Flicker ใหญ่
หลังจากลูน่าเกิดใหม่ไม่นานจางเหลียงของหยางจั๋วก็ออกมาจากบ่อเหมือนกันแล้วก็รีบเร่งเดินทาง ได้เห็นลูน่าตีครีปอย่างสุดสวย เพียงพริบตาเดียวก็เคลียร์ครีปเล็กเลนกลางไปได้หมด เปี่ยนเชวี่ยของศัตรูโยนขวดยา ปาแผ่นวินิจฉัยโรค ที่ชวนอึ้งก็คือโยนมาไม่ได้ใกล้ตัวลูน่าด้วยซ้ำ นี่จะต้องไม่ใช่การควบคุมของเกาเกอแน่ ๆ ตอนนี้หยางจั๋วมั่นใจแล้ว
เคลียร์ครีปเล็กเลนกลางแล้วจางเฉิงห่าวก็มองไปที่เลนข้างทั้งสองด้าน
ป่าด้านบนพวกเขาเสียป้อมนอกไปแล้ว วิชั่นไม่แน่ชัด มีแต่เรื่องที่ไม่รู้ ถึงจะมีครีปเลนอยู่ทำให้คนตาลุกวาว แต่ว่าการเงินของตัวดาเมจตัวหนึ่งก็ถูกเขากินไปแล้ว การเงินของตัวดาเมจอีกตัวจางเฉิงห่าวไม่กล้าไปดูดมาแล้ว ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายมีเกาเกอกับโจวม่อสองคนนี้อยู่ เขาก็ไม่มีความมั่นใจที่จะโชว์เหนือจริง ๆ ยังไงก็ต้องให้เพื่อนร่วมทีมมาสนับสนุน
“เหล่าฟู่จื่อ พวกเราไปช่วยเก็บคนนะ” สุดท้ายจางเฉิงห่าวก็ตัดสินใจที่จะไปสนับสนุนด้านนี้ เรียกจางเหลียงให้ไปด้วยกันแล้วเคลื่อนทัพไปทางเลนข้างฝั่งนี้
โจวมู่ถงรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ ตอนที่ครีปเริ่มมาก็แกล้งทำเป็นระมัดระวัง ยืนอยู่ลึกที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อให้ศัตรูมีพื้นที่ดันเลนเข้ามา
แต่โชคร้ายที่คนที่ยืนเลนอยู่กับเขาก็คือโจวม่อ หยางเจี่ยนของเขาตอนนี้เป็นคนที่มีการเงินสูงสุดในหมู่ทุกคน สามนาทีมีการเงินสามพัน ขวานรบเงามืดอันใหญ่เล่มแรกก็ถอยมานานแล้ว ไอเทมชิ้นใหญ่ชิ้นที่สองก็ได้ซื้อไอเทมชิ้นเล็กเตรียมพร้อมไว้แล้ว นี่เป็นระดับไอเทมที่เหนือกว่าไอเทมในนาทีที่ 3 ในเกมปกติเป็นอย่างมาก เปลี่ยนเป็นใครคนอื่นตอนนี้ก็คงจะหยิ่งยโสน่าดู
แต่ว่าโจวม่อไม่
ถึงแม้ในเกมนี้ทีมมีข้อเรียกร้องจากเขา มีอดีตนักเล่นเกมอาชีพเหอเหลียงมาให้คำแนะนำและคำปรึกษากับเขาเล็กน้อย แต่ว่าพวกนั้นหลัก ๆ ก็เกี่ยวกับเรื่องการไปเวดป่าแล้วก็เวลาที่ไปทีมไฟต์ พอกลับมากันป้อมโจวม่อก็กลับคืนสู่นิสัยแท้จริง เหล่าฟู่จื่อของโจวมู่ถงยืนอยู่ลึกเหรอ หยางเจี่ยนของเขาเทียบกับเหล่าฟู่จื่อแล้วยังยืนลึกกว่าอีก ฮีโร่ระยะประชิดสองตัวต่างก็ทำตัวเป็นดังแม่ทัพสั่งการอยู่ข้างหลังกองทัพอย่างสงบสันติ
“เชี่ย สมแล้วที่เป็นออฟขี้กลัว!” โจวมู่ถงพูดไม่ออก เหล่าฟู่จื่อเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง ผลก็คือหยางเจี่ยนไม่มองเขาสักนิด เห็นว่าครีปเล็กเลือดจะหมดก็ปล่อยเห่าฟ้าออกไปทันที เขากลับไม่ยอมพลาดลาสช็อตที่ให้ค่าประสบการณ์กับการเงินที่มากกว่านี้ไปเลย
“Flicker เข้าไปเลยดีไหม…” โจวมู่ถงเริ่มรู้สึกทนไม่ได้ เหล่าฟู่จื่อของเขาตอนนี้ใช้ท่าอัลติได้ ถ้าตีโดนตัวเป้าหมายก็จะกักขังเป้าหมายไว้ในระยะแสงตะเกียง 5 วินาที เป็นสกิลจับคนที่ทรงพลังมาก
หยางจั๋วที่อยู่ในพุ่มเงียบสนิท Flicker เข้าไปเหรอ งั้นก็ต้องเป็นธุระของเหล่าฟู่จื่อแล้ว ตำแหน่งของหยางเจี่ยนมันอยู่ไกลจากเขาไปจริง ๆ จากจุดที่จางเหลียงอยู่ในพุ่มนี้ถึง Flicker เข้าไปก็ไม่ถึงหยางเจี่ยนที่ถูกท่าอัลติควบคุมตัวเอาไว้ได้ เหล่าฟู่จื่อก็ไม่ถึงเหมือนกัน แต่สกิลสองของเหล่าฟู่จื่อสามารถจะเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ได้ หากจู่ ๆ พุ่งเข้าไป Flicker แล้วเปิดอัลติใส่ก็มีโอกาสอยู่ แต่ว่านี่ย่อมทำให้อีกฝ่ายมีเวลาโต้ตอบกลับ ว่ากันตรง ๆ ก็คือต้องดูปฏิกิริยาตอบกลับของอีกฝ่ายด้วย
“บวกเถอะ” หลังจากจางเฉิงห่าวลังเลเล็กน้อยก็ตัดสินใจได้ในที่สุด ถึงแม้ว่าจะจับตัวเอาไว้ไม่ได้ก็เป็นแค่เพียงการคว้าน้ำเหลวเท่านั้น ฝ่ายตัวเองก็ไม่ได้สูญเสียอะไรเลย
“บวก!” โจวมู่ถงร้องออกมาคำหนึ่งทันที เหล่าฟู่จื่อเปิดด้วยสกิลสองพูดหนึ่งเปรียบได้สามพุ่งไปข้างหน้าด้วยความว่องไว ลูน่ากับจางเหลียงที่อยู่ในพุ่มก็ย่อมไม่อาจให้ท่าอัลติของเหล่าฟู่จื่อเป็นการโจมตีใส่หยางเจี่ยนเพียงอย่างเดียว ในเวลานี้พวกเขาพุ่งออกมาพร้อมกัน ลูน่าใช้ฟาดฟันจันทร์เสี้ยวเล็งเข้าไปในกลุ่มครีปเล็ก ตามมาด้วยสังหารจันทราดับพุ่งฉิวออกมาจากพุ่ม ใช้การเล็งครีปเล็กทำให้สามารถพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วได้สำเร็จ
ใครจะไปนึกว่ายังไม่ทันที่เหล่าฟู่จื่อของโจวมู่ถงจะ Flicker หยางเจี่ยนก็ Flicker ออกมาก่อนเองแล้ว พุ่งกลับไปที่ป้อม
“เชี่ย!” โจวมู่ถงเซ็ง หมัดที่สะสมพลังมีเต็มเปี่ยมแต่ว่ายังไม่ทันได้ชกออกไปอีกฝ่ายก็เผ่นหนีไม่เหลือร่องรอยแล้ว โจวมู่ถงรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองได้รับบาดเจ็บจากพลังที่ตีกลับจนอยากจะกระอักเลือดออกมาจริง ๆ
“ขี้กลัวขี้กลัวขี้กลัวขี้กลัวขี้กลัวขี้กลัวขี้กลัวขี้กลัวขี้กลัวขี้กลัว!” ในเมื่อไม่มีทางส่งเสียงไปถึงอีกฝ่ายได้โจวมู่ถงก็ได้แต่แขวะโจวม่อจากในช่องสื่อสารกลางเท่านั้น
“ไม่หนีจะให้เล่นหนึ่งต่อสามรึไง อีกฝ่ายเขาคิดอะไรอยู่น่ะ” เหออวี้แสดงความประหลาดใจต่อคำแขวะ
“ฮะฮะ สหายโจวม่อนายเปิดมาก็รู้เลยรึเปล่าว่าในพุ่มมีการซุ่มโจมตีน่ะ” เกาเกอกล่าว
โจวม่อหน้าแดงเล็กน้อย พูดกันตรง ๆ แล้วตอนแรกเขาไม่รู้จริง ๆ ที่เหล่าฟู่จื่อทำเป็นล่าถอยขลาดกลัวเขาไม่ได้นึกว่าเป็นการล่อซื้อด้วยซ้ำ เขาเพียงแต่เล่นป้องกันตามนิสัยดั้งเดิม เวลาที่ไม่มีเพื่อนร่วมทีมมาสนับสนุนจะไม่ดันป้อมอย่างมุทะลุ แล้วก็ไม่คิดเรื่องจะไปฆ่าอีกฝ่ายด้วย แต่ว่าพอเหล่าฟู่จื่อจู่ ๆ ก็เหมือนฉีดเลือดไก่*เคลื่อนมาข้างหน้าเขาก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที ทั้งสองฝ่ายมีการเงินห่างกันตั้งเท่านี้ ถึงเหล่าฟู่จื่อจะใช้ท่าอัลติจับตัวหยางเจี่ยนเขาก็ยังตีเขาไม่ตาย แต่ว่ากลับมีความกล้าหาญถึงเพียงนี้ก็ย่อมต้องมีการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมอย่างแน่นอน
ดังนั้นในตอนนั้นเขาก็เลยใช้ Flicker กลับเข้าป้อมทันที แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ในพุ่มมีอีกฝ่ายวิ่งออกมาสองคน
เมื่อเห็นว่าสองคนนั้นมีการควบคุมที่แกร่งมาก โจวม่อถอยกลับป้อมแล้วก็ยังไม่จบแต่ให้หยางเจี่ยนล่าถอยไปอยู่หลังป้อมไปอีก พวกหวงเฉาสามคนดูแล้วก็ทำอะไรไม่ได้เลย ครีปชุดนี้หยางเจี่ยนยังไม่เสียสักตัว สิ่งเดียวที่เสียไปก็มีแค่ Flicker อันเดียวที่ใช้ไปเท่านั้น
ลูน่าและจางเหลียงกลับไปอย่างฮึดฮัด ที่ป่าด้านบนมาร์โคโปโลถูกกดอยู่ในป้อมสองออกมาไม่ได้ แล้วไม่นานก็ได้เห็นโฮ่วอี้กับอาเคอออกมาเคลียร์ครีปด้วยกันตามที่คิดจริง ๆ สู่ไคหวยที่มีประสบการณ์และความตระหนักรู้หนีรอดจากการถูกจับกุมที่อาจจะเกิดขึ้นรอบนี้ไปได้ อยู่ในป้อมค่อย ๆ ปั้นตัวไปช้า ๆ
ทั้งสองฝ่ายล้วนเพียงหวาดกลัวแต่ไร้อันตราย แต่ว่าพร้อมกับการเกิดใหม่ของครีปเล็กในป่าทุกคนก็ทราบว่าฝนโลหิตคาววายุรอบใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ครีปเล็กในป่ามีเวลารอเกิดใหม่อยู่ที่ 70 วินาที บัฟแดงฟ้าอยู่ที่ 90 วินาที ครีปป่าเล็กเกิดใหม่ หมายความว่ารอบนี้ไม่ว่าอย่างไรจางเฉิงห่าวก็ต้องเอาพวกบัฟแดงฟ้ามาให้ได้ เหล่าฟู่จื่อ, จางเหลียง, จางเฟยทั้งหมดพากันห้อมล้อมเขาเข้าไปที่ป่าบัฟฟ้าของตัวเอง เหลือเพียงมาร์โคโปโลคนเดียวที่ยังฟาร์มอยู่ที่เลน
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ซูลี่ตัวซัพพอร์ตของคลื่น7 เป็นคนแรกที่ปรากฏกายขึ้นในวิชั่นของพวกเขาเริ่มสำรวจตรวจสอบดูความเคลื่อนไหวในป่า พวกหวงเฉาทั้งสี่คนซ่อนตัวอยู่ในพุ่ม โดนจางเฉิงห่าวบอกไม่ให้ขยับเขยื้อนและส่งเสียง รอบนี้พวกเขาไม่เพียงแต่จะชิงบัฟฟ้ามาเท่านั้น แต่ว่ายังจะถือโอกาสนี้ตีกับคลื่น7 ด้วย
“จางเฟยเปิดอัลติ เหล่าฟู่จื่อจับหยางเจี่ยนเอาไว้ จางเหลียงอัลติใส่อาเคอ” ด้านจางเฉิงห่าวเตรียมการกันเสร็จแล้ว เพียงแค่รอให้คลื่น7 มาเท่านั้น สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ร่างของซูลี่ที่เดินวน ๆ อยู่ในหลุมบัฟฟ้า แล้วหยางเจี่ยนก็มาประจำตำแหน่ง ทั้งสองคนเคลื่อนที่ไปด้วยกัน บัฟฟ้าตัวที่แล้วคลื่น7 เป็นคนฆ่า เวลาเกิดใหม่ของบัฟฟ้าตัวนี้พวกเขาจึงรู้อย่างแน่ชัด ในขณะที่เดินไปข้างหน้าก็เห็นว่าในหลุมบัฟฟ้ามีแสงสีฟ้าเรืองรองออกมา ตัวบัฟฟ้าเริ่มมาเกิดใหม่แล้ว
“มีสองคนให้คำรามเลยไหม” เจิงเสี่ยวปอถาม
“คำรามเลย!” จางเฉิงห่าวตอบอย่างเด็ดเดี่ยว ใครจะไปรู้ว่าตอนนั้นเองที่ปลายเท้าของซูลี่อยู่ ๆ ก็มีวงเวทสีเหลืองเรืองรองออกมาแล้วขยายขนาดขึ้นไม่หยุด ไม่น่าเชื่อว่าเขากลับเปิดท่าอัลติต้านรับหมื่นทหารขึ้นมาก่อน!
“ตีขัดเขา!” จางเฉิงห่าวรีบร้อง ท่าอัลติของซูลี่นี้เมื่อโดนตัวเป้าหมายจะทำให้ลอยขึ้นไปหนึ่งวินาที ยิ่งใช้เวลาสะสมพลังมากก็ยิ่งมีระยะโจมตีกว้างไกลขึ้น หวงเฉาทั้งสี่คนสุ่มหัวรวมกันอยู่ในพุ่ม ถ้าลำแสงนี้มาถึงทั้งสี่คนก็จะลอยขึ้นฟ้าไปกันถ้วนหน้า แต่ว่าท่าอัลตินี้ก็มีจุดอ่อนอยู่เหมือนกัน คือกลัวการโดนขัดขวางมาก ไม่ว่าสกิลอะไรที่มีผลควบคุมตีโดนซูลี่ก็ขัดขวางพลังของเขาได้หมด แล้วฮีโร่สี่ตัวของหวงเฉาพวกนี้และรวมถึงตัวลูน่าด้วยล้วนมีสกิลควบคุมสนามกันทั่วทุกคน ดังนั้นพอจางเฉิงห่าวร้องสั่งมาจางเหลียงก็ยกมือขึ้นเตรียมใช้สกิลหนึ่งอักษรวิญญาณ.คุ้มกัน จางเฟยกระโดดไปข้างหน้าโบกสะบัดหอกเข้าใส่ซูลี่ เหล่าฟู่จื่อก็หันไปหาอย่างรวดเร็วแล้วโยนไม้บรรทัดตีเข้าใส่จากอีกด้าน
แต่ว่าสกิลควบคุมสนามของพวกเขาทั้งหมดยังไม่ทันใช้ออกไปเลยซูลี่จู่ ๆ ก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ลำแสงขนาดยักษ์ในมือทุ่มลงไปโดยไม่มีการสกัดขัดขวาง
ตูม!
ฮีโร่สี่ตัวของหวงเฉารวมทั้งลูน่าที่ยังซ่อนตัวอยู่ในพุ่มลอยขึ้นฟ้าไปพร้อมกัน
Flicker ใหญ่ — ในเวลาเดียวกับที่ปล่อยท่าอัลติก็รีบใช้ Flicker ออกมาอย่างว่องไว เป็นทริคที่ใช้เพื่อปรับตำแหน่งในการปล่อยสกิล การลงมือของเกาเกอครั้งนี้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบสุด ๆ พวกหวงเฉาทั้งสี่คนต่างก็โดนการโจมตีครั้งนี้ไปทั้งกลุ่ม
“เชี่ย!” จางเฉิงห่าวกรีดร้องเสียงดัง เขาที่ยังลอยอยู่บนฟ้าก็เห็นแล้วว่าเปี่ยนเชวี่ยกับอาเคอกำลังรีบเร่งเข้ามาล้อมจากเลนกลาง ในรอบนี้พวกเขาเสียเปรียบไปแล้ว แต่ว่าเขาไม่ยอมให้จบลงแบบนี้หรอก ตั้งใจแน่วแน่ที่จะใส่ทุกอย่างลงไปในการต่อสู้
“จางเฟยเปิดอัลติ!” จางเฉิงห่าวคำราม
ในใจเจิงเสี่ยวปอก็ตั้งใจไว้แล้วเหมือนกัน ไม่รอให้จางเฟยตกลงบนพื้นก็ใช้ท่าอัลติคลั่งแล้ว ใครจะคิดว่าตอนนั้นเองก็มีนกไฟตัวหนึ่งบินเข้ามาในวิชั่นของพวกเขา เหล่าฮีโร่ที่ตกลงมาจากอากาศมีสี่คน ศรไฟดอกนี้ก็ยังไม่เอนเอียงและยิงเข้าใส่จางเฟยผู้โชคร้าย
“เชี่ย!” ความรู้สึกของเจิงเสี่ยวปอตอนนี้ก็เหมือนกับหยางจั๋วที่รอบที่แล้วถูกนกไฟชนใส่ตอนอยู่ในป้อมไม่มีผิด ด้วยระยะห่างขนาดนี้สตันของศรดับสุริยันก็เพิ่มไปถึง 3.5 วินาทีแล้ว ฟังดูอาจจะไม่ได้นาน แต่ว่าสำหรับการทีมไฟต์ใน The Kings of Glory ก็กล่าวได้ว่าโดนควบคุมนานขนาดนี้ก็ร้ายแรงถึงชีวิตเลย พวกหวงเฉาทั้งเลเวลและการเงินล้วนล้าหลัง สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขาได้เปรียบก็คือการควบคุมสนามที่กล้าแกร่งจากฮีโร่หลายตัวนี้ของพวกเขา โดยเฉพาะจางเฟย ถึงแม้จะไม่มีไอเทมอะไรเลยเปิดท่าอัลติไปแล้วก็ยังเกราะหนาทำดาเมจได้ แล้วในขั้นตอนการเปิดอัลติก็ยังสามารถทำสตันให้เป้าหมายได้ถึง 1.5 วินาที ความหวังของพวกหวงเฉาทั้งสี่ที่จะสู้กลับเรียกได้ว่าทุ่มลงบนตัวเขาแล้ว ผลก็คือทั้งหมดกลายเป็นความว่างเปล่า ใน 3.5 วินาทีนี้ อีกสามคนกลายเป็นสามผู้น่าสงสาร
เหล่าฟู่จื่อโยนท่าอัลติใส่หยางเจี่ยน แต่ว่านี่จะทำอะไรได้ล่ะ หยางเจี่ยนถูกมัดมือมัดเท้าก็ยังตีเหล่าฟู่จื่อจนหัวร้างข้างแตกได้ พลังแห่งปราชญ์ถูกทำลายสิ้น
ด้านของจางเหลียง หยางจั๋วมีการควบคุมที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งกว่า อัลติจับตัวอาเคอเอาไว้ได้ แต่ว่าสิ่งที่ตามมาก็คือเขาถูกซูลี่ผลักไปชนกำแพงจนมึนงง
สำหรับลูน่าของจางเฉิงห่าวนั้นเห็นสถานการณ์ไม่ดีก็อยากจะหลบหนีลูกเดียว ผลก็คือบนหัวโดนยาพิษไปสี่ชั้น วิ่งหนีออกไปได้ไม่กี่ก้าวพิษก็กำเริบจนตาย
จางเฟยของเจิงเสี่ยวปอตอนนี้ก็กลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว เสียงร้องคำรามที่ทำให้เลือดลมคลุ้มคลั่งหมดลง จากนั้นก็ถูกตีจนหัวปูด ไม่นานก็กลับไปที่บ่อรวมตัวกับเพื่อนร่วมทีมของเขา
0 ต่อ 4!
คลื่น7 ฆ่าล้างอีกฝ่ายสี่คนแล้วยิ้มรับบัฟฟ้าอันนี้เอาไว้ เมื่อเดินไปที่ป่าบัฟแดงมาร์โคโปโลไม่แม้แต่จะเหลือบมองบัฟแดงอันเป็นที่รักสักแวบเดียวก็เผ่นไปไกลแล้ว
แล้วป่าก็ถูกเวดจนเกลี้ยงอีกครั้ง แต้มคิลเพิ่มขึ้นไปเป็น 9 ต่อ 0 การเงินทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น ตอนนี้ในใจของพวกหวงเฉามีคำสามคำลอยขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ว่า : หกนาทียอม
……………………………………………………
*ฉีดเลือดไก่打鸡血 เป็นสำนวนที่หมายถึงคนที่คึกคักเหมือนฉีดยากระตุ้น มีที่มามาจากการแพทย์จีนสมัยก่อน (ช่วงปี ค.ศ.1965) ที่เชื่อกันว่าฉีดเลือดไก่เข้าร่างกายคนแล้วจะทำให้ผู้ป่วยคึกคักขึ้น ซึ่งก็เป็นจริงส่วนหนึ่งเพราะว่าพอมีของแปลกปลอมเข้ามาร่างกายมนุษย์ก็ย่อมต้องสร้างภูมิคุ้มกันมาทำลายไอ้ของแปลกปลอมพวกนี้ทำให้มีสภาพภายนอกเหมือนจะแจ่มใสขึ้น น้อย ๆ ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าทำบ่อย ๆ เยอะ ๆ อันตรายถึงชีวิตได้เลย
ขอพูดเรื่องคำสบถหน่อยค่ะ เรื่องนี้เท่าที่เห็นจะมีคำสบถอยู่สองอย่าง我去 กับ 靠 ซึ่งเท่าที่เราหาดูเหมือนจะมีความหมายเหมือน ๆ กันเลย เราก็แปลเป็น เชี่ย ไปให้หมดเพราะนึกไม่ออกว่าเราคนไทยยังมีคำสบถประมาณนี้อีกไหม
Flicker ใหญ่ ไม่รู้เลยว่าไทยเรามีศัพท์เฉพาะไหมก็เลยแปลไปตรง ๆ ที่จริงก็ไม่รู้ด้วยว่ามีทริคแบบนี้อยู่ 555
มีความแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง ตอนนี้ทั้งตอนคุณผีเสื้อเขียนชื่ออาเคอเป็นจิงเคอหมดเลย ซึ่งไม่มีฮีโร่ที่ชื่อจิงเคอเลยด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีพิมพ์เป็นจิงเคอเหมือนกันแล้วเราก็แก้ ๆ ไป แต่ว่าตอนนี้ทั้งตอนใส่มาแต่จิงเคอเราก็งง ๆ เหมือนกันค่ะ