ตอนที่ 1055

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วพูดว่า “ถึงแม้ข้าจะมีงานอดิเรกปรุงยาอยู่บ้าง แต่เขายังคงต้องการมุ่งเน้นไปที่การฝึกยุทธ”

เขาปฏิเสธ!

พรวด!

จิวอู่ชีแทบตาถลน ทั้งที่รองเจ้าตำหนักเป็นฝ่ายเชิญเข้าร่วมด้วยตัวเอง แต่เจ้าเด็กนี่กลับปฏิเสธ! นี่เขารู้หรือไม่ว่าศิษย์ของฝ่ายปรุงยานั้นมีสถานะสูงส่งแค่ไหนในสำนัก?

จอมยุทธระดับเดียวกันต้องเคารพเจ้า แม้แต่คนที่แข็งแกร่งกว่าก็ตาม แล้วการได้เป็นศิษย์ฝ่ายปรุงยามันจะน่าภาคภูมิใจแค่ไหนกัน?

แต่เขากลับพูดปฏิเสธ? นี่เขาโง่หรือบ้ากันแน่?

เยี่ยนเซียวเซวียนหัวเราะและพูดว่า “แล้วเจ้าใช่คนที่เปิดร้านขายโอสถทางฝั่งตะวันออกของเมืองใช่หรือไม่?”

หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ แต่เขาก็ไม่คิดจะปิดบังอีกฝ่าย ในเมื่อเยี่ยนเซียวเซวียนมีแผนที่จะรับเขาเป็นศิษย์ จึ เป็นธรรมดาที่นางจะตรวจสอบข้อมูลของเขา หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “ใช่”

ทันใดนั้นเอง ใบหน้าของจิวอู่ชีก็กลายเป็นตกตะลึก เมื่อครู่เขาเพิ่งพูดว่าจะไม่มีร้านขายโอสถแห่งใดขายเม็ดยาให้กับหลิงฮัน แต่มันกลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายมีร้านขายโอสถเป็นของตัวเอง นี่เป็นเหมือนกับการโดนตบหน้าทางอ้อม!

เยี่ยนเซียวเซวียนพูดต่อ “ข้าได้ยินมาว่าร้านของเจ้าขายเม็ดยาแค่สามชนิดใช่หรือไม่?”

จิวอู่ชีเกือบจะหลุดส่งเสียงหัวเราะออกมา

ขายเม็ดยาแค่สามชนิด นี่เจ้ายังคิดที่จะเปิดร้านขายโอสถอีกรึ?

ความมั่นใจของเขากลับคืนมาอีกครั้ง และใบหน้าของเขาก็แสดงออกให้เห็นถึงความภาคภูมิใจ

หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “ใช่”

“แล้วเม็ดยาทั้งสามชนิดนั่นเจ้าเป็นคนหลอมขึ้นมาด้วยตัวเองใช่หรือไม่?” เยี่ยนเซียวเซวียนยังคงถามต่อ และจ้องมองหลิงฮันด้วยแววตาที่แหลมคม

หลิงฮันหยุดคิดชั่วครู่ แล้วพูดว่า “รุ่นเยาว์รู้วิธีการปรุงยาแค่เม็ดยาสามชนิดนั้นเท่านั้น เพราะข้ายังขาดความรู้”

ความภาคภูมิใจของจิวอู่ชีแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อีกฝ่ายรู้วิธีหลอมเม็ดยาแค่สามชนิด ในขณะที่เขารู้วิธีการปรุงยาเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง หนึ่งร้อยเจ็ดสิบหกชนิด เม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับสองเจ็ดสิบสี่ชนิด!

เพราะความรอบรู้และประสบการณ์ที่สะสมมา ในที่สุดเขาก็เห็นแสงสว่างที่จะกลายเป็นนักปรุงยาระดับสาม นี่คือสิ่งที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุด

เยี่ยนเซียวเซวียนหัวเราะและพูดว่า “เม็ดยาทั้งสามชนิดคือเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง เม็ดยาสวรรค์ เม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง เม็ดยาไข่มุกนภา และเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับที่สาม เม็ดยาเวหาสีคราม หลิงฮัน ในเวลาเพียงแค่หนึ่งปีเจ้าก็กลายเป็นนักปรุงยาระดับสามแล้ว ทั้งที่เจ้ามีพรสวรรค์น่าสะพรึงกลัวขนาดนั้น แต่เจ้ากลับพูดว่าเป็นแค่งานอดิเรก ข้าไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเจ้าอุทิศตัวให้กับวิถีแห่งการปรุงยา ความสำเร็จด้านปรุงยาของเจ้าจะน่าทึ่งขนาดไหน”

พรวด!

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จิวอู่ชีถึงกับเข่าอ่อนและล้มลงกับพื้น ใบหน้าของเขากระตุกไม่หยุดและซีดขาวเหมือนกับคนตาย

เขาหน้าแตกอีกครั้ง

แท้จริงแล้วเจ้าเด็กนี่เป็นนักปรุงยาระดับสาม? เพียงแค่หนึ่งปีก็เป็นนักปรุงยาระดับสามแล้ว!

เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้!

เยี่ยนเซียวเซวียนหันไปเหลือบมองลูกศิษย์ด้วยความไม่พอใจ การที่ศิษย์ของนางมีท่าทีแบบนั้น แล้วเขาจะปีนขึ้นไปอยู่บนสูงสุดของศาสตร์ปรุงยาได้อย่างไร?

จิตใจที่ยุ่งเหยิงและความคิดที่ไม่แน่นอน นี่เป็นข้อห้ามสำหรับนักปรุงยา

“พูดตามตรงผู้อาวุโส ถึงแม้ข้าจะสนใจศาสตร์ปรุงยามาก แต่สิ่งที่ข้าสนใจที่สุดคือการฝึกยุทธ” หลิงฮันยังคงปฏิเสธ ถึงแม้โลกของจอมยุ

เยี่ยนเซียวเซวียนยังคงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องนั้นไม่สำคัญ ถึงแม้เจ้าจะเข้าร่วมฝ่ายปรุงยา เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ทั้งวัน อัจฉริยะอย่างเจ้าที่สามารถเป็นนักปรุงยาระดับสามได้ในหนึ่งปี มันคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้าที่จะกลายเป็นนักปรุงยาระดับสี่หรือระดับห้า”

หลิงฮันรู้ว่าที่เขาสามารถหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับที่สามได้รวดเร็วขนาดนั้น มันเป็นเพราะว่าเขามีสัมผัสสวรรค์ที่แข็งแกร่งกว่าจอมยุทธในระดับเดียวกันมาก มิฉะนั้นด้วยระดับบ่มเพาะพลังของเขาในปัจจุบัน เขาจะสามารถหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับที่สามได้อย่างไร?

นอกจากนั้น เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอุณหภูมิของเปลวเพลิงในหอคอยทมิฬ ซึ่งทำให้เขาสามารถหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับที่สามได้อย่างง่ายดาย มิฉะนั้น ถ้าเขาหลอมเม็ดยาเวหาสีครามที่โลกภายนอก หลอมสิบเตาจะสำเร็จหรือเปล่าก็ยังไม่รู้

ด้วยพลังวิญญาณของเขาในปัจจุบันเพียงพอแค่หลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับที่สี่เท่านั้น ถ้าเขาต้องการหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับที่ห้า อย่างน้อยเขาจะต้องทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงซะก่อน

“เข้าร่วมกับเรา แล้วเจ้าจะสามารถอ่านตำราปรุงยาที่อยู่ในตำหนักตันหยวนได้!” เยี่ยนเซียวเซวียนเห็นว่าหลิงฮันยังคงมีท่าทีลังเล นางจึงยื่นข้อเสนอที่เย้ายวนให้กับเขา

แน่นอนหลิงฮันไม่สามารถอดใจเอาไว้ได้

ตำราปรุงยานั้นมีค่ามาก เปรียบได้เหมือนกับทักษะลับ และถึงแม้จะมีเงินก็ใช่ว่าจะสามารถซื้อมันได้

แล้วตอนนี้ตำหนักตันหยวนก็กำลังยื่นข้อเสนอที่เย้ายวนให้กับเขา!

“และ เจ้าไม่จำเป็นต้องละทิ้งสถานะศิษย์ของฝ่ายเหนือ เจ้าสามารถมาที่ตำหนักตันหยวนได้ตามที่ต้องการ เจ้าคิดเช่นไร?” เยี่ยนเซียวเซวียนถาม

เมื่อเห็นความจริงใจของอีกฝ่าย หลิงฮันจึงไม่อาจปฏิเสธได้ เขาพยักหน้าและพูดว่า “ข้ายินดีที่จะยอมรับข้อเสนอของผู้อาวุโส!”

“ดี! ดี!” เยี่ยนเซียนเซวียนรู้สึกพึงพอใจ นี่คืออัจฉริยะ อัจฉริยะที่แท้จริง นี่ถือเป็นความโชคดีของตำหนักตันหยวนที่มีอัจฉริยะอย่างเขา!

ในอนาคต อาจมีสุดยอดนักปรุงยาถือกำเนิดขึ้นในตำหนักตันหยวนที่จะส่งผลกระทบต่อโลกทั้งใบ!

ในเมื่อเยี่ยนเซียนเซวียนเชื้อเชิญหลิงฮันให้เข้าร่วม หลิงฮันก็สามารถเข้าออกตำหนักตันหยวนได้อย่างอิสระ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องพวกนั้น เพราะแน่นอนว่านางจะต้องให้ใครบางคนจัดการเรื่องนี้ให้ถูกต้อง

อันที่จริงนักปรุงยาไม่ได้หลอมเม็ดยาทั้งวัน พวกเขาเองก็ต้องฝึกฝนวรยุทธด้วย

ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากการฝึกฝนวรยุทธ แล้วพวกเขาจะควบคุมเปลวเพลิงได้อย่างไร? แล้วจะผสานอักขระศักดิ์สิทธิ์กับเม็ดยาได้อย่างไร?

ดังนั้น ถึงแม้หลิงฮันจะมีสองสถานะ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีใครรายงานเรื่องของเขา นอกจากนี้ใครจะกล้ารายงานศิษย์ส่วนตัวของรองเจ้าตำหนักตันหยวนกัน

สามวันต่อมา หลิงฮันก็ได้รับตำราปรุงยาสามเล่มจากเยี่ยนเซียวเซวียน ทั้งเป็นเม็ดตำราเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม

หลิงฮันวางตำราปรุงยาทั้งสามเล่มเอาไว้ก่อน ตอนนี้ที่เขาสนใจที่สุดคือการหลอมเม็ดยาจิตสวรรค์ ซึ่งเป็นเม็ดยาของจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูง มันสามารถฟื้นคืนพลังปราณได้ในทันที แล้วว่ากันว่าเป็นเม็ดยาที่ประยุกต์ใช้ได้มากที่สุด

“เจ้าโง่หลิง! เจ้าโง่หลิง!” หลี่เหว่ยเหว่ยรีบวิ่งมาหาหลิงฮันด้วยท่าทางร้อนรนและพูดว่า “แย่แล้ว สหายของเจ้าโดนทุบตี!”