โฮ่วอี้ต้องตาย
ที่เรียกกันว่าหกนาทียอมเป็นเซ็ตติ้งจากระบบของเกม ในทุก ๆ เกมจะต้องเล่นไปถึงนาทีที่หกนับจากตอนเริ่มเล่นถึงจะมีปุ่ม “ยอมแพ้” ให้กด ในการแข่งขันทางการแล้วปกติจะไม่มีทีมไหนเลยที่ทำแบบนี้ แต่ว่าในลีกภายในมหาวิทยาลัยถ้าถูกทุบตีจนความมั่นใจหมดสิ้น การร่วมกันกดยอมแพ้ทั้งทีมก็ยังมีอยู่มาก
เวลามาถึงนาทีที่หกอย่างรวดเร็ว ปุ่มยอมแพ้สว่างขึ้นมา แม้แต่กรรมการก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันไปเหลือบมองทางหวงเฉาอีกหลายแวบ พวกหวงเฉาทั้งหลายต่างก็เงียบกริบไม่ส่งเสียง สมาชิกสี่คนหันไปมองจางเฉิงห่าวกัปตันของพวกเขาโดยพร้อมเพรียงกัน สิ่งที่เห็นก็คือสีหน้าขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างเคืองแค้น
เรื่องอย่างการแพ้นี้ สำหรับผู้เล่น The Kings of Glory ทุกคนแล้วพูดได้ว่าเป็นสิ่งที่ปกติมาก ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะการันตีอัตราชนะร้อยเปอร์เซ็นต์เอาไว้ได้ แต่ว่าในวันนี้ เกมนี้ การพ่ายแพ้ครั้งนี้ นั่นหมายความว่าทีมหวงเฉาจะต้องตกรอบลีกภายในมหาวิทยาลัยในรอบแรก แล้วคำพูดที่พวกเขาเตรียมจะเอาไปเยอะเย้ยถากถางคลื่น7 ตอนนี้ควรจะทำอย่างดี ให้เอาไปพูดกับตัวเองหน้ากระจกหรือไง
ห้านาทีครึ่ง การเงินต่างหกพันกว่า
หกนาทีตรง ความต่างของการเงินมีแต่จะเพิ่มสูงขึ้น ไปถึงเจ็ดพันแล้ว
มาเวลานี้ในฐานะกัปตัน คำพูดอย่าง “อย่าเพิ่งยอมแพ้ เรายังมีโอกาส” จางเฉิงห่าวพูดไม่ออกจริง ๆ
เห็นได้ชัดว่าคลื่น7 คิดแผนการเล่นที่จะเอามาต่อต้านพวกเขาอย่างระมัดระวัง ลูน่ามือนี้ก็แค่เป็นสิ่งที่จงใจปล่อยให้เขาใช้ มาถึงจุดนี้ในใจของจางเฉิงห่าวมีความกังขาขึ้นมาแล้วจริง ๆ เขาที่ไม่เคยเห็นคลื่น7 อยู่ในสายตา ในใจมีท่าทีว่า “ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ถ้าฉันกลัวขึ้นมาก็ถือว่าฉันแพ้แล้วกัน”
ดังนั้นตอนนี้พวกเขาก็เลยจะแพ้จริง ๆ แล้ว
ลูน่าของเขาต้องพึ่งพาบัฟฟ้าอย่างที่สุด ตัวดาเมจอีกตัวในทีมคือมาร์โคโปโลของสู่ไคหวยก็ต้องพึ่งพาบัฟแดงอย่างที่สุด ตอนแรกคลื่น7 เพียงแต่วางทีมป้องกันบัฟฟ้าเท่านั้น แต่ยิ่งต่อสู้นานไปป่าทั้งหมดก็ยิ่งตกอยู่ในการควบคุมของพวกเขาจนหมดสิ้นตอนนี้ทั้งบัฟฟ้าบัฟแดงหวงเฉาไม่สามารถมองเห็นได้เลย
ตัวดาเมจทั้งสองไม่ได้ถูกเลี้ยงให้แข็งแกร่งพออย่างจริงจัง ทำให้ตอนนี้ปัญหาของหวงเฉาก็คือถึงแม้สกิลควบคุมสนามของฮีโร่อีกสามตัวจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบพวกเขาก็ยังไม่มีดาเมจมากพอที่จะสังหารศัตรู
ดังนั้นแล้วความหวังในการพลิกเกมอยู่ที่ไหนกันล่ะ จางเฉิงห่าวไม่รู้ จะยอมแพ้เลยตรง ๆ เขาก็ไม่ยินยอม หลังจากขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่พักหนึ่งแล้วสุดท้ายก็พ่นคำพูดลอดไรฟันออกมาไม่กี่คำว่า “ไปจับโฮ่วอี้”
โฮ่วอี้ที่ตอนแรกไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ แต่พอเลเวลสี่ใช้ท่าอัลติได้แล้วก็ส่งออกมาสามครั้งจนดึงดูดความเกลียดชังไปได้ แต่ว่านอกเหนือจากสามครั้งนี้แล้วโฮ่วอี้ก็ยังไม่ได้เข้ามาร่วมทีมไฟต์เลยจนถึงเวลานี้ เมื่อไม่ได้มีการมาเผชิญหน้ากับคนของหวงเฉาก็เท่ากับว่าศรดับสุริยันทั้งสามดอกนั้นกลายเป็นดาเมจที่โฮ่วอี้ทำกับหวงเฉาทั้งหมด ถ้าเกิดว่าตอนนี้หวงเฉากดปุ่มยอมแพ้เพื่อจบเกมขึ้นมา อัตราการทำดาเมจของโฮ่วอี้ก็คงจะเป็นสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ที่เขาถือกำเนิดเกิดมาแล้ว
แต่ว่าก็เป็นโฮ่วอี้คนนี้นี่แหละที่ดึงดูดความเกลียดชังจากจางเฉิงห่าวได้มากที่สุดในตอนนี้ แม้แต่ไก่สองตัวในกลุ่มคลื่น7 ที่ทำให้เขาต้องอับอายด้วยการคิลเขาอย่างต่อเนื่องยังไม่ทำให้เขารังเกียจเท่ากับท่าอัลติของโฮ่วอี้เลย
ทีมไฟต์จะแพ้ก็ได้! โฮ่วอี้ต้องตาย!
คำพูดพวกนี้จางเฉิงห่าวไม่ได้เอ่ยปากออกมาตรง ๆ หลังจากฮีโร่หวงเฉาเกิดใหม่แล้ว การเคลียร์ครีปที่ต้องทำก็ยังไปทำกันก่อน จากนั้นทั้งห้าคนก็เคลื่อนที่ไปด้วยกันทางเลนข้างด้านที่มีโฮ่วอี้อยู่ แม้แต่เหล่าฟู่จื่อซึ่งเป็นฮีโร่ที่ปกติแล้วโดดเด่นด้านการยืนคนเดียวที่อยู่เลนอีกฟากหนึ่งก็ยังยอมถอยออกจากเลนแล้วโบกไม้บรรทัดของเขาไปจับตัวโฮ่วอี้
“ทั้งหมดเดินไปทางเลนบนแล้ว” แต่ว่าเกาเกอที่ยังคอยสำรวจความเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ก็สังเกตเห็นแล้ว แม้ว่าจะไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดแจ้ง แต่ว่าด้วยประสบการณ์ของเธอก็คาดการณ์ได้ไปแปดเก้าส่วนแล้ว
“รับทราบ” จ้าวจิ้นหรานกระตือรือร้นมาก พอฟังเกาเกอพูดแล้วอาเคอเคลื่อนที่ตรงไปทางเลนบนทันที
“จะบวกไหม” โจวม่อถาม
“นายดันเลนต่อไปเถอะ” เกาเกอกล่าว ซูลี่ของเธอได้เริ่มเดินขึ้นไปสนับสนุนที่เลนบนแล้ว จากนั้นก็เห็นว่าโฮ่วอี้ของเหออวี้เดินออกไปจากป้อมที่เขาควรจะป้องกัน เดินผ่านป่าไปทางขวาสุด
“โฮ่วอี้ทำไร” เกาเกอถามเขา
“ไปดันป้อม” เหออวี้พูด
การดันป้อมเป็นเรื่องที่แครี่ทำได้มีประสิทธิภาพที่สุดมาเสมอ หวงเฉารวมทีมด้วยท่าทีแพ้ได้แต่ต้องจับโฮ่วอี้เอาไว้อย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร ผลก็คือโฮ่วอี้ดันอ้อมหลบเตรียมที่จะไปดันป้อมในเลนอื่นเสียได้ ความคิดที่กระจ่างชัดและสงบนิ่งอย่างนี้ทำให้ในใจของเกาเกอต้องจุดเทียนไว้อาลัยให้หวงเฉาอย่างเงียบงัน
พวกหวงเฉาหลายคนนั้นยังไม่รู้เลยว่าโฮ่วอี้แอบย่องหนีออกไปแต่แรกแล้ว หลังจากที่ทั้งห้าคนมาประจำตำแหน่งมาร์โคโปโลก็เดินขึ้นหน้าต่อไป เมื่อไม่ได้อยู่ในการปกป้องของป้อมแต่ว่ายืนโดดเดี่ยวอยู่ตรงนี้ก็ทำให้เขาเหมือนจะเป็นตู้เอทีเอ็ม เพียงแต่ว่าในระยะของตู้เอทีเอ็มเครื่องนี้มีการรักษาความปลอดภัยประจำตำแหน่งแต่แรกแล้ว ทั้งพุ่มริมเลน พุ่มปากแม่น้ำ พุ่มตรงทางออกจากป่าด้านขวามือของป้อมล้วนมีคนอยู่ เพียงรอแต่โฮ่วอี้เท่านั้น
“ดูเหมือนโฮ่วอี้จะไม่อยู่นะ” วางตำแหน่งกันครอบคลุมขนาดนี้ทำให้ได้รับวิชั่นกว้างไกลมากแต่ก็ยังไม่เห็นร่างของโฮ่วอี้ คนทั้งหลายจึงตระหนักว่าเกรงว่าตอนนี้โฮ่วอี้จะไม่อยู่แล้ว
“งั้นก็เอาป้อม” จางเฉิงห่าวกล่าว ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะสิ้นหวังมาก การตีป้อมไปหนึ่งป้อมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย แต่จะอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่จะใช้ต่อกรกับศัตรูต่อไป แต่ว่าเสียงเพิ่งจะเปล่งออกมาจางเฉิงห่าวก็เห็นอาเคอเดินผ่านป่ามาทางป้อม และพุ่มปากทางที่ตัวเองซุ่มอยู่นี้ก็คือทางที่อีกฝ่ายจะต้องเดินผ่านมา
“อาเคอมาแล้ว!” จางเฉิงห่าวร้องด้วยความตื่นเต้นอยู่บ้าง
มาตอนนี้การเงินของเขากับอาเคอมีระยะห่างกันเยอะมาก แต่อาเคอเป็นแค่ไก่ที่ตีให้ติดคริติคอลยังไม่ได้เลย ฮีโร่ลูน่าตัวนี้มีพลังในการขยับเคลื่อนที่ที่เหนือชั้นมาก ดวลเดียวโชว์อาเคอไก่ตัวนี้จางเฉิงห่าวก็ยังมีความมั่นใจอยู่มาก ผู้มาไม่เก่ง เพื่อนร่วมทีมต่างก็อยู่ใกล้ ตัวเองเริ่มแล้วความสนับสนุนก็จะตามมา ปัญหาสักนิดก็ไม่มี
หนึ่ง สอง
ลูน่าที่อยู่ในพุ่มฟันกระบี่ใส่ความว่างเปล่าสองครั้ง นี่เป็นการเตรียมการเพื่อให้ในการโจมตีธรรมดาครั้งที่สามสามารถจะทำเครื่องหมายจันทราเมื่อตีโดนได้ มองเห็นอาเคอก้าวเข้ามาทีละก้าว จางเฉิงห่าวก็เตรียมตัวพร้อมศัพท์แล้ว อีกเดี๋ยวก็จะได้เริ่มการแสดงของเขาออกมา…
เพี๊ยะ!
จางเฉิงห่าวที่กำลังหมกมุ่นถูกเสียงเพี๊ยะนี้ดึงสติกลับคืนมา เขามองอย่างมึนงงไปที่เหนือหัวลูน่าในพุ่มของตัวเองที่มีสัญลักษณ์ติดสตันวนเวียนอยู่ ภาพที่จดจำได้จากในสมองบอกว่าเป็นไอ้นกไฟอุบาทว์นั่นบินมาในวิชั่นอีกแล้ว ไอ้นกผีนั่นมันมากัดเขา
“เปิดแฮกแล้ว!!” จางเฉิงห่าวโกรธจนลุกขึ้นยืน สายตามองตรงไปที่เหออวี้แล้วตะโกนออกมา ฝั่งคลื่น7 นี้จ้าวจิ้นหรานยังมีโฟกัสมากกว่าเขา อยู่ดี ๆ ก็เห็นว่าในพุ่มมีลูน่ายืนโง่ ๆ อยู่ ไม่พูดพล่ามทำเพลงก็เข้าไปฟัน ในพริบตาเดียวก็ได้รับคิลอันนี้มา
“สวย” ในที่สุดจ้าวจิ้นหรานก็รู้แล้วว่าที่ลูน่าไม่ขยับเป็นเพราะว่าถูกท่าอัลติของโฮ่วอี้ หันหน้าไปผงกศีรษะให้กับเหออวี้ จากนั้นก็มองตามเหออวี้ที่หันไปมองดูฝ่ายตรงข้ามอย่างประหลาดใจ เห็นว่าคนที่ยืนขึ้นหันมาถลึงตาใส่คือจางเฉิงห่าว
“ผมขอให้มีการหยุดเกม!” จางเฉิงห่าวร้องบอกกรรมการ
กรรมการก็เป็นสมาชิกชมรม The Kings เหมือนกัน กับจางเฉิงห่าวก็ย่อมรู้จัก เมื่อได้ยินคำร้องขอของเขาในใจก็ไม่เห็นด้วย แต่เขาที่มีวิชั่นในการแข่งขันทั้งหมดก็ยังเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของจางเฉิงห่าวในยามนี้ ได้แต่ตอบกลับไปว่า “เหตุผลล่ะ”
“ผมสงสัยว่าเขาแฮกแมป” จางเฉิงชี้นิ้วใส่เหออวี้แล้วร้องออกมา
…………………………………………………….
ปกติโปรแกรมโกงเกมนี่เขาเรียกอะไรอะคะ อันนี้เดาศัพท์เอา