ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1092

ตระกูลซาเวียร์ที่เซาท์ไลท์ทุกคนไม่มีใครรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์

พวกเขาทั้งหมดต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างพร้อมกันหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเชลดอน

“เจ้าชายลีโอนี่ช่างมองการณ์ไกลเสียจริงเชียว ประกาศการแต่งงานในโอกาสเช่นนี้ เท่ากับทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลลีโอและตระกูลซาเวียร์จะถูกเผยแพร่ไปในที่สาธารณะได้อย่างรวดเร็ว!”

“การมีหัวหน้าผู้ฝึกสอน, ออสการ์ อาร์มสตรอง, และผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์พร้อมด้วยคนอื่น ๆ ร่วมเป็นสักขีพยาน นี่มันเป็นเรื่องที่จะเขย่าคนทั้งประเทศเลยนะ!”

“หลังจากนี้อิทธิพลและอำนาจของตระกูลพวกเราก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน!”

ในขณะเดียวกัน ไม่มีใครสนใจการแสดงออกของอีวอนน์เลยแม้สักนิด

ในสายตาของพวกเขา การแลกอีวอนน์กับผลประโยชน์มากมายที่จะตามมานั้นมันก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่คุ้มค่ามาก ๆ เลยทีเดียวเชียว!

ในเวลาเดียวกัน ภายในวิลล่าสุดหรู

คริสอยู่กับแขกคนสำคัญของเขา

แขกรับเชิญไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน เขาคือเจสซี เทต เขาเป็นญาติห่าง ๆ ของตระกูลลีโอ

ครอบครัวของเจสซีเป็นส่วนหนึ่งหนึ่งของตระกูลลีโอ แต่พวกตระกูลลีโอส่วนใหญ่ไม่เคยมาเหลียวแหลครอบครัวของเขาเลย

แต่เจสซีนั้นแตกต่างออกไป

เขาเป็นถึงรองผู้บัญชาการกองกำลังทหารแห่งโวลซิ่งซึ่งค่อนข้างมีอิทธิพลและอำนาจมาก ๆ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือค่ายของเขาชื่อฟรอส เอจซึ่งเป็นหนึ่งในเก้ากองกำลังทหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ H และเป็นส่วนหนึ่งในค่ายศัสตราวุธ!

หลังจากที่คริสมาที่บัควู้ด เขาพยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อติดต่อกับเจสซี และในที่สุดเขาก็สามารถเชิญเจสซีมาที่นี่ได้ในวันนี้

“ท่านผู้บัญชาการเทต พวกเราทั้งคู่ก็มาจากตระกูลลีโอ ในวันนี้ผมประสบพบเจอปัญหาบางอย่าง และต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”

คริสเริ่มพูดอย่างตรงประเด็นในทันที

ในเวลาเดียวกันเขาได้โบกมือขึ้น หลังจากนั้นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาสองสามคนก็เดินขึ้นมาข้างหน้าพร้อมกับถือกล่องไว้ในมือ ภายในกล่องนั้นเต็มไปด้วยเครื่องประดับเพชรนิลจินดาอัญมณี

เจสซีขมวดคิ้วและตอบกลับว่า “เจ้าชาย เหล่าทหารในกองทัพของผมไม่มีใครที่โหยหาทรัพย์สินทางโลกพวกนี้หรอกนะ เอากลับไปเถอะ”

“สำหรับปัญหาของคุณ ผมเต็มใจที่จะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ถ้ามันยังคงอยู่ภายใต้อำนาจของผม!”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเจสซี คริสก็ระเบิดหัวเราะออกมา

“แหม๋ ตามที่คาดไว้เลย ทหารชั้นสูงอย่างผู้บัญชาการเทตเนี่ย คุณไม่เพียงแต่มีความสามารถมาก ๆ เท่านั้น แต่ยังปราศจากมลทินจากการประพฤติทุจริตต่าง ๆ อีกด้วย คุณเนี่ยช่างเต็มไปด้วยความชอบธรรมยุติธรรมจริงเชียว ผมล่ะประทับใจเสียจริง ๆ !”

“ถ้าอย่างนั้น ผมก็ขอเข้าประเด็นเลยก็แล้วกันนะ!”

“ตระกูลลีโอกำลังจัดเตรียมการแต่งงานกับตระกูลซาเวียร์ และเป็นผมเองที่จะแต่งงานกับผู้หญิงจากตระกูลนั้น!”

“แต่ผมเกรงว่าจะมีใครบางคนกำลังที่จะพยายามก่อความวุ่นวายในการแต่งงานครั้งนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมหวังว่าผมจะสามารถประกาศเรื่องงานแต่งงานได้อย่างเป็นทางการในระหว่างพิธีผลัดเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับหนึ่งแห่งกองทัพเซาท์ไลท์ เพื่อที่จัดเตรียมการแต่งงานให้อยู่ในจุดที่ยากจะเข้ามาก่อความวุ่นวายได่้ ถ้าสามารถทำได้หลังจากนั้นจะไม่มีใครหน้าไหนกล้าสามารถมาเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก”

สีหน้าของเจสซีเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของเขา หลังจากนั้นเขาก็กระซิบเบา ๆ ว่า “เจ้าชาย พูดตามตรงนะ ผมอยู่ที่นี่ในเซาท์ไลท์เพื่อเป็นตัวแทนของกองกำลังทหารของโวลซิ่งในพิธีการครั้งนี้”

“เบลลามี่ เบลคผู้บังคับบัญชากองกำลังทหารในเซาท์ไลท์ที่เพิ่งจะได้รับแต่งตั้งใหม่ เป็นน้องชายสุดรักของผมเองแหละ เราทั้งคู่ยังเคยเป็นรูมเมทกันเมื่อสมัยที่เรายังเป็นแค่ทหารเกณฑ์ด้วยนะ”

“เยี่ยมเลย! ถ้าเป็นเช่นนั้นก็แสดงว่าถ้าเขาตกลงยินยอมที่จะช่วย เราก้ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วใช่ไหม?”

คริสหัวเราะออกมา

เจสซีส่ายหัวและตอบกลับว่า “อันที่จริง ผมคิดว่าเบลลามี่น่าจะยอมรับคำขอของพวกเราหากว่ามีแค่เขาเพียงคนเดียว”

“แต่ทว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนก็จะเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เรายังต้องการการตกลงยินยอมจากเขาเสียก่อนนี่สิ”

คริสขมวดคิ้ว

“หัวหน้าผู้ฝึกสอนของค่ายศัสตราวุธ น่ะเหรอ? ผมได้ยินมาว่าเขาเกษียณตัวเองออกไปแล้วหนิ เขายังคงมีสถานะที่สูงส่งเช่นนี้ได้อย่างไร?”

เจสซีกล่าวด้วยความชื่นชมอย่างเต็มที่ว่า “เจ้าชาย คุณไม่ได้มาจากกองทัพทหาร นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่รู้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนอยู่ตรงส่วนไหนของหัวใจพวกเราชาวกองทัพทหาร!”

“นอกจากนี้นะ เหตุผลที่เบลลามี่สามารถขึ้นตำแหน่งใหม่ได้ นั่นก็เป็นเพราะหัวหน้าผู้ฝึกสอนได้พูดคุยกับผู้อาวุโสของกองกำลังทหารในโวลซิ่งให้กับเขา!”

“แม้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนจะไม่ได้อยู่ในกองทัพอีกต่อไปแล้ว แต่ทว่าเขาก็ยังสามารถสั่งการทุกอย่างในกองทัพได้!”

“มีข่าวลือมาว่านายใหญ่ของพวกเราพยายามเชิญชวนหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้กลับมาอยู่หลายครั้งแล้ว อีกทั้งยังต้องการให้เขาเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสของกองทัพในอนาคตอีกด้วย”