ปล่อยลูน่านั่นไป

 

“พวกคุณไปนั่งก่อนเถอะ” กรรมการบอกกับพวกคลื่น7 ห้าคนที่มาถึงก่อน

เหออวี้มองเห็นแถวโต๊ะเก้าอี้เรียงรายอยู่ด้านหน้าพวกเขา บนโต๊ะมีหูฟังตัดเสียงรบกวนห้าชุดที่ดูไฮเทคมาก มีแถวโต๊ะเก้าอี้แบบเดียวกันที่ด้านตรงข้ามห่างออกไปประมาณสามเมตร นี่คงจะเป็นที่นั่งที่พวกทีมหวงเฉาจะใช้แข่ง

ทั้งโรงยิมถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วนเช่นเดียวกันนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรบกวนกันระหว่างการแข่งขัน นอกจากผู้เล่นและกรรมการที่เข้าร่วมการแข่งขันแล้วไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่

คลื่น7 ทั้งห้าคนนั่งลง ต่างคนต่างเช็คหูฟังของตัวเอง นี่เป็นของที่พวกเขาจะใช้ติดต่อสื่อสารกันในเกมซึ่งจะมีช่องสื่อสารที่ตั้งไว้เฉพาะให้พวกเขา เกาเกอกับโจวม่อไม่แปลกหน้ากับของสิ่งนี้ ไม่ต้องให้กรรมการมาอธิบายก็สามารถแสดงให้พวกตัวเองดูได้แล้วว่าจะต้องปรับแต่งกันอย่างไร

“นี่ ๆๆ ได้ยินไหม” โจวม่อทดสอบเสียง

“ได้ยิน” เหออวี้ตอบ

“ชัดไหม มีเสียงรบกวนไหม” โจวม่อถามอีก

“ชัดมาก ไม่มีเสียงรบกวน” เหออวี้พูด

“งั้นคนอื่นล่ะ” โจวม่อหันไปมองอีกสามคน

“ได้” เกาเกอตอบมาคำหนึ่ง จ้าวจิ้นหรานกับหลี่ซือเจี๋ยเพียงพยักหน้า

“พี่ใหญ่ทั้งสองก็ส่งเสียงออกมาด้วยสิ จะได้ลองดูว่าพวกเราได้ยินเสียงที่พวกนายสองคนพูดกันไหม” โจวม่อพูดกับนายท่านทั้งสองคนอย่างเหน็ดเหนื่อยและจนใจ

“บ้าบอชะมัด” เสียงจ้าวจิ้นหรานดังมาจากในหูฟัง

“คิดถึงเรื่องสยองอย่าง English Listening Test ขึ้นมาเลย” หลี่ซือเจี๋ยพูด

“โอเค ชัด” โจวม่อเมินคำพูดไร้สาระของทั้งสองคนแล้วพูดอย่างจริงจัง

“ชัด” เหออวี้ก็พูด

เกาเกอไม่ได้พูดแต่ยกมือขึ้นทำสัญญาณโอเค

“ระหว่างเกมก็อย่ามาเม้ากันนะ” โจวม่อมองสองคนนั้นอย่างไม่วางใจ

“นายระวังตัวเองเหอะ” จ้าวจิ้นหรานพูดอย่างยืดหยิ่ง ทำเอาโจวม่อโมโหจนเช็ดหน้าจอมือถือซ้ำหลายครั้ง

“มาแล้ว” ตอนนั้นเองที่เกาเกอเอ่ยปากออกมา

คนทั้งหลายเงยหน้าขึ้นมองพร้อม ๆ กัน เห็นว่าห้าคนจากทีมหวงเฉาปรากฏตัวขึ้นในโรงยิมด้วยท่าทางคึกคักรวมตัวกันเดินมาทางนี้ ในฐานะที่เป็นทีมแกร่งของลีกภายในมหาวิทยาลัยซึ่งมีผลงานที่คงเส้นคงวาทำให้ทีมหวงเฉาพอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้างในแวดวง The Kings ตงเจียง  มีแม้แต่เครื่องแบบประจำทีม พอเดินเข้ามาปุ๊บก็ดึงดูดความสนใจมากมายได้ทันที

ในเวลาเดียวกันมีเพียงไม่กี่ทีมที่เข้าแข่งขัน ทีมหวงเฉาจึงกลายมาเป็นทีมเด่นในบรรดาทีมแข่งรอบนี้ทันที สะดุดตาสุด ๆ พอดูหวงเฉาเสร็จแล้วทุกคนจึงเริ่มอยากรู้เรื่องคู่แข่งของหวงเฉาขึ้นมา มีคนไม่น้อยมองตามทางที่พวกหวงเฉาทั้งห้าเดินไปเฝ้าดูคลื่น7 ทั้งห้า

โจวม่อดูกระสับกระส่าย เหออวี้ที่ถูกรุมมองก็รู้สึกอึดอัดใจเหมือนกัน มองไปทั้งสองด้าน พบว่าทั้งจ้าวจิ้นหรานกับหลี่ซือเจี๋ยล้วนแกล้งทำเป็นสงบนิ่ง ดูเหมือนกับเป็นหมาป่าหางใหญ่สองตัว* มีเพียงเกาเกอที่สงบนิ่งจริง ๆ นิ่งจนเหลือเชื่อ

เหออวี้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามจะไม่สนใจคนที่รายล้อมอยู่จนสามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นอย่างมาก ผลก็คือพอพวกหวงเฉาห้าคนมาถึงก็ไม่ได้นั่งลงทันที แต่กลับวิ่งมาทักทายพวกเขาด้านนี้

“มาเช้าจังนะ” คำทักทายตามปกติทั่วไปพอออกมาจากปากของจางเฉิงห่าวแล้วกลายเป็นฟังดูคุกคามสุด ๆ

“อย่าพูดไร้สาระได้ไหม” เกาเกอไม่ต้อนรับ

“รีบอะไร ใช้เวลาให้มาก ๆ หน่อยซึมซับบรรยากาศไม่ดีหรือไง ยังไงซะเทอมนี้พวกเธอก็ไม่ได้มีโอกาสมานั่งที่ตำแหน่งนี้อีกแล้วนิ” จางเฉิงห่าวกลับไม่รู้สึกโกรธแต่พูดขึ้นมาอย่างร่าเริงสุด ๆ ดูจะมั่นอกมั่นใจเต็มที่

“อ้อ ที่แท้นายก็มาเพราะเรื่องนี้เองเหรอ งั้นนายก็แซะต่อไปเถอะ ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว แต่ว่าถ้านานไปก็ต้องดูด้วยนะว่ากรรมการเขาจะยอมเอาด้วยรึเปล่า” เกาเกอพูด

“เธอ…” จางเฉิงห่าวในเกมก็สู้เกาเกอไม่ได้ เถียงก็เถียงแพ้เกาเกอ ต้องทรมานทนรับความกดดันจากทั้งสองทางมานานมากแล้ว ตั้งใจที่จะแก้แค้นในเกม แต่ผลก็คือเพิ่งจะเปิดภาคเรียนก็โดนคนเขากระทืบในสนามรบฉางผิงไปเต็ม ๆ แถมยังมีการแปะประกาศไปทั่วมหาวิทยาลัยอีกต่างหาก จางเฉิงห่าวโกรธจนโยนคุณธรรมทิ้งส้วมลงมือกับลีกภายในมหาวิทยาลัยหวังจะกระทืบเกาเกอ ผลก็คือยังไม่ทันได้เริ่ม คิดว่าจะมาเยอะเย้ยสักคำสองคำก่อนก็แพ้อนาถซะแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าหุบหายไปในพริบตา

“แล้วเจอกันในเกม สิบนาที นี่แหละคือระยะเวลาที่พวกเธอจะได้มีประสบการณ์เล่นลีกในเทอมนี้” จางเฉิงห่าวว่าอย่างเดือดดาล

“อะไร ไม่อยากจะซึมซับบรรยากาศนาน ๆ แล้วเหรอ” เกาเกอพูดอย่างไม่รีบร้อน

จางเฉิงห่าวหันหลังกลับเดินหนีไป ถ้าไม่ไปเขาก็เกรงว่าตัวเองจะระเบิดออกมาจริง ๆ แล้ว

“ที่นายไปพูดเนี่ย วุ่นวายไปทำไมกัน…”  เพื่อนร่วมทีมสี่คนที่ตามเขาไปจะยิ้มก็ใช่ที่ ได้แต่บ่นจางเฉิงห่าวนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น

“ทั้งสองฝ่ายเตรียมตัวพร้อมรึยังครับ” กรรมการเห็นว่าคนทั้งสองฝ่ายประจำที่แล้วก็ไม่พูดเยิ่นเย้อและเตรียมเริ่มเกมทันที สถานที่แข่งและอุปกรณ์มีจำกัด เกมนี้แข่งจบแล้วก็ยังมีการแข่งขันเกมต่อ ๆ ไปที่จะต้องมาแข่งอีกนี่นะ

“พร้อมค่ะ” เกาเกอเป็นกัปตันทีมคลื่น7 พยักหน้าตอบรับในนามของลูกทีม

จางเฉิงห่าวตอนนี้มีสีหน้าอึมครึมไม่ส่งเสียงใด ๆ เพียงแต่พยักหน้าตอบรับ

“กัปตันทั้งสองฝ่ายเชิญออกมาครับ” กรรมการกล่าว เกาเกอและจางเฉิงห่าวต่างก็ไม่สับสน แต่ละคนลุกขึ้นเดินออกไป

“ทำอะไรเหรอครับ” เหออวี้ถามโจวม่อ

“ทายลำดับก่อนหลัง เพราะว่ามีผลต่อการแพ้ชนะในเกมด้วยก็เลยต้องใช้ดวง” โจวม่อกล่าว

“อ้อ” เหออวี้พยักหน้า นี่ส่วนใหญ่แล้วมีผลกับตอน BP แต่ว่าสุดท้ายแล้วการได้แบนก่อนเป็นเรื่องดีหรือว่าทีหลังเป็นเรื่องดีก็ยังไม่สามารถสรุปได้เลยจริง ๆ หลัก ๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับไอเดียการแบนของทั้งสองฝ่าย แผนการบางอย่างเหมาะกับมือแรกมากกว่า แผนการบางอย่างก็ใช้มือหลังสะดวกกว่า

ตอนนั้นเองกรรมการก็หยิบเหรียญออกมาเหรียญหนึ่งแล้วให้ทั้งสองคนทายหัวก้อย ความเย่อหยิ่งของจางเฉิงห่าวสูงเยี่ยมเทียมฟ้า โบกมือกล่าวว่า “ไม่ต้อง ให้พวกเขาเลือกไป”

กรรมการกับจางเฉิงห่าวรู้จักกันดี ตอนนี้ก็ไม่ได้จริงจังอะไร กำเหรียญในมือแล้วมองไปที่เกาเกอ “งั้นคุณก็เลือกก่อน”

“งั้นฉันเลือกมือหลัง ให้พวกนายก่อน” น้ำเสียงของเกาเกอเหมือนกับว่าอยากจะคืนของขวัญราคาถูกให้หวงเฉาไม่มีผิด จางเฉิงห่าวโมโหจนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วก็ดูเหมือนจะนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วได้ สุดท้ายจึงไม่ได้พูดอะไรแต่เดินกลับไปที่ตำแหน่งของตัวเองเลย

จากนั้นกรรมการก็เปิดห้องแข่งขึ้นมาแล้วเริ่มดึงตัวผู้เล่นจากแต่ละฝ่ายเข้าห้องไปทีละคน นี่เป็นฟังก์ชั่นที่มีในเกมทั่วไป แรงค์ในแอคเคาท์แข่งของทุก ๆ คนตอนนี้สามารถมองเห็นได้ในแวบเดียว พวกหวงเฉาเป็น conqueror ล้วน จางเฉิงห่าวยิ่งขึ้นไปถึง conqueror 26 ดาวแล้วซึ่งสูงที่สุดในทีม แล้วคลื่น7 ล่ะ เกาเกอกับโจวม่อเป็น conqueror ทั้งสองคน แต่ว่าก็มีดาวแค่นิดเดียว ตามมาด้วยจ้าวจิ้นหรานกับหลี่ซือเจี๋ยคนหนึ่งไดสามคนหนึ่งไดห้า ส่วนที่เหออวี้ใช้อยู่ตอนนี้เป็นเหอเหลียงอวี้ของตัวเขาเอง ยังอยู่ที่แรงค์ platinum 1 อย่าว่าแต่พวกหวงเฉาห้าคนเลย แม้แต่จ้าวจิ้นหรานกับหลี่ซือเจี๋ยก็ยังแสดงอาการเหยียดหยามออกมา

“เนี่ยเหรอซัพพอร์ตที่เก่งมาก ๆ เก่งจริง ๆ เลยนะ ตั้งกลุ่มสามคนกับเกาเกอโจวม่อแล้วยังไปไม่ถึง conqueror อีก” เจิงเสี่ยวปอเป็นตัวซัพพอร์ตในทีมหวงเฉา ตำแหน่งตรงกันก็ย่อมต้องสนใจมากกว่า ตอนนี้มาดูแรงในแอคเคาท์แข่งของเหออวี้ก็อดกังขาคำประเมินของจางเฉิงห่าวไม่ได้จริง ๆ

“นี่ไม่ใช่ฉันพูด ประธานพูด” จางเฉิงห่าวก็ไม่พูดมากแต่ดึงชื่อของซูเก๋อออกมาตรง ๆ

เจิงเสี่ยวปอเงียบไปทันที โจวมู่ถงที่อยู่ด้านข้างกลับเปิดปากออกมาว่า “ช่วงนี้เขาไม่ได้เล่นเลย”

“ช่วงนี้ไม่เล่นเลยเหรอ” ทุกคนต่างมองดูเขา

“ใช่ ฉันใช้ระบบเสิร์ชของ The Kings เช็คดูแล้ว จำนวนเกมในแอคเคาท์อันนี้ของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย” โจวมู่ถงกล่าว

“อย่างที่คิดเลย นั่นเป็นไอดีเล็กจริง ๆ ด้วย” จางเฉิงห่าวพูดด้วยน้ำเสียงฉันคิดอยู่แล้วเชียว

“จะต้องไปแคร์เขามากมายทำไมกัน มีไก่อยู่สองคนพวกเรายังจะแพ้ได้อีกเหรอ” สู่ไคหวยร้องขึ้น

“อืม” จางเฉิงห่าวส่งเสียงตอบรับแล้วกวาดตามองจ้าวจิ้นหรานกับหลี่ซือเจี๋ย

น่าสงสารที่ทั้งสองคนยังไม่รู้เลยว่าทุกคนเขามองพวกเขาแบบนี้ พอเห็นว่า platinum1 ของเหออวี้อยู่บ๊วยสุดก็รู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมา เมื่อเห็นสายตาของจางเฉิงห่าวกราดมาก็ยังยิ้มแย้มตอบกลับอย่างสง่างาม

“เริ่มเกมได้” เมื่อกรรมการประกาศขึ้นก็เป็นการเริ่มต้นการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ขั้นแรกก็คือการ BP หวงเฉาที่ได้เลือกแบนก่อนแทบไม่ต้องครุ่นคิดลังเลอะไรก็ส่งจูเก่งเลี่ยงเข้าจุดแบนไป

เหออวี้หันไปมองเกาเกอ นี่เป็นฮีโร่ตัวที่เธอเล่นเก่งและชอบที่สุด ความหวาดกลัวของคู่แข่งที่มีต่อเธอสูงมาถึงขั้นกระทำโดยไม่ต้องคิดกันแล้ว แต่ว่าเกาเกอก็ไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางใด ๆ ออกมาเลย

จากนั้นก็เป็นตาของคลื่น7 เรื่องราวก็ได้มีการปรึกษากันมาก่อนแล้ว ซุนซ่างเซียงที่สู่ไคหวยเล่นเก่งที่สุดถูกส่งเข้าจุดแบน

จางเฉิงห่าวเงยหน้าขึ้นมองด้านนี้ทันที ดูเหมือนว่าจะแปลกใจมากที่แบนแรกไม่ได้ส่งมาให้ลูน่าของเขา

จากนั้นก็เป็นตาหวงเฉาอีกครั้ง เดิมทีแบนที่สองทุกคนก็หารือกันมาหมดแล้ว แต่พอเห็นว่าตาแรกของอีกฝ่ายกลับไม่ได้ส่งมาให้ลูน่า ทั้งหมดก็หันไปมองจางเฉิงห่าว

ตาแรกไม่ได้แบนลูน่าก็เป็นไปได้ว่าจะแบนในตาที่สอง นี่ไม่มีอะไรที่แตกต่างกัน  แต่ตอนนี้พวกหวงเฉาก็อดที่จะคิดกันโดยถ้วนหน้าไม่ได้ว่าถ้าไม่ได้แบนลูน่าล่ะ? ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเขาก็ควรจะแบนฮีโร่ตงหวงนั่นไป ลูน่าจะได้มีพื้นที่เล่นดีกว่า แต่ก็เป็นไปได้มากว่านี่เป็นแผนการของคลื่น7 รอให้พวกเขาแบนตงหวงแล้วฝั่งตรงข้ามค่อยแบนลูน่า ทำให้การแบนของพวกเขาครั้งนี้เสียเปล่า เดิมทีพวกเขายังอยากจะแบนฮีโร่อีกตัวที่โจวม่อเล่นได้ค่อนข้างดีอย่างหลิวปัง

“ตงหวง!” ตอนนั้นเองที่จางเฉิงห่าวออกคำสั่งอย่างชัดเจนลงไป

“ต่อหน้าความแข็งแกร่งสูงสุด BP มันจะไปสำคัญอะไรล่ะ” เขาทางหนึ่งพูด ทางหนึ่งมองฝ่ายตรงข้ามอย่างท้าทาย ฉันแบนตงหวงไปแล้ว เธอยังจะกล้าให้ฉันใช้ลูน่าอีกไหม

เกาเกอประสานสายตากับเขา ยิ้มแย้มอย่างไม่เห็นด้วย จากนั้นก็อ้าปากพูดอะไรบางอย่าง ฮีโร่ตัวที่สองที่คลื่น7 แบนก็ได้รับการยืนยันทันที : ไท้อี่เจินเหริน

คลื่น7 ปล่อยลูน่าออกมาจริง ๆ ด้วย! บนใบหน้าของหวงเฉาห้าคนล้วนแสดงความแปลกใจออกมา ส่วนจางเฉิงห่าวนอกจากความแปลกใจแล้วก็ยังมีความตื่นเต้น และในเวลาเดียวกันก็รู้สึกจับทางไม่ถูกด้วย

ตื่นเต้นก็เพราะว่าเขาแทบจะไม่เคยได้เล่นลูน่าในเกมประเภทนี้เลยทำให้รอคอยวันเวลาเช่นนี้มาโดยตลอด จับทางไม่ถูกก็เพราะว่าคลื่น7 กลับกล้าปล่อยลูน่าออกมาจริง ๆ นี่มันดูเหมือนจะไม่เห็นเขาในสายตาเลยใช่ไหมเนี่ย

นี่คือการทุบหม้อข้าวตีเมืองงั้นเหรอ

จางเฉิงห่าวที่มั่นหน้าขั้นสุดไม่คิดอะไรมาก ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องเลือกฮีโร่แล้ว เขาที่เป็นคนแรกพอดีไม่ลังเลแม้แต่น้อยก็กดเลือกลูน่ามา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นหาฝั่งตรงข้ามแล้วชูนิ้วโป้งให้ชื่นชมที่คลื่น7 มีความกล้าหาญ แล้วก็ได้ยินโจวมู่ถงพึมพำขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “ไม่ใช่หลุมพรางใช่ไหมเนี่ย”

…………………………………………………………………………………..

* หมาป่าหางใหญ่ (大尾巴狼) อันนี้เป็นสำนวนจีนค่ะ ความหมายก็เหมือนกับที่อธิบายเลย คือคนที่แกล้งทำเป็นสงบนิ่ง กล้าหาญทั้ง ๆ ที่ในใจหวาดหวั่น หรือคนที่แกล้งทำเหมือนตัวเองเป็นคนสำคัญ จริงจัง ฯลฯ มากกว่าความจริงค่ะ เป็นคำเสียดสีที่ไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ นึกคำแบบไทยเหมาะ ๆ ไม่ออกเหมือนกัน ตอนแรกก็คิดว่าหรือจะตัดทิ้งไปเลยดีกว่านะ แต่ว่าสุดท้ายก็ตกลงใจแปลมันมาลุ่น ๆ แบบนี้นี่แหละ ถือซะว่าเป็นความรู้แล้วกันนะคะ