนหยวนทันที
“ไม่ได้การแล้ว คนผู้นี้รู้ถึงความเกี่ยวข้องของเรากับตระกูลกิลลิกัน นี่มันแย่มาก ๆ ” เซียนผู้คุมกฎพูดเบา ๆ ด้านหลังชายชราหม่าเทิง
“มันมีแค่คนเดียว พวกเราร่วมมือกัน พวกเราต้องฆ่ามันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และไม่ปล่อยให้มันหนีไปได้” ชายชราซิตูตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ไม้เท้าในมือของเขาพุ่งไปที่ชายคนนั้นด้วยพลังอันรุนแรง
“ร่วมมือกันจัดการมัน ! ” ชายชราหม่าเทิงประกาศออกมาด้วยเสียงทุ้มและก็เสกอาวุธเซียนของเขาออกมาแล้วพุ่งไปที่ชายคนนั้น
ชายคนนั้นยังคงมีท่าทีเฉยเมย หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หายไปทันทีในอากาศ ต่อจากนั้น แสงสีแดงแปลกแปลกก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าชายชราซิตู มันยิงไปที่กลางคิ้วของชายชราซิตูด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ในขณะที่มันเข้าใกล้ชายชราซิตู มันก็เกิดเป็นภาพซ้อนหลายหลายภาพ จาก 1 เป็น 2, จาก 2 เป็น 4, จาก 4 เป็น 8 มันรวมกันเป็นกลุ่มของภาพซ้อนที่ล้อมรอบชายชราซิตูไว้ ทุกทุกภาพซ้อนนั้นมีพลังโจมตีที่มหาศาล มันยากที่จะแยกให้ออกว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ
ชายชราซิตูตะโกนออกมาดังและพลังเซียนธาตุความมืดที่ยิ่งใหญ่ก็ไหลทะลักออกมาจากร่างกายของเขาเพื่อปกป้องเขาไว้ ในเวลาเดียวกัน ไม้เท้าในมือของเขาก็ถูกเคลือบไปด้วยพลังแห่งธรรมชาติ ชายชราแกว่งไม้เท้านับครั้งไม่ถ้วนเพื่อที่จะสกัดลูกบอลแสงสีแดงให้ห่างเขาเอาไว้
เมื่อชายชราซิตูเริ่มที่จะอ่อนแรงกับการรับมือกับลูกบอลแสงสีแดง มิติข้างหน้าเขาก็ถูกเปิดออก กลุ่มของแสงสีแดงก็แทรกออกมาจากรอยแยกนั้นและยิงตรงไปที่ระหว่างคิ้วของชายชราซิตูด้วยความเร็วสูง
ในตอนนี้ ชายชราซิตูไม่สามารถที่จะรับมือได้ทัน ลูกบอลแสงสีแดงนั้นไปถึงที่หน้าผากของเขาในพริบตา ในช่วงเวลาเป็นตายนั้น หัวของชายชราซิตูก็กระตุกไปอีกข้างเพื่อหลบเลี่ยงอันตราย อย่างไรก็ตาม รอยแผลลึกชุ่มเลือดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
เขาเกือบจะมีแผลลึกเจาะเข้าไปที่กะโหลกของเขาและผลลัพธ์นั้นจะทำให้วิญญาณของเขาถูกกำจัดไปแน่
ท่าทีของชายชราซิตูมืดมน คู่ต่อสู้คือเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 แต่การต่อสู้ของเขานั้นสมบูรณ์แบบมาก มันแปลกและยากมากที่จะป้องกัน เขาเกือบตายเพราะมัน
“ทุก ๆ คนระวังให้ดี การโจมตีของคนผู้นี้แปลกมาก” ชายชราซิตูประกาศด้วยเสียงทุ้มเพื่อเตือนทุกคน
ชายผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นอีกข้างของชายชราซิตูและลูกบอลแสงสีแดงที่สร้างรอยแผลบนหน้าของชายชราซิตูก็กลับมาที่มือของเขา มันเปลี่ยนแปลงเป็นหอกยาว อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งไม่นานหลังจากนั้น ด้วยการเคลื่อนไหวแค่ครั้งเดียว เขาก็กลายเป็นภาพซ้อนหลายภาพขณะที่เขาพุ่งมาที่ชายชราทั้งห้า เขาแทงหอกสีเลือดในมือของเขาไปที่ชายชราซิตู
ชายชราซิตูยกมือขึ้นไว้อยู่แล้วเพื่อเฝ้าระวัง เขาเคลื่อนที่มากับคนของเขาทั้งสี่ ทั้งหมดมุ่งไปที่ชายผู้นั้นจากคนละทิศทาง พลังที่น่ากลัวจากอาวุธเซียนถูกปล่อยออกมาในมิติรอบ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ชายผู้นั้นหายไปอีกครั้ง
รอยยิ้มล้อเลียนเล็ก ๆ ผุดขึ้นที่ปากของชายผู้นั้น เขาไม่สนใจการโจมตีของอีกสี่คนที่เหลือ และสนใจไปที่ชายชราซิตูเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเอง สถานการณ์ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ลูกบอลแสงสีแดง 3 กลุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างแปลกประหลาดด้านหลังชายชราเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 5 สามคนและมันก็พุ่งผ่านหลังของพวกเขาไปด้วยความเร็วประดุจดังสายฟ้า หลังจากนั้นลูกบอลแสงสีแดง 3 ลูกก็มารวมกันและพุ่งไปที่ชายชราหม่าเทิงด้วยความเร็วสุดยอด
เมื่อชายชราชั้นสวรรค์ที่ 5 ทั้งสามคนถูกโจมตีโดยแสงสีแดง พวกเขาทั้งหมดก็กระอักออกมาเป็นเลือด พวกเขารู้สึกท่วมท้นไปด้วยความเหลือเชื่อ ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา พวกเขาไม่รู้สึกถึงความผิดปกติด้านหลังของพวกเขาเลย การโจมตีของกลุ่มแสงสีแดงนั้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ถ้าพวกเขาไม่เห็นมันกับตา พวกเขาคงยากที่จะเชื่อว่ามันมีอยู่จริง
เมื่อลูกบอลแสงสีแดงผ่านพวกเขาไป เกลียวพลังหยินชั่วร้ายก็ยังคงตกค้างอยู่ในตัวของพวกเขา มันกำลังกัดกินพลังภายในตัวของพวกเขาทำให้คนทั้งสามคนไม่สามารถที่จะโจมตีได้และต้องใช้พลังเซียนในการที่จะกำลังพลังหยินชั่วร้ายไปในทันที
อีกด้านหนึ่ง ชานชราซิตูและชายผู้นั้นกำลังต่อสู้กัน ลูกบอลแสงสีแดง 3 ลูกกำลังทำให้หม่าเทิงวุ่นวาย บอลแสงนั้นเร็วมากและทิ้งบาดแผลจำนวนมากไว้ที่ร่างกายของหม่าเทิงเพียงแค่การโจมตีไม่กี่ครั้ง และยังมีพลังหยินชั่วร้ายหลงเหลืออยู่ในบาดแผลของเขาอีกด้วยและมันทำให้เขาบาดเจ็บมากขึ้น
“นี่คือพลังหยินชั่วร้าย!” ท่าทีของชายชราหม่าเทิงเปลี่ยนไป เขารีบถอยออกมาจากบอลแสงสีแดง 3 ลูกนั้นทันที
อย่างไรก็ตาม บอลแสงทั้งสามลูกนั้นก็ไม่ได้ไล่ตามเขาไป พวกมันลอยอยู่กลางอากาศไม่ขยับเขยื้อน และหลังจากนั้นไม่นาน ชาย 3 คนในชุดคลุมยาวสีแดงก็ปรากฏตัวขึ้นมาข้างข้างบอลแสง พวกเขาเอื้อมและไปจับที่บอลแสงสีแดงอย่างไม่เร่งรีบ ในตอนนี้บอลแสงสีแดงทั้งสามลูกสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแล้ว พวกมันคือหอกทรงกรวยแหลมคมความหนาประมาณนิ้ว และพวกมันเหมือนกันเป๊ะ
การที่ได้เห็นชายในชุดแดง 3 คนปรากฏตัวขึ้น ชายชราซิตูที่กำลังพัวพันในการรับมือกับชายคนแรกก็รู้สึกมืดมน เขาโจมตีอย่างรุนแรงเพื่อทำให้ชายคนนั้นกระเด็นก่อนจะกลับไปรวมและถอยไปตั้งหลักกับชายชราหม่าเทิงและสามคนที่เหลือ
ชายวัยกลางคนทั้งสี่คนในชุดคลุมสีแดงยาวไม่ได้ตามทั้งห้าคนนั้นไปในการต่อสู้ พวกเขากลับยืนเรียงเป็นแถวอยู่กลางอากาศและกำลังถือหอกสีแดงเหมือนเลือดไว้ในมือของพวกเขา พวกเขาจ้องไปที่ชายชราทั้งห้าอย่างไร้ความรู้สึก
ชายชราทั้งห้าจ้องกลับไปที่ชายในชุดคลุมแดงทั้งสี่คนด้วยท่าทีน่ารังเกียจ เมื่อพวกเขาเป็นชายในชุดคลุมแดงทั้งสี่ แววตาแห่งความประหลาดใจก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของพวกเขา นี้เป็นเพราะว่าไม่ใช่ว่าแค่เครื่องแต่งกายและอาวุธของคนทั้งสี่จะเหมือนกันหมดเท่านั้น แต่แม้แต่ลักษณะภายนอกของพวกเขายังเหมือนกันจนแยกไม่ออก
“พวกเจ้าเป็นใครกัน ? ” ชายชราซิตูตะโกนออกไปด้วยเสียงทุ้ม เขารู้สึกสงสัยในตัวตนของคนทั้งสี่นี้มาก
ครั้งนี้ ชายที่ปรากฏตัวขึ้นมาครั้งแรกไม่ได้นิ่งเงียบ เขาพูดออกมาอย่างไร้ความรู้สึก “พวกเราคือผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของนิกายดาบโลหิต ! “
“อะไรนะ ! นิกายดาบโลหิต ! ” ท่าทีของชายชราทั้งเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาร้องออกมาด้วยความตกใจ “นี้มันหายไปเกือบพันปีก่อนแล้ว 1ใน 3 องค์กรลอบสังหารที่ยอดเยี่ยม นิกายดาบโลหิตงั้นหรือ ? “