พร้อมทุกเมื่อ
“รุ่นพี่หมายความว่าพวกเขาทั้งคู่จะแกล้งถ่วงแข้งถ่วงขาเหรอครับ” เหออวี้ส่งอิโมติค่อนรูปเอามือกุมคาง
เกาเกอไม่ได้ตอบเพียงแต่ส่งอิโมติค่อนสีหน้ามีลับลมคมนัยมา
“พี่คงไม่ได้หมายความว่าผมเป็นศูนย์จุดห้าคนนั่นใช่ไหม” เหออวี้ตอบอย่างอารมณ์เสีย แม้แต่คำว่ารุ่นพี่ก็เลิกเรียกแล้ว
“ตามนั้น” เกาเกอตอบ
“ผมจะเป็นศูนย์จุดห้าได้ไง” เหออวี้โมโห ตอบกลับไปเร็วขึ้นเยอะ “ด้วยวิธีการคิดวิเคราะห์และไอเดียของผมเนี่ย ยังไงก็น่าจะเป็นศูนย์จุดเจ็ด ศูนย์จุดแปดไหม”
“เอาที่นายสบายใจแล้วกัน” เกาเกอตอบอย่างไม่แคร์
โจวม่อที่แอบส่องอย่างลับ ๆ อยู่ตื่นตระหนกมาก ไม่รู้ว่าสองคนนี้เกลียดกันจริง ๆ หรือพูดเล่น คิดทบทวนไปมาแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองยังคงเงียบ ๆ ไว้อย่างนี้ดีกว่า ดังนั้นจึงแกล้งทำเป็นไม่อยู่ต่อไป
ผลก็คือเขาไม่ได้พูดอะไรแต่หัวข้อการสนทนาก็ตกใส่หัวเขาแล้ว
“หยางเจี่ยนของรุ่นพี่โจวม่อนั่นเล่นได้กี่ส่วนแล้วครับ” เหออวี้ถาม
“ศูนย์จุดห้าส่วน” เกาเกอพูด
“คะแนนเต็มไม่ใช่สิบใช่ไหมครับ” เหออวี้ถาม
โจวม่อโกรธจนเกือบจะตอบออกไป โชคยังดีที่เกาเกอเพื่อนรักช่วยพูดแทนเขา “ไม่หรอก”
“สไตล์ของรุ่นพี่โจวม่อระมัดระวังตัวมากกว่า เก่งด้านการป้องกัน ให้เขาไปเวดป่าถึงจะไม่ได้ผลรับอะไรมากมายแต่อย่างน้อยก็ไม่น่าจะเสียหายมาก” เหออวี้พูด
“ถ้าเกิดไม่ได้ผลรับมากมายพวกเราก็คงจะแพ้แล้วล่ะ” เกาเกอพูด
“งั้นพี่ยังจะพูดว่าจะเล่นตงหวงอีกเหรอครับ” เหออวี้กล่าว
ท่าอัลติสัญญาเทพผู้ร่วงหล่นของฮีโร่ตงหวงไท่อีตัวนี้สามารถจะบังคับควบคุมเป้าหมายตัวหนึ่งได้ 2.5 วินาที ใช้เลือดแลกเลือด ตอนที่โจมตีสามารถใช้ควบคุมตัวหลักในการทำดาเมจหรือตัวหลักด้านกลยุทธ์ของอีกฝ่ายได้ ตอนที่ป้องกันก็ใช้เข้าใส่ฮีโร่สายดาเมจระยะประชิด มีผลสะกดข่มแรงมาก ลูน่าเป็นฮีโร่ประเภทที่ต้องเข้าประชิด ในตอนที่ท่าอัลติของตงหวงหมดคูลดาวน์ ลูน่าจะไม่กล้าเข้าไปโจมตีอย่างง่าย ๆ ดังนั้นการที่เกาเกอใช้ตงหวงเป็นฮีโร่ซัพพอร์ตตัวสำรองอันดับแรกเหออวี้จึงเห็นด้วยอย่างมาก ถึงแม้ว่าตอนเปิดเกมจะสะกดข่มป่าบัฟฟ้าไม่สำเร็จ ตงหวงก็ยังจะเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดสำหรับตัวหลักของอีกฝ่ายอยู่ดี
แต่จากที่เกาเกอเพิ่งจะพูดมา ถ้าไม่สามารถสะกดข่มลูน่าได้โดยสิ้นเชิงก็จะแพ้ งั้นการใช้ตงหวงก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีความหมายมากเท่าไหร่แล้ว
“ก็พูดไปงั้นเอง” เกาเกอโต้ตอบ “ถึงจางเฉิงห่าวจะหยิ่งมากแต่เมื่อคิดจะใช้ลูน่าเป็นตัวหลัก เรื่องอย่างการแบนตงหวงนี่ฉันว่าเขาก็ยังต้องทำอยู่ดี”
“เลนกลางกับตัวป่าจะใช้ฮีโร่อะไรพี่ไปคุยได้ไหม” เหออวี้ถาม
“ยาก ให้พวกเขาใช้ตัวที่คุ้นเคยที่สุดไปเถอะ” เกาเกอตอบ
เหออวี้คิด ๆ ดูแล้วก็เห็นด้วย
ยังไงซะนี่ก็ไม่ใช่นักเล่นเกมอาชีพถึงจะได้มี hero pool ที่ศึกษามาแล้วซึ่งสามารถใช้ได้ตามแต่ความต้องการทางกลยุทธ์ ชอบอันไหนก็ใช้อันนั้น ใช้อันไหนบ่อยก็เก่งอันนั้น นี่ก็คือทัศนคติของผู้เล่น ที่เกาเกอกับโจวม่อสามารถมาปรึกษาเกี่ยวกับฮีโร่ด้วยกันกับเขาแบบนี้ก็เป็นเพราะว่าพวกเขากำหนดมาตรฐานของตัวเองไว้ไม่เหมือนกัน พวกเขาได้ตั้งใจขยายขอบเขต hero pool ของตัวเองอย่างจริงจังกันแล้ว ตรงกันข้าม ถึงจะเป็นหวงเฉานั่น ฮีโร่ที่ผู้เล่น conqueror หลายคนนั้นเล่นก็ไม่เห็นจะมีกฎเกณฑ์อะไร ถ้าให้เขาพูดแล้วก็แค่ทำท่าสวยหรูไปอย่างนั้นเอง ที่จริงแล้วมี hero pool ที่น้อยนิดมาก
เพียงแต่เหมือนคิดมาถึงตัวเองแล้ว เหออวี้ก็เกิดความคิดอีกอย่างขึ้นมา “เอ่อ พี่ว่าถ้าผมฝึกใช้โฮ่วอี้จะเป็นไง”
“ระบบโฮ่วอี้!!!” โจวม่อที่แกล้งทำเป็นไม่อยู่พอเห็นแล้วก็อดรนทนไม่ได้ขึ้นมาทันที รีบกระโดดออกมาร้องตะโกน
สิ่งที่เรียกว่าระบบโฮ่วอี้เป็นแผนการทางกลยุทธ์แบบหนึ่ง ในการแข่ง KPL เปล่งประกายจับตามาก ปัจจุบันนี้แผนการนี้ก็พูดไม่ได้ว่าล้าสมัยไร้ค่า เพียงแต่ว่าจะเล่นให้รอดไม่เพียงต้องมีข้อกำหนดสูงมากแต่ยังต่อต้านได้ง่ายอีกด้วย ขอเพียงส่งโฮ่วอี้ไปตำแหน่งแบนก็พังแผนนี้ได้แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะสมที่จะเป็นกลยุทธ์หลักของทีม แต่นาน ๆ ทีเอาออกมาใช้บ้างก็ได้อยู่
ส่วนในแวดวงสมัครเล่นนั้นระบบนี้ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ เพราะว่ามีความยากค่อนข้างสูง เกมสุ่มจับคู่ก็ไม่ต้องคิดเลย ส่วนทีมประจำก็ยากมากที่จะตั้งใจฝึกซ้อมทางด้านนี้กันมากมายขนาดนั้น อย่างในแวดวง The Kings ของมหาวิทยาลัยตงเจียงนั้นก็มีทีมที่ชอบใช้กลยุทธ์นี้เหมือนกัน ตอนที่ลงเล่นห้าคนก็มีผลลัพธ์ไม่เลว แต่มาเล่นลีกภายในก็ไม่เท่าไหร่ ยังไงซะเรื่องอย่างการการส่งแบนโฮ่วอี้มันก็เรียบง่ายสุด ๆ อยู่แล้ว
ตอนนี้เหออวี้พูดถึงโฮ่วอี้ โจวม่อก็นึกถึงระบบกลยุทธ์อันโด่งดังนี้แล้วก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขากระตือรือร้นที่จะใช้แผนการแบบบนสนามอาชีพมาเสมอ เพียงแต่ทีมคลื่น7 ตลอดมาก็มีแค่เขากับเกาเกอสองคน ถึงคนสองคนก็มีแผนการเล่นได้เหมือนกัน แต่ของอย่างระบบโฮ่วอี้นี่ก็ไม่มีสักนิดเดียวเลย
“รุ่นพี่โจวม่อได้ศึกษาระบบโฮ่วอี้มาเหรอครับ” เหออวี้ไม่ได้สนใจเรื่องที่อยู่ ๆ โจวม่อก็กระโดดออกมา แต่โฟกัสไปที่เครื่องหมายตกใจสามอันนั้นของโจวม่อ
“ได้ยินชื่อมานานแล้ว พวกเราเล่นได้ไหม” โจวม่อพูด
“ฉันว่าลองดูได้” เกาเกอพูด
“ตอนนี้เลยไหม” โจวม่อยังตื่นเต้นต่อไป
“รุ่นพี่อย่ากังวล พวกเรายังมีเวลาครับ!” เหออวี้เบรค
“พรุ่งนี้ค่อยลอง” เกาเกอประกาศ
“โอเค” โจวม่อจนแต้ม
ในเวลาเดียวกัน ห้องวีแชตของทีมหวงเฉาเงียบสงบมาก แต่ทั้งห้าคนของทีมหวงเฉาต่างก็มารวมตัวกันอยู่ที่ห้องนอนของจางเฉิงห่าว การที่รอบแรกมาเจอกับคลื่น7 ก็ย่อมต้องเป็นการลงมือของจางเฉิงห่าว แต่ว่าในทีมนอกจากโจวมู่งถงแล้วก็ไม่มีใครทราบเรื่อง หยางจั๋วเลนกลางของหวงเฉาที่เกลียดเกาเกอขั้นสุดหลังจากที่ทราบเรื่องแล้วก็กังวลมากกว่าดีใจ
กับตัวเกาเกอและโจวม่อสองคนนี้ ไม่ว่าปากของพวกเขาจะพูดว่าอะไรแต่ในใจก็ยังกังวลมาก โดยเฉพาะหยางจั๋ว คราวที่แล้วที่อยู่ในโรงอาหารหุนหันไปหน่อย ที่ว่าถ้าโดนซุ่มสังหารอีกรอบให้ถือว่าเขาแพ้ หลังจากพูดไปแล้วในใจก็เต้นระทึกมาโดยตลอด เพื่อนร่วมทีมถามว่าไปเอาความมั่นใจมาจากไหนก็ได้แต่หน้าแดงยอมรับความผิด
ตอนนี้จางเฉิงห่าวนัดปรึกษากัน เขาก็มาด้วยความกระตือรือร้นอย่างมาก ชนะคลื่น7 เหรอ พวกเขาไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องยาก จะอย่างไรอีกฝ่ายก็มียอดฝีมือแค่สองคน แต่ตัวหยางจั๋วเองดันไปเปิดการต่อสู้นอกสนามอีกอย่าง เขาไม่อยากจะต้องไปเผชิญหน้ากับเกาเกอ ทำยังไงถึงจะไม่โดนเกาเกอซุ่มสังหารในเกมนี้เป็นจุดที่เขากังวลมากเป็นพิเศษ
“สนใจมินิแมปให้มากหน่อย”
“ห้ามเอาหน้าไปส่องพุ่ม”
“ทางที่ดีให้เดินอ้อมหรืออย่าไปที่แม่น้ำ”
พี่น้องทั้งหลายมอบคำแนะนำให้เขามา แต่ละคนใช้น้ำเสียงของผู้มีประสบการณ์ ทำไมจะไม่ล่ะ เกาเกอซุ่มตีคนก็ไม่ได้เล็งเป้าไปที่เลนกลางคนเดียว ในห้าคนที่นั่งอยู่นี่มีคนไหนบ้างที่ไม่เคยโดนเกาเกอเล่นงาน เพียงแต่ว่าหยางจั๋วอยู่เลนเดียวกับเกาเกอก็เลยโดนมากหน่อยก็เท่านั้น
“ไม่ไหวหรอก เอางี้ ฉันไม่ไปสนับสนุนได้ไหม” หยางจั๋วถามความเห็นของทุกคนอย่างระมัดระวังและเคร่งเครียด
ปกติแล้วเลนกลางจะมีดาเมจ AOE ให้ใช้งานได้ เมจที่เคลียร์ครีปได้เร็วที่สุดจะอยู่ตรงกลางสนาม ส่วนระยะห่างไปทางเลนบนหรือเลนล่างก็เท่า ๆ กัน ดังนั้นหลังจากเคลียร์ครีปในเลนของตัวเองเสร็จแล้วก็ต้องเลือกที่จะไปเลนบนหรือเลนล่าง หรือแม้แต่การไปที่ป่าเพื่อให้การสนับสนุนก็เป็นสิ่งที่เลนกลางคนหนึ่งมักจะปฏิบัติกัน แต่หยางจั๋วเพื่อไม่ให้ถูกเกาเกอซุ่มสังหารก็ยอมละทิ้งศักดิ์ศรีของเลนกลางคนหนึ่งไปหมดสิ้นแล้ว
“ขนาดนั้นเลยเหรอ” ตอนนั้นเองจางเฉิงห่าวก็เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง
หยางจั๋วไม่ได้พูดอะไร ความเงียบเป็นการแสดงถึงท่าทีของเขาแล้ว : ขนาดนั้นแหละ
“บอกนายก็ได้ คราวนี้สองคนที่มาเสริมให้คลื่น7 คนหนึ่งชื่อจ้าวจิ้นหราน อีกคนชื่อหลี่ซือเจี๋ย ฉันไปถามมาแล้ว ที่ชื่อว่าหลี่ซือเจี๋ยนั่นน่ะอยู่แรงค์ diamond เล่นเป็นแต่เมจ ถ้าเป็นคลื่น7 ก่อนหน้านี้เจอเรื่องแบบนี้เกาเกอก็จะปล่อยเลนกลางออกไป ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ใครใช้ให้ยัยนั่นระดับสูงเล่นฮีโร่ได้มากกันล่ะ” จางเฉิงห่าวกล่าว
“เป็นอย่างนั้นเหรอ งั้นเขาจะลงตำแหน่งไหนล่ะ ไม่ใช่ตัวป่าใช่ปะ” หยางจั๋วร้องขึ้นมา
เล่นเลนกลางก็น่ารำคาญจะตายอยู่แล้ว ถ้าเป็นตัวป่า…
นอกจากหยางจั๋วแล้วพวกที่เหลือต่างก็สมองหยุดทำงาน ได้แต่รู้สึกถึงลมหนาวที่พัดมาวูบ ๆ
“จ้าวจิ้นหรานนั่นน่ะเล่นได้แต่แอสซาซิน” จางเฉิงห่าวพูดเสริมอีกประโยค
“เอ๊ะ งั้นเกาเกอก็ได้แต่เล่น…ซัพพอร์ตเหรอ หรือแครี่?” หยางจั๋วกล่าว
“ฉันเดาว่าเขาจะเล่นแครี่ เพราะว่าอีกคนหนึ่งในทีมพวกเขาที่เป็นเด็กใหม่น่าจะเล่นซัพพอร์ต” จางเฉิงห่าวพูด
“ทำไมล่ะ”
“เพราะซูเก๋อบอกว่า ซัพพอร์ตของเขาแข็งแกร่งมาก” จางเฉิงห่าวไม่ได้อธิบายมากความแต่หงายการ์ดประธานชมรมซูเก๋อตรง ๆ เลย ในชมรมของพวกเขาซูเก๋อเป็นบุคคลที่เป็นที่นับหน้าถือตามาก ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ทำให้คนเชื่อถือ คำตัดสินของเขามีค่ากว่าคำอธิบายของจางเฉิงห่าวเป็นหมื่นคำเสียอีก
“งั้นเด็กนั่นก็เป็นซัพพอร์ตเหรอ” โจวมู่ถงสับสน “แต่ฉันเห็นเขาเล่นแต่แครี่นะ”
“นายรู้ได้ไง” คนอื่นมองเขา
“ฉันกดเสิร์ชในเกม The Kings คอยตามเขาอยู่น่ะ…” โจวมู่ถงพูดอย่างเก้อเขินอยู่บ้าง
“เล่นแต่แครี่เหรอ” ตอนนี้จางเฉิงห่าวก็เริ่มอึ้ง
“จริงสิ ไม่เชื่อก็ดูเองแล้วกัน” โจวมู่ถงพูดแล้วก็เปิดหน้าเสิร์ชของ The Kings ขึ้นมาอีกครั้ง
“เจงกิสข่าน?” จางเฉิงห่าวมองดูข้อมูลของเหอเหลียงอวี้ที่แสดงอยู่อย่างคาดไม่ถึง
“ใช่ นอกจากนั้นพวกนายเคยเห็นเกาเกอเล่นแครี่ไหม” โจวมู่ถงกล่าว
หลังจากทุกคนคิด ๆ ดูแล้วก็ส่ายหน้าโดยพร้อมเพรียง
“ดังนั้นตัวที่เกาเกออยากเล่นอาจจะเป็นซัพพอร์ตก็ได้ปะ” โจวมู่ถงพูด
“ซัพพอร์ตเหรอ” หยางจั๋วดูจะดีใจขึ้นมา ความโล่งใจบนใบหน้านั้นทุกคนต่างก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน
“เป็นงี้จริงเหรอ” จางเฉิงห่าวยังไม่อยากจะเชื่อ ในใจมีความเคลือบแคลงใจหนักมาก “มาดูเกมช่วงนี้ของเขาเถอะ”