ภาค 6 ยันฟ้าด้วยมือเดียว บทที่ 564 เหตุใดต้องรอวันหน้า

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

คนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเกิ่งฮุย คือผู้ปกครองเกาะของเกาะวิญญาณหลอนหลิวซั่ว หนึ่งในหกพรรคมาร

หลิวซั่วมองเกิ่งฮุย พูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ท่านคิดจะพูดอะไรพูดได้เต็มที่ ถ้าหากคิดร่วมมือกันแย่งชิงของวิเศษในสุสานมังกร ใช่ว่าไม่อาจใคร่ครวญดู แต่ว่าต้องคุยกันก่อนว่าจะแบ่งของวิเศษที่ได้มาอย่างไร”

“ถ้าหากคิดร่วมมือรับมือกับคนอื่น เป้าหมายของท่านเป็นผู้ใด เยี่ยนอวิ๋นจงหรือ?”

เขามองเกิ่งฮุยแวบหนึ่ง “พวกท่าน แม้แต่เหนียนเชินที่มีนิ้วมังกรทั้งเก้าอยู่ในมือยังจัดการเขาไม่ได้ กลับถูกเขาสังหารทิ้ง พ่ายแพ้ยับเยิน”

“ข้าไม่ชอบยกย่องคนอื่น ทำลายบารมีของตัวเอง แต่ถ้ามีแค่ท่านกับข้าสองคน คิดฆ่าเยี่ยนอวิ๋นจงยังคงไม่อาจทำได้”

เกิ่งฮุยเอ่ยว่า “เหยียนกังแห่งบึงหมื่นกระบี่อ่อนแอที่สุด ถ้าหากเจอเหยียนกัง เช่นนั้นพวกเราร่วมมือกันกำจัดเขา ย่อมเป็นเรื่องดี”

“ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอ ถึงแม้จะมีพลังแข็งแกร่ง แต่ถ้าพวกเราร่วมมือกับจ้าวสังหารมังกร อาจจะมีโอกาส”

หลิวซั่วลูบหนวดของตัวเอง มองเกิ่งฮุยคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เหอะ ท่านวางแผนตามใจเกินไป”

“เป็นไร ลิ่นเชียนเฉิงตายแล้ว ยังไม่อาจขจัดความแค้นที่สำนักท่านถูกทำลาย ยังแค้นเยี่ยนอวิ๋นจงไปด้วยหรือ?”

“เพียงแต่ท่านมีความแค้นกับเยี่ยนอวิ๋นจง กลับต้องการให้ข้ากับจ้าวสังหารมังกรลงมือ วางแผนดีเกินไปหน่อยกระมัง มีเรื่องกับคนโหดเหี้ยมเช่นนี้ พวกเราจะทำอย่างไร”

หลิวซั่วกวาดมองเกิ่งฮุย “หากท่านคิดจะเพิ่มความแค้นขึ้นอีก ก็จัดการเองเถอะ”

เกิ่งฮุยได้ยินดังนั้น ก็พลันจ้องมองหลิวซั่วด้วยความเดือดดาล

ในจอมยุทธ์ขั้นบรรลุธรรมสิบอันดับแรกของโลกลอยน้ำ เกิ่งฮุยจัดอยู่ในอันดับหนึ่ง ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด

ส่วนหลิวซั่วอยู่อันดับสุดท้ายในบรรดาจอมยุทธ์ขั้นบรรลุธรรมสิบอันดับแรก มีพลังอ่อนแอที่สุดในกลุ่มผู้นำของเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมะและหกพรรคมาร ทำให้เกิ่งฮุยไม่ได้ให้ความสำคัญกับหลิวซั่วเท่าใดนัก

หลิวซั่วไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเกิ่งฮุยโดยแม้แต่น้อย

ตลับวิญญาณหลอนซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์คือความมั่นใจของเขา เมื่อมีมันอยู่ในมือ เขากดดันเกิ่งฮุยได้ เกิ่งฮุยไม่พอใจอย่างไร ได้แต่อดกลั้นไว้

เกิ่งฮุยสงบสติอารมณ์ กล่าวเสียงขรึม “ตอนนี้ไม่กำจัดเขา จะรอจนเขากับหลินซื่อแห่งวังผลึกวารี รวมถึงเหยียนกังแห่งบึงหมื่นกระบี่ลงมือหรือ?”

“หากลอบสังหารคนแซ่เยี่ยน ข้ายินดีเป็นตัวล่อ จะรับความเสี่ยงมากที่สุดไว้เอง”

หลิวซั่วแค่นเสียง “ท่านคิดว่าเขาหงส์วิเศษ วังผลึกวารี บึงหมื่นกระบี่ออกคำสั่งคนผู้นี้ได้อย่างนั้นหรือ?”

เกิ่งฮุยขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ข้าพอจะเข้าใจแล้ว คนผู้นี้หากไม่ไปตอแย เขาก็จะไม่สอดมือ ความคิดของเขาไม่ได้อยู่ที่การช่วยเหลือเขาหงส์วิเศษขยายดินแดน เขาหงส์วิเศษไม่อาจสั่งเขาได้จริงๆ” หลิวซั่วเอ่ย

“แต่หากมีคนโจมตีเขาหงส์วิเศษ เขาอาจจะนึกถึงน้ำใจเก่าก่อน ลงมือช่วยเหลือเขาหงส์วิเศษ”

“เกาะวิญญาณหลอนของข้าไม่เคยหาเรื่องเขา และไม่ได้สร้างความแค้นกับเขาหงส์วิเศษเหมือนสำนักตาข่ายปีศาจและสำนักมังกรโลหิต ระหว่างเรากับเขาไม่มีความขัดแย้งที่ต้องสะสาง”

“คนผู้นี้สนใจการต่อสู้ระหว่างธรรมะและมารจริงๆ หรือ? ข้าว่าไม่แน่นัก อย่างน้อยต่อให้เขาต้องลงมือ ก็น่าจะลงมือกับสำนักตาข่ายปีศาจหรือไม่ก็สำนักอัสนีเรืองรองที่มีเรื่องกับเขามากกว่า จ้าวสังหารมังกรไม่ได้หาเรื่องเขา เกรงว่าเขาจะไม่ได้สนใจสำนักสังหารมังกร”

หลิวซั่วมองเกิ่งฮุย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดข้าต้องสร้างปัญหาให้เขาด้วย”

“แน่นอนว่าของวิเศษในสุสานมังกรอะไรสมควรแย่งชิงก็ต้องแย่งชิง ฟ้าสร้างโชค คนมีวาสนาจึงได้ไปครอง แต่หากต้องไปรุมสังหารเขากับท่าน ข้าว่าอย่าดีกว่า”

หลังจากเขาเว้นครู่หนึ่งก็พูดต่ออีก “ท่านลองติดต่อกับจ้าวสังหารมังกรดูก็ได้ บางทีอาจจะโน้มน้าวเขาได้ ไม่ใช่เพราะน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แต่เป็นเพราะตำแหน่งยอดฝีมืออันดับหนึ่งบนโลกผืนสมุทรของเขาสั่นคลอนเพราะเยี่ยนอวิ๋นจงแล้วต่างหาก”

“จ้าวสังหารมังกรเป็นคนทะนงตน คงจะไม่ยอมแน่”

เกิ่งฮุยส่ายหน้า “ท่านพูดเช่นนี้ พวกเราไม่อาจพูดกันต่อได้แล้ว ต่อจากนี้อย่าเสียใจแล้วกัน”

เสียงยังไม่ทันขาด เสียงหนึ่งเหมือนกลับดังขึ้นในสถานที่ที่อยู่ไกลไร้สิ้นสุด แต่ก็เหมือนดังขึ้นข้างหู “เหตุใดต้องรอต่อจากนี้ ตอนนี้พวกเรามาสะสางเรื่องราวเถอะ”

หลิวซั่วกับเกิ่งฮุยสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย อีกฝ่ายเข้ามาใกล้เพียงนี้ ก่อนหน้าพวกเขากลับสัมผัสไม่พบ

ภาพในที่ว่างเปลี่ยนแปลง มังกรสีเหลืองตัวหนึ่งแหวกมิติ โผล่ขึ้นด้านหน้าพวกเกิ่งฮุย

หลังมังกรยืนไว้ด้วยคนกลุ่มคน คนที่อยู่ด้านหน้าสวมอาภรณ์สีขาว เสื้อคลุมสีน้ำเงินชุนสีดำไว้ตรงขอบ เขามองเกิ่งฮุยด้วยรอยยิ้มกว้าง เป็นเยี่ยนจ้าวเกอนั่นเอง

เยี่ยนจ้าวเกอมองหลิวซั่วก่อน เขายิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเกิ่งฮุย สีหน้าของอีกฝ่ายกลายเป็นเขียวคล้ำ

เจ้าสำนักเขาหงส์วิเศษเกาเทียนจงโดดลงมาจากหลังมังกรเหลือง ประจัญหน้ากับเกิ่งฮุย

ในจอมยุทธ์ระดับบรรลุธรรมสิบคนแรกของโลกผืนสมุทร เกิ่งฮุยอยู่ในอันดับแรก ส่วนคนที่อยู่อันดับสามก็คือเกาเทียนจง

คนทั้้งสองไม่เคยสู้กันมาก่อน เกาเทียนจงใช่ว่าจะไม่มีความคิดของตัวเองต่อการจัดอันดับนี้

ยิ่งกว่านั้น การเข้ามาในสุสานมังกรครั้งนี้ ถึงแม้จะร่วมทางกับเยี่ยนจ้าวเกอ แต่เขาไม่อาจพึ่งพาอีกฝ่ายไปเสียทุกเรื่อง ข้อแรกชายหนุ่มไม่อาจให้คนเอาเปรียบได้โดยง่าย ข้อสองมีแต่จะทำให้เขาหงส์วิเศษเหมือนเป็นส่วนเกินของเยี่ยนจ้าวเกอ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เกาเทียนจงยินยอม

เขาคิดจะรับมือเกิ่งฮุย ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอน่าจะรับมือกับหลิวซั่วที่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวโบกมือให้เกาเทียนจง “ผู้ปกครองเกาะหลิวคงไม่คิดลงมือกระมัง? เช่นนั้นก็เชิญเถอะ ต่อจากนี้ทุกคนคงได้เจอกัน แต่ว่า ‘ราชันสายฟ้าสีชาด’ ขอให้อยู่ที่นี่”

หลิวซั่วลังเลเล็กน้อย ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอลงมือแล้ว

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกลายเป็นลมกรด มาถึงด้านหน้าเกิ่งฮุยในชั่วพริบตา!

ท่ามกลางเสียงคำรามของเกิ่งฮุย ร่างอัสนีเพลิงสวรรค์ซึ่งเป็นร่างญาณวรยุทธ์ปรากฏขวางอยู่ด้านหน้าตน รับการโจมตีของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก

ส่วนตัวเขากลับหนีไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หันหลังกลับมา!

ถึงแม้จะเด็ดขาดมาก แต่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเร็วเกินไป ร่างกายลอยขึ้นเหมือนกับคุนเผิงออกจากน้ำ กระพือปีกไปบนฟากฟ้า

มันข้ามผ่านร่างอัสนีเพลิงสวรรค์ของเกิ่งฮุยมาถึงเบื้องหน้าในชั่วพริบตา

เกิ่งฮุยกัดฟัน ประสานหมัดปล่อยสายฟ้าสีแดงที่ลุกไหม้เหมือนกับเปลวเพลิง แข็งกร้าวดุดัน ทั้งยังรุนแรงยิ่งกว่าสายฟ้าทั่วไปออกมา

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพลันต่อยหมัดหนึ่งออก ทำลายสายฟ้าสีแดง

การเคลื่อนไหวของมันถูกขัดขวาง จึงชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็หมุนตัวก้าวไปด้านหน้า หดระยะห่างระห่างตัวมันกับเกิ่งฮุย จากนั้นก็แทงศอกใส่ทรวงอกของเกิ่งฮุย!

ร่างอัสนีเพลิงสวรรค์ของเกิ่งฮุยตอนนี้โจมตีใส่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกจากด้านหลัง แต่กลับมีมังกรสีเขียวตัวหนึ่งคำรามร้อง พลางพุ่งออกมาจากในแขนเสื้อของเยี่ยนจ้าวเกอ ม้วนร่างอัสนีเพลิงสวรรค์ไว้

“ตูม!”

ข้อศอกของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพุ่งใส่หัวใจของเกิ่งฮุยเหมือนกับปลายหอกใหญ่

เกิ่งฮุยเองก็ไม่ธรรมดา แม้จะถูกจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์โจมตีจุดอ่อนก็ยังคงไม่ตาย และยังคงมีพลังโต้กลับ เขาถลึงตาด้วยความโกรธ สองมือฟาดใส่ขมับทั้งสองข้างของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก

“ต่อให้ข้าตายก็ต้องทำให้ร่างแยกจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ของจ้าบาดเจ็บสาหัสให้ได้ เมื่อไม่มีร่างแยกนี้ จากวันนี้ไปเจ้าจะต้องอยู่ด้วยความกลัวหดหัว!” เกิ่งฮุยตวาด เหนือศีรษะมีแสงสายฟ้าสีม่วงสว่างขึ้น ไข่มุกลูกหนึ่งส่องสว่าง สาดสายฟ้าไร้สิ้นสุดออกมา

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นไม่โมโห กลับยินดี “ฮ่า มีจริงๆ ด้วย”

ชายหนุ่มเผชิญกับการตอบโต้ก่อนตายของเกิ่งฮุยไม่รีบร้อน

ดวงตาข้างขวามีแสงสายฟ้าสว่างวาบ ไข่มุกสีม่วงเม็ดหนึ่งลอยออกมา มีขนาดใหญ่กว่าไข่มุกสายฟ้าของเกิ่งฮุยหลายเท่า!

ไข่มุกสายฟ้าของเกิ่งฮุยสั่นสะเทือน พุ่งเข้าหาไข่มุกวิเศษเหมือนวิหคบินกลับรัง ก่อนจะถูกหลอมรวม!