บทที่ 755 วิญญาณหอคอย

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 755 วิญญาณหอคอย
“น่าเสียดายจัง ฉันไม่มีวิชายุทธ์ของแดนลอยเมฆ ไม่เช่นนั้นจะใช้โอกาสนี้บุกทะลวงแดนลอยเมฆในคราวเดียว”

เย่เซิ่งเทียนค่อนข้างจนใจ วิชายุทธ์ที่อยู่เหนือแดนเหนือโลกีย์ ถูกตระกูลลี้ลับควบคุมทั้งหมด

ไม่ได้ใช้วิชายุทธ์ที่สอดคล้องกัน เขาไม่สามารถบุกทะลวงแดนลอยเมฆได้เลย

แต่การตื่นตัวของเลือดประหลาดเมื่อครู่นี้ ทำให้พละกำลังของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

แม้ว่าในเขตแดนจะไม่มีการบุกทะลวงถึงแดนลอยเมฆ แต่ว่าในความแข็งแกร่งนั้นมีการยกระดับสูงขึ้น ก็เหมือนกับกู่ชางหลงเลย แม้ว่าไม่ถึงแดนลอยเมฆ แต่พละกำลังแข็งแกร่ง แดนลอยเมฆที่ธรรมดาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายชราผู้นั้นจริงๆ

เย่เซิ่งเทียนเหมือนกับกู่ชางหลง กำลังหล่อหลอมเนื้อหนังมังสาอย่างไม่หยุดหย่อน

“ตาม《ร้อยวิชาหล่อหลอม》ที่ตาเฒ่าหลินให้มา หลายปีที่ผ่านมานี้ ตอนนี้เนื้อหนังมังสาของฉันก็หล่อเหลาถึงห้าสิบแล้ว ถือว่าเป็นความสำเร็จของวิชาหลอมกายในขั้นแรก ตามคำพูดของตาเฒ่าหลิน ตอนที่สำเร็จวิชาหลอมกายในขั้นแรก ถึงแม้จะเป็นคนที่เหนือกว่าแดนเหนือโลกีย์ ระดับความแข็งแกร่งของเนื้อหนังมังสานั้นแข็งแกร่งได้ไม่เท่าฉัน

เก็บกระบวนความคิดไว้ เย่เซิ่งเทียนถึงได้พบว่า จริงๆแล้วตัวเองอยู่ข้างนอกหอคอยโบราณมาตลอด ไม่ได้เข้าไปเลย

และบนหอคอยโบราณปรากฏแผ่นโลหะ ด้านบนเขียนตัวอักษรจีนสี่ตัวใหญ่ไว้อย่างงดงามดั่งหงส์ร่อนมังกรรำว่า——ผนึกปีศาจ

ทั้งสามคำนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยชี่ที่เก่าแก่ ราวกับว่าทะลุผ่านสมัยดึกดำบรรพ์อันแสนนานมา จิตวิญญาณของเย่เซิ่งเทียนเมื่อครู่นี้ ก็ถูกคำสองคำนี้ทำให้สับสน ปรากฏภาพลวงตาเหล่านี้แล้ว

“ยังไม่เข้าไป ก็เกือบทำให้ฉันตายในภาพเพ้อฝัน หอผนึกปีศาจแห่งนี้ใครเป็นคนสร้างกันแน่?”

เย่เซิ่งเทียนผ่อนลมหายใจลากยาว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเมื่อกี้เข้าตาจนทำให้กระตุ้นเลือดประหลาดในร่างกายให้ตื่นตัวล่ะก็ วันนี้เขาก็ตายในดินแดนแห่งความเพ้อฝันเมื่อกี้แล้ว

หอผนึกปีศาจแห่งนี้สุดยอดจริงๆ อาศัยวิญญาณของคน ก็สามารถภาพลวงตาที่ยากจะแยกแยะได้ว่าเป็นจริงหรือเท็จต่างๆออกมาได้ ตายยังไงก็ไม่รู้

ตอนที่เย่ว์อิ่นหลงเข้ามาไม่เห็นหอผนึกปีศาจ บางทีอาจจะเป็นภาพลวงตาที่หอผนึกปีศาจสร้างขึ้นมา

เพียงแค่ไม่รู้ว่า ภาพลวงตาเหล่านั้นที่ตัวเองเห็นเมื่อครู่นี้ จะเป็นสถานการณ์ที่แท้จริงของภายในหอคอยหรือไม่

“เพียงแค่นอกหอคอย ‘ผนึกปีศาจ’”สามคำนี้ก็สุดยอดมากเช่นนี้ เกรงว่าสถานการณ์ภายในหอคอยจะยิ่งเป็นอันตรายมากยิ่งกว่า ยังไม่เข้าไปก่อนดีกว่า

แม้ว่าจะรู้สึกเสียใจภายหลัง แต่ก็ทำได้เพียงยอมแพ้ชั่วคราว

และในเวลานี้ เงาร่างของชายชรา ใส่ชุดคลุมเต๋มที่มียันต์แปดทิศหยินหยาง ขาวดำสองสีกลายเป็นปลาหยิน-หยางสองตัว

“เด็กน้อย นายเป็นใคร?คิดไม่ถึงว่าจะมีชีวิตรอดออกมาจากดินแดนแห่งความเพ้อฝันของฉันได้”

เย่เซิ่งเทียนตกใจทันที จับหอกหักไว้แน่น พร้อมลงมือตลอดเวลา พูดถามอย่างเยือกเย็นว่า “แล้วแกเป็นใคร?”

ชายชราสูดๆจมูกแล้ว พูดอย่างประหลาดใจว่า “คิดไม่ถึงว่านายจะมีเลือดเซียน?”

ชายชราพูดกับตัวเองอย่างสับสนอีกว่า “เลือดเซียนที่คุ้นเคยมาก สรุปว่ามันเป็นของใครกันแน่?โธ่เอ๋ย เวลาช่างยาวนานเหลือเกิน ความทรงจำของฉันก็ไม่สมบูรณ์แล้ว ฉันนึกไม่ออกแล้ว”

“อ๋อ ฉันคือวิญญาณหอคอยของหอผนึกปีศาจ นายเรียกฉันว่าปู่หอคอย อายุของฉันเพียงพอที่จะเป็นบรรพบุรุษของปู่ของปู่ของปู่ของนายแล้ว”

วิญญาณหอคอยของหอผนึกปีศาจ?

คิดไม่ถึงว่าหอคอยแห่งนี้จะเกิดวิญญาณหอคอยแล้ว?

นี่ใครเป็นคนสร้างขึ้นมากันแน่

มีเพียงอาวุธวิเศษที่แท้จริง ถึงจะกำเนิดจิตวิญญาณ พอนานเข้าก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิต

เย่เซิ่งเทียนตกใจ ไม่กล้าที่จะผ่อนคลายเช่นเคย

เมื่อกี้เขาเกือบจะตายท่ามกลางดินแดนแห่งความเพ้อฝันของวิญญาณหอคอย

เห็นท่าทางที่ระแวดระวังของเย่เซิ่งเทียน วิญญาณหอคอยโบกไม้โบกมือพร้อมพูดว่า “ไม่ต้องเป็นกังวล นายสามารถมีชีวิตรอดจากดินแดนแห่งความเพ้อฝันของปู่หอคอยออกมาได้ เห็นได้ฉันว่านายกับฉันมีวาสนาต่อกัน ฉันไม่มีทางที่จะลงมือกับนายอีก อืม ประเด็นคือในตัวของนายมีเลือดประหลาดที่ฉันคุ้นเคยอยู่ด้วย นี่ก็คือมีวาสนาต่อกัน”

ในที่สุดเย่เซิ่งเทียนก็รู้แล้ว สาเหตุที่ดินแดนแห่งความเพ้อฝันหายไป ที่แท้เป็นเพราะเลือดประหลาดในร่างกายของตัวเองทำให้วิญญาณหอคอยไม่กล้าลงมืออีก

เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดจะลงมือต่อไปอีก เย่เซิ่งเทียนก็ลองหยั่งเชิงแลกเปลี่ยนดู

จากพละกำลังของอีกฝ่าย ถ้าหากอยากจะฆ่าเขาให้ตายงั้นก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

แค่ดินแดนแห่งความเพ้อฝันก็เกือบทำให้เขาตายอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าหากวิญญาณหอคอยลงมือจัดการจริงๆ เกรงว่าเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะโต้กลับเลย

“วิธีการปิดผนึกของหอผนึกปีศาจแห่งนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของลัทธิเต๋าแห่งต้าเซี่ย ทำไมถึงได้ปรากฏตัวในเมืองพุทธได้?”

หอคอยวิญญาณส่ายหน้าแล้ว “จำไม่ได้แล้ว ฉันกระจอกงอกง่อยอย่างมาก ตอนนี้มีเพียงสามชั้น ส่วนหกชั้นที่เหลือทำได้เพียงวาดภาพลวงตาออกมา ฉันจำได้แค่ว่าท่ามกลางสงครามใหญ่ ฉันถูกคนฟาดจนป่นปี้ กลายเป็นเช่นนี้ในตอนนี้

สงครามใหญ่?

ในยูเอสบีที่เหย้ซูหลิงให้ พูดถึงสนามรบของเหล่าทวยเทพ หรือว่าสิ่งที่มันพูดคือสงครามแห่งเหล่าทวยเทพงั้นเหรอ?