ดุเดือดเลือดพล่าน
กู๋เตียน เฟิงชิวเยี่ยน เชดี้ กรีฟ ฟางหลัวซี และสมาชิกคนอื่นๆของกลุ่มซวนเหวินต่างดูการประลองครั้งนี้อยู่ข้างๆสนาม
เฟิงชิวเยี่ยนนั้นดูมาซักพักแล้วดวงตาก็ลุกโชน “การกลับมาของประธานครั้งนี้เขาแกร่งขึ้นเยอะมากเลย ความสามารถในการใช้สกิลอย่างต่อเนื่องนั้นมันหลุดออกจากระดับของมนุษย์ไปแล้ว อีกอย่าง ความสามารถในการฮีลตัวเองตลอดเวลาที่สู้นั้นทำให้เขาแกร่งขึ้นกว่าเดิมอีก รอบนี้ดูเหมือนว่าโค้ชจะมีปัญหาแล้วละครับ”
เชดี้พยักหน้า “สิ่งที่หน้ากลัวที่สุดสำหรับหลี่ซวนคือเขามีความสามารถในการพลาดกี่ครั้งก็ได้ เพราะถ้าเป็นคนอื่นพลาดละก็ ครั้งเดียวก็หมายความถึงชีวิตได้ แต่ด้วยพลังของเขาทำให้คำว่าผิดพลาดนั้นไม่มีอยู่จริง
กรีฟพูดด้วยความอิจฉา “ทำไมฉันถึงไม่ได้มีวิญญาณชีวิตเก่งๆแบบนั้นบ้างนะ”
โจวเหวินกับหลี่ซวนกำลังเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือด โจวเหวินใช้จ้าวมังกรบินผสานกับวิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณ แต่แรงกดดันของการต่อสู้ก็ยังคงมากขึ้นได้อีก
วิชากระบวนท่าของหลี่ซวนในการต่อสู้ระยะประชิดนั้น ดูเหมือนว่าการที่เขาไปเรียนรู้ที่ตระกูลตู่กู๋จะทำให้เขาพัฒนาไปเยอะมากจริงๆ
แต่ที่สำคัญที่สุดเลยคือ ไม่ว่าโจวเหวินจะโจมตีเกราะของหลี่ซวนยังไง อย่างมากที่สุดเกราะก็แค่ร้าวแต่มันไม่ได้ทำให้การโจมตีสวนกลับของหลี่ซวนช้าลงเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เกราะร้าวแล้ว มันก็ซ่อมตัวเองแล้วแกร่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้การที่โจวเหวินจะทำลายมันได้นั้นมันยากยิ่งกว่าเดิม
ไม่ใช่แค่เกราะแมลงจะแข็งขึ้นแล้ว หลี่ซวนเองก็แกร่งขึ้นแบบจริงๆอีกด้วย เขาใช้กระบวนท่ามากมายแปลกๆในการต่อสู้ การที่มันแปลกทำให้มันยากต่อการคาดเดาได้ หลายๆท่าแม้แต่มนุษย์ปรกติก็ยังทำไม่ได้เลย
โจวเหวินรู้ดีแล้ว ว่าจริงๆทุกกระบวนท่าที่หลี่ซวนใช้นั้นมันคือกระบวนท่าที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตต่างมิติล้วนๆ
โจวเหวินใส่พลังเข้าไปในวิญญาณชีวิตถึงขั้นขีดสุดตอนนี้วิชาจ้าวมังกรบินเร็วกว่านี้ไปไม่ได้แล้ว แต่หลี่ซวนก็ยังยากที่จะโค่นได้
ชาดี้คิดก่อนจะพูด “บางทีความสามาถของคนบางคนนั้นจะขึ้นอยู่กับโค้ชในช่วงเวลานั้นๆด้วย แต่มีน้อยคนมากเลยนะที่จะประลองกับโค้ชแล้วได้เปรียบแบบนี้ถือว่าหายากมากเลยนะ”
“พี่ พี่คิดว่าประธานจะมีโอกาสชนะโค้ชได้ไหม”กรีฟถามด้วยความสงสัย
“บอกยากนะ จากที่ดูตอนนี้หลี่ซวนกำลังได้เปรียบอยู่มากๆก็จริง แต่ก็ยังไม่แน่นะ”เชดี้พูดด้วยเสียงต่ำ
เฟิงชิวเยี่ยนเองก็พูด “สกิลความสามารถ และจังหวะนั้น โค้ชถือได้ว่าเป็นที่หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเกิดแทนที่หลี่ซวนด้วยคนธรรมดา พวกเขาคงแพ้ไปนานมากๆแล้ว แต่ประธานเองก็มีความสามารถที่เรียกได้ว่าฆ่าไม่ตาย พลังของโค้ชนั้นจะค่อยๆหดหายลงเพราะการกินพลังงานร่างกายและลมปราณ แต่ในขณะเดียวกัน ของฝั่งประธานกลับจะแกร่งขึ้นแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่เขายังไม่ตาย ถ้าเทียบตามเวลาแล้ว นานๆไปประธานอาจจะชนะก็ได้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับจังหวะด้วย บางทีโค้ชอาจจะเอาชนะประธานได้ในเวลาสั้นๆนี้ก็ได้”
“คิดถึงสภาพโค้ชตอนแพ้ซิ มันต้องตื่นเต้นมากๆแน่ๆเลย”กรีฟพูดอย่างตื่นเต้น
เอาเข้าจริงหลายๆคนนั้นก็กำลังรอดูอยู่เหมือนกัน โจวเหวินนั้นไม่ใช่ว่าความนิยมน้อยกว่าหลี่ซวนหรอก แต่มันเป็นธรรมชาติของคนที่มักจะเชียร์มวยรองมากกว่าตัวเต็ง
โจวเหวินนั้นเรียกได้ว่าไร้เทียมทานมาก จนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยแพ้เลย(ยกเว้นตั้งแต่ตอนอยู่ที่กุ๋ยเต๋อ) และหลี่ซวนอาจจะเป็นคนที่ปิดตำนานนั้นลงก็ได้
หลี่ซวนเองก็จริงจังกับการสู้มากๆ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนชิวๆ สบายๆมาตลอดแต่เขาก็เป็นคนที่เกลียดและไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นโจวเหวินเพื่อนซี้ของเขา เขาก็ไม่อยากแพ้เหมือนเดิม
พวกเขาต่อสู้กันต่อไปอย่างบ้าคลั่ง วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณส่งพลังมหาศาลเข้าหาโจวเหวิน ทำให้โจวเหวินเหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหนื่อย แต่โจวเหวินนั้นก็ยังสู้หลี่ซวนได้ยากอยู่ดี
หลี่ซวนนั้นคุ้นชินกลับกระบวนท่าและเทคนิคต่างๆของโจวเหวินเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าโจวเหวินจะเริ่มคุ้นชินของเขาแล้วเหมือนกัน แต่โจวเหวินนั้นไม่ได้มีการฮีลขี้โกงและยิ่งเจ็บยิ่งแกร่งขึ้นเหมือนหลี่ซวน
ตู้ม!!
พลังของโจวเหวินปะทะเข้ากับหลี่ซวนอย่างแรง แต่รอบนี้แรงปะทะส่งโจวเหวินให้กระเด็นถอยไป2ก้าว แต่หลี่ซวนยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง
“ประธานได้เปรียบแล้ว”กรีฟพูด
“ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปแล้วซินะ”เชดี้มองหลี่ซวน ประสบการณ์แรกพบกับหลี่ซวนสำหรับเชดี้นั้นไม่ค่อยจะดีซักเท่าไร เธอรู้สึกว่าหลี่ซวนนั้นเป็นแค่ไอ้หนุ่มขี้อวดธรรมดา แต่พอได้รู้จักกันจริงๆ เชดี้ก็มองหลี่ซวนเปลี่ยนไปมาก
ตอนนี้เชดี้ยอมรับแล้วว่าหลี่ซวนนั้นนับว่าเป็น1ในคนรุ่นนี้ที่เก่งที่สุดคนนึง แม้แต่คนอย่างหลานฉียังอาจจะแพ้เขาก็ได้
“นอกเหนือจากคนจาก6ตระกูลแล้ว ก็มีอัจฉริยะต่างๆนานาปรากฏขึ้นมามากมายเลย ทั้งโจวเหวิน ทั้งหลี่ซวน เฟิงชิวเยี่ยน ในอนาคตพวกเขาอาจจะเป็นคนที่กำหนดชะตากรรมอนาคตของรัฐบาลกลางก็ได้ ใครมันจะไปรู้… ฉันเองก็ต้องพยายามมากกว่านี้แล้ว”เชดี้ดูการต่อสู้นั้นแล้วคิด
และในทันใดนั้นเอง หลี่ซวนก็เปลี่ยนจากเป็นฝ่ายตั้งรับเป็นฝ่ายเริ่มบุกโจมตีเหมือนพายุทันที
หลี่ซวนก่อนหน้านี้เน้นการโจมตีสวนเน้นป้องกัน แต่ตอนนี้หลี่ซวนไม่ป้องกันอีกแล้ว เขาทุ่มทุกอย่างสุดตัวไปที่การโจมตี
ร่างกายทุกส่วนของเขาเปลี่ยนกลายเป็นอาวุธร้ายแรงถึงตาย การโจมตีในบางจุดนั้นยากที่คนอื่นๆจะคาดคิด แต่สำหรับหลี่ซวนแล้ว ทุกอย่างมันเป็นไปได้อย่างลื่นไหล
โจวเหวินเองก็โดนกดดันอย่างหนัก ตอนนี้เขาเริ่มอ่อนล้าลงในทุกๆด้าน ทั้งเรื่องพลัง ความเร็ว ร่างกาย ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ชัดเจนมาก แต่ถ้าเทียบแล้ว หลี่ซวนยังคงแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
โจวเหวินนั้นมีวิธีการพลิกสถานการณ์อยู่มากมายแต่นั้นจำเป็นที่เขาจะต้องเปลี่ยนวิญญาณชีวิตเป็นดวงอื่น ซึ่งโจวเหวินไม่มีแผนที่จะทำอะไรแบบนั้นตั้งแต่แรกเขาจึงใช้จักรพรรดิโบราณในการสู้กับหลี่ซวนต่อไป
ตู้ม ตู้ม
ร่างของโจวเหวินโดนหมัดต่อยเข้าไปเต็มๆ2หมัด นี้เป็นครั้งแรกเลยที่เขาโดนหมัดเข้าไปตั้งแต่เริ่มการต่อสู้
หมัดแรกกับหมัด2ไม่เท่าไร แต่หมัด3นั้นมันเข้าเต็มๆจนความเจ็บปวดมันแล่นขึ้นมา แต่มันกลับทำให้ประสาทของเขาตื่นตัวมากกว่าเดิม
“นั้นละ….เอามาให้แรงกว่านี้อีก….”โจวเหวินเริ่มรู้สึกได้เลยว่าพลังของเขานั้นมันกำลังเพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ โจวเหวินพยายามที่จะควบคุมพลังนั้นแล้วใช้มันในการขับเคลื่อนวิญญาณชีวิต
ตู้ม ตู้ม
ใจของโจวเหวินเต้นระรัวเหมือนกับลูกสูบรถที่ทำงานเต็มแรงม้า
แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ โจวเหวินใช้ความสามารถของจักรพรรดิโบราณในการเติมพลังชีวิตมาให้โจวเหวินเรื่อยๆ เพื่อรับแรงโจมตี
แต่ลมปราณที่เกิดมาจากการรับหมัดนั้น มันไม่มีทางออก วิญญาณชีวิตจักรพรรดิโบราณนั้นผลิตลมปราณจำนวนมหาศาลออกมาอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้เอาพลังงานกลับมาใช้ใหม่ เพราะงั้นตอนนี้ที่โจวเหวินอยากจะทำ คือการหมุนเวียนพลังงานแบบเดียวกับที่มารพยัคฆ์ทำ เพื่อให้วิญญาณชีวิตของเขานั้น ได้สูบฉีดและเผาผลาญอยู่ในร่างกายที่จะระบายออกมา
ตู้ม!!
โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่าหัวใจของเขาตอนนี้มันกำลังร้อนเป็นไฟ เหมือนกับว่ามันกำลังเผาไหม้ รู้สึกได้เลยว่าวิญญาณชีวิตของเขากำลังจะเปลี่ยนไป
“มาซิวะ ให้มันหนักกว่านี้อีก”โจวเหวินตอนนี้เลิกป้องกันเลิกหลบเขาหันไปใช้วิธีต่อหมัดสวนแบบแลกหมัดใส่หลี่ซวนอย่างบ้าคลั่งแทน