บทที่ 391 รับผิดชอบ EnjoyBook

บทที่ 391 รับผิดชอบ

อันที่จริง การคาดเดาของหลินชิงเหอนั้นนับว่าแม่นยำเข้าเป้าพอดี

จ้าวจวินชื่นชอบความงามของสวี่เชิ่งเหม่ย ผู้ซึ่งมีความสวยสมกับชื่อของหล่อน(1) ในแง่ของหน้าตาหล่อนอาจจะเทียบกับหลินชิงเหอตอนที่ยังอ่อนเยาว์อยู่ไม่ได้ แต่กระนั้นหล่อนก็นับว่าเป็นคนที่สวยอยู่ดี

และปีนี้ หล่อนยังบังเอิญอายุ 18 ปี ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของผู้หญิง เด็กสาวในวัยนี้จะไม่ดึงดูดใจได้อย่างไร?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับจ้าวจวิน ผู้ซึ่งอยู่ในวัย 25 ปีและยังเป็นโสดอยู่

แม้ว่าเขาจะโสดและยังไม่ได้แต่งงาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่เคยมีประสบการณ์กับผู้หญิงมาก่อน ไม่เพียงแต่จะมีประสบการณ์เท่านั้น ทว่ายังมีมากอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นเสือผู้หญิงตัวจริงคนหนึ่ง อย่างไรก็ดีเขาก็ยังไม่ได้แต่งงาน และมีพฤติกรรมเป็นหนุ่มเสเพลโดยแท้

ด้วยหน้าตาเช่นสวี่เชิ่งเหม่ย เพียงแค่ได้เห็นผ่าน ๆ เขาก็หลงแล้ว แน่นอนว่าเขาย่อมจะอยากเข้าไปเกี่ยวพันด้วย

แต่ที่เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนก็คือ สวี่เชิ่งเหม่ยก็เป็นคนเจ้าเล่ห์ที่เต็มไปด้วยแผนการเช่นกัน ในตอนที่เขาคิดถึงร่างกายของหล่อนนั้น หล่อนเองก็คิดคำนวณไว้แล้วเช่นกัน

ถ้าหล่อนสามารถแต่งงานกับจ้าวจวินได้สำเร็จแล้ว หล่อนก็จะกลายมาเป็นพลเมืองของปักกิ่งได้อย่างแท้จริง

ครอบครัวตระกูลจ้าวร่ำรวย นี่เป็นเรื่องที่แม่เฒ่าหูบอกกับหล่อน เมื่อหล่อนแต่งเข้าไปแล้ว ก็จะมีเงินใช้โดยไม่ต้องไปทำงานอีก ในอนาคตคุณน้าและคุณน้าสะใภ้จะกล้าดูถูกหล่อนอีกหรือ?

พอถึงตอนนั้นหล่อนจะพาน้องชายมาที่นี่ ไม่เพียงแต่น้องชายเท่านั้น แต่จะพามาทั้งครอบครัว

เมื่อถึงเวลา หล่อนจะช่วยให้สมาชิกในครอบครัวได้ย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ที่เมืองหลวงอย่างถาวรและเป็นพลเมืองของปักกิ่ง

เพราะคิดคำนวณถึงเรื่องเหล่านี้ สวี่เชิ่งเหม่ยจึงทำเป็นต่อต้านเพียงเล็กน้อยและยอมให้เขาได้ตัวหล่อนหลังจากที่ได้พบกันแค่ไม่กี่ครั้ง

อีกทั้งสวี่เชิ่งเหม่ยก็ไม่ธรรมดา ถึงหล่อนจะอายุยังน้อย ทว่าหล่อนก็รู้วิธีที่จะมัดใจจ้าวจวินเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาหมดความสนใจในตัวหล่อน

ความจริงแล้วการตั้งครรภ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทำเรื่องอย่างนั้นกับจ้าวจวินไป 2 ครั้งเท่านั้น

และสำหรับจ้าวจวินน่ะหรือ? เขาไม่ได้มีความตั้งใจที่จะแต่งงานกับสวี่เชิ่งเหม่ยเลย ตอนนี้ในเมื่อเขาได้ตัวหล่อนแล้ว หลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่ง เขาก็จะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนใหม่แทน

ในทุกยุคสมัยไม่เคยขาดแคลนพวกเศษสวะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อล่าห่านป่ามาตลอดทั้งวัน พวกเขาย่อมสามารถพลาดถูกห่านจิกจนตาบอดได้ ใครจะรู้ว่าสวี่เชิ่งเหม่ยจะมีความสามารถได้ถึงขนาดนี้ เมื่อนับวันดูแล้ว จ้าวจวินได้รางวัลแจ็กพ็อตในวันที่เขาได้พรากเอาความบริสุทธิ์มาจากตัวหล่อนนั่นเอง

เนื่องด้วยร่างกายที่ไร้มลทินของหล่อน แม้ว่าจ้าวจวินต้องการจะปฏิเสธว่าไม่ใช่เขา ก็ไม่สามารถจะพูดออกมาได้ เพราะสวี่เชิ่งเหม่ยไม่เคยมีผู้ชายคนอื่นอีกนอกจากเขา

และตอนนี้เองที่เรื่องนี้ได้ถูกปูดขึ้นมาโดยสวี่เชิ่งเหม่ย

สวี่เชิ่งเหม่ยไม่ใช่คนโง่ และยังมีแผนการบางอย่างอีกด้วย หล่อนพอจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วจ้าวจวินไม่ได้ต้องการที่จะแต่งงานกับหล่อน

ฉะนั้น หล่อนจึงเกลี้ยกล่อมแม่เฒ่าหูให้พาไปเพื่อตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลโดยบอกว่าหล่อนรู้สึกไม่สบาย

พอเป็นอย่างนี้ ก็ตรวจพบว่าหล่อนตั้งครรภ์

ต้องให้ความเป็นธรรมด้วยว่า ที่แม่เฒ่าหูต้องการแนะนำสวี่เชิ่งเหม่ยให้รู้จักกับหลานชายของครอบครัวบ้านแม่ของหล่อน เพียงเพราะอยากให้สวี่เชิ่งเหม่ยได้แต่งเข้ามาเท่านั้น หล่อนเห็นว่าสวี่เชิ่งเหม่ยดูมีแววดี

สวี่เชิ่งเหม่ยนั้นมีความสามารถในการเสแสร้ง ต่อหน้าคนนอก หล่อนดูเป็นคนที่เชื่อฟังและอ่อนน้อมอยู่เสมอ และมักจะชอบออกไปกวาดพื้นที่หน้าประตูบ้านและที่สวน นอกจากนี้แม่เฒ่าหูซึ่งมาดูทีวีที่นี่เป็นครั้งคราวก็สังเกตเห็นท่านแม่โจวเรียกหล่อนให้ไปล้างจานหรือทำอะไรอย่างอื่นอีกด้วย

สรุปแล้ว แม่เฒ่าหูคิดว่าเด็กสาวคนนี้เป็นคนที่ดีไม่น้อยและเหมาะสมกับหลายชายของตน

นอกจากนั้น ฐานะทางครอบครัวของหลานชายคนนี้ก็ไม่เลวนัก ถ้าหนุ่มสาวทั้ง 2 คนได้พบกันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร

ฉะนั้น จริง ๆ แล้วแม่เฒ่าหูก็ไม่เคยคิดจะใช้แผนการที่จะทำให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก(2)เลย ผู้คนในยุคนี้ยังเป็นคนหัวเก่าอยู่มาก ดังนั้นพวกเขาจะกล้าใช้แผนการแบบนี้ได้หรือ?

หล่อนคิดว่าให้พวกเขาได้พูดคุยกันบ้างนิดหน่อยก็คงไม่เป็นไร และก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ ใครจะไปนึกว่าเด็กสาวคนนี้ เชิ่งเหมยจะถูกหลานชายของหล่อนทำให้ตั้งท้องขึ้นมาได้ ตอนที่คุณหมอพูดออกมา แม่เฒ่าหูรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก

ไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น

ข่าวการตั้งครรภ์ของสวี่เชิ่งเหม่ยถูกเปิดเผยขึ้นมา โจวเฉวี่ยนและคนอื่นพากันไปทำร้ายร่างกายจ้าวจวินจนเขาต้องเข้าโรงพยาบาล

ท่านแม่โจวมารู้เรื่องหลังจากนั้น และทันทีที่รู้นางก็ต้องถูกส่งไปที่โรงพยาบาลทันที ครอบครัวตระกูลจ้าวไม่กล้าแม้แต่จะกลับมาเอาเรื่อง จ้าวจวินจึงถูกทำร้ายไปโดยเอาเรื่องอะไรไม่ได้

เดิมทีจ้าวจวินพยายามจะสู้กลับและต้องการจะเลิกกับสวี่เชิ่งเหม่ย แต่ในตอนที่ถูกซ้อม เขายังไม่รู้ว่าสวี่เชิ่งเหม่ยตั้งครรภ์

เขาเอาแต่โวยวายเรื่องการแก้แค้นและต้องการจะต้องเอาคืน ต่อมาเขาถึงได้รู้ว่าสวี่เชิ่งเหม่ยท้อง หลังจากที่นับวันดูแล้ว ก็ตรงกับวันที่เขาได้ความบริสุทธิ์ของตัวหล่อนมา

แม้แต่เขาก็กลายเป็นคนที่เชื่องขึ้นมา

สำหรับครอบครัวตระกูลจ้าว ตอนแรกพวกเขาโกรธมาก ใครกันที่กล้ามารังแกครอบครัวตระกูลจ้าวของพวกเขา? แต่หลังจากที่แม่เฒ่าหูอธิบายเรื่องราวให้ฟังแล้ว ครอบครัวตระกูลจ้าวก็ดีใจในเรื่องนี้

จ้าวจวินเป็นลูกชายคนรองของครอบครัว เขามีพี่ชาย 1 คนและมีน้องชายอีก 2 คน ทุกคนแต่งงานกันไปหมดแล้ว แม้แต่น้องชายคนสุดท้องก็แต่งงานไปแล้ว

มีจ้าวจวินคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ต้องการจะแต่งงาน เขาอายุ 25 ปีเข้าไปแล้ว ครอบครัวจะไม่กังวลใจได้อย่างไรถ้าเขายังไม่ได้แต่งงานไปเสียที?

เมื่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้แล้วก็รู้สึกอับอายมากจริง ๆ แต่ท่านพ่อจ้าวและท่านแม่จ้าวก็ปรารถนาให้สวี่เชิ่งเหม่ยได้เข้ามาในครอบครัว เมื่อหล่อนแต่งเข้ามาแล้ว ปัญหาทั้งหลายแหล่ก็จะหมดไปในไม่ช้า?

จากนี้ไป ทั้งสองครอบครัวก็จะกลายเป็นญาติกัน ดังนั้นไม่มีเรื่องอะไรที่จะแก้ไขไม่ได้

จ้าวจวินน่าจะสังเกตเห็นความต้องการของครอบครัว เขาไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับสวี่เชิ่งเหม่ยนัก

เมื่อมาคิดดูแล้ว เขาไม่ได้ชอบสวี่เชิ่งเหม่ยมากขนาดนั้น แต่ทว่าหล่อนก็เป็นคนที่ว่าง่ายและอ่อนโยน ไม่เช่นนั้นหล่อนคงไม่ยอมโอนอ่อนแล้วนอนกับเขาหรอก

จ้าวจวินจึงพยักหน้าตอบรับ ด้วยเหตุที่จ้าวจวินตกลงใจแต่งงานกับสวี่เชิ่งเหม่ยจึงทำให้เรื่องนี้สงบลงได้ในเวลา 2 วันที่ผ่านมานี้

สถานการณ์ทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้

หลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากโจวเสี่ยวเหมยแล้ว หลินชิงเหอก็แค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา “พี่ไม่กล้าไปตัดสินใจเรื่องนี้แทนหล่อนหรอก ต้องให้หล่อนโทรศัพท์กลับไปบอกพ่อแม่ของหล่อน แล้วให้พ่อกับแม่ของหล่อนเป็นคนเข้ามาจัดการเรื่องทั้งหมดเอง”

โจวเสี่ยวเหมยก็มีความคิดอย่างเดียวกันกับพี่สะใภ้สี่ของหล่อน มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากที่หล่อนทำเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา โจวเสี่ยวเหมยจึงกล่าว “ฉันโทรศัพท์กลับไปบอกเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวานซืนนี้แล้วละค่ะ”

“เธอ 2 คนทำงานกันไปก่อนนะ พี่จะไปหาคุณพ่อกับคุณแม่กับพี่สี่ของเธอก่อน” หลินชิงเหอลุกขึ้นพร้อมกับกล่าวขึ้น หลังเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว

เธอรู้สึกว่าแม่สามีของเธอคงจะต้องรู้สึกคลื่นไส้วิงเวียนเป็นแน่ เพราะเพื่อนบ้านทั้งสองต่างก็เล็งเป้าหมายมาที่หลานชายและหลานสาวของนาง

ฝ่ายหนึ่งไม่สามารถจับหลานชายของนางได้สำเร็จ ขณะที่หลานสาวของนางเองกลับไปหลับนอนกับผู้อื่นได้ ช่างเป็นการผูกมิตรที่ไม่ระมัดระวังเอาเสียเลย

โจวชิงไป๋ซึ่งหน้าตาเคร่งขรึมพาภรรยาของเขาไปที่นั่น ตอนนี้สวี่เชิ่งเหม่ยไม่ได้อยู่ที่ร้านเสื้อผ้าแล้ว แต่อยู่กับคุณตาและคุณยายของหล่อน

ทันทีที่ทั้งคู่มาถึง พวกเขาก็เห็นสวี่เชิ่งเหม่ยกำลังกินผลไม้อยู่ แม่เฒ่าหูผู้ที่นั่งอยู่กับหล่อนน่าจะเป็นคนนำมาให้

“คุณน้า คุณน้าสะใภ้” เมื่อเห็นทั้งคู่ สวี่เชิ่งเหม่ยก็ยืนขึ้นด้วยท่าทางสำนึกผิดอยู่เล็กน้อย

แม่เฒ่าหูก็รู้สึกขัดเขินนิดหน่อยจึงเอ่ยว่า “คุณน้ากับคุณน้าสะใภ้ของแม่หนูไม่ต้องเป็นห่วงนะจ้ะ เมื่อจ้าวจวินออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เขาจะกลับบ้านพร้อมกับเชิ่งเหม่ยเพื่อไปเป็นสะใภ้ของครอบครัว พอถึงเวลานั้นพวกเราจะจัดการแต่งงานและจะรับผิดชอบในตัวเชิ่งเหม่ยอย่างแน่นอน”

……………………………………………………………………………………..

(1)เชิ่งเหม่ย หมายถึงความสวยงามที่เป็นเลิศ

(2)เปรียบกับการที่ฝ่ายชายมีความสัมพันธ์และได้ความบริสุทธิ์ของฝ่ายหญิงไปก่อนการแต่งงานเพื่อต้องการผูกมัด วิธีนี้คนที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกนอกจากยอมรับความสัมพันธ์นั้น

สารจากผู้แปล

เอาล่ะค่ะ ในที่สุดเธอก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้วสินะ นังงูพิษเชิ่งเหม่ย ไม่ต้องมาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเลย เธอทำอะไรรู้ดีอยู่แก่ใจ

เจ็บแทนแม่เลยค่ะที่พลาดไปอุปการะยัยเด็กเนรคุณนี่

ไหหม่า(海馬)