คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1104
“อ๊าก!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น ตามมาด้วยเลือดที่พุ่งออกมาจากปากของยูจีนราวกับเม็ดฝน ร่างของเขากระเด็นออกไปหลายร้อยเมตรก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้และร่วงลงสู่พื้นอย่างแรง
เมื่อร่างของยูจีนร่วงลงสู่พื้น เขาก็หยุดหายใจทันที!
‘อะไร? เพียงแค่กระบวนท่าเดียว? หัวหน้าตายด้วยการเคลื่อนไหวเพียงแค่ครั้งเดียว!’
เหล่าสาวกสำนักชุดขาวอ้าปากค้างด้วยร่างทีเต็มไปด้วยเหงื่อ
คนบ้านั่นช่างทรงพลังยิ่งนัก!
ประมุขนิกายจ้าวสวรรค์กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “มีใครเรียกร้องขอความตายอีกไหม?”
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
สาวกที่เหลือตัวสั่นเทาเพราะความหวาดกลัว พวกเขารีบคุกเข่าลงทันที
“ผมขอความเมตตา!”
“เมตตาผมด้วย…”
หัวหน้าของพวกเขาถูกสังหารด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว แล้วใครจะกล้าโต้ตอบเขา?
โมนิก้าขมวดคิ้วขณะมองดูคนกลุ่มนั้นก่อนจะถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “ดูจากเสื้อผ้าแล้วพวกนายดูไม่เหมือนโจรภูเขาเลย พวกนายเป็นใคร? ทำไมถึงมาปล้นผู้คนอยู่ในป่าเช่นนี้?”
พวกเขาปล้นผู้คนราวกับโจร แต่พวกเขาสวมชุดคลุมสีขาวที่ดูแตกต่างจากโจรป่าคนอื่น ๆ
สาวกคนหนึ่งตอบขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “พวกเราเป็นสาวกสำนักชุดขาว…”
“โอ๊ย!”
แต่ก่อนที่สาวกผู้นั้นจะได้พูดอะไรต่อ สีหน้าของประมุขนิกายจ้าวสวรรค์ก็เปลี่ยนไปทันที เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง!
“สำนัก…สำนักชุดขาว…นิกายจ้าวสวรรค์…โอ๊ย…”
เมื่อได้ยินคำว่า ’สำนัก’ ประมุขนิกายจ้าวสวรรค์ก็คลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ว่า “สำนัก…นิกายจ้าวสวรรค์!…โอ้ย!”
ความปรารถนาของการก่อตั้งนิกายจ้าวสวรรค์ขึ้นมาใหม่อยู่ในจิตใต้สำนึกของเขา
ถึงแม้ว่าสำนักชุดขาวจะไม่มีความสัมพันธ์กับประมุขนิกายเจ้าสวรรค์ แต่คำคำนั้นสามารถกระตุ้นให้เขาคลุ้มคลั่งขึ้นอีกครั้ง!
‘เกิดอะไรขึ้น?’
สาวกสำนักชุดขาวตกตะลึง พวกเขานั่งนิ่งด้วยความกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เพราะพวกเขากลัวว่าพวกเขาจะทำให้ประมุขนิกายจ้าวสวรรค์โกรธและทำร้ายพวกเขา
โมนิก้าเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอตื่นตระหนกเล็กน้อย
‘ทำไมเขาถึงคลุ้มคลั่งอีกแล้ว?’
โมนิก้าสูดหายใจเข้าเต็มปอด จากนั้นเธอก็หันมองไปยังสาวกสำนักชุดขาวและพูดขึ้นว่า “จากนี้ต่อไปพวกนายไม่ใช่สาวกสำนักชุดขาวแต่เป็นสาวกของนิกายจ้าวสวรรค์! และชายที่อยู่ตรงหน้าพวกนาย คือประมุขนิกายของพวกนาย ดังนั้นพวกนายทุกคนรีบกล่าวทำความเคารพเขาเสียตอนนี้!”
สาวกสำนักชุดขาวหันมองหน้ากันและไม่กล้าต่อต้านคำพูดของโมนิก้า พวกเขานั่งคุกเข่าและก้มหน้าลงด้วยความเคารพ ก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างพร้อมเพียงกันว่า “ขอประมุขนิกายจ้าวสวรรค์จงมีอายุยืนนาน!”
เมื่อพวกเขากล่าวเช่นนั้น อาการกำเริบของประมุขนิกายจ้าวสวรรค์ก็ค่อย ๆ สงบลง จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาด้วยเสียงอันดัง “ใช่ ใช่ ใช่! ฉันคือ ประมุขนิกายจ้าวสวรรค์! พวกนายทั้งหมดคือสาวกของฉัน!”
เมื่อได้เห็นเช่นนั้นโมนิก้าถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหันไปยิ้มให้ประมุขนิกายจ้าวสวรรค์อย่างอ่อนโยน
‘นายท่าน ฉันโกหกคุณและยังหนีออกมาจากเกาะสราญรมย์อีก ฉันขอโทษ แต่ฉันไม่สามารถอยู่กับคุณได้อีกต่อไป ดังนั้นสิ่งเดียวที่ฉันจะสามารถช่วยคุณได้ คือการก่อตั้งนิกายจ้าวสวรรค์ขึ้นมาใหม่!’
โมนิก้าตัดสินใจแล้วว่าเธอจะไม่พาเขาไปยังจักรวาลโลก เพราะถ้าหากว่าไม่มีใครช่วยรักษาอาการป่วยทางจิตของเขาได้ เธออาจจะต้องดูแลเขาไปตลอดและเขาก็อาจจะสร้างความเดือดร้อนไม่รู้จบสิ้น
แต่ถ้าหากว่าเธอช่วยเขาก่อตั้งนิกายจ้าวสวรรค์ขึ้นมาใหม่ เหล่าสาวกของเขาจะสามารถดูแลเขาได้ และหลังจากนั้นเธอจึงค่อยพาแอมโบรสจากไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา สาวกสำนักชุดขาวก็เดินนำประมุขนิกายจ้าวสวรรค์ โมนิก้าและแอมโบรสมาถึงสำนักเล็ก ๆ ของพวกเขา
เมื่อยูจีนเสียชีวิตลง สาวกสำนักชุดขาวก็ไร้ผู้นำ และในเมื่อชายผู้ทรงพลังผู้นี้ต้องการเป็นประมุขของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอ เพราะพวกเขาจะสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งเพราะชายผู้นี้!
ภายในสำนัก ที่ห้องโถง ประมุขนิกายจ้าวสวรรค์นั่งอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
เขามีความปรารถนาอยู่สองสิ่ง สิ่งแรกคือการได้ก่อตั้งนิกายจ้าวสวรรค์ขึ้นมาใหม่ และอีกสิ่งหนึ่งคือการตามหาภรรยาของเขา และในตอนนี้เขาได้เริ่มก่อตั้งนิกายจ้าวสวรรค์แล้ว แล้วเขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะมีความสุข แต่สภาพจิตใจของเขากลับไม่ปกติ
เขาสติไม่ดีมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว แล้วเขาจะกลับคืนสู่สภาพปกติได้อย่างไร?
“นายท่าน!” โมนิก้าลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับเขาว่า “นายท่าน ขอแสดงความยินดีกับการก่อตั้งนิกายเจ้าสวรรค์ของคุณ…”
ภายในจิตใจของโมนิก้ามีความรู้สึกผสมปนเป ในตอนนั้น เธอได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหนีออกจากนิกายจ้าวสวรรค์ แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่า เธอจะได้มาช่วยเขาสร้างมันขึ้นมาใหม่เช่นนี้ ชีวิตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้จริง ๆ!
ประมุขนิกายพยักหน้า เขาหัวเราะขณะมองหน้าโมนิก้า “ฉันต้องขอบคุณที่ช่วยตามหาสาวกของฉัน!”
เขาคิดว่าสาวกสำนักชุดขาวเป็นคนของเขา
ในเวลานั้น เขาก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้และพูดขึ้นว่า “ยังไงก็ตาม ฉันยังต้องรบกวนเธอให้ช่วยตามหาโมนิกา วอห์น เธอจะช่วยฉันใช่ไหม?”
ประมุขนิกายตระหนักได้ว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าทั้งสวยและจิตใจดี
แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าเธอคือคนที่เขาตามหามาตลอด
“ฉัน…” โมนิก้ากัดริมฝีปากแน่น เธอพูดไม่ออก
“คุณแม่ครับ…”
แอมโบรสที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดึงชายเสื้อของโมนิก้าเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “แม่ครับ แม่คือโมนิก้า วอห์นไม่ใช่เหรอครับ?”
ก่อนหน้านี้ที่ประมุขนิกายจ้าวสวรรค์เอ่ยชื่อของโมนิก้าอยู่บ่อย ๆ แอมโบรสรู้สึกแปลกใจทุกครั้งที่ได้ยินเช่นนั้น ชายแปลกหน้าบอกว่าเขาต้องการตามหาแม่ของเขา ทั้ง ๆ ที่แม่ของเขาอยู่ตรงหน้าเขา
“แอมโบรส!” สีหน้าของโมนิก้าเปลี่ยนไปทันที เธอรีบยกมือขึ้นปิดปากเขาอย่างรวดเร็ว
ประมุขนิกายจ้าวสวรรค์อ้าปากค้าง!
เขาจ้องมองโมนิก้าและพูดขึ้นว่า “เธอ…เธอคือโมนิก้า วอห์น…”