บทที่ 1485 กินยาอะไรผิด
แล้วไอ้ความเป็นห่วงนี่มันอะไรกัน?
“หะๆ…หัวหน้า คุณดื่มเหล้ามากไปแล้ว…หัวหน้าต้องรักษาสุขภาพ ดื่มแต่พอดี ไม่งั้นจะไม่ดีต่อร่างกายนะครับ” ผู้อาวุโสสามหลี่ซือก็รีบเดินเข้ามา แล้วยิ้มบอก
ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสสูงสุดอยู่คนละฝ่ายกัน แต่ละคนต่างอยากหาหลักฐานที่เธอสวมรอยเป็นพันธมิตรอู๋เว่ย แล้วขึ้นมานั่งตำแหน่งนั้นแทนเธอ
ที่ผ่านมาสองคนนี้แทบอยากให้เธอตายในเร็ววัน…
เยี่ยหวันหวั่นแอบสงสัย แต่แน่นอนว่าเธอไม่ได้พูดออกไป
“หัวหน้า…ผมผิดไปแล้วครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดอะไร จู่ๆ ผู้อาวุโสสามหลี่ซือก็คุกเข่าลงต่อหน้าเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าเหมือนสำนึกผิดเต็มประดา
เยี่ยหวันหวั่นอึ้งตาค้าง ผู้อาวุโสสามคนนี้ทำอะไรของเขา หรือว่าโดนกู่พิษเข้าแล้วเหมือนกัน?!
“หัวหน้า…ก่อนหน้านี้ผมตาบอดเอง เอาแต่สงสัยหัวหน้า แถมยังคิดจะหาหลักฐานที่คุณปลอมตัวเป็นหัวหน้าพันธมิตรของเรา…เพื่อจะได้ขึ้นตำแหน่งหัวหน้าแทน…
แต่ผมทำไปก็เพราะความภักดี คุณทุ่มเทแรงกายแรงใจขนาดไหนกว่าจะสร้างพันธมิตรอู๋เว่ยขึ้นมาได้ ผมรู้ดีกว่าใครทั้งสิ้น
แต่นอกจากหัวหน้า ผมคิดว่ามีแค่ผมที่จะแบกรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ไว้ แล้วทำให้พันธมิตรอู๋เว่ยก้าวหน้าไปไกลกว่านี้ ผมไม่ได้คิดจะเอามือปิดฟ้า[1]เด็ดขาด แต่ทำไปเพื่อพันธมิตรอู๋เว่ยทั้งนั้น…” ผู้อาวุโสกล่าวด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่าน
เยี่ยหวันหวั่นเงียบ
“หึๆ…ผู้อาวุโสสาม คุณประเมินตัวเองสูงเกินไปรึเปล่า ถึงหัวหน้าจะหายตัวไปจริงๆ ด้วยนิสัยของคุณ ถ้าจะขึ้นตำแหน่งหัวหน้าพันธมิตรแทนก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่” ผู้อาวุโสสูงสุดจ้องหลี่ซือ แล้วพูด
หลี่ซือหันไปมองผู้อาวุโสสูงสุด แล้วแค่นยิ้ม “ก็ยังดีกว่าใครบางคนที่คิดแต่จะยึดตำแหน่งหัวหน้าพันธมิตรก็แล้วกัน”
สิ้นเสียงของหลี่ซือ ผู้อาวุโสสูงสุดหน้าเปลี่ยนสีทันที เขาชี้หน้าผู้อาวุโสสามแล้วพูดด้วยความโกรธว่า “หลี่ซือ คุณอย่าพูดจาเล่นลิ้นต่อหน้าหัวหน้านะ ผมภักดีต่อพันธมิตรอู๋เว่ยขนาดไหนฟ้าดินเป็นพยานได้ แค่คำพูดไม่กี่คำของคุณไม่อาจบิดเบือนความจริงได้หรอก!”
“ผู้อาวุโสสูงสุด ผมแค่บอกว่าใครบางคน ไม่ได้เอ่ยชื่อหรือบอกว่าผู้อาวุโสสูงสุดเลยซักนิด คุณจะร้อนตัวไปทำไม? ผมพูดชื่อคุณแล้วเหรอ หัวหน้าเป็นคนฉลาด ยังต้องให้ผมบิดเบือนความจริงด้วยเหรอ?” หลี่ซือยิ้มหยัน
พอเห็นผู้อาวุโสสูงสุดกับผู้อาวุโสสามทะเลาะกัน เยี่ยหวันหวั่นก็ยิ่งงง สองคนนี้กินยาอะไรผิดกันแน่?
พอมาตอนนี้เรียกเธอว่าหัวหน้าอย่างสนิทสนมยิ่งกว่าพ่อแท้ๆ ซะอีก…
“พอได้แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นหงุดหงิด โบกมือแล้วบอกว่า “จะทะเลาะก็ออกไปทะเลาะข้างนอก”
ผู้อาวุโสสูงสุดกับผู้อาวุโสสามต่างชะงัก พวกเขาเงียบไม่พูดอะไรอีก
“หัวหน้า…ผมเข้าใจผิดว่าหัวหน้าเป็นตัวปลอม…ถึงได้ล่วงเกินไปหลายครั้ง แต่หวังว่าหัวหน้าจะเห็นแก่ที่ผมทำไปเพราะความภักดี…ยกโทษให้ผมซักครั้ง…” ผู้อาวุโสสามพูดกับเยี่ยหวันหวั่นอย่างระมัดระวัง
ถึงเยี่ยหวันหวั่นจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สองคนนี้ไปกินยาอะไรมาผิด แต่ยังไงเธอก็ยังต้องแสดงละครฉากนี้ต่อไป
เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาไปมา แล้วหันไปมองผู้อาวุโสสาม กล่าวเสียงเย็นว่า “ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณภักดีกับพันธมิตรอู๋เว่ย ฉันจากไปหลายปี กลับมาอีกครั้งก็ได้จังหวะเกินไป คุณถึงได้สงสัย นั่นก็ไม่แปลก อย่างที่เขาว่าไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่อย่าให้มีครั้งหน้าอีก”
“หา?” พอได้ยินคำว่าไม่รู้ย่อมไม่ผิด กับอย่าให้มีครั้งหน้าอีก ผู้อาวุโสสามก็อึ้ง
————————————————————————————-
บทที่ 1486 มีเรื่องกับผู้มีอิทธิพลคนไหน
แม้แต่ตัวหลี่ซือเองก็นึกไม่ถึงว่าหัวหน้า…จะไม่เอาผิดเขา?!
ตอนแรกหลี่ซือคิดว่าถึงจะไม่โทษหนักถึงตาย แต่ก็อาจต้องเสียผิวหนังไปหนึ่งชั้น…ดีสุดก็อาจโดนขับไล่ออกจากพันธมิตรอู๋เว่ย…
แต่…นึกไม่ถึง…หัวหน้ากลับไม่เอาผิดเขา!
“หัวหน้าครับ…” หลี่ซือกำหมัดแน่น ขบกรามแล้วบอกว่า “หัวหน้าครับ…หัวหน้าพูดถูกแล้ว…ถ้าจู่ๆ มีใครที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามา แล้วพวกผมยอมรับเธอง่ายๆ อย่างงั้นถึงจะเป็นการไม่ภักดีกับหัวหน้า…หัวหน้าวางใจได้เลยครับ จากนี้ไป หลี่ซือคนนี้จะทุ่มเทสุดความสามารถเพื่อปกป้องหัวหน้าเอง!”
“หึๆ…หลี่ซือ คุณเก่งขนาดไหนเชียว หัวหน้ายังต้องให้คุณปกป้องอีกเหรอ?” ผู้อาวุโสสูงสุดเยาะเย้ย
ผู้อาวุโสสามหลี่ซือเหลือบมองผู้อาวุโสสูงสุดแวบหนึ่ง เหมือนไม่อยากสนใจเขา เขาไม่โต้ตอบกลับไปซักคำ
พอเห็นว่าผู้อาวุโสสามหลี่ซือรอดพ้นจากความผิดไม่เคารพหัวหน้าพันธมิตร เหล่าสมาชิกระดับสูงที่เคยสงสัยในตัวเยี่ยหวันหวั่นรีบคุกเข่าเพื่อขอรับโทษทันที
เยี่ยหวันหวั่นทำได้เพียงละเว้นความผิดฐานไม่เคารพหัวหน้าพันธมิตรให้พวกเขารวมถึงผู้อาวุโสสูงสุด
ด้านหนึ่ง เป่ยโต่วแอบยกนิ้วโป้งให้เยี่ยหวันหวั่น แล้วหันไปกระซิบกับชีซิงว่า “ล้ำ สมกับเป็นพี่เฟิ่งจริงๆ ล้ำสุดๆ…เหล่าชี นายรู้รึเปล่า นี่แหละที่เขาเรียกว่าศาสตร์ครองใจคน!”
“ศาสตร์พระราชาต่างหาก” ชีซิงเหลือบมองเป่ยโต่วแวบหนึ่ง
ความจริงใช่ศาสตร์พระราชาอะไรที่ไหนกันล่ะ ถึงเธอจะไม่ละเว้นโทษให้พวกผู้อาวุโสสามแล้วจะทำอะไรได้ ลุกขึ้นมาซ้อมพวกเขาให้ตายงั้นเหรอ?
สู้ได้ที่ไหนล่ะ?
เวลานี้ พวกคนที่โดนเยี่ยหวันหวั่นละเว้นโทษต่างโล่งใจ
จู่ๆ ผู้อาวุโสสามหลี่ซือก็หันไปพูดกับเยี่ยหวันหวั่นว่า “หัวหน้าครับ…พวกแก๊งหัวเหล็กกับหลิงฮั่ว ตอนนี้ถูกขังไว้ในคุกใต้ดิน…หัวหน้าคิดว่าควรจัดการยังไงดีครับ?”
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดอะไร ผู้อาวุโสสูงสุดแสยะยิ้ม “ผู้อาวุโสสาม เรื่องอย่างนี้ยังต้องถามหัวหน้าอีกเหรอ…พวกหลิงฮั่วก็ต้องได้รับโทษตายทั้งหมดอยู่แล้ว จะได้ตัดไฟแต่ต้นลม”
ผู้อาวุโสสามมองหน้าผู้อาวุโสสูงสุดตรงๆ “ผมกำลังปรึกษาหัวหน้าอยู่ คุณพูดแทรกทำไม? ถ้าคุณบอกให้ฆ่าก็ต้องฆ่างั้นเหรอ? คิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าหรือไง?”
“คุณ!” ผู้อาวุโสสูงสุดหน้าเปลี่ยนสี “หลี่ซือ อย่ามาพูดจาให้คนอื่นเสียหายต่อหน้าหัวหน้าสิ!”
“หึๆ…ผมพูดความจริงทั้งนั้น ไม่ได้พูดสั่วๆ ถึงผมไม่พูด หัวหน้าก็เห็นแล้วก็ได้ยินอยู่ดี” หลี่ซือพูดอย่างไม่ยี่หระ
หลายปีที่หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยไป๋เฟิ่งหายตัวไป ผู้อาวุโสสูงสุดกับผู้อาวุโสสามไม่ลงรอยกัน พวกเขาเหมือนน้ำกับไฟ แถมพรรคพวกของพวกเขาก็เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทใหญ่โตหลายครั้ง เพียงแต่ยังไม่อาจตัดสินแพ้ชนะ สองปีที่ผ่านมาถึงค่อยสงบลงไปบ้าง
“หลิงฮั่ว…แก๊งหัวเหล็ก…”
เยี่ยหวันหวั่นนึกสงสัย หรือว่าพอเมาจนภาพตัดแล้วเธอไปหาเรื่องผู้มีอิทธิพลคนไหนเข้า?
แล้วไอ้ที่โดนขังในคุกใต้ดินนั่นใครที่ไหนอีกล่ะ?
“หัวหน้าครับ ตอนนี้หลิงฮั่วอยู่ในคุกใต้ดิน หัวหน้าจะไปดูก่อนมั๊ยครับ?” สมาชิกระดับสูงคนหนึ่งถามเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิด ไม่นานก็พยักหน้า แล้วบอกว่า “ไปสิ”
เยี่ยหวันหวั่นรู้จักหลิงฮั่วที่ไหนกัน…เธอก็ต้องไปดูให้รู้เรื่องอยู่แล้วสิ…
สิ้นเสียงเยี่ยหวันหวั่น พวกสมาชิกระดังสูงรีบลุกขึ้น ผู้อาวุโสสูงสุดเปิดประตูห้องทำงานที่เป็นกระจกให้เยี่ยหวันหวั่น
ไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งรวมถึงเป่ยโต่วกับชีซิงก็มุ่งหน้าไปที่คุกใต้ดินของพันธมิตรอู๋เว่ย
คุกใต้ดินของพันธมิตรอู๋เว่ยอยู่ที่ชั้น B1 ของตึกสำนักงานใหญ่ ใช้คุมขังสมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยที่ทำความผิด ต่อมากลายเป็นสถานที่คุมขังศัตรูหรือเชลย
……………………………………………………….
[1] เอามือปิดฟ้า หมายถึง อาศัยอิทธิพลใช้เล่ห์เหลี่ยมปิดบังอำพรางมวลชน