ตอนที่ 2816 อยู่ที่นี่กันไปทั้งหมดนั่นแหละ

เมื่อเห็นชายในเสื้อคลุมสีดำปรากฎตัว ทุกคนในปัจจุบันก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่านี่มันเป็นความจริง

การโจมตีเพียงครั้งเดียวของเขานั้นได้ทำให้ NPC ขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยหกสิบสองปลิวกระเด็นไปได้ แม้ว่าตัวคาบ่าร่า เม็ตซ์จะไม่ใช่ NPC สายอาชีพที่เน้นความแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังคงเป็นแรนเจอร์ขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยหกสิบสอง โดยพลังของเขาในปัจจุบันนั้นมันก็มากพอที่จะทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ในปัจจุบันรู้สึกหมดหวัง เขาไม่ใช่ตัวตนที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะสามารถต่อกรได้เลย

แต่ซือเฟิงกับทำให้คาบาร่า เม็ตซ์ปลิวกระเด็นไปได้ในการโจมตีเดียว เขาช่างน่ากลัวมากๆ !!!

“เขาคือแบล๊คเฟรมงั้นหรอ ?”

ยักษ์ขั้นสาม ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมของทีมนักผจญภัยสิงโตขาวอดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงที่อยู่ไกลออกไปพลางเดาะลิ้นของเขา ขณะเดียวกันคนอื่นๆในทีมนักผจญภัยสิงโตขาวก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าชายที่หัวหน้าของพวกเขาทักทายในห้องเทเลพอร์ตนั้นจะเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ แถมเขายังเป็นคนที่มีอิทธิพลค่อนข้างมากใน God domain ด้วย

“หัวหน้ากิล ?”

ไฟเออร์แดนซ์และคนอื่นๆนั้นก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจมากเช่นกัน ขณะที่พวกเขามองไปยังซือเฟิงที่กำลังเดินเข้ามาใกล้กลุ่มของพวกเขาทีละก้าวๆ พวกเขาไม่ได้คิดเลยว่าซือเฟิงจะกลับมาแล้วจริงๆ

“แบล๊คเฟรม คุณทำให้เราต้องรอนานไปหน่อยนะ !!!” เมื่อมองไปที่ซือเฟิงที่อยู่ตรงหน้าของเขา อันยีลดิ้งฮาร์ทก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

นับตั้งแต่ที่พวกเขาเจอกันครั้งสุดท้ายที่เทือกเขาที่ถูกทำลายเวลามันก็ผ่านไปไม่นานนัก แต่อย่างไรก็ตามสำหรับพวกเขาหนึ่งวันนั้นนานเหมือนกับหนึ่งปี และแรงกดดันที่พวกเขาได้รับนั้นมันก็เพิ่มขึ้นทุกวัน

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังประสบกับความโชคดีในเรื่องนี้อยู่บ้าง เพราะเมื่อพวกเขานำทีมผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดของตัวเองออกไปสำรวจแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบ พวกเขาก็ได้พบกับดินแดนมรดกขั้นสี่ ซึ่งมันทำให้พวกเขาสามารถเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นสี่ได้อย่างรวดเร็ว มันจึงช่วยลดแรงกดดันที่พวกเขาต้องเผชิญในอาณาจักรทวินทาวเวอร์ลงไประดับหนึ่ง โดยเรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการที่พวกเขาค้นพบมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับมากขึ้นเรื่อยๆ มันจึงส่งผลให้กิลของพวกเขามีผู้เล่นขั้นสามมากขึ้นเรื่อยๆตามลำดับเช่นกัน

ซึ่งนั่นมันก็คือทั้งหมดที่ทำให้พวกเขาอยู่รอดมาถึงวันนี้ได้

และในเวลานี้ซือเฟิงที่เป็นจักรพรรดิดาบขั้นสี่ก็ได้กลับมาแล้ว มันจึงจะทำให้พวกเขามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อยอย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะเดียวกันอิลูซะรี่เวิร์ดก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงอย่างโล่งอกเช่นกัน พวกเขารอช่วงเวลาที่ซือเฟิงจะกลับมา มานานมากแล้ว ….

ส่วนในฝั่งของสตาร์ลิ้งนั้น พวกเขาก็มีท่าทีกระสับกระส่ายกันอยู่พักหนึ่ง เพราะพวกเขาไม่ได้คิดเลยว่าซือเฟิงจะปรากฎตัวขึ้นมาอย่างฉับพลันและรุนแรงแบบนี้

“แบล๊คเฟรม ในที่สุดคุณก็โผล่ออกมา !!!” ลู่ชิงหลัวมองไปที่ซือเฟิงที่อยู่ในระยะไกล และก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฉันรอคุณมานานแล้ว !!! และวันนี้แหละฉันจะทำให้คุณได้เห็นสภาสิบแปดปีกที่คุณสร้างขึ้นมาถูกทำลายลงไปต่อหน้าต่อตาของคุณ !!!”

แม้ว่าเขาจะรู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยจากการปรากฎตัวของซือเฟิง เนื่องจากเขาไม่ได้คิดเลยว่าซือเฟิงจะสามารถเดินทางออกมาจากเกาะดราก้อนฮาร์ทที่ถูกปิดผนึก และมาถึงที่นี่ได้เร็วขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะท้ายที่สุดตอนนี้ต่อให้ซือเฟิงปรากฎตัวออกมา มันก็จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์อะไรไปมากนักแน่นอน

เมื่อลู่ชิงหลัวกล่าวจบ ซอร์ดเดมอน วินด์เดมอน และผู้เล่นขั้นสี่คนอื่นๆของฝั่งสตาร์
ลิ้งก็ได้รีบพยายามจะตรงเข้าไปล้อมเหล่าสมาชิกสภาสิบแปดปีก อย่างไรก็ตามทันใดนั้นผู้เล่นสองคนที่ด้านข้างของซือเฟิงก็ตรงเข้ามาขวางทางพวกเขาเอาไว้ซะก่อน

“หากพวกคุณต้องการจะผ่านทางนี้ไป พวกคุณก็จะต้องเอาชนะเราสองคนให้ได้ซะก่อน !!!” “ ไลฟ์เลสธอร์นกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในขณะนี้นั้นไลฟ์เลสธอร์น และโซริทารี่ไนน์ก็ไม่ได้ปกปิดออร่าแห่งชีวิตของพวกเขาอีกต่อไป ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนรู้อย่างชัดเจนเลยว่าพวกเขาทั้งสองอยู่ในขั้นสี่แล้ว โดยเรื่องนี้มันก็ทำให้ผู้เล่นขั้นสี่ฝั่งของสตาร์ลิ้งผงะไปเช่นกัน

“ผู้เล่นขั้นสี่อีกสองคน ?!”

“นี่สภาสิบแปดปีกมีผู้เล่นขั้นสี่กี่คนกัน ?!”

เหล่าผู้ชมที่เฝ้าชมอยู่อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา เมื่อได้รู้ถึงระดับขั้นที่แท้จริงของไลฟ์เลสธอร์น และโซริทารี่ไนน์

ผู้เล่นขั้นสี่นั้นหายากมากๆใน God domain ตอนนี้ และซุเปอร์กิลบางกิลก็ยังไม่มีผู้เล่นขั้นสี่แม้แต่คนเดียวเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้พวกเขากับได้เห็นว่าสภาสิบแปดปีกนั้นมีผู้เล่นขั้นสี่อยู่ถึงห้าคน ซึ่งแม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังไม่น่าจะเทียบกับสภาสิบแปดปีกได้เลย ในแง่ของจำนวนผู้เล่นขั้นสี่ในระยะนี้ของเกม

“พวกคุณสภาสิบแปดปีกนี่ช่างน่าทึ่งจริงๆที่สามารถเลี้ยงดูผู้เล่นขั้นสี่ขึ้นมาได้มากมาย” ลู่ชิงหลัวหันไปมองที่ไลฟ์เลสธอร์น และโซริทารี่ไนน์ด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันมามองซือเฟิงอย่างเย้ยหยันและกล่าวว่า “แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้พวกคุณทุกคนนั้นติดอยู่ในวงเวทย์วิญญาณระดับปรมาจารย์ แม้ว่าพวกคุณจะมีผู้เล่นขั้นสี่มากขึ้น แต่พวกคุณก็ยังถูกปราบปรามในเรื่องค่าสถานะอยู่ดี และภายใต้สถานการณ์แบบนี้นั้น พวกคุณไม่มีโอกาสจะชนะแน่นอน !!!”

เมื่อสมาชิกของสตาร์ลิ้ง และพันธมิตรของพวกเขาได้ยินคำพูดของลู่ชิงหลัว พวกเขาก็ฟื้นคืนสติกลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของลู่ชิงหลัว

“รีบไปจัดการพวกนั้นเร็ว !!!” ไซเร้นมาร์ชซึ่งเป็นเนโครแมนเซอร์ขั้นสี่ได้รีบสั่งให้เหล่าอันเดธขั้นสี่ของเธอทำการโจมตีต่อทันที “วันนี้เราจะต้องไม่ปล่อยให้แบล๊คเฟรมและคนอื่นๆหนีออกไปจากที่นี่ได้ !!!”

หลังจากนั้นเหล่าอันเดธของไซเร้นมาร์ชก็พยักหน้ารับคำสั่ง ก่อนที่พวกมันจะตรงเข้าไปร่วมกับซอร์ดเดมอน และวินด์เดมอน รวมทั้งคนอื่นๆเพื่อจัดการกับไลฟ์เลส
ธอร์น และโซริทารี่ไนน์

เมื่อได้เห็นฉากนี้นั้น เหล่าผู้ชมที่เฝ้าดูอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าผู้เล่นขั้นสี่คนอื่นๆของฝั่งสตาร์ลิ้งจะไม่ได้โดดเด่นเท่าฝั่งของสภาสิบแปดปีก แต่พวกเขาก็ยังมีข้อได้เปรียบในเรื่องที่พวกเขามีวงเวทย์คอยช่วยปราบปรามผู้เล่นขั้นสี่ของสภาสิบแปดปีก แถมพวกเขายังมี NPC ขั้นสี่อีกสามคนคอยสนับสนุน ดังนั้นในสถานการณ์แบบนี้ ผู้เล่นขั้นสี่ของสภาสิบแปดปีกจึงจะไม่มีโอกาสชนะเลย

อย่างไรก็ตามก่อนที่ทุกคนจะทันได้คิดหรือพูดอะไรต่อ ซือเฟิงก็ได้แกว่งดาบของเขาขึ้นไปบนฟ้า

แสงทลายโลก !!

การโจมตีของซือเฟิงได้ตัดผ่านวงเวทย์วิญญาณระดับปรมาจารย์ และทำให้มันหายไปอย่างสมบูรณ์ในเวลาอันรวดเร็ว

“วงเวทย์วิญญาณระดับปรมาจารย์ ?” ซือเฟิงหันไปมองลู่ชิงหลัวและถามอย่างเฉยเมยว่า “ใช่อันที่พึ่งพังไปนี่รึปล่าว ?”

เมื่อซือเฟิงกล่าวจบ มันก็บังเกิดความเงียบขึ้นในหมู่ผู้ที่ได้เห็นฉากนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลู่ชิงหลัวที่เขาทำได้แค่จ้องมองไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”

“นี่มันคือวงเวทย์วิญญาณระดับปรมาจารย์นะ !! แม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายชั้นยอดก็ยังยากที่จะทำลายมันได้ แล้วเขาทำลายมันในการโจมตีเดียวได้ยังไง ?”

ลู่ชิงหลัวนั้นรู้สึกราวกับว่าตอนนี้เขากำลังฝันอยู่ หรือไม่งั้นก็ตอนนี้พระเจ้าจะต้องล้อเล่นอะไรสักอย่างกับเขาแน่นอน

“หัวหน้ากิล นี่หัวหน้ามีพลังที่ขั้นสูงสุดของขั้นสี่แล้วงั้นหรอ ?!”

ในเวลานี้ไม่ต้องพูดถึงลู่ชิงหลัว และสมาชิกคนอื่นๆของสตาร์ลิ้งรวมไปถึงพันธมิตรของพวกเขาเลย แม้แต่ไฟเออร์แดนซ์กับคนอื่นๆ รวมทั้งสมาชิกพันธมิตรสามกกิลของสภาสิบแปดปีกก็ตกตะลึงมากเช่นกัน
วงเวทย์วิญญาณระดับปรมาจารย์ที่สามารถจะใช้ปราบปรามและกักขังมอนสเตอร์ระดับตำนานชั้นยอดได้กับถูกซือเฟิงทำลายลงได้ในการโจมตีเดียว ใครจะกล้าเชื่อเรื่องนี้กัน ?

“นี่มันไม่ดีแล้ว !!! วงเวทย์วิญญาณระดับปรมาจารย์ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว !!! แม้ว่า NPC ขั้นสี่ทั้งสามคนจะเข้ามาช่วยจับพวกเขาด้วย แต่มันก็จะไม่ง่ายแน่นอน !!!!” ไซเร้นมาร์ชตอบสนองอย่างกระทันหัน และพูดอย่างกระวนกระวายว่า “หัวหน้ากิลชิงหลัว เราต้องรีบหาทางรับมือกับเรื่องนี้โดยเร็ว !!!”

ท้ายที่สุดแล้วเมื่อปราศจากการปราบปรามของวงเวทย์วิญญาณระดับปรมาจารย์นั้น พวกผู้เล่นขั้นสี่ของสภาสิบแปดปีกก็จะไม่ได้เสียเปรียบพวกเขาอีกต่อไปแล้ว ว่ากันตามตรง ผู้เล่นขั้นสี่บางคนของสภาสิบแปดปีกจะกลับมาได้เปรียบพวกเขาด้วยซ้ำ และแม้ว่า NPC ขั้นสี่จะเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ แต่มันก็ยังไม่ง่ายที่จะจัดการอยู่ดี ซึ่งหากพวกเขาไม่สามารถจะจัดการกับผู้เล่นขั้นสี่ของสภาสิบแปดปีกได้ มันก็จะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขามากๆที่จะทำลายพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกลงให้ได้อย่างราบคาบ ….

สำหรับสมาชิกพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ตอนนี้เมื่อปราศจากวงเวทย์นี้ พวกเขาก็จะสามารถตัดสินใจทำอะไรหลายสิ่งได้สะดวกขึ้นมากๆ

แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่ลู่ชิงหลัวและไซเร้นมาร์ชจะทันได้พูดอะไรต่อ ซือเฟิงก็ได้บินขึ้นไปอยู่เหนือสถานที่พักกิลของสตาร์ลิ้ง พลางมองลงไปยังสมาชิกของสตาร์ลิ้ง และพันธมิตรของพวกเขาทั้งหมด

สิ่งนี้มันทำให้ทุกคนรู้สึกงงงวย พวกเขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมซือเฟิงถึงไม่หนีทันที แต่กับเลือกจะทำแบบนี้แทน

“หนี ?” ซือเฟิงมองไปที่ไซเร้นมาร์ชและหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “นี่พวกคุณคิดว่ามีแต่พวกคุณงั้นหรอที่สามารถรับสมัคร NPC ขั้นสี่ได้ ?! วันนี้จะไม่มีใครในหมู่พวกคุณออกไปจากที่นี่ได้ทั้งนั้น !!!!”

เมื่อซือเฟิงกล่าวจบ เขาก็หยิบม้วนคัมภีร์อัญเชิญองครักษ์ส่วนตัวสองม้วนออกมาจากกระเป๋าของเขา พลางเริ่มร่ายเวทย์ และเปิดใช้งานมันทันที ….